บทที่ 319 การกลับมาพบกันใหม่
ห้าสิบล้าน?
เสียเว่ย หลับตาลง เพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจ เขาคิดไม่ถึงว่า บริษัทหยุนเส็งซึ่งก่อตั้งโดยความพยายาม อย่างพากเพียรของเสี่ยหยุนเส็ง จะลงเอยเช่นนี้ในท้ายที่สุด ราคา 50 ล้านมันไม่ต่างจากการมอบให้ฟรีๆเลย มูลค่าตลาดของบริษัทจุดที่สูงสุดคือ 800 ล้าน!
แต่ตอนนี้…
แน่นอนว่าเสียเงี่ยวไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเฉินเฟิง เขากลับ รู้สึกขอบคุณเล็กน้อย เพราะถ้าไม่มีเงินเฟิง บริษัท ยูนเส็งอาจ ตกอยู่ในมือของคนอื่นและกลายเป็นทรัพย์สินของคนอื่น
นั่นเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน!
ความพยายามของเสี่ยหยุนเส็ง ตกอยู่ในมือของคนอื่น ซึ่ง เป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับลูกหลานของตระกูล เสี่ย!
“เฉินเฟิง สิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไปแล้ว รอให้เพิ่งเหยากลับมา แล้วคุณค่อยให้เธอด้วยตัวคุณเองจะดีกว่า” เสี้ยเว่ยกั่วถอน หายใจ เขาเข้าใจว่าเป็นเพิงหมายถึงอะไร การส่งมอบบริษัทท ยูนเส็งให้เสียเมิ่งเหยา เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว
ในตระกูลเสีย มีเพียงเสียเพิ่งเหยาเท่านั้นที่สามารถนำพาห นเส็งไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เสียเว่ยกั่วจะรับสิ่งนี้ที่เฉินเฟิง ให้เพิ่งเหยาไว้
โดยไม่ลังเล
แต่เพราะตอนนี้ทั้งสองได้หย่าร้างกันแล้ว
มันคงไม่เหมาะสมที่เขาจะเก็บของล้ำค่าแบบนี้
“ไม่ละ พ่อ เดี๋ยวผมจะไปจงไหละ ไม่มีเวลารอ ท่านเอามัน ให้เพิ่งเหยาเถอะ เพิ่งเหยาจะรับมันแน่นอน” เฉินเฟิงกล่าว หาก จะบอกว่าบริษัทหยุนเส็ง เป็นของขวัญที่เฉินเฟิงมอบให้เสียเพิ่ง เหยา มันจะดีกว่าถ้าจะบอกว่าเป็นของขวัญที่เฉินเฟิงมอบให้กับ เสียเว่ยว เสียเว่ยวไม่รู้ เสียเพิ่งเหยาก็จะไปจงไห้ด้วย
เมื่อเสียเพิ่งเหยาไปที่จงไห่ ในท้ายที่สุดหยุนเส็ง เป็นของเสียเว่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะกลาย
“งั้นก็ … โอเค” ในที่สุดเสียเว่ยวก็รับใบโอนหุ้นไว้
“ใช่แล้ว คุณไปทำอะไรที่จะให้
“เพื่อนเก่าของผมไม่สบาย ผมจึงไปเยี่ยม” เฉินเฟิงกล่าว
เสียเว่ยวพยักหน้า “ไปที่นั่นก็ระวังตัวด้วย จงไพ่ไม่เหมือน ชางโจว ที่นั่นเป็นเมืองใหญ่ระดับสากลที่มีคนร่ำรวยมากมาย มี ยอดนักฝีมือซุ่มอยู่มากมาย เมื่อสิบปีก่อน ขาของผมถูกหักที่จง
“ใครเป็นคนทํา” ดวงตาของเฉินเพิ่งมืดลง เขารู้เรื่องขาหัก ของเสียเว่ยกั๋วเมื่อนานมาแล้ว แต่เขาคิดว่าขาของเสียเว่ยวล้ม จนหัก
แต่ตอนนี้ เสียเว่ยวบอกว่าถูกตีจนหัก …
