The king of War

บทที่ 339 ช่วยแนะนำหม่าชาว



บทที่ 339 ช่วยแนะนำหม่าชาว

หยางเฉันไม่รู้ว่าหวงเหมยวางแผนมาถึงตัวเขาอย่างคาดไม่ ถึงแล้ว แต่ถึงแม้รู้เข้า เขาก็คงไม่สนใจ มาคนหนึ่งก็ฆ่าคนหนึ่ง มาส องคนก็ฆ่าทั้งคู่ ถึงแม้อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นตระกูลหวงหนึ่งในแปด

ตระกูลแห่งเยนตู แล้วอย่างไรกัน?

เวลานี้ เขากลับมาถึงที่ยอดเมฆาแล้ว

“ทรัก!”

หยางเฉินจึงกลับถึงบ้าน เสียงเรียกเบาๆ ดังขึ้น ตามมาด้วย กลิ่นหอมละมุนพุ่งเข้ามา คาดไม่ถึงฉินซีกระโจนเข้ามาในอ้อม กอดของหยางเฉิน กอดเขาด้วยสองมืออย่างแนบแน่น

หยางเฉินตะลึงไปก่อน จากนั้นใจกลางหัวใจเริ่มอบอุ่น ฉีกมุม ปากขึ้นเบาๆ ยื่นมือออกไปกอดฉันไว้แล้ว “ผมไม่เป็นไร!”

ก่อนหน้านี้ ตอนที่หยางเฉินให้ฉันกลับไปก่อน ฉันก็รู้สึกถึง ความผิดปกติแล้ว แต่ยังเข้าใจดี หากตนเองอยู่ที่ข้างกายหยาง เฉินต่อ มีแต่จะเป็นตัวถ่วง

เธอจึงกลับมาที่ยอดเมฆาอย่างเชื่อฟังมาก ถึงแม้เป็นเพียง เวลาหนึ่งชั่วโมงสั้นๆ กลับยังคงทำให้ในใจเธอเต็มไปด้วยความ กังวล
ปัจจุบันนี้มองเห็นหยางเดินกลับมาแบบปลอดภัยดี จิตใจของ เธอที่พะวงมาโดยตลอด ในที่สุดถึงวางใจลงได้

“ปะป๊า หนูก็อยากกอดด้วย!”

ในเวลานี้เอง เสียงที่สดใสไพเราะดังขึ้นมากะทันหัน เสี้ยว เสี้ยววิ่งเข้ามาแล้ว อ้าแขนทั้งสองออก ยิ้มกริ่มมองทางหยางเฉิน

ฉินซีถึงได้สติกลับมา รีบปล่อยหยางเฉินออกทันที

หยางเฉินหัวเราะแล้ว คุกเข่าลงอุ้มเสี้ยวเลี้ยวขึ้นมา หอมบน แก้มหล่อนอย่างแรงไปที่หนึ่ง “ช่วงนี้เสี้ยวเสี้ยวเป็นเด็กดีมาก เพื่อให้รางวัล พรุ่งนี้ปะป๊ากับหม่าม้าจะพาหนูไปสวนสนุก!”

“เย้!”

เสี้ยวเสียวร้องดีใจขึ้นมาอย่างตื่นเต้น หอมที่แก้มของหยาง เฉินไปที่หนึ่งแล้วพูดด้วยความฮึกเหิม “หนูอยากไปดิสนีย์ไปดูมิ กกี้ และอยากไปดูสโนว์ไวท์ด้วยค่ะ”

หยางเฉินหัวเราะเล็กน้อย ได้ เสี้ยวเสี้ยวอยากไปดูอะไร ปะ ป้ากับหม่าม้าจะพาเสี้ยวเลี้ยวไปดูอันนั้น

นี่ไม่ใช่เรื่องที่หยางเฉินฉุกคิดขึ้นมาได้ฉับพลัน แต่ว่าช่วงเวลา ที่ฉันต้าหย่งสลบไป หยางเฉินและฉินซีจึงไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันกับ เสียวเสียวมาโดยตลอด

หยางเฉินเคยรับปากเสี้ยวเลี้ยวเอาไว้ รอให้ฉันต้าหญิงออก จากโรงพยาบาล จะพาหล่อนไปสวนสนุก
พรุ่งนี้เป็นสุดสัปดาห์พอดี ฉันหยุดพักผ่อน เสี้ยวเดี๋ยวก็หยุด เรียนเช่นกัน

