The king of War

บทที่ 443 ตระกูลรักเกียรติ



บทที่ 443 ตระกูลรักเกียรติ

“อีกฝ่ายเป็นถึงผู้สืบทอดของตระกูลหวง คุณหยางสร้างความ อับอายกับเขาต่อหน้าผู้คนแบบนี้ จะมีอันตรายหรือเปล่านะ? ”

ผู้คนที่อยู่ในงานต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ใน ขณะที่คนส่วนมากต่างก็เห็นชอบในตัวหยางเฉิน แต่ก็มีคนไม่ น้อยเลยที่เกิดความกังวลขึ้นในใจ

บนใบหน้าของหวงเจิ้งในตอนนี้บิดเบี้ยวอย่างมาก

วันนี้ก็ขายหน้ามากพอแล้ว แต่หยางเฉินกลับยังกล้าขู่ว่าจะ ทำให้เขาอยู่ในเจียง โจวตลอดไปอีก

ถ้าหากหยางเฉินไม่ตาย วันข้างหน้าเขาจะมีหน้าที่ไหนกลับไป

ยังตระกูลหวงอีก ?

หรือต่อให้เขากลับไปแล้ว เกรงว่าตระกูลหวงคงจะไม่มีทาง ปล่อยเขาไปเป็นแน่ ?

“ไอ้หนุ่ม สิ่งที่นายทำไม่ใช่การท้าทาย แต่เป็นการรนหาที่ตาย ! ”

หวงเจิ้งพูดด้วยใบหน้าที่อึมครึม แววตาเต็มไปด้วยความชั่ว

ร้าย

แต่หยางเฉินก็ยังคงไม่ได้สนใจ เพียงแต่ลุกขึ้นยืนมาประจันหน้ากับตงเซยด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ใจดวงน้อยของเยเสี่ยวเตี้ย กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่ง

แววตาที่จ้องมองไปยังหยางเฉินล้วนเต็มไปด้วยความหลงใหล นี่เขาเพื่อเธอแล้ว ถึงได้ยอมต่อกรกับตระกูลหวงอย่างนั้น หรอ ?

และในเมื่อกี้ในตอนที่เขาให้เธอตกลงทำสัญญากับเขาอย่าง หนึ่ง จะเป็นเรื่องที่เขาอยากครอบครองเธอหรือเปล่า ?

ถ้าหากเขาอยากจะครอบครองตัวเอง แบบนั้นตัวเธอควรจะ

ทําอย่างไรดี?

ในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว หากเขาอยากให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะ ยอมทั้งนั้น !

เย่เสี่ยวเตี้ยครุ่นคิดเหลวไหลไปมา เมื่อนึกถึงเรื่องที่ไม่

สามารถพูดออกมาได้ ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา ดูแล้วน่า

รักเอามากๆ

เธอแอบชาเลืองมองหยางเฉิน และเห็นว่าหยางเฉินไม่ได้มอง มาที่ตัวเอง ถึงค่อยถอนหายใจออกอย่างโล่งอก

“ตงเชย ในเมื่อเจ้าหมอนี้อยากหาที่ตาย อย่างนั้นก็สั่งสอนเขา ก่อนแล้วกัน ! ”

หวงเจิ้งออกคำสั่งให้กับตงเชย

แต่แล้วตงเชยกลับเพิกเฉย เขาที่ยืนห่างจากหยางเฉินประมาณสองเมตรยืนนิ่งด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

ขณะที่หยางเฉินนยังคงนั่งอยู่กับที่ของตัวเอง มองไปยังตงเชย ด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง

ไม่ขยับ!

สิ่งนี้กลับทำให้ตงเชยรับรู้ถึงภัยคุกคามที่รุนแรงแทน

“เจ้าหนุ่ม ตระกูลหวงแห่งเยี่ยน ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะมาขัดแย้ง ด้วยได้ ผมขอเตือนว่าอย่ามายุ่งเรื่องของคนอื่นให้มากเลยจะดี กว่า”

ตงเชยลองใช้ชื่อตระกูลหวงมาใช้ในการโน้มน้าวหยางเฉิน

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะลงมือกับหยางเฉิน เพราะเด็กหนุ่มที่ทำให้ตัวเขาไม่สามารถมองออกได้เลย ถือเป็น เรื่องที่น่าประหลาดอย่างมาก

ได้ยินมาว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ได้ฆ่าชายผู้เป็นอันดับ ที่เก้าของสมาคมบูโดมาแล้ว

แต่ความแข็งแกร่งของตัวเขาเองนั้นก็มีมากกว่าชายคนนั้นไป

เพียงนิดเดียวเท่านั้น

“ตงเชย จะไปพูดพร่ำอะไรกับเขานักหนา? จัดการเขาก่อน แล้วค่อยพูด!” หวงเงกัดฟันพูดออกมา

