บทที่250 คุณมาได้ยังไง
เจิ้งหยันเบ่งตาโต พ่อของเขาบอกว่าวันนี้มีคนใหญ่คนโตจะ มา ก่อนอื่นก็เฉินซิงไห่ จากนั้นก็ทั่วปิง แล้วต่อด้วยตงเฟิงและ ตอนนี้แม้แต่ซูเฉิงอู่ก็มาด้วย
ไม่ว่าคนไหน สําหรับเจิ้งหยันแล้ว ต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตทั้ง สิ้น
“นังลูกไม่รักดี ยังไม่รีบขอโทษผู้นำเงินอีก รีบอธิบายความ จริงไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นซูซานยังไม่พูดอะไร ซูเฉิง จึงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“หนูไม่ได้ทําอะไรผิดสักหน่อย แล้วทำไมหนูถึงต้องขอโทษ
ด้วยคะ?”
ซูซานยังคงทำหน้าแข็งกระด้าง กัดริมฝีปากแน่ น้ำตากำลังจะ เอ่อล้นออกมา
“เพริยะ!”
ซูเฉิงอู่ตบไปที่ใบหน้าของซูซานอย่างแรง แล้วคอก ใส่เธอ เสียงดังว่า “นี่แกยังกล้าพูดอีกเหรอว่าไม่ผิด เมื่อคืนถ้าไม่ใช่ เพราะแก แล้วอิงจวิ้นจะไปผิดใจกับคนอื่นได้ยังไง?
“ตอนนี้ แกก็รีบบอกผู้นำเงินไปว่าชายหนุ่มที่แกอยู่ด้วยนั้น เป็นใครกันแน่? ผู้นำเงินจะได้มีเบาะแสเพิ่มเติม และเขาจะได้สืบหาฆาตกรได้โดยเร็ว!”
ตอนนี้ สายตาของทุกคนต่างก็มุ่งมาที่สองพ่อลูกแล้ว และไม่มี ใครสนใจหยางเฉินอีก
“พี่เขยคะ พี่รีบหนีไปตอนนี้ ตอนที่ไม่มีใครสังเกตเถอะค่ะ!”
ฉันยกระซิบเบาๆ ด้วยสีหน้าที่กังวล
ถึงเธอจะรู้ว่าหยางเฉินนั้นเก่งมาก แต่พวกคนใหญ่คนโตที่ ปรากฏมานั้นมันมีเยอะเกินไปจริงๆ และคนพวกนั้นต่างก็มาช่วย เฉินซิงให้กับมู่ตงเฟิงทั้งนั้น
ถ้ามีการปะทะกันขึ้นมาจริงๆ หยางเฉินก็ต้องเป็นฝ่ายเสีย เปรียบแน่นอน
“คิดจะไปไหนอย่างนั้นเหรอ?”
จู่ๆ น้ำเสียงที่แสบแก้วหูก็ดังขึ้น
และเห็นเจิ้งเหม่ยหลิงที่อยู่ข้างๆ กำลังยิ้มด้วยสีหน้าที่ไม่ ชอบใจ
เมื่อกี้เธอก็อยู่ไม่ไกลจากหยางเฉิน เอาแต่จ้องมองเขา กลัวว่า หยางเฉินจะฉวยโอกาสหนีไป
ถึงแม้เสียงของฉินยีจะเบามาก แต่เธอก็ยังได้ยินอยู่ดี เธอพูดออกมาค่อนข้างดัง เห็นได้ชัดว่าตั้งใจพูดให้เฉินซึ่งไม่
ได้ยิน
ทันใดนั้น สายตาทุกคู่ต่างก็หันมาที่หยางเฉินอีกครั้ง
ในที่สุดตอนนี้ พวกเขาถึงได้รู้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ต้นตอ มาจากชายหนุ่มคนนี้ทั้งสิ้น
“เจิ้งเหม่ยหลิง!”
ฉินยีลุกพรวดขึ้นมา สีหน้าโกรธเกรี้ยว ยกมือขึ้นมาแล้วตบไป ที่หน้าของเจิ้งเหม่ยหลิง
“เพริยะ!”
เสียงตบหน้าที่ชัดเจนดังขึ้นในห้องจัดเลี้ยง
“นังสารเลว นี่เธอกล้าตบฉันเหรอ?”
เจิ้งเหม่ยหลิงตะโกนออกมาด้วยความโมโห แล้วพุ่งเข้าใส่ฉิน
“เพริยะ!”
พอเธอยกมือขึ้นมา ยังไม่ทันได้ตบลงไป ใบหน้าของตัวเอง กลับถูกตบ ใส่อีกครั้ง
“เพริยะ!”