” เป็นชายหนุ่มที่ร่ำรวย อย่าถามว่าเป็นใครเลย พ่อจะไม่ บอกคุณหรอก”
เหตุผลที่พ่อบอกคุณเรื่องนี้ก็เพื่อเตือนคุณเมื่อคุณไปที่นั่น คุณควรถ่อมตน อะไรที่ควรยอมก็ยอมๆไป อย่าทำอะไรตาม ถ้าเกิดโชคร้ายไปผิดใจต่อคนที่ไม่ควรผิดใจด้วย คุณก็กลับมาที่ ยางโจวซ่อนตัวสักพัก อย่าไปสู้กับคนอื่นเด็ดขาด … “เสียเว่ ยกั่วตักเตือนสั่งสอน คำพูดของเขาออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ในฐานะคนที่ผ่านมา เขารู้ดีว่าน้ำในจงไม่นั้นลึกแค่ไหน
นักเลงตัวเล็กๆ บนถนน อาจได้รับการสนับสนุนจากมาเฟียที่
เก่งกาจ
” พ่อ คำพูดของท่านผมจำไว้แล้ว เมื่อไปถึงที่นั่น ผมจะ ระวังตัว” เฉินเฟิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น เขาไม่รู้ว่าเขาจะ อยู่ที่จงไม่กี่วัน อาจจะไปวันนี้แล้วกลับพรุ่งนี้ แน่นอนว่าเขาต้อง เคลียสเรื่องของเจ้าสามหางก่อนค่อยกลับ
* ใช่แล้ว ผมมีหยกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเพื่อนร่วมงานเก่าจำนองไว้กับ ผม ตอนนั้นเขาประสบปัญหาในการทำธุรกิจและหมุนเงินไม่ทัน ผมจึง เขา 100,000 หยวนและเขาก็เอาหยกของเขาให้ผม
“สองสามวันก่อนเขาโทรหาผม บอกว่าเขาต้องการแลกหยกชิ้นนั้นกลับไป คุณไปจงไห่คราวนี้นำมันไปให้เขาด้วย
เสียเว่ยกั๋วกล่าว เขาหยิบหยก โบราณสีดำชิ้นหนึ่งออกมาจาก ห้อง หยกโบราณแกะสลักด้วยมังกรและนกฟีนิกซ์ คุณภาพไม่ ได้ดีมาก แต่ก็ไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน
หลังจากมอบหยกให้เงินเฟิง เสียเว่ยวก็พูดอีกครั้ง “ผมกับ สหายเก่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน หากคุณมีปัญหาใด ๆ คุณ สามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้
“ขอบคุณครับพ่อ” เฉินเพิ่งพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าความตั้งใจ ของเสียเว่ยกั่วที่ส่งมอบหยกนั้นให้เพื่อนเก่า ก็เพื่อต้องการให้ สหายเก่าของเขาดูแลเขา
“เฉินเฟิง พ่อรู้ว่าคุณกับเพิ่งเหยาหย่ากัน ต้องมีเหตุผลอื่น เหตุผลที่เฉพาะเจาะจงพ่อจะไม่ถามคุณ
แต่มีคำหนึ่งพ่อต้องบอกคุณ
“บำเพ็ญหนึ่งร้อยปีจึงจะสามารถลงเรือลำเดียวกัน บำเพ็ญ
พันปีจึงจะสามารถนอนร่วมกันได้”
“พรมลิขิตระหว่างคุณและเพิ่งเหยา ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ หาก ตัดขาดกันแบบนี้ มันน่าเสียดายจริงๆ
“ถ้าเป็นไปได้ พ่ออยากเห็นคุณกับเมิ่งเหยากลับมาคืนดีกัน อีกครั้งมากกว่าเสียเว่ยวกล่าวอย่างจริงจัง
“พ่อ ท่านไม่ต้องกังวล เพิ่งเหยาและผม จะไม่แยกจากกัน นานเกินไป เงินเฟิงหายใจเข้าลึกๆ ขอแค่เขามีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับเฉิน โป๊ยุง เขาและเสียเพิ่งเหยาก็สามารถกลับมา อยู่ด้วยกันได้
