The king of War

บทที่ 377 ยังคิดจะช่วยอยู่มั้ย



บทที่ 377 ยังคิดจะช่วยอยู่มั้ย

ในขณะเดียวกัน ในด้านของเมืองโจวเฉิง เฉินซิงไห้ยืนขึ้น อย่างช้าๆ ข้างหลังยังคงมีบอดี้การ์ดติดตามอยู่หลายคน มือข้าง หนึ่งล้วงเข้าไปในเสื้อสูทแล้ว และพร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ

ทางด้านเจียง โจว กวนเจิ้งซานนั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แต่กวนเส ว่างหลานชายของเขากลับพาคนลุกขึ้นมาแล้ว

ชั่วขณะหนึ่ง ภาย ในการประชุมแลกเปลี่ยน เมืองเอก เมืองโจ วเฉิง เจียงโจวทุกๆ ตระกูลของสามเมืองใหญ่ต่างก็เตรียมพร้อม หมดแล้ว

ไม่ว่าฝ่ายไหนจะลงมือก่อน ตรงจุดนัดพบก็จะกลายเป็น สนามรบทันที

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ หยางเฉินนั้นทำตัวราวกับไม่มีอะไรเกิด ขึ้น นั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเงียบๆ เพียงแต่ส่วนลึกของ นัยน์ตา เต็มเปี่ยมไปด้วยความดูถูกและไม่ชอบใจ

ตระกูลเพิ่งต้องการเข้าข้างตระกูลหวง ตอนนี้แม้แต่ตระกูลหนิ งก็ยังก้าวออกมาเพื่อเข้าข้างตระกูลหวง

เพียงแต่ การตัดสินใจของตระกูลเพิ่งในครั้งนี้ เกรงว่าจะ คํานวณผิดไปซะแล้ว

การที่ตระกูลเพิ่งลุกขึ้นในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าตระกูลหวงเป็น คนส่งสัญญานให้ แต่ตระกูลเพิ่งดันทำตัวเหมือนไอ้หน้าโง่นึกว่าตระกูลหวงให้การสนับสนุนตระกูลเพิ่ง

แต่ดูเหมือนตอนนี้เพิ่งหงเย่จะรู้ถึงจุดนี้แล้ว ชั่วขณะหนึ่ง ก็รู้สึก เหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก

“หานเซียวเทียน นี่คุณคิดจะเปิดศึกจริงๆ ใช่มั้ย?”

หนิงหยวนหรี่ตายิ้มแล้วถามออกมา ทำตัวเหมือนไม่ได้รู้ ว่าการที่หานเดี่ยวเทียนบอกว่าจะเปิดศึกนั้นเป็นการข่มขู่เลย แม้แต่นิดเดียว

“ผมยังคงยืนยันคำเดิม ตระกูลเฉินแห่งเมือง โจวเฉิงกับ ตระกูลกวนแห่งเจียงโจว เป็นตระกูลที่เป็นพี่น้องกับตระกูลหาน ของผม ไม่ว่าใครก็ตามที่กล้าทำอะไรพวกเขา มันก็เป็นศัตรูกับ ตระกูลหานของผม

หานเดี่ยวเทียนพูดออกอย่างไม่ชอบใจ “สู้เพื่อตระกูลของพี่ น้อง มีอะไรที่ต้องกลัว?

“คุณคิดจริงๆ เหรอว่า มณฑลเจียงผิง ในตอนนี้ ตระกูลหาน ของคุณมีอำนาจมากขนาดนั้นเลยใช่มั้ย?”

หนิงหยวนพูดล้อเลียน จากนั้นก็กวาดตามองทุกคน แล้วพูด ออกมาว่า “ผู้นำตระกูลทุกท่าน ตระกูลหานต้องการทำตาม อำเภอใจ เหมือนจงใจที่จะแหกกฎของมณฑลเจียงผึ้ง พวกคุณ ช่วยบอกตระกูลหานครับว่า พวกคุณยอมมั้ย?”

“ตระกูลหลิวแห่งเมืองชาง ไม่ยอมครับ!”

“ตระกูล แห่งเมืองไห่ ไม่ยอมครับ!”
“ตระกูลไป์แห่งเมืองจี้โจว ไม่ยอมครับ!”

