The king of War

บทที่ 332 คู่หมั้น



บทที่ 332 คู่หมั้น

เมื่อเห็นสิ่งนี้ กวนเจิ้งซานและคนอื่นๆ ก็รีบขอตัวออกไปก่อน

ในเวลาสั้นๆ ด้านในคฤหาสน์เหลือเพียงหยางเฉินกับฉันต้า หย่งและสองพี่น้องฉินซีกับฉัน

“ความจริงแล้วโจวซุ่ยไม่ได้โกหกเธอหรอกนะ เธอไม่ใช่ ลูกสาวแท้ๆ ของเราจริงๆ

ฉันต้าหย่งมองฉันด้วยความซับซ้อน และในที่สุดก็พูดความ จริงออกมา

ฉินซีที่ยังเหลือความหวังอันริบหรี่ แต่ในเวลานี้มันได้แตก สลายอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

น้ำตาที่เหมือนเม็ดไข่มุกร่วงลงมาจากดวงตาของเธอ แต่ครั้งนี้เธอเข้มแข็งมาก เธอไม่ปล่อยให้ตัวเองส่งเสียง ร้องไห้ออกมาเลยแม้แต่นิด

ฉันก็รู้สึกตกใจและพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ถ้าพี่สาวหนู ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อ? แล้วหนูล่ะ?”

“เธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของพ่อกับโจวซุ่ย!”

ฉินต้าหย่งมองไปที่ฉินยีแล้วพูดกับเธออีกครั้ง

ฉินยีถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังรู้สึกเศร้าใจแทนนินซี สองมือของเธอกุมมือฉันไว้แน่นๆ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “ในใจหนู พี่ก็ยังเป็นพี่สาวของหนู! พี่สาวแท้ๆ ของหนู! ในชีวิตนี้จะ ไม่มีวันเปลี่ยน!”

หลังจากที่สองพี่น้องเริ่มสงบสติลง ฉันต้าหย่งจึงได้พูดต่อ “เมื่อยี่สิบหกปีที่แล้ว โจวซุยกับพ่อแต่งงานกัน เราก็เหมือน คู่รักทั่วไป ไม่นานหลังจากที่แต่งงานกันโจวยก็ได้ตั้งท้อง

“หลังจากเรารู้ผลตรวจว่าเธอตั้งท้อง เราก็ตื่นเต้นกันมาก จาก นั้นเราได้ตั้งชื่อให้เด็กในครรภ์ทันที ถ้าเราได้ลูกชาย เราจะเรียก เขาว่าฉินหยาง แต่ถ้าเราได้ลูกสาว เราจะเรียกเขาว่าฉันซี”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ ฉันต้าหญิงจึงหยุดลงแล้วเหลือบมองไปที่ฉินซี และเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้มีอารมณ์แปรปรวนมากนัก ฉันต้าหญิงถึง กล้าพูดต่อ

“ในวันคลอดโจวซียมีอาการผิดปกติ ในตอนนั้นฐานะของ เราแย่มาก และเธอก็คลอดยากด้วย ดังนั้นจึงทำให้เด็กในท้องมี โอกาสรอดออกมาจากท้องแม้ได้น้อยมาก!

“และสุดท้าย เพราะการทําคลอดยาก ใช้เวลานานเกินไป เด็ก ในท้องขาดออกซิเจนในสมอง เธอเลยเสียชีวิตทันทีหลังคลอด ออกมา!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของฉันต้าหย่งเต็มไปด้วยความเจ็บ ปวด ดวงตาของเขาแดงและพูดต่อว่า “ถ้าในตอนนั้นฐานะ ของเราดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องเสียเด็กทารกไปแล้ว!”

ฉินซีกับฉินก็ตกใจมากเช่นกัน โดยเฉพาะฉินซี เพราะเธอ เคยให้กำเนิดเสี้ยวเสี้ยวแล้ว เธอจึงเข้าใจถึงความรู้สึกนั้นสําหรับคนเป็นแม่ที่ต้องตั้งครรภ์เป็นเวลาสิบเดือน แล้วมันจะ รู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน

“จากนั้นล่ะ?”

เมื่อฉันตาหย่งเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาก็แดงจนน่าตกใจ

เขาพูดว่า “หมอบอกว่าโจวยเป็นหมันแล้ว ในชีวิตนี้เธอจะ ตั้งครรภ์ไม่ได้อีก!”