เช้าตรู่วันต่อมา หยางเดินออกไปจากยอดเมฆา ขับรถตรงไป

ยังสนามบินนานาชาติเจียงโจว อ้ายหลินบินเที่ยวเช้าตรู่เลย ที่มาเมืองเจียงโจวครั้งนี้ เธอมา

เพื่อฉันต้าหย่ง ยังลงมือผ่าตัดด้วยตนเอง และเพื่อผ่าตัดเปลี่ยน

ไต ให้มารดาของเซี่ยเหออีกด้วย

ด้วยความสัมพันธ์และเหตุผลนี้ หยางเฉินจึงสมควรมาส่งด้วย ตนเอง

“พี่เฉิน!”

หยางเฉินพึ่งเข้ามาในอาคารท่าอากาศยาน ก็ได้ยินเสียงของ หม่าชาวดังขึ้น

เวลานี้หม่าชาวและอ้ายหลินอยู่ด้วยกัน

ตอนที่อ้ายหลินพึ่งมาถึงเมืองเจียงโจว สวมกระโปรงยาวโบฮี เมียนตัวนั้น เพียงแต่วันนี้ยังคลุมเสื้อถักไหมพรมบางเบาไว้บน ไหล่อีกตัวหนึ่งด้วย

หลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ช่วงเช้าจะรู้สึกเย็นอยู่หน่อย

ส่วนหม่าชาวยังคงสวมชุดสีดำเข้มตัวหนึ่ง ท่อนบน ใส่เสื้อยืด แขนสั้นตัวหนึ่ง ทั่วทั้งตัวเป็นกล้ามเนื้อสะดุดตา

ทั้งสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ให้ความรู้สึกเหมือนโฉมงามกับอสูร
เพียงแค่ระหว่างทั้งสองคน เห็นได้ชัดว่ามีนะยะห่างช่วงหนึ่ง หยางเฉินเข้าใจ ช่วงเวลาไม่กี่วันสั้นๆ อยากจะจับคู่อ้ายหลิน กับหม่าชาวนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้

แต่จากในสายตาของหม่าชาว หยางเดินยังมองเห็นความ อาลัยอาวรณ์อยู่

“เสี่ยวอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนเสี้ยวเสี้ยว ไม่มีทางมาส่งด้วยตัว เองได้ แต่ให้ฉันฝากมาบอกเธอว่าขอบคุณที่เธอช่วยชีวิตพ่อของ หล่อนไว้ หล่อนจะจำเธอพี่สาวคนนี้ไว้ตลอดไป!

หยางเฉินมองอ้ายหลินอยู่ ยิ้มเล็กน้อยแล้วบอกไป

อ้ายหลินมีท่าทางเป็นไปตามธรรมชาติ โบกมือแบบไม่เป็น อะไร “นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ มีเวลาว่างแล้ว คุณพาเสียวไปเที่ยว หาฉันที่เยนดูนะ”

“ได้!” หยางเฉินตอบกลับ

ในเวลานี้เอง มีประกาศแจ้งเตือนเที่ยวบินจากเมืองเจียงโจว ไปยังเยนตูดังขึ้น ซึ่งกำลังเริ่มต้นตรวจตั๋วโดยสาร

อ้ายหลินแสดงรอยยิ้มงดงาม เดินมาถึงตรงหน้าหยางเฉิน ทันใดนั้นยื่นแขนสองข้างออก

หยางเฉินหัวเราะอย่างจำใจ กอดกับอ้ายหลินเบาๆ ไว้หน่อย ตามมาด้วยอ้ายหลินมาที่ข้างกายหม่าชาวอีกที อ้าแขนออก แล้ว “ไอ้ชาว พี่จะไปแล้วนะ ไปเยนเมื่อไร อย่าลืมไปหาพี่แล้วกัน”

บนหน้าหม่าชาวเห็นได้ชัดว่ามีความเศร้าใจระดับหนึ่ง โอบ กอดกับอ้ายหลินแล้วสักหน่อย

“ถ้าเธอไม่ยอมแต่งงานเข้าตระกูลหวง ฉันกับหม่าชาว ยินดี ไปเพื่อเธอสักเที่ยว!”

