บทที่169เย่ไห่ถัง

“แต่หลังจากเย่ตงเสี้ยวมาที่เมืองชางโจว โลก ศิลปะการต่อสู้ในเมืองชางโจว ก็เข้าสู่ช่วงเวลาแห่ง ความเสื่อมโทรม”

“มีข่าวลือว่า ความเสื่อมโทรมของโลกศิลปะการ ต่อสู้ของเมืองชางโจว นั่นมาพร้อมกับเย่งเสี้ยวซึ่ง แยกออกจากกันไม่ได้”

“เพราะเบตงเสี้ยวต่อสู้แย่งเพื่อยึดครองดินแดน และมีนิสัยอย่างหนึ่ง”

“นิสัยอะไร?”กู้ตึงเชินพูดออกมาทีละคำ จางตงเฉินมองไปที่กู้ตงเชินแล้วพูดทีละ คำตัด! ราก! ถอน! โคน!”

“เย่ตงเสี้ยวชอบตัดรากถอนโคน ใครก็ตามที่ต่อ ต้านเขา ในที่สุดมักหนีไม่พ้นตัดหัวทั้งตระกูล!”จาง ตงเฉินพูดจบก็ถอนหายใจ

ตัดหัวทั้งตระกูล?!

กู้ตงเชินรู้สึกหนังศีรษะทั้งหัวชา เขามีนงงไปเลย ยี่สิบกว่าปี เขาอยู่ในสนามยังนึกถึงความปลอดภัย ของคนอื่น แต่เย่ตงเสี้ยวตัดหัวทั้งตระกูล นี่มันโหด เหี้ยมเกินไปแล้ว
“หลายคนที่ถูกตัดหัวทิ้ง มีไม่น้อยที่เป็นจอม ยุทธ์ ปีนั่น ในโลกศิลปะการต่อสู้ของเมืองชางโจว มี จอมยุทธ์ส่วนหนึ่ง ตายด้วยเงื้อมมือของเบตงเสี้ยว ส่วนจอมยุทธ์ที่เหลือหลังจากได้ยินเรื่องอื้อฉาวของ เบตงเสี้ยว ก็ออกจากเมืองชางโจว”

“นี่คือสิ่งที่นำไปสู่ความจริงในวันนี้ ว่าจอมยุทธ์ ศิลปะในเมืองชางโจว มีเหลือไม่กี่คน โลกศิลปะการ ต่อสู้เหลือเพียงแค่ชื่อ” จางตงเฉินพูดอย่างถอน หายใจ

เฉินเฟิงหรี่ตามอง ไม่แปลกใจเมื่อเขามาถึงที่ เมืองชางโจว จอมยุทธ์ในชางโจวมีน้อยมาก ที่แท้ เป็นเพราะเย่วเสี้ยวนี่เอง

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่เย่ตงเสี้ยวจะฆ่าจอมยุทธ์ ในเมืองชางโจวได้ เพียงคนเดียว

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?”เฉินเฟิงถามด้วยความ สนใจ หลังจากนั้นเย่ตงเสี้ยวเขาทำอะไร

“หลังจากนั้น เย่ตงเสี้ยวก็หายตัวไปอย่าง ลึกลับ”หานหลงตอบแทน

“เบตงเสี้ยวใช้เวลาแค่หนึ่งปีก็ครองเมืองชางโจว ได้ แต่หลังจากนั้น ไม่มีใครเคยเห็นเขาที่เมืองชางโจ วอีกเลย มีข่าวลือว่า เย่ตงเสี้ยวกลายเป็นจักรพรรดิ มืดใต้ดิน จากนั่นก็เสียชีวิต”
เมืองชางโจว

“แต่ก็มีบางคนพูดว่า เย่ตงเสี้ยวไม่ชอบการเป็น จักรพรรดิมีดใต้ดินที่ชาวโจว เลยไปต่อสู้ที่ยุทธภพ ทางตอนใต้”หานหลงพูด

“เป็นไปไม่ได้ที่ เบตงเสี้ยว จะเสียชีวิต” เฉินเฟิง ส่ายหัว จอมยุทธ์อย่าง เย่ตงเสี้ยว คนที่จะฆ่าเขาได้ ต้องเป็นจอมยุทธ์ปรมาจารย์ปรับวิญญาณ แต่จอม ยุทธ์ปรมาจารย์ที่เมืองชาวโจวมาจากไหน?”

