The king of War

บทที่ 313 หม่าชาวตื่นเต้น



บทที่ 313 หม่าชาวตื่นเต้น

“พี่เฉิน!”

พอเห็นคนที่มายืนขวางอยู่ตรงหน้า อ้ายหลินก็ตะโกนออกมา

ด้วยความดีใจ

“หยางเฉิน!”

หลังจากที่เพิ่งเทียนเรียวเห็นหน้าหยางเฉิน ก็ทำหน้าตกใจ

ทันที

จนถึงตอนนี้ เขาถึงได้รูปตัวว่า ตอนแรกที่อ้ายหลินเจอเขา เธอ ก็ได้ถามเขาว่าเป็นคนที่พี่เฉินส่งมารึเปล่า

ที่แท้ “พี่เฉิน” ที่เธอพูดถึงก็คือหยางเฉินนี่เอง!

“พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

หยางเฉินหันหน้าไปถามอ้ายหลิน

อ้ายหลินส่ายหน้า “ถ้าคุณมาช้าแม้แต่ก้าวเดียว ไม่แน่ฉันอาจ จะเป็นอะไรไปแล้วก็ได้

“ไหนนัดกันว่าจะมาถึงที่สนามบินดอนสิบโมงไม่ใช่เหรอ ครับ?”

หยางเฉินมองไปที่นาฬิกาข้อมือ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่มัน เพิ่งเก้าโมงห้าสิบเองนะครับ!
อ้ายหลินผายมือออกอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนกัน เครื่องบินมันมาถึงก่อนเวลานี้

พอเห็นหยางเฉินกับอ้ายหลินที่กำลังพูดหยอกล้อกัน สีหน้า ของเมิ่งเทียนเรียวก็ได้ทิ้งตึงไปแล้ว ในใจกำลังรู้สึกโกรธมาก

เมื่อคืนพอหยางเฉินออกไปหลังจากทำลายมือของเมิ่งฮุยแล้ว เขาก็พาเมิ่งฮุยวิ่งหาโรงพยาบาลไปทั่ว แต่ก็ไม่มีหมอคนไหนที่ สามารถรักษาได้เลย

ยังดีที่เมื่อเช้าคุณหมอหวางบอกเขาว่า บางทีอ้ายหลินอาจจะ รักษามือของเมิ่งฮุยได้ ถึงทำให้ความหวังในใจของเขาเกิดขึ้น อีกครั้ง

เขาถึงขั้นกำลังวางแผนว่าจะทำยังไงให้เพิ่งฮุยสามารถกลับ เข้าตระกูลได้อีกครั้งแล้ว

แต่มาตอนนี้ จู่ๆ ก็ได้รู้ว่า หมอเพียงคนเดียวที่สามารถรักษา มือของลูกชายให้หายได้ กลับมีความพันธุ์ ที่ดีกับหยางเฉินซะ

ความแตกต่างมากมายของก่อนหลัง มันทำให้เขารู้สึกสิ้นหวัง

ขึ้นมาทันที

“ไปกันเถอะ!”

หลังจากที่ทั้งคู่ทักทายกันเสร็จ หยางเฉินก็ตั้งใจที่จะพาอ้าย หลินไปที่โรงพยาบาล

“รอเดี๋ยว!”
จู่ๆ เสียงของเมิงเทียนเรียวก็ยังตามหลังทั้งคู่มา “หยางเฉิน ให้เพื่อนของคุณไปรักษาให้ลูกของผม แล้วความแค้นระหว่าง คุณกับตระกูลเพิ่งก็จะถือเป็นอันสิ้นสุดลงทันที!