ท่ามกลางความตกใจของทุกคนนั้น ร่างกายของเจิ้งเหม่ยหลิ งก็กระเด็นออกไปหลายเมตร จนกระแทกลงกับพื้น
บรรยากาศในห้องตกอยู่ในความเงียบ
เห็นแต่หยางเฉินยืนบังอยู่ตรงหน้าของฉัน แล้วพูดด้วย สีหน้าที่เรียบเฉยว่า “ผู้หญิงคนนี้ สมควรโดนตบตั้งนานแล้ว!
ในที่สุดหยางเฉินก็ลุกขึ้นมาแล้ว
การที่ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่นั่งเงียบไม่พูดอะไร ก็เพื่ออยากเห็น ว่าลั่วปิงนั้นมีความสามารถขนาดไหน
จนถึงตอนนี้ ลั่วปิงก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว
ตอนนี้ เศรษฐีทุกคนในเมืองโจวเฉิงก็แทบจะมาอยู่ตรงนี้แล้ว ต่อให้ทั่วชิงพยายามมากกว่านี้ ก็ไม่มีทางรับมือกับเศรษฐี มากมายขนาดนี้ได้หรอก
“คะ คะ คุณหยาง นคุณมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ?”
ในที่สุดซูเฉิงอู่ก็มองเห็นหยางเฉิน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ทันที น้ำเสียงสั่นเครือขึ้นมา
เดิมทีเขาก็มาที่นี่เพราะเฉินชิงไห่ หยางเฉินนั้นถูกจั่วปังที่ยืน
อยู่บังไว้พอดี ดังนั้นเมื่อหยางเฉินยืนขึ้น เขาถึงได้มองเห็น
บอกได้เลยว่า ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่มีใครรู้จักฐานะของหยางเฉิน ไปมากกว่าซูเฉิงอู่แล้ว
วันแรกที่หยางเฉินกลับมาถึงที่เจียงโจว ก็ได้ซูเฉิงคู่กับหาน เทียนเฉิงพ่อบ้านของตระกูลอวี่เหวินนี่แหละที่ไปต้อนรับที่สนาม บินด้วยตนเอง เพื่อต้อนรับหยางเฉินกลับเยน ให้มาบริหารตระ กูลอวี่เหวิน
หรือก็คือ ถ้าหยางเฉินต้องการ เขาก็สามารถกลับไปที่เยน เพื่อกลายเป็นผู้นําของตระกูลอวี่เหวินได้ทุกเมื่อ
นั่นเป็นถึงตระกูลที่สูงศักดิ์ที่สุดของจิ๋วโจวเลย ไม่ว่าผู้นำคน ไหนของแปดตระกูลแห่งเยน ต่างก็เป็นผู้เฒ่าที่อายุเจ็ดแปดสิบ ทั้งนั้น
แต่ตระกูลอวี่เหวินกลับต้องการให้หยางเฉินที่อายุแค่ยี่สิบเจ็ด
ไปเป็นผู้นําตระกูล
แค่คิดก็รู้แล้วว่าเบื้องหลังของหยางเฉินนั้นน่ากลัวแค่ไหน? “หยางเฉิน นี่แกถึงขั้นกล้าทำร้ายลูกสาวฉัน ฉันเอาแกตาย แน่!”
เจิ้งหยันที่เห็นเจิ้งเหม่ยหลิงเลือดกรอกปาก ไม่รู้ว่าฟันถูกตบ จนหักไปซี่ จึงได้โมโหขึ้นมาทันที แล้วพุ่งเข้าหาหยางเฉิน
“โจวซุ่ย ลูกเขยของแกนั้นมันแน่มากเลยนะ ถูกคนใหญ่คน โตมากมายขนาดนั้นกดดันแล้วไม่กล้าทำอะไร แต่กลับมาลงไม้ ลงมือกับคนของตัวเองซะได้!” นายท่านตระกูลโจวพูดจาประชด ประชัน
“ถ้าลูกสาวของฉันเป็นอะไรไป ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่!” โจวอ หรงก็พูดตะคอกออกมาเหมือนกัน
อีกด้านหนึ่ง เจิ้งหยันนั้นได้พุ่งไปที่หยางเฉินแล้ว
“ไอ้เวรเอ๊ย! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!
ซูเฉิงอู่โมโหขึ้นมา และพุ่งเข้าหาเจิ้งหยันทันที แต่กลับมีคนที่เร็วยิ่งกว่าเขา
บอดี้การ์ดที่ลั่วปิงพามานั้นได้เคลื่อนไหวแล้ว เจิ้งหยันที่ยัง
ไม่ทันได้โดนตัวหยางเฉิน ก็ถูกถีบจนกระเด็นออกไป
ซูซานตอนนี้ก็สับสนไปหมดแล้ว นี่พ่อตั้งใจพาเธอมาขอโทษ เฉินชิงไห่และอธิบายให้เขาฟังไม่ใช่เหรอ?