หลังจากที่คำพูดของหนิงจี้หยวนสิ้นสุดลง พวกผู้นำตระกูล เศรษฐีระดับสูงเจ็ดแปดคนก็พากันลุกขึ้นยืน

พอเห็นแบบนั้น สีหน้าของเมิ่งหงเก็ดูแย่อย่างถึงที่สุด เพราะ เดิมทีตระกูลเหล่านี้ต่างก็รับปากเขาแล้วว่า ในการประชุมแลก เปลี่ยนพวกเขาจะยืนอยู่ในฝั่งของตระกูลเพิ่ง

แต่ตอนนี้พอหนิงจี้หยวนเรียก พวกเขาก็ตอบรับทันที

หวงเหมยที่นั่งอยู่ข้างหวงจง ส่วนลึกของนัยน์ตาก็แสดงความ ตกใจออกมาเหมือนกัน

ไม่ว่าจะทางส่วนตัวหรือทางความรู้สึก เธอก็อยากให้ตระกูล

หวงนั้นสนับสนุนตระกูลเพิ่งจนกลายเป็นตระกูลเดอะคิงแห่ง

มณฑลเจียงผิง

แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ หวงจงกลับเลือกตระกูลหนิงโดยที่ ไม่ส่งสัญญาณอะไรให้รู้เลย

ทุกสิ่งนี้ ต่างก็เป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงทั้งนั้น

สีหน้าของหานเซียวเทียนก็แย่ไม่ต่างกัน เขาไม่เคยคิดที่จะ เป็นพันธมิตรกับตระกูลอื่นเพื่อต่อกรกับตระกูลหนึ่งและพันธมิตร ตระกูลหวง เกรงว่าสองมือจะรับมือกับฝีมือยาก

“เจ้าบ้านหาน ตอนนี้ คุณยังคิดที่จะสอดมือเข้ามายุ่งกับเรื่องความแค้นระหว่างตระกูลเพิ่งกับตระกูลหวงอีกมั้ยครับ?” หนิงจี้หยวนจ้องมองหานเซี่ยวเทียนด้วยใบหน้าที่สนุกสนาน พร้อมกับคลึงลูกวอลนัทเล่นอยู่ในมือสองลูก

“แกร็ก แกร๊ก แกร็ก~” ภายในการประชุมแลกเปลี่ยน ได้ยินแค่เสียงของลูกวอลนัท ดังขึ้น ในตอนที่มันเคลื่อนไหวเท่านั้น

บรรยากาศ มตึงเครียดอย่างถึงที่สุด คนรุ่นหลังของตระกูล บางคนที่ถูกผู้ใหญ่ในตระกูลพามานั้น ตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะ หายใจเสียงดังแล้ว

ศึกใหญ่ กำลังจะเกิดขึ้น!

ถึงหานเยี่ยวเทียนจะไม่ได้หนักใจเรื่องการร่วมมือกันของตระ กูลเมิ่งกับตระกูลหนิง แต่เขาก็รู้ดี ว่าเมื่อไหร่ที่เปิดศึกกันขึ้น มันก็ จะเกิดความเสียหายอย่างหนักกับทุกฝ่ายแน่นอน

ประเด็นคือ ตระกูลหนิงได้ซื้อตระกูลพวกนี้ไปกว่าครึ่งแล้ว ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ตระกูลหานก็ไม่ได้ ได้เปรียบเลย

ในเมื่อตระกูลหนึ่งชอบเข้ามายุ่งเรื่องของชาวบ้านมากขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นผมก็มาคิดบัญชีกับตระกูลหนึ่งที่มีกับตระกูลเฝิงเลย แล้วกัน!”

ทันใดนั้นเอง ทางด้านเมืองจิงเหอ ก็ได้มีเสียงที่เย็นดังขึ้น อย่างกะทันหัน ซึ่งมันก็เป็นเสียงของผู้นำแห่งตระกูลเฝิงเฟิงฉวนนั่นเอง!

“เผิงฉวน ก็เข้าร่วมแล้ว!”

สายตานับไม่ถ้วนต่างพากันมองมาที่เพิ่งฉวน พร้อมกับสีหน้า ที่ตื่นตกใจ ไม่ว่าใครก็มองออก สามมหาเศรษฐีแห่งเมืองเอก ได้ออกมา

เผชิญหน้ากันแล้ว

ในสถานการณ์แบบนี้ การที่ตระกูลเชิงออกมา มันไม่เท่ากับ กําลังวนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ?

หนิงหยวนที่ยังทำหน้ายิ้มอยู่เมื่อกี้ ตอนนี้ตาทั้งสองข้างก็ได้ หรี่เล็กลง “ไม่ทราบว่าตระกูลหนึ่งของผมไปมีความแค้นอะไรกับ ตระกูลเฝิงของคุณอย่างนั้นเหรอครับ?”

หนิงหยวนนั้นไม่รู้จริงๆ ว่าลูกชายของเฝิงฉวนนั้น เพิ่งถูกฆ่า

ไปเมื่อคืนนี้เอง

แต่เพิ่งฉวนก็ไม่รู้เลยว่าการตายของลูกชายเขานั้น ตระกูลหนึ่ง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต่นิดเดียว

หยางเฉินมองไปที่เพิ่งฉวนด้วยความสนใจ

ดูท่า เฝิงอี้ฉินที่ถูกเขาฆ่าไปนั้น จะเป็นลูกรักของเฝิงฉวนมาก จริงๆ

ส่วนหนึ่งเฉินหยู่ที่นั่งอยู่หลังสุดของตระกูลหนึ่งมาโดยตลอด หลังได้เห็นเพิ่งฉวนก้าวออกมา จู่ๆก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นทันที

เมื่อคืน จู่ๆ ศพของเฝิงอี้ฉันก็มาอยู่ที่ท้ายรถของเขา จากนั้น ลูกน้องที่เขาสั่งให้เอาศพไปจัดการก็หายสาบสูญไป

“ทั้งสองตระกูลของเรามีความแค้นอะไรต่อกัน ก็ต้องถามคน รุ่นหลังของตระกูลคุณดูแล้ว!”