“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง เธอพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ”

“แต่เรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นกับพวกเรา พ่อเก็บเด็กทารกผู้หญิง คนหนึ่งได้ทีถังขยะ”

จากนั้นฉันต้าหย่งก็มองไปที่ฉินซี “และเด็กทารกคนนั้นก็คือเธอ!”

ฉินซีถึงกับตัวสั่น เธอกัดริมฝีปากสีแดงของเธอไว้แน่นๆ และ รอให้ฉินต้าหย่งพูดต่อ

“จากนั้น เราก็รับเลี้ยงเธอ และตั้งแต่มีเธอเข้ามาในชีวิต อาการซึมเศร้าของโจวยก็ดีขึ้น ในสายตาของโจวชุ่ยนั้น เธอก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนาง

ฉันถามขึ้นอย่างกะทันหันว่า “นางเป็นหมันแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วหนูล่ะ หมายความว่าไงคะ?”
รอยยิ้มที่นุ่มนวลปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉันต้าหย่ง “เมื่อ เสี่ยวซีอายุได้สองขวบ นางก็ตั้งท้องอีกครั้ง บางที การวินิจฉัย ของหมออาจจะผิดพลาดก็ได้!”

“แบบนี้นี่เอง!”

ฉันรู้สึกเข้าใจทันที

จากนั้น ฉันต้าหย่งได้พูดคุยเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างใน อดีต และการสนทนานี้ก็ได้กินเวลาของทั้งบ่ายวันนั้น

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง ฉันต้าหย่งจึงจะพูดจบ

เขากุมมือฉันไว้แน่นๆ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เสี่ยว เธอ ต้องเชื่อพ่อนะ!” “ในสายตาของพ่อ เธอกับเดี๋ยวก็เหมือนกัน เธอเป็นคนที่พ่อ เลี้ยงดูมาเองกับมือ ความรักของพ่อที่มีให้เธอไม่เคยน้อยลง

เพราะเธอไม่ใช้ลูกในสายเลือดของพ่อเลยนะ

ฉันก็จับมือของฉันไว้แน่นๆ “พี่สาวคะ หนูก็เช่นกัน หนูจะ เป็นน้องสาวของพี่ตลอดไป! ชาติหน้า หนูก็จะขอเป็นน้องสาว ของพี่!”

ดวงตาของฉันซีแดง เมื่อเห็นฉันต้าหย่งกับฉันพูดกับเธอ อย่างจริงใจ น้ำตาของเธอก็อดไหลออกมาไม่ได้อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความโศกเศร้า แต่เป็นความซาบซึ้ง เธอเชื่อในสิ่งที่ฉันต้าหย่งกับฉันพูด
ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยรู้สึกถึงความลำเอียงจากตัวของฉัน ตาหย่งเลยแม้แต่น้อย

ส่วนฉันกับเธอก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าใคร

“เราเป็นครอบครัวเดียวกัน! เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ตลอดไป!

ฉันพูดอย่างซาบซึ้ง

“และผมด้วย! ผมก็จะเป็นครอบครัวเดียวกับพวกคุณตลอด ไป!”

หยางเฉันเดินเข้ามากอดฉินซีและฉันต้าหย่งด้วยรอยยิ้มที่ อ่อนโยน

ซึ่งวันนี้ ได้ถูกกำหนดให้เป็นวันที่น่าจดจำ

และในวันนี้ โจวยถูกจับเข้าคุก ส่วนฉันต้าหย่งก็ได้สติอีก

ครั้ง

แม้ประสบการณ์ชีวิตของฉันจะระหกระเหิน แต่ในใจเธอไม่ เคยรู้สึกขาดความอบอุ่นเลย

วันนี้เธอมีพ่อบุญธรรมที่รักเธอ เธอมีน้องสาวที่สนิทกับเธอ เธอมีลูกสาวที่น่ารัก และเธอยังมีสามีที่รักเธอมากด้วย

ณ เวลานี้ ไม่มีคำว่าเสียใจ!

“ที่รัก ขอบคุณนะ!”

กลางดึก หลังจากที่เสี้ยวเสี้ยวหลับไป ฉันขยับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหยางเฉินแล้วพูดด้วยสายตาที่ลึกซึ้งกับเขา

เมื่อมองใบหน้าที่อยู่ใกล้ชิดของฉินซี ใบหน้าของหยางเฉินก็

เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข “ผมเป็นสามีของคุณนะ สำหรับคำขอบคุณสองคำนี้ ไม่จำเป็น

ต้องมีเลยก็ได้นะ” หยางเฉินยิ้มพูด

เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่หยางเฉินทำเพื่อเธอ ฉันซีน้ำตาคลอเบ้า ใน ใจเธอเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

“ที่รัก ฉันรักคุณนะ!”