การฉีกหน้าของหยางเฉินและเยเสี่ยวเตี้ยก็ทำให้เขาหงุดหงิด มากพออยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่ตงเชยก็ยังไม่ลงมือทำตามคำสั่งของเขาในทันทีอีก

“ขอโทษด้วยครับ

ตงเชยไม่มีความลังเลใดๆ อีกต่อไป เพียงชั่วพริบตา เขาก็ ฟาดเท้าขึ้นมาพุ่งเข้าหาตัวหยางเฉินทันที

เขาในฐานะคนตระกูลหวง ทั้งยังถูกจัดให้มาคอยคุ้มกันหวง เจิ้ง ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้อย่างชัดเจน

สําหรับคําสั่งของหวงเจิ้งแล้ว เขาเลือกได้เพียงต้องทำตาม เท่านั้น

“คุณหยางระวังด้วยค่ะ!

เย่เสี่ยวเตี้ยร้องตะโกนตกใจออกมา

ถึงแม้เธอจะรู้ว่าหยางเฉินนั้นมีความแข็งแกร่ง แต่ชื่อเสียงของ ตงเชย เธอเองก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเหมือนกัน ซึ่งในตอนนี้เธอ ยังต้องแอบกังวลแทนหยางเฉินเสียแล้ว

ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงการประมูลต่างพากันตื่นตกใจ ยัง ไม่ทันได้พูดคุยกันก็ลงมือใช้กำลังเลยหรอ?

ใบหน้าของหวงเจิ้งเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “กล้ามา ท้าทายฉัน ก็ต้องจบแบบนี้แหละ! รอให้แกตายแล้ว เจียงผึ้ง และหนันหลังทั้งสองเมืองจะยังมีใครกล้าหืออีก? ”

นี่เป็นโอกาสเดียวของเขาแล้ว!

เรื่องราคาประมูลที่สูงเสียดฟ้าเมื่อกี้นี้ เขาไม่มีเงินที่จ่ายด้วยซ้ำ และหากเรื่องนี้ดังไปถึงหูตระกูลหวง เขาก็คงจะต้องกลาย เป็นหวงจงคนที่สองแน่นอน

ตระกูลหวงเป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญเรื่องเกียรติยศศักดิ์ศรี มากยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แล้วจะยอมปล่อยให้ผู้สืบทอดตระกูลสร้าง ความอับอายแก่ตระกูลได้อย่างไร?

ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็ลงมือกับหยางเฉินน่าจะดีกว่า เพียงแค่หยางเฉินตาย เมืองเจียงผิงแลเมืองหนานหลังก็ตกอยู่ ในกำมือเขาแล้วไม่ใช่หรือ?

“ฮ่าๆๆ เจ้าหนุ่มตอนนี้รู้จักกลัวแล้วล่ะสิ? ตกใจจนไม่ขยับ แล้ว ขาอ่อนหรือยังล่ะ ? คงไม่ใช่ว่าแตกไปแล้วนะ? ฮ่าๆๆ

หวงเจิ้งที่เห็นว่าหยางเฉินยังคงนั่งอยู่กับที่ จึงหัวเราะร่าเสียง ดังออกมา

แต่เพียงชั่ววินาที ใบหน้ายิ้มแย้มของเขาก็หุบลงอย่าง กะทันหัน ใบหน้าแข็งที่อไปในทันที

หวงเจิ้งได้ยินเพียงเสียงกระแทกดังขึ้นมา ก่อนที่จะมองเห็นว่า หมัดของตงเชยถูกหยางเฉินที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน เอื้อมมือออก มาสกัดเอาไว้

ภายในห้องโถงงานประมูลนิ่งสงัดลง สายตาของทุกคนรวม กันไปมองยังร่างของชายหนุ่มที่ยังคงนั่งนิ่งมาตั้งแต่ต้อนจนจบโดยไม่ลุกคนนั้น

เย่เสี่ยวเตี้ยที่ตกใจถึงกับใช้มืออันอวบอิ่มปิดปากน้อยๆ เอา ไว้

ถึงแม้ว่าจะคาดการณ์ถึงผลสรุปนี้เอาไว้อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ สามารถควบคุมความตกตะลึงในใจของตัวเองได้เลย

ตงเชย เป็นถึงผู้แกร่งหนึ่งในผู้คุ้มกันส่วนตัวของเหล่าผู้นำ ตระกูลหวง

และยังเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับสามของตระกูลหวงอีกด้วย

แต่เท่าที่เคยได้รู้มาเกี่ยวกับเรื่องความแข็งแกร่งที่แท้จริงของ

ตงเชยนั้นว่ามีมากมายขนาดไหน เหมือนว่านอกจากผู้นำตระกูล หวงแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ? และเมื่อมีข่าวลือนี้ ความแข็งแกร่งของตงเชยจึงกลายเป็นผู้ที่

แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลหวง

ผู้แข็งแกร่งมากระดับนี้ เขากลับถูกหยางเฉินสกัดกั้นการ โจมตีอันรุนแรงของเขาได้อย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น

