บทที่ 504 คนบ้ากาม

“คุณมาเที่ยวคนเดียวเหรอคะ?” ในขณะที่เฉินเฟิงกำลังสอดส่อง มองหาร่างคุ้นตาที่ว่า ก็มีเสียงอ่อนหวานดังขึ้นข้าง

เงินเฟิงจึงหันกลับไปมองในทันทีและพบกับหญิงสาวแต่งหน้า จัดคนหนึ่ง

หญิงสาวคนนี้แต่งตัวเซ็กซี่มาก ช่วงบนสวมเสื้อกล้ามเอวลอย ช่วงล่างสวมกางเกงขาสั้นเสมอหู สีฟ้านอกจากเสื้อผ้าสองชิ้นนี้ แล้วก็ไม่มีอย่างอื่นอีก

ภายใต้แสงไฟ ผิวขาวดุจหิมะของหญิงสาวจึงโดดเด่นมาก ขา เรียวยาวทั้งสองข้างนั่นยิ่งดึงดูดสายตา

ถึงแม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะเซ็กซี่เผ็ดร้อนขนาดไหน ทว่า

เฉินเฟิงปรายตามองแวบเดียวก็หมด งความสนใจ

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดอะไรแล้วเดินจากไป หญิงสาวเริ่มร้อน ใจจึงคว้าแขนของเฉินเฟิงไว้ก่อนเอ่ย “อยากรู้จักคุณได้ไหมคะ? ฉันซื่อหลิ่วชวนค่ะ”

“ค่ำคืนที่ยาวนานแบบนี้คุณมาคนเดียวก็ไม่สนุกสิคะ…ให้ เสียวชวนอยู่เป็นเพื่อนคุณดีกว่า”

หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันยั่วยวนพลางขยับร่างกายตัวเอง เข้าหาอีกฝ่าย แม้แต่หน้าอกนุ่มนิ่มนั่นก็เริ่มถไถเข้ากับลำตัวของ เฉินเฟิง
สําหรับการกระทำนีปฏิกิริยาของเงินเฟิงนั้นเรียบเฉยกว่า รุนแรงมาก เขาโพล่งออกมาแค่คำเดียว

ออกไป!

เงินเฟิงเอ่ยขึ้นพลางผลักตัวหญิงสาวเซ็กซี่ออกไปให้พ้นตัว

เมื่อถูกเฉินเฟิงผลักตัวออก หญิงสาวก็ทั้งโกรธทั้งโมโห เมื่อ เห็นว่าสายตาของคนรอบข้างมองมายังตัวเอง หญิงสาวก็กัดฟัน ตัดสินใจที่จะทําอะไรบางอย่าง

เธอกรีดร้องออกมา “ช่วยด้วยค่ะ จับคนบ้ากาม!

คนบ้ากามงั้นหรือ?

เมื่อคำว่าบ้ากามดังขึ้น กลุ่มคนที่อยู่โดยรอบก็เริ่มขยับตัว มี บางส่วนทีมาล้อมพวกเขาเอาไว้

“เกิดอะไรขึ้นหรือคนสวย? ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”

ร่างกายสุดแสนจะเซ็กซี่ของหญิงสาวดึงดูดความสนใจจากวัย รุ่นเลือดร้อนได้ในทันที

“ต้องการค่ะ! ช่วยฉันจับไอ้บ้ากามคนนั้นที

หญิงสาวกัดฟันแล้วชี้ไปทางเฉินเฟิง แววตาของเธอเต็มไป ด้วยความโกรธ

โอ้บ้ากาม?

กลุ่มวัยรุ่นเลือดร้อนเหลือบมองเฉินเฟิงแวบหนึ่ง จากนั้นก็กร เข้าไปหยุดอยู่หน้าของเฉินเฟิงโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วล้อมเฉินเฟิงไว้

“หลีกไป” เฉินเฟิงขมวดคิ้วมองไปยังกลุ่มวัยรุ่น

“หลีกไปอย่างนั้นหรือ?” วัยรุ่นคนหนึ่งที่สวมหมวกฮิปฮอป และเจาะหูเอ่ยขึ้นเสียงเย็น หากคุณไม่อธิบายเรื่องนี้ให้ชัดเจน วันนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไป

“ใช่ หากไม่อธิบายเรื่องนี้ วันนี้อย่าหวังว่าจะได้ออกไป

“อธิบายอะไร?” เฉินเฟิงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบพลางมองไปยังวัย รุ่นที่เจาะหู

“ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าคุณเป็นคนบ้ากาม…..