เมื่อคืน หยางเฉินได้บุกเข้าไปในตระกูลเพิ่ง จากนั้นบรรดา ตระกูลเศรษฐีสูงสุดของมณฑลเจียงผิงก็มาเยือนที่ตระกูลเพิ่ง แม้แต่ตระกูลหานยังอยากที่จะเปิดศึกกับตระกูลเมิ่งเลย

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับตระกูลเมิ่งแล้ว มันถือเป็นความ อัปยศที่ใหญ่หลวงมาก

ถึงแม้เมื่อคืนจะยอมอ่อนข้อให้หยางเฉิน แต่มันก็ไม่ได้แปลว่า ตระกูลเพิ่งจะยอมแพ้ซะหน่อย

ตอนนี้ เพิ่งเทียนเรียวนั้นได้แสดงออกมาว่า ขอแค่อ้ายหลิน ยอมรักษาให้เพิ่งฮุย ความแค้นในครั้งนี้ก็จะถือว่าแล้วกันไป

แต่ว่า หยางเฉินจะไปเกรงกลัวการเอาคืนของตระกูลเพิ่งได้ยัง

ไง?

หยางเฉินหยุดเดิน หันไปทางเมิ่งเทียนเรียว หรี่ตาแล้วพูดไป ว่า “มือสองข้างของลูกคุณ มันถูกผมทำลาย ตอนนี้ คุณกลับมา ขอให้เพื่อนของผมไปช่วยรักษาให้ลูกชายคุณ แล้วคุณคิดว่า ผม จะยอมรึไง?”

“หยางเฉิน แกอย่าให้มันมากเกินไปนะ!”

“ฉันยอมรับ ว่าแกมันแกร่งมาก และมีคนอีกมากมายที่พร้อม จะเปิด กกับตระกูลมิ่งเพื่อแก
“แต่ว่า มันจะยังไงต่อล่ะ ตระกูลเม็งของฉันเป็นถึงตระกูล เศรษฐีสูงสุดในเมืองเอก แล้วจะไปกลัวการเปิดศึกได้ยังไง?”

ต่อให้มีการทําสงครามขึ้นจริง แกมั่นใจเหรอว่า พวกตระกูล ที่ยอมเปิดศึกกับตระกูลเมิ่งเพื่อแกนั้น จะชนะได้จริงๆ?

“การที่ตระกูลเมิ่งของฉันสามารถยืนหยัดอยู่ในเมืองเองได้ นานขนาดนี้ คิดว่าจะมีภูมิหลังที่ธรรมดารึไง? ตระกูลที่คบหากัน ก็มีไม่น้อย ถ้าต้องเปิดศึกกันจริง ใครกันแน่ที่จะแพ้ก็ยังไม่มีใคร

เพิ่งเทียนเรียวตาแดงก่ำ พูดพร้อมกับกัดฟันไปว่า “ขอแค่ เพื่อนของแกยอมรักษามือของลูกชายชั้นให้หาย ความแค้น ทั้งหมด ก็ถือว่าสิ้นสุดทันที!

จากการที่ถูกตั้งชื่อด้วยเทียนเรียว ก็ยืนยันได้แล้ว ว่าเพิ่งหมเย นั้นคาดหวังในตัวเขาแค่ไหน

เพิ่งเทียนเรียวนั้นถือว่าเป็นคนที่มีความสามารถมากๆ ของ ตระกูลเมิ่งจริง เพียงแต่ เขานั้นมั่นใจและหลงตัวเองจนเกินไป

คำพูดที่เขาพูดมานั้น มันค่อนข้างจริง หยางเฉินไม่ได้รู้สึก สงสัยเลยสักนิด ถ้าต้องทำสงครามกันจริง ก็น่าจะมีตระกูล มากมายยอมช่วยตระกูลเพิ่งจริง

แล้วมันจะยังไงล่ะ?

ตระกูลพวกนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องพึ่งพาซะหน่อย

“ตั้งแต่วันนี้ไป ในเมืองเจียงโจว ไม่อนุญาตให้คนของตระกูลเพิ่งปรากฏตัวเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น ตาย!”

แววตาของหยางเงินค่อยเคร่งขรึมลงไป นอกจากนี้ กิจการ ทั้งหมดของตระกูลเมิ่งที่อยู่ในเมืองเจียงโจว ก็ห้ามมีอยู่เหมือน กัน ภายในสามวัน กิจการทุกอย่างของตระกูลเมิ่ง ต้องหาย สาบสูญไปให้หมด!”