“พ่อเชื่อในตัวคุณ” เสียเว่ยวตบไหล่เฉินเฟิงแรงๆ …
หลังจากออกจากบ้านของตระกูลเสีย เงินเฟิงก็ตรงไปที่ สถานีรถไฟความเร็วสูง
ทางเข้าของสถานีรถไฟความเร็วสูง มีพี่น้องสี่คนของตระกูล เฉินกับหลินหวั่น วรออยู่
วันนี้หลินหวั่นชีวสวมชุดเอี๊ยม ด้านในคือเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสี น้ำตาลและรองเท้าส้นแบน การแต่งกายเป็นสไตล์แบบ นักศึกษา
เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ขายาวของหญิงสาวนั้น ตรงและกลม แม้ว่าเธอจะสวมกางเกงขาบาน แต่ก็ยังสามารถ มองเห็นโครงร่างบางส่วนได้ เอวเล็กๆ คิ้วจางๆและริมฝีปากที่ จางๆ ทำให้มีความรู้สึกสะดุดตาผู้คน
เมื่อเทียบกับหลินหวั่นชีว พี่น้องทั้งสี่ของตระกูลเฉินดูแต่งตัว
สบายๆ
อย่างไรก็ตาม เฉินจือโสงและเฉินจื้อหลี่หลังเสือเอวหมีและ ใบหน้าที่ดุร้าย ดูโดดเด่นในฝูงชน
” อาจารย์อาเฉิน!
เมื่อเห็นเฉินเฟิง เงินจื้อหลีก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียก
อาจารย์อาเงิน?
หลินหวั่นชีวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่ เข้าใจว่าทำไมเฉินจื่อหลีถึงเรียกอาจารย์อาเฉิน เหมือนในนิยา ยกำลังภายใน ยิ่งไปกว่านั้น ดูเฉินจื่อหลีแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขา แก่กว่าเงินเฟิงมาก สมควรที่เงินเฟิงควรเรียกเฉินจื่อหลีว่า อาจารย์มากกว่า?
เฉินเฟิงยิ้มและเดินไปตรงหน้าพวกเขา
“ต่อไปถ้าอยู่ข้างนอก อย่าเรียกผมว่าอาจารย์อาเฉิน” เฉินเฟิ งกล่าว ในประเทศจีน จอมยุทธ์และคนธรรมดาเหมือนอยู่คนละ โลก หากเฉินจื่อหลีพูดถึงคำว่าอาจารย์อาบ่อยๆ อาจถูกมอง ว่าเป็นโรคประสาท
เฉินจื่อหลีผงะไปชั่วขณะ “แล้วจะเรียกว่าอะไร?”
“ จะเรียกอะไรก็ได้” เฉินเฟิงยิ้ม เขาไม่ใช่คนหัวโบราณที่ทํา ตามกฎทุกอย่าง เขาไม่เคยสนใจเรื่องมารยาทของสำนัก
” แล้วแต่ ……
“งั้นเรียกพี่เฟิงละกัน” เฉินจื่อหลี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ
เฉินเฟิงยิ้มและไม่พูดอะไร
” พี่เฟิง รถไฟความเร็วสูงที่เราขึ้นจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าจะ ถึงสถานี ไปที่เลานจ์เพื่อพักผ่อนกันเถอะ”
“โอเค ”
ทั้งกลุ่มลากกระเป๋าและเดินไปที่ข้างในสถานี หลินหวั่นชีว เดินตามเฉินเฟิงอย่างเชื่อฟังเหมือนกระต่าย หน้าแดงตลอด ทางและไม่พูดอะไร
“ขอทางหน่อย!”
“ขอทางหน่อย! ”
ในเวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงที่เคร่งขรึมดังขึ้นที่ทางเข้าและฝูงชนก็
เริ่มหลบหนี
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