มองอ้ายหลินเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นหยางเฉินก็เอ่ยปาก บอกไป

อ้ายหลินเหมือนเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหยางเฉินจะพูดแบบนี้ จึงไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย และไม่ได้หันหน้ากลับ เพียงแค่ โบกมืออย่างงดงาม “ถ้าต้องการ ฉันจะบอกพวกคุณเอง! ไปนะ!”

จนกระทั่งมองส่งอ้ายหลินลับหายไป หยางเฉินถึงมองทาง หม่าชาวที่ด้านข้างแล้วบอกว่า ไม่ต้องมองแล้ว คนก็ไปแล้ว!

หม่าชาวเก็บสายตากลับแบบอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง สีหน้ามืด หม่นพอสมควร จากนั้นกลับไปกับหยางเฉิน

ระหว่างทาง ทั้งสองไม่พูดไม่จากัน ตั้งแต่ต้นจนจบสายตาของ หม่าชาวจ้องด้านนอกหน้าต่าง

หยางเฉินย่อมเข้าใจความรู้สึกของหม่าชาวได้เป็นธรรมดา แอบรักอ้ายหลินมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้หลังจากบอกลากันไป เจอ กันอีกครั้งหนึ่ง บางทีเธอคงแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว

เคยบอกนายไปตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าชอบก็ตามจีบแบบกล้าหาญไปเลย นายเอาแต่พูดว่า ผมไม่คู่ควรกับเธอ ค่านั้นมาตลอด ตอนนี้เธอจะแต่งงานแล้ว นายตันมาเสียใจมากอีก!”

“ตอนแรก ถ้าไม่ใช่นายยืนยันจะตามฉันออกมาจากชายแดน เหนือด้วยกัน ต่อให้ไม่มีทางปืนขึ้นตำแหน่งเทพได้ อย่างน้อย ก็ได้เป็นนักรบเทพ ตระกูลอ้ายจะดูถูกนักรบเทพของชายแดน เหนือคนหนึ่งได้เหรอ?”

หยางเฉินพูดจาแบบเข้มงวดกับสักคน ก็หวังให้เขาได้ดีอยู่ บ้าง

ในใจหมาชาวเศร้าเสียใจอย่างมากจริงๆ ตั้งนานเขาถึงถอน หายใจยาวๆ ออกมาทีหนึ่ง “พี่อ้ายไม่ชอบผม! ผมไม่อยากฝืนใจ เธอ”

หยางเฉินหมดค่าจะพูดอยู่บ้างทันใด “นายมันเป็นคนโง่! อ้าย หลินชอบไม่ชอบนาย ฉันไม่รู้ แต่ที่สามารถแน่ใจได้คือเธอมี ความรู้สึกดีต่อนาย”

“จริงเหรอครับ?”

หม่าชาวได้สติตื่นตัวมากะทันหัน ถามด้วยท่าทางประหลาด

ใจ

หยางเฉินพยักหน้า “คนดูอยู่ข้างๆ จะเห็นชัดกว่า เพียงแค่ นายอยู่ในสถานการณ์ เลยไม่มีทางเห็นชัด ในฐานะคนมองดู สถานการณ์ ฉันจําเป็นต้องบอกนาย ถ้าชอบ งั้นก็อย่ายอมแพ้!”

“ถึงแม้จะไม่สําเร็จ อย่างน้อยตัวเองก็ได้เคยพยายามไม่ใช่เหรอ?”

“นายลองคิดดู ถ้ามีสักวันหนึ่ง อ้ายหลิน ใส่ชุดแต่งงาน จูงมือ กับผู้ชายคนอื่น ผู้คนนับหมื่นจับจ้องอยู่ ส่วนนาย กลับทำได้ เพียงมองดูอยู่ห่างๆ นายรู้สึกดีเหรอ?”

“แม้กระทั่งเธอจะแต่งงานมีลูกกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้ชอบ แถมยังโดนฝ่ายชายดูถูก เหยียดหยามเธอ นายยอมได้เหรอ?”

คําพูดของหยางเฉินเหมือนระเบิดแต่ละลูก กำลังระเบิดพัง หัวใจของหม่าชาว

“ถ้าผู้ชายคนนั้นที่แต่งงานกับเธอกล้ารังแกเธอ ผมจะไม่ปล่อย ไปแน่นอน!! หม่าชาวถลึงตาโตตะโกนบอก

“ไม่ปล่อยไป?”