แต่เมื่อยี่สิบปีก่อน มีการจัดตั้งสมาคมศิลปะการ ต่อสู้ คนที่ขัดต่อศิลปะอย่างเย่ตงเสี้ยว คงถูก สมาคมการต่อสู้กำจัด

แต่สำหรับการไปต่อสู้ยุทธภพที่ทางตอนใต้ เฉินเฟิงดูไม่เชื่อ โลกศิลปะการต่อสู้ทางตอนใต้ นั่น คือถ้ำเสือทิ้งมังกร ถ้าเย่ตงเสี้ยว กล้าหยิ่งผยอง ใน ทางตอนใต้ เขาคงมีชีวิตไม่รอดถงพรุ่งนี้แน่

“หลังจากที่เย่ตงเสี้ยว ตระกูลเย่ก็เริ่มต่อสู้เพื่อ แย่งชิงอำนาจ ทั้งเมืองชางโจว ก็ตกอยู่อย่างไร้ผู้นำ เกิดความระแทะวุ่นวาย แต่ก็ถือเป็นเปิดโอกาสให้ผม กับเจ้ากู้ ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกผมทั้งสองก็ถือ โอกาสใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายครั้งนั้น ที่เมือง ชางโจวเพื่อพัฒนากองกำลังของเราอย่างลับๆๆ มา ถึงจุดนี้” หานหลงพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าเล็กน้อยยี่สิบปีก่อน ถ้า เย่ตงเสี้ยว ไม่หายตัวไป วันนี้ก็คงไม่มี หานหลงกับกู้ตงเป็น

เย่ตงเสี้ยว สงบความวุ่นวายในเมืองชางโจว แต่ ก็สร้างความวุ่นวายในเมืองชางโจว

ความวุ่นวายเกิด ฮีโร่ก็ออกมา !

หานหลงกับกู้ตงเชิน ก็เป็นฮีโร่ที่ปรากฏตัวขึ้นหลังจากความวุ่นวายขึ้น

เฉินเฟิงก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วถาม: ” ภายหลัง ตระกูลเย่ ก็คือที่นายบอกว่าเป็นเยไห่ถังเป็นผู้รับช่วง ต่อ?”

“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ครับ”

“ปีที่ เย่ตงเสี้ยว ออกจาเมืองชางโจว เย่ไห่ถังยัง เป็นแค่เด็กสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี…”

“เดี่ยวนะ เด็กสาว?” เฉินเฟิงเกิดการตะลึง คุยมา ครึ่งวัน เย่ไห่ถังนี้ คือเป็นผู้หญิง? เขานึกว่าเป็น ผู้ชาย แต่ตั้งชื่อเป็นผู้หญิง

หานหลงฝืนยิ้มแล้วพูด “คุณชายเฉิน อย่าดูถูก เยไหถัง ถึงเธอจะเป็นผู้หญิง ฝีมือการต่อสู้ของเธอ นั่นแข็งแกร่ง ไม่แย่ไปกว่าผู้ชายอย่างเราๆเลยครับ”

“ฉันไม่ได้ดูถูกเธอ”เฉินเฟิงยิ้มส่ายหัวเบาๆแล้ว พูด ตระกูลเย่ที่สามารถรักษาระดับหน้าได้ แสดงว่าทักษะฝีมือการต่อสู้ของเย่ไห่ถังไม่ธรรมดา เขาจะ กล้าประเมิน เธอต่ำได้ยังไง?

“ปีที่ เยไห่ถัง หายตัวไป เยไห่ถัง อายุแค่สิบเจ็ด สิบแปด แต่เธอนั่นยังมี พี่ชายคนโตและพี่ชายคน รอง สองคนนี้แย่งชิงอำนาจกันเอง เพราะตอนนั้น เย่ ไห่ถังนั่นยังเด็ก ก็เลยไม่ได้สนใจ เย่ไห่ถัง และคิด

เยไห่ถังนั่นไม่เป็นภัยสำหรับพวกเขา”

“แต่ หลังจากนั้นแปดปี อายุแค่สิบหกปีอย่างเย่ ไห่ถัง ก็ขึ้นมารับช่วงดูแลหน่วยลับของตระกูลเย่”