“จากเจียง โจวถึงเมืองเอก ใช้เวลาเดินทางสี่สิบนาทีก็เกิน พอแล้ว ผมจะให้เวลาคุณหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่เวลาหนึ่งชั่วโมง สิ้นสุดลง ถ้าคุณยังอยู่ในเจียงโจวอีก ก็จงอยู่ที่เจียงโจวตลอดไป ชน!”

พูดจบ หยางเฉินก็พาอ้ายหลินจากไป

เหลือเพิ่งเทียนเรียวที่กำลังทำหน้าโมโหไว้เพียงคนเดียว เขา นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าหยางเฉินนั้นจะกล้าห้ามไม่ให้คนของตระกูล เพิ่งปรากฏตัวในเมืองเจียงโจวแบบนี้

“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าภายในสามวัน แกจะทำยังไง ให้กิจการทุกอย่างของตระกูลเพิ่งหายไปจากเมืองเจียงโจวได้!”

เพิ่งเทียนเรียวพูดพร้อมกับกัดฟันแน่น

แต่ว่า ในใจของเขากลับอยู่ไม่สุขเลย ดูจากท่าทางของหยาง เฉินแล้ว ไม่เหมือนคนที่จะพูดจาใหญ่โตเลย

เขานั้นรู้ดี ว่าถ้ามีหยางเฉินอยู่ด้วย อ้ายหลินก็ไม่มีทางยอม รักษาให้เพิ่งฮุยแน่นอน เขาจึงไม่ลังเลที่จะหันหลังแล้วเดินจากไป

“ไม่นึกเลยว่าเทพสงครามผู้เกรี้ยวกราดแห่งชายแดนเหนือนั้น จะมีความปรานีกับศัตรูถึงขนาดนี้”

อ้ายหลินที่นั่งอยู่ข้างคนขับ มองไปยังหยางเฉินที่กำลังขับรถ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

หยางเฉินนั้นเข้าใจความหมายของเธออยู่แล้ว ถ้าอยู่ที่ ชายแดนเหนือ กับพวกศัตรู หยางเฉินนั้นไล่ฆ่าไม่ตั้งอยู่แล้ว

แต่ในตอนนี้ เขาแค่ทำลายมือทั้งสองข้างของเพิ่งฮุยเท่านั้น ส่วนเมิ่งเทียนเรียว หยางเฉินก็ไม่ได้ตามฆ่าให้ตาย

“เมื่อก่อนมันอยู่ในสนามรบ เจอศัตรูแล้วฆ่า มันเป็นเรื่องที่ ธรรมดามาก แต่ตอนนี้ผมได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติแล้วจึงไม่ สามารถบอกฆ่าก็จะฆ่าได้แล้ว”

หยางเฉินส่ายหน้าด้วยความขมขื่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อีกอย่าง กะอีแค่ตระกูลเศรษฐีเล็กๆ ของเมืองเอกตระกูลเดียว มันไม่คู่ควรที่จะเป็นศัตรูของผมได้หรอก!”

นึกถึงสมัยที่อยู่ชายแดนเหนือ ตอนที่นำพาทีมแพทย์ไปเจอกับ เรื่องราวพวกนั้น จนถึงตอนนี้ เธอยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่เลย

“คุณคิดจะออกจากชายแดนเหนือแบบนี้จริงๆ เหรอ?” จู่ๆ อ้ายหลินก็ถามออกมา

สีหน้าของหยางเฉินค่อนข้างหม่นหมอง พยักหน้าแล้วตอบ ไปว่า “ชายแดนเหนือในตอนนี้ ได้กลายเป็นเมืองที่ไร้ซึ่งศัตรูไป แล้ว จะมีผมหรือไม่นั้น มันไม่สำคัญเลย!”

“ที่คุณกลับมาที่นี่ ก็เพราะพวกเธอใช่มั้ยคะ?” อ้ายหลินถาม
หยางเฉินไม่คิดจะปิดบัง มุมปากแย้มขึ้นอย่างมีความสุข แล้ว ตอบไปว่า “ผมมีสิ่งที่ติดค้างพวกเธอมากมาย มีแต่ต้องใช้ชีวิต ต่อจากนี้ทั้งชีวิต มาอยู่กับพวกเธอเท่านั้น!