รูม่านตาของตงเชยหดเล็กลง แววตาเต็มไปด้วยความเหลือ เชื่อ

ในฐานะผู้ลงมือ พลังในการโจมตีครั้งนี้มีมากเท่าไหร่ เขานั้นรู้ เป็นอย่างดี

การลงมือของตงเชย เป็นการโจมตีเดียวที่หนักถึงชีวิต เพียงการโจมตีเดียวก็คือพลังสังหารที่แข็งแกร่งที่สุด เขาจะไม่มีความ เมตตาใดๆ ต่อคู่ต่อสู้เพียงเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นอ่อนแอกว่า

ถึงจะไม่ใช่กำลังทั้งหมด แต่การโจมตีครั้งนี้ก็นับว่าเป็นพลังที่ สูงถึงแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นของพลังทั้งหมด

และนานมากแล้วที่ไม่มีใครสามารถสกัดการโจมตีของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาคนนั้นยังเป็นชายหนุ่มที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ

ด้วยซ้ำ

“ตงเซย ใครใช้ให้คุณออมมือ? จัดการเขาซะ! ฆ่าเขาชะ ทำให้เขารู้ว่าการท้าทายต่อผู้สืบทอดของตระกูลหวงจะมีจุดจบ อย่างไร! ”

หลังจากที่นิ่งงงไปครู่หนึ่ง หวงเจิ้งก็ร้องคำรามขึ้นมา เขาจะยอมรับเรื่องจริงที่ว่าตงเชยด้อยกว่าหยางเฉินได้ อย่างไร?

เขาจึงคิดเพียงว่าเป็นตงเชยที่ออมมือ ถึงได้ถูกหยางเฉินสกัด การโจมตีของตงเชยเอาไว้ได้

สีหน้าของหวงเจิ้งนิ่งชาเล็กน้อย มองไปยังใบหน้าที่ยังคงนิ่ง เฉยของหยางเฉิน ภายในใจก็ปะทุความกลัวขึ้นมา

“บูม! ”

ในขณะที่ตงเชยกำลังตกใจอยู่นั้น หยางเฉินที่นั่งอยู่ตรงนั้นรับ หมัดของเขาเอาไว้ จู่ๆ ก็เริ่มโต้ตอบแล้ว
เขาที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกโจมตีที่ท้องด้วยพลังที่มหาศาล

ก่อนที่ร่างของเขาจะถอยหลังไปเจ็ดแปดก้าวกว่าจะหยุดนิ่ง ซึ่งเวลานี้ ทุกอย่างในงานก็นิ่งสงัดลง ทุกคนรู้สึกราวกับถูกรัด

คอเอาไว้จนแม้แต่หายใจยังรู้สึกว่ายากเย็น ” ในเมื่อ ตระกูลหวงอยากได้หน้าขนาดนี้ อย่างนั้นผมก็จะ เหยียบหน้าของตระกูลให้จมลงไปในดินอย่างหนักแล้วกัน!

ในที่สุดหยางเฉินก็ลุกขึ้นยืน พลางมุ่งหน้าเดินไปยังทางของ หวงเจิ้งทีละก้าว พร้อมกับเดินไปพูดไป

แววตาของหวงเจิ้งในตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น จนถึงตอนนี้แล้ว เขาถึงได้รู้ตัวสักทีว่าตัวเองได้ทำเรื่องโง่เขลา

มากขนาดไหน

เมื่อนึกถึงหวงจง เขาก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที

“ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! ”

ทุกๆ ย่างก้าวของหยางเฉิน เหมือนกับกำลังเหยียบย่ำหัวใจ ของเขาอย่างรุนแรง จนทำให้เขารู้สึกกลัวอย่างไร้ที่ติ

“แก……อย่ามาทําอะไรมั่วซั่นะ ฉัน……..นเป็นถึงผู้สืบทอดของ ตระกูลหวงเชียวนะ แกไหมว่านี่มันหมายความว่าอย่างไร? ใน อนาคตฉันจะกลายเป็นผู้นำของตระกูลหวง หนึ่งในแปดตระกูล

ใหญ่แห่งเยี่ยนตู !

ในใจของหวงเจิ้งหวาดกลัวจนถึงขีดสุด เขาพูดวกวนไปมาอยู่ครั้ง จนท้ายที่สุดก็หันไปตะคอกใส่ตงเชย : “ตงเชย รีบหยุด เขาเอาไว้ ! อย่าให้เขาเข้ามา

ตงเชยกัดฟันแน่น ต่อต้านต่อความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นตายใน ร่างกาย แล้วเข้าไปขวางหน้าหวงเจิ้งเอาไว้ พลางมองไปยังหยาง เฉินเขม็ง : “เจ้าหนุ่ม เป็นคนต้องรู้จักขอบเขต จะได้เกิดผลดี ในวันข้างหน้า! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