“หน่วยลับของตระกูลเย่ ดูแลโดยคนสนิทของ เย่ตงเสี้ยว ถึงแม้ว่า เย่ตงเสี้ยวจะหายตัวไป แต่คน สนิทก็ยังอยู่ที่ตระกูลเย่”

“ใครก็ตามควบคุมหน่วยลับของตระกูลเย่ได้ ก็ เท่ากับว่าคุมตระกูลเย่ได้”

“หลังจากที่ เย่ไห่ถัง หน่วยลับของตระกูลเย่ พี่ ชายคนโตกับพี่คนรองก็ไม่พอใจ พยายามหลอกล่อ ให้เยไห่ถังมอบหน่วยลับให้ดูแล แต่เย่ไห่ถังกลับไม่ เมตตา แต่กลับตัดขาและขับไล่พวกเขาออกจากตระ กูลเย่ ไป”

“ความวุ่นวายในเมืองชางโจว เรื่องนี้ทำให้คนคิด ไม่ถึง อายุยังน้อยอย่าง เยไห่ถัง ลงมือจะโหดเหี้ยม ขนาดนี้ แม้แต่พี่ชายสองคนแท้ๆของตัวเอง ยังกล้าลงมือ”

“หลังจากที่ เย่ไห่ถัง เข้ามาดูแลตระกูลเย่ ตระกูลก็เจริญเติบโตขึ้นมาก ตอนนั้น เธอสามารถ ควบคุมกองกำลังอิทธิพลของเมืองชางโฉวได้ และ กลายเป็นราชินีใต้ดินคนแรกของเมืองชาวโจว แต่มี เหตุผลบางประการทำให้ เย่ไห่ถัง ไม่ได้ทำเช่นนั้น”

“เธอก็ควบคุมอำนาจตระกูลเย่ ในเขตตอนใต้มา โดยตลอด ไม่เคยยอมให้อำนาจของตระกูลเย่ อยู่ เหนือครึ่งก้าว”

“ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอจงใจเหมือน ไม่พัฒนาพลังของตระกูลเย่ ราวกับว่า มองข้าม ไป”หานหลงสงสัยว่า ถ้าเย่ไห่ถังต่อสู้เพื่อแย่งชิง อำนาจ ก็ไม่มีเรื่องอะไรระหว่างเขากับกู้ตงเชิน แม้ว่า เขาและกู้ตงเป็น จะต่อสู้กันมาอย่างเปิดเผย แต่การ ต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองก็ถูกควบคุม และแบ่ง อาณาเขตมาโดยตลอด

เขตตอนใต้ สำหรับเขาทั้งสอง เป็นเขตต้องห้าม มาตลอด

เขตตอนใต้ ก็เป็นที่รู้ดีว่าเขตต้องห้าม แม้แต่กับ กองกำลังอิทธิพลทั้งหมดในเมืองชางโจว

“น่าสนใจ”เฉินเฟิงเหล่าตามองแล้วพูด เขารู้ว่า

เยไหถัง ไม่ธรรมต่อไป
อย่างน้อยในการรู้สถานการณ์ของ เย่ไห่ถัง ดี กว่าคนอื่นอีกมากมาย

หานหลงกับกู้ตงเชินไม่เข้าใจ เย่ไห่ถังหลายปี มานี้ ทำไมไม่พัฒนาพลังของตระกูลเย่

เขาไม่เข้าใจเลย

เยไห่ถังตระหนักถึงการอยู่มีสมาคมบูโด

เธอกลัวการแก้แค้น!

เธอกลัวการแก้แค้นจากสมาคมบูโด เพราะ อาชญากรรมเลวร้ายที่ เย่ตงเสี้ยวทำ !

ดังเธอต้องอ่อนน้อมถ่อมตนก่อน เพื่อพัฒนาตระ กูลเยให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ต้องพูดถึงสมาคมบูโด แม้แต่ศัตรูเก่าของเบตงเสี้ยวปีนั่นยังต้องเสียเปรียบ

แม้ว่าตระกูลจะถูกทำลาย เย่ตงเสี้ยว ยังมีชีวิต อยู่ แต่ก็ไม่ปรากฏออกมาให้เห็น

ศัตรูเหล่านี้ ก็ยังทนได้ ก็ทนไปได้อยู่ แต่จะทน ได้นานแค่ไหนกัน!