แล้วทําไมตอนนี้พ่อกลับหันไปช่วยหยางเฉินแล้วล่ะ?
และตอนที่เขาเห็นหน้าหยางเฉินนั้น ร่างกายก็ได้สะดุ้งเล็ก น้อย แถมพูดจายังติดๆ ขัดๆ ด้วย
พฤติกรรมที่มีต่อหยางเฉันยังค่อนข้างเคารพ นี่แม้แต่เฉินซิง ให้เขายังไม่ทําถึงขนาดนั้นเลย! ไม่เพียงแค่ซูซาน แม้แต่บรรดาเศรษฐีที่อยู่ตรงนั้น ต่างก็สงสัย
ในเรื่องเดียวกัน
“คุณหยางครับ นี่คุณมาที่เมืองโจวเฉิงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ? ถ้า
รู้แบบนี้ผมก็ไปเยี่ยมคุณก่อนแล้วครับ!
ตอนนี้ซูเฉิงอู่ได้มาถึงตรงหน้าหยางเฉินแล้ว เหงื่อไหลเต็ม หน้า แล้วพูดออกมาอย่างระมัดระวัง
หยางเฉินมองเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แล้วพูดล้อเลียนไปว่า “คุณเป็นถึงผู้นำของหนึ่งในสี่พรรกแห่งเมืองเจียงโจว แล้วคน ต้อยต่ำอย่างผมจะกล้าให้คุณลำบากมาเยี่ยมได้ยังไงครับ?”
“คุณหยางครับ คุณอย่าล้อเลียนผมอีกเลยครับ อยู่ต่อหน้าคุณ คนอย่างผมมันจะไปเป็นอะไรได้ครับ?”
ซูเฉิงอู่แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว คำตอบกลับของหยางเงิน นั้นเขาเข้าใจความหมายดี
หยางเดินออกมาอย่างไม่ชอบใจ “เมื่อคุณเพิ่งพูดออกมา นี่ครับ ว่าจะให้ซูซาน ใส่ร้ายผมกับเฉินซิงไห่
“คุณ คุณ……” ”
ซูเฉิงตกใจจนหน้าถอดสี และพูดออกมาอย่างติดๆ ขัดๆ ว่า “เมื่อคืน คุณคือคนที่อยู่กับซูซานเหรอครับ?”
“พ่อคะ คนที่อยู่กับหนูเมื่อคืน ก็คือหยางเงินค่ะ!”
ซูซานตอบคําถามของซูเฉิง
เมื่อได้รับคำตอบ ซูเฉิงก็ช็อกไปทันที เขาเพิ่งมาถึงที่นี่ จึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และไม่รู้ด้วยว่าเมื่อคืนซูซานนั้นอยู่กับ ใคร
พอหันไปเห็นพวกเฉินซิงไฟที่จ้องจะเขมือบหยางเฉินอยู่ เขาก็ เข้าในสถานการณ์ขึ้นมาทันที ชายหนุ่มที่ทะเลาะกับเฉินอิงจน เมื่อคืน ก็คือหยางเฉินนี่เอง!
งั้นก็แสดงว่า การที่เฉินชิงไห่และคนอื่นๆ มาที่นี่ ก็เพราะหยาง เฉินสินะ?
ส่วนเขาก็ตั้งใจจะมาช่วยเฉินชิงไห่ พอคิดถึงตรงนี้ ซูเฉิงคู่ก็ ตกใจจนแทบราด ขาทั้งสองข้างก็เริ่มสั่นเทา
ชายที่อยู่ตรงหน้า เป็นถึงบุคคลที่สามารถควบคุมแปดตระกูลแห่งเยนตูได้ทุกเมื่อ!
อย่าว่าแต่เมือง โจวเฉิงเลย ต่อให้เป็นทั้งจิ๋วโจวกับคนอีกกลุ่ม หนึ่ง จะไปข่มขู่หยางเฉินได้ยังไง?
“ผมขอแนะนําทุกท่านก่อนนะครับ ว่าถ้าต้องการทำอะไรคุณ
หยางละก็ พวกคุณก็ควรไตร่ตรองฐานะของตัวเองให้ดีก่อน!
ซูเฉิงอู่ที่เพิ่งทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนกับเฉินชิงไห่เมื่อกี้ ตอนนี้ กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จ้องมองบรรดาเศรษฐีที่อยู่ตรงหน้า ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
เขากับลั่วปิง ยืนประกบซ้ายขวาของหยางเฉิน ราวกับเป็น องครักษ์ของหยางเฉินยังไงอย่างนั้น
“ซูเฉิง นี่มันหมายความว่ายังไง?
เฉินชิงไห่ขมวดคิ้วอย่างแรง แล้วถามไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