หยางเฉินหัวเราะเยาะ “คนอื่นเขาเป็นสามีของพี่อ้าย นายมี เหตุผลอะไรไม่ปล่อยคนอื่นเขาไว้?”

“ถึงตอนนั้น พี่อ้ายจะเป็นผู้หญิงของตระกูลหวง แม้แต่ตระกูล อ้ายยังไม่มีสิทธิ์ยุ่งด้วย นายมีสิทธิ์อะไรกัน?

“ฉันจะบอกนายนะ ถ้าเกิดพี่อ้ายแต่งงาน เธอก็ไม่เกี่ยวข้อง ใดๆ กับนายอีก!”

หยางเฉินยิ่งพูดเสียงยิ่งดัง

ชั่วขณะนั้นหม่าชาวพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดอะไรดี ทันใดนั้นเขา เอากุมศีรษะของตนเองไว้ พูดอย่างเจ็บปวด “พี่เฉิน พี่ไม่ต้องพูดแล้ว!”

“ฉันแค่อยากบอกนายว่าถ้านายจะปล่อยพี่อ้ายไปจริงๆ ชาตินี้ นายคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกเสียใจ”

หยุดไปพักหนึ่ง น้ำเสียงของหยางเฉินอ่อนโยนลงมาบ้าง “เพราะนายไม่เพียงยอมทิ้งความสุขของตัวเองไป ยังมีความสุข ของ อ้ายด้วย!”

ครั้งนี้หยางเฉินไม่พูดอะไรต่ออีก

เรื่องที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว อยากทำอย่างไร นั่นคือเรื่อง ของหม่าชาว เขาไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย

“ลั่วปิงทางนั้น เจอเรื่องวุ่นวายบางอย่าง ฉันวางแผนว่าจะส่ง นายเข้าไป!”

ก่อนที่หม่าชาวลงรถ หยางเฉินพูดขึ้นทันใด

พอได้ยินชั่วขณะนั้นหม่าชาวตกใจ “พี่อยากให้ผมไปเยน?”

หยางเฉินพยักหน้าเล็กน้อย พูดแบบสีหน้าเคร่งขรึม “ฉัน ประเมินต่ำเกินไป สำหรับอิทธิพลของตระกูลอวี่เหวินที่แทรกซึม ต่อเยียนเฉินกรุ๊ป อาศัยแค่เฉียนเปียวคนเดียว ไม่สามารถช่วย ลั่วปิงได้มากเท่าไร”

ก่อนหน้านี้เขากำลังพิจารณาอยู่ว่าจะส่งใครไปช่วยทั่วปิงที่

เยนต

ตอนนี้ ในที่สุดเขาเข้าใจแล้วว่าส่งใครไปเหมาะสมที่สุด มีเพียงหน้าชาวคนเดียว!

อ้ายหลินก็อยู่ที่เยน หม่าซาวไปแล้ว ไม่เพียงสามารถช่วย ลั่วปิงได้ ยังถือโอกาสสามารถเข้าใกล้อ้ายหลินได้อีกก้าว

“พี่เฉิน ถ้าพี่เป็นเพราะผมแล้ว งั้นผม…….

คําพูดของหม่าชาวยังไม่ทันจบ ก็ถูกหยางเฉินขัดจังหวะ “นาย น่าจะรู้ดี เขียนเฉินกรุ๊ปนั้นสำหรับฉันแล้ว มีความหมายอะไรอยู่

“ความสามารถของลั่วปิง ในด้านธุรกิจ โดดเด่นอย่างมาก มี เพียงความปลอดภัยของเขาได้รับการรับรอง ระยะห่างที่ฉันได้ ควบคุมเยียนเฉินกรุ๊ปในท้ายที่สุด ถึงจะใกล้เข้ามาอีกก้าวหนึ่ง

หยางเฉินทำหน้าเคร่งขรึม

พอได้ยินแล้ว หม่าชาวก็ไม่ได้สงสัยอะไรอีก รีบยืนตัวตรงดิ่ง ทันที “ครับ พี่เฉิน รับประกันว่าภารกิจจะสำเร็จครับ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