“เธอบอกแล้วคุณก็เชื่ออย่างนั้นหรือ?” ไม่รอให้วัยรุ่นคนนี้พูด จบ เฉินเฟิงก็เอ่ยขัดเสียงเย็น

วัยรุ่นคนที่เจาะหูก็เริ่มมีน้ำโห “ผู้หญิงคนนั้นสวยขนาดนั้น เธอ จะโกหกได้ยังไง!”

“สวยงั้นหรือ?” เฉินเฟิงหัวเราะเสียงเย็น “แค่สวยก็โกหกไม่ เป็นแล้วอย่างนั้น?”

“นี่คุณ…. วัยรุ่นเจาะหูจึงพูดไม่ออก

“คุณคือไอ้บ้ากาม!”

ขณะนั้นเองผู้หญิงเซ็กซี่คนนั้นก็เดินเข้ามา เธอมองเฉินเป็ งด้วยสายตาเย็นยะเยือก “คุณฉวยโอกาสแอบจับกันฉัน”

เฉินเฟิงจึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “หลักฐานล่ะ?”
“ไม่มีหลักฐาน!”

“เรื่องแบบนี้จะมีหลักฐานได้ยังไงกัน?!” หลิ่วชวนแหวเสียงดัง ราวกับมีไฟพุ่งออกมาจากดวงตาของเธอ

ฉับพลันสีหน้าของเธอก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่วางตัว เป็นกลางเริ่มหวั่นไหว

“ผู้หญิงคนนี้พูดถูก เรื่องแบบนี้จะมีหลักฐานได้ยังไงกัน? เธอ ไม่รู้เสียหน่อยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนบ้ากาม

“ใช่ ฉันก็คิดว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนบ้ากาม คุณดูจากการแต่ง ตัวก็รู้แล้ว แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนรอบข้างเงินเฟิงได้ยินทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงเซ็กซี่คนนี้ฉลาดไม่น้อย วิธีการของเธอนั้น ง่ายดายมากแค่ใช้เสียงวิจารณ์ในการกดดันเขาแล้วโยนข้อหา ไอ้บ้ากามมาให้เขา

ที่สำคัญก็คือตอนนี้เขาไม่มีหลักฐานและการที่ไม่มีหลักฐาน ก็กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ

เมื่อเห็นว่าคนส่วนใหญ่ยืนอยู่ข้างตัวเอง หลิวซวนจึงได้ใจไม่ น้อย

ความจริงแล้วเธอไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้

เธอตั้งใจจะให้ท่าเงินเฟิงต่างหาก ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมถึงให้ท่าเงินเฟิง เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะเงินเฟิงลงมาจากชั้นบนสุดของเรือสำราญ

ตั๋วชั้นบนสุดของเรือสําราญมีเพียงสิบกว่าใบเท่านั้น และ แต่ละใบก็จำหน่ายให้เฉพาะลูกค้าวีไอพ์ผู้ทรงเกียรติ ส่วนราคา นั้นเริ่มต้นที่สามหมื่น!

คนที่สามารถซื้อตั๋วของลูกค้าวีไอพีผู้ทรงเกียรติได้ แน่นอนว่า ต้องเป็นเศรษฐี

คนที่เป็นเศรษฐีแบบนี้เดินลงมาจากชั้นบนสุดของเรือคนเดียว เธอจะไม่เข้าไปให้ทําได้อย่างไร?

เธอวางแผนมาเป็นอย่างดีแต่ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือนอกจาก เฉินเฟิงจะไม่เล่นด้วยแล้ว เขากลับผลักเธอออก!

“ตอนนี้ฉันมีทางเลือกให้คุณสองทาง

“หนิงคือแจ้งตารวจ”

“สองคือดยเป็นการส่วนตัว”

“คุณจะเลือกทางไหนว่ามาเลย?”