หลังจากที่ฉันพูดจบ สองมือของเธอโอบกอดหยางเฉินและ วางจูบไปที่ริมฝีปากของเขา

เป็นจูบที่สุดซึ้ง!

ซึ้งจนต้องหวั่นไหว!

ค่ำคืนที่สวยงามผ่านไป เช้าวันรุ่งขึ้น หยางเฉินลืมตาและเห็น ฉันซีนอนหลับสบายอยู่ในอ้อมแขนของเขาเหมือนแมวน้อยตัว หนึ่ง ในขณะที่เธอหลับอยู่ มุมปากของเธอยังมีรอยยิ้มที่มีความ สุข

เมื่อเห็นภาพนี้ รอยยิ้มแห่งความสุขของหยางเฉินก็ค่อยๆ

ปรากฏขึ้น

ในที่สุดเขาก็รอจนถึงวันนี้

ฉินต้าหย่งได้สติอีกครั้ง แต่หลังจากที่เขาเกิดอุบัติเหตุ ขาที่ได้รับบาดเจ็บของเขายังไม่ได้หาย

และช่วงนี้เขาจึงไปทำงานไม่ได้

เดิมทีเขาวางแผนจะกลับไปที่บ้านเช่า แต่ด้วยการร้องขอของ ลูกสาวทั้งสอง เขาจึงจำเป็นต้องอยู่ต่อที่ยอดเมฆา

บ้านที่ไม่มีโจวชุ่ยถึงจะเรียกว่าบ้านที่แท้จริง

“ที่รัก ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่เพราะพี่อ้าย พ่อจะฟื้นได้อีกหรือเปล่าเรา ยังไม่รู้เลย ก่อนที่แกจะกลับไป พวกเราเลี้ยงข้าวแกสักมื้อดี ไหม?”

หลังจากทำธุระส่วนตัวในยามเช้าเสร็จ ฉันก็ถามขึ้นอย่าง กะทันหัน

หยางเฉินพยักหน้า “แกจะไปพรุ่งนี้ งั้นคืนนี้หลังเลิกงานเราไป

กินข้าวที่ร้านอาหารใหญ่เป่ยหยวนชุนกันดีไหม?”

“ได้สิ งั้นตกลงตามนี้เลยนะ หนึ่งทุ่มคืนนี้ที่ร้านอาหารใหญ่ เป่ยหยวนซุน!” ฉินซียิ้มพูด

ทุกอย่างกลับคืนสู่ปกติ หลังจากรับประทานอาหารเช้าในบ้าน เสร็จ หยางเฉินขับรถไปส่งเสี้ยวเสี้ยวที่โรงเรียนอนุบาลแล้วไป ส่งฉินซีที่ซานเหอกรุ๊ป

และหลังจากที่หยางเฉินกลับไปถึงเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เขาก็ได้โทร หาอ้ายหลินเพื่อนัดกินข้าวเย็นกับเธอในเวลาหนึ่งทุ่มของวันนี้

เมื่อถึงเวลา 18 : 30 น. หยางเฉินไปรับฉินซีที่ซานเรือกรุ๊ปและได้มาถึงเป้ยหยวน นก่อนเวลานัด

“หยางเฉิน คุณดูนั่นสิ ใช่พี่อ้ายหรือเปล่า?” ทันทีที่ลงจากรถ

ฉินซีก็ชี้ไปที่ไม่ไกลแล้วถามขึ้น หยางเฉินมองไปในทิศทางที่ฉินซี เขาไม่เพียงแต่เห็นอ้าย

หลินและยังเห็นหม่าชาวอีกด้วย

แต่นอกจากพวกเขาสองคน ยังมีชายหนุ่มแปลกหน้าอีกคน

ในเวลานี้หม่าชาวเดินอยู่ด้านหลังอ้ายหลินด้วยสีหน้า เคร่งขรึมเพื่อปกป้องเธอ

“คุณคือใคร?”

หม่าชาวถามชายหนุ่มคนนั้นอย่างเย็นชา “สวัสดีครับ ผมชื่อหวงอัน เป็นคู่หมั้นของอ้ายหลินครับ!” ชายหนุ่มยิ้มจาง ๆ แล้วยื่นมือไปหาหม่าชาวก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