พวกเธอที่ว่า ก็ต้องหมายถึงฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยวอยู่แล้ว

อ้ายหลินถาม “ภรรยาของคุณ ต้องสวยมากแน่ๆ เลยใช่มั้ย ค่ะ? ลูกสาวของคุณก็ต้องน่ารักมากๆ แน่นอน!

หยางเฉินพยักหน้า แล้วตอบด้วยสีหน้าที่มีความสุขว่า “ผม เชื่อว่าพี่ต้องชอบพวกเธอแน่นอน”

ตอนที่หยางเฉินพูดถึงภรรยาของตัวเองนั้น รอยยิ้มที่มีความ สุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา อ้ายหลินนั้นรู้ดีทันที ว่าหยาง เฉินในตอนนี้ กำลังมีความสุขมาก

ยี่สิบนาทีหลังจากนั้น ทั้งสองก็มาถึงที่โรงพยาบาลประชาชน

เจียงโจว

คณบดีของโรงพยาบาล ได้พาพวกระดับสูงของโรงพยาบาล มาต้อนรับอ้ายหลินที่หน้าประตูด้วยตนเอง

ถึงอ้ายหลินจะอายุแค่สามสิบ แต่กลับมีชื่อเสียงไปทั่วโลกแล้ว

โดยเฉพาะความสามารถด้านการแพทย์ ยิ่งประสบความ สำเร็จก่อนใคร ด้วยฐานะของอ้ายหลิน ในวงการแพทย์ จึงได้รับ การเคารพนับถือเป็นอย่างมาก

“ยินดีต้อนรับผู้เชี่ยวชาญอ้ายหลิน ที่ให้เกียรติมาแนะนำวิชาที่ โรงพยาบาลประชาชนเจียง โจวแห่งนี้ครับ! ยินดีต้อนรับครับยินดีต้อนรับ!”

คณบดีจับมือของอ้ายหลินและพูดด้วยความตื่นเต้น

อ้ายหลินยิ้มๆ “คณบดีเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ!!

“การผ่าตัดของคุณลู่เหวินจิ้น เตรียมการไปถึงไหนแล้วคะ?” อายหลินตามไปตรงๆ

ลู่เหวินจิ้นก็คือแม่ของเซี่ยเหอ ที่เธอรีบมาที่โรงพยาบาล เพราะกลัวจะทําให้เสียเวลาในการผ่าตัดนี่แหละ

คณบดีรีบตอบไปว่า “ผู้เชี่ยวชาญอ้ายไม่ต้องเป็นห่วง เราได้ เตรียมทุกอย่างตามที่คุณบอกไว้หมดแล้วครับ รอแค่ไตมาถึง ก็ สามารถทําการผ่าตัดได้เลยครับ!”

“โอเค งั้นฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน แล้วค่อยไปดูคนไข้

อ้ายหลินเมื่ออยู่ในโหมดทำงาน เธอก็กลายเป็นคนที่จริงจัง มาก ไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่นิดเดียว น้ำยังไม่เสียเวลากิน ก็ เข้าสู่โหมดการทำงานแล้ว

หยางเฉินทำหน้าจนใจ ผู้หญิงคนนี้นี่นะ พอพามาถึงที่โรง พยาบาล ก็ทำเหมือนไม่รู้จักเขาเลย

พี่เฉิน พี่อ้ายล่ะครับ?”

ทันทีที่อ้ายหลินจากไป ก็มีชายร่างกายกำยำคนหนึ่งวิ่งมาที่

หยางเฉิน

“แกมันไม่เอาไหน!
หยางเฉินพูดหยอกล้อ “ครั้งนี้ ถ้าแกยังไม่รีบไขว่คว้าโอกาส เอาไว้นะ พี่อ้ายก็คงได้ไปแต่งงานกับคนอื่นจริงๆ แล้วล่ะ!”

“ว่าไงนะครับ? พี่อ้ายจะแต่งงานแล้ว?”

หม่าชาวรู้สึกร้อนใจขึ้นมา จึงได้พูดออกมาเสียงดัง จนถึงดูด สายตามากมายเข้ามาทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