หลิ่วชวนมองเฉินเฟิงด้วยสายตาเยือกเย็น เธอค่อนข้างมั่นใจ ว่าเฉินเพิ่งจะเลือกคุยกันเป็นการส่วนตัวเพราะยังไงเขาก็เป็นถึง เศรษฐี สำหรับเศรษฐีแบบนี้มักจะห่วงหน้าตามากกว่าเงินร้อย เท่า

หากเฉินเฟิงเลือกคุยกันเป็นการส่วนตัว เธอก็จะเรียกค่าเสีย หายเป็นเงินสักก้อนหนึ่ง
ลองคิดอีกมุม หากเป็นเชิงเลือกที่จะแจ้งตำรวจ เช่นนั้นเธอก็

ไม่มีอะไรเสียหาย

“เขาไม่เลือกทั้งสองทาง

ในขณะที่หลิ่วชวนกำลังวางแผนจะหลอกเอาเงินจากเงินเฟิง ฉับพลันก็มีน้ำเสียงเย็นยะเยือกผิดปกติดังขึ้นในเหตุการณ์

ซึ่งฉือที่ดูน่าเกรงราวกับราชินีปรากฏตัวแก่สายตาของทุก

คน

บรรยากาศในบริเวณนั้นเงียบสงบลงทันที

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างเบิกตาโพลงอย่างไม่เชื่อสายตา คนที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง ซึ่งถือก็อยู่บนเรือสำราญล่านี้ ด้วย!

ไม่เพียงแค่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆเท่านั้นที่อึ้งไป ตัวหลิ่วชวนเอง ก็ตกใจด้วยเช่นกัน

อู่ชิงฉือ!

นี่คืออู่ซ่งฉือผู้ซึ่งเป็นนางฟ้าของทุกคน

นี่ตัวเธอเองอยู่บนเรือลำเดียวกัน ซึ่งฉือนางฟ้าของทุกคน หรือนี่

หลิ่วชวนไม่ทันคิดแล้วว่าทำไม ซึ่งถือถึงปรากฏตัวบนเรือ สำราญล่านี้ ณ ตอนนี้เวลานี้สิ่งที่หลิ่วชวนต้องคิดก็คือประโยคที่ ซึ่งฉือพูดเมื่อสักครู่มันหมายความว่าอะไรกันแน่
เขาไม่เลือกทั้งสองทาง

เขาที่ซึ่งถือเอ่ยถึงคือเงินเฟิงหรือ?

นี่จึงฉือรู้จักกับเงินเฟิงหรือ?

ในขณะที่หลิ่วขวนกำลังครุ่นคิดความหมายของประโยคที่ ซึ่งถือพูด ซึ่งถือก็เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าหลิ่วชวนด้วยสีหน้าไว้ อารมณ์ เธอมองหลิ่วชวนด้วยสายตาอันเย็นชา “เธอบอกว่าพี่ เฉันเป็นคนบ้ากามอย่างนั้นหรือ?”

พี่เฉิน?!

เมื่อได้ยินสรรพนามนี้ หลิ่วชวนก็ตกตะลึงอีกครั้ง

จริงด้วย!

ซึ่งฉือรู้จักกับเฉินเฟิง อีกทั้งความสัมพันธ์ก็ไม่ธรรมดา!

ถึงแม้หลิ่วชวนจะใจหายลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว แต่เวลานี้หลว ชวนก็ทำได้เพียงหน้าด้านเข้าไว้ “ใช่…….เมื่อสักครู่เขาจับกันฉัน

เมื่อได้ยินคําตอบของหลิ่วซวน ซึ่งถือก็ไม่ได้มีสีหน้าแปลก ใจแต่อย่างใด เพราะเธอไม่เชื่อที่หลิ่วชวนพูดตั้งแต่แรกแล้ว

ข้อแรกเธอไม่เชื่อว่าเฉินเพิ่งจะเป็นคนแบบนั้น

ข้อที่สองถึงแม้เฉินเพิ่งจะเกิดอาการหน้ามืดขึ้นมาจริงๆ เขาก็ คงไม่เลือกผู้หญิงอย่างหลิ่วชวน

“เธอมีหลักฐานไหม?” ถึงแม้ซึ่งฉือจะเชื่อไปแล้วว่าหลิ่วชวน กำลังใส่ร้ายเฉินเฟิง ทว่าเธอก็ไม่ได้แสดงออกมาสีหน้าอย่างชัดเจน

“ไม่……..ไม่มี” หล่อขวนตอบกลับอย่างอึกอักพลางส่ายหน้า เธอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัยแล้ว

“เธอไม่มีหลักฐาน ใช่ไหม?” ซึ่งฉือแสยะยิ้ม

---

เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