ในส่วนลึกนัยน์ตาของเฝิงฉวน ได้แสดงจิตสังหารอันแรงกล้า ออกมา สองตาจ้องมองไปยังหนึ่งเพิ่งหย

ทันใดนั้น!

พอหนิงเฉิงหยู่รู้ตัวว่าสายตาของเฝิงฉวนกำลังจ้องมองมาที่ เขา เขาก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที

ตอนนี้พอมาคิดดูดีๆ ทันใดนั้นเขาก็รู้ตัวขึ้นมาทันทีว่าตัวเอง

ติดกับเข้าแล้ว

เกรงว่า ลูกน้องที่เขาสั่งให้ไปจัดการกับศพของเฝิงฉินนั้น น่า จะโดนจัดการไปแล้ว

ตำแหน่งของเขาในตระกูลหนึ่งนั้นไม่ได้สูง ถ้าเรื่องที่เขา ต้องการอำพรางศพเกิดถูกเปิดเผย ตระกูลหนึ่งก็ต้องตกเป็นเป้า ของทุกคนแน่นอน

การสร้างปัญหาแบบนี้ให้กับตระกูลหนึ่ง มันก็มีความเป็นไป ได้สูงที่เขาจะถูกตระกูลทอดทิ้ง

“นี่คุณต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ พูดมาให้ชัดๆ!
หนิง หยวนหรี่ตาลง และจ้องเขม็งไปที่เพิ่งฉวน

ถึงเขาจะกำลังยิ้ม แต่จะมีใครรับรู้ถึงความโหดเหี้ยมที่ซ่อนอยู่ ภายใต้รอยยิ้มนั้นกัน

ในตอนที่เขากำลังเล่นงานตระกูลหาน กับการที่ตระกูลหาน เข้ามาวุ่นวายกับเรื่องระหว่างตระกูลหวนทับตระกูลเจิ่งนั้นเขา กลับถูกตระกูลเล็กๆ ที่เทียบกับตัวเองไม่ได้เลยมาโจมตีซะได้

สำหรับเขาแล้ว มันคือความอัปยศอย่างถึงที่สุด

แต่เพิ่งฉวนก็ไม่ได้กลัวแม้แต่น้อย และยังพูดพร้อมกัดฟันว่า “ลูกชายของผมเฝิงอี้ฉิน ถูกคนฆ่าตายเมื่อคืน ถ้าผมไม่ได้ไปถึง ในตอนนั้น เกรงว่าแม้แต่ศพของลูกชายผมก็คงจะรักษาไว้ไม่ ได้!”

เฝิงฉวนแทบจะกัดฟันพูดออกมาทั้งหมด เมื่อคืนเพิ่งจะเจ็บ ปวดจากการสูญเสียลูกอันเป็นที่รัก แค่คิดก็รู้แล้วว่าในใจของ เขาตอนนี้มันโกรธแค้นแค่ไหน

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่มีทางทำอะไรตระกูลหนึ่งได้ แล้วเขาจะ

รอให้ถึงตอนนี้ทำไม?

นี่คือโอกาสเดียวที่เขาจะสามารถแก้แค้นได้ แล้วจะปล่อยให้ มันหลุดมือไปได้ยังไง?

“ว่าไงนะ? ลูกชายของเฝิงฉวนถูกฆ่าอย่างนั้นเหรอ?”

“ฉันได้ยินว่า เฝิงฉวนมีลูกชายตอนแก่ และเขาก็รักลูกคนนี้ มาก เขาจึงไม่มีทางปล่อยให้คนร้ายลอยนวลไปได้แน่นอน
“แล้วใครกันที่กล้าฆ่าแม้กระทั่งลูกชายของเขา?”

หลายคนต่างเคยได้ยินเรื่องความรักที่เพิ่งฉวนมีให้ลูกชายคน นี้มาก่อน ตอนนี้จึงพากันซุบซิบกันใหญ่

หนิงเฉิงอยู่ที่หน้าอึดอัด เขาอยากอธิบาย แต่ก็ไม่กล้า ตอนนี้ จึงได้แต่มีน

หนิงหยวนนั้นเป็นถึงหนึ่งในผู้นำของตระกูลเดอะคิง การที่ เขาสามารถขึ้นมานั่งในตำแหน่งนี้ได้ ก็ต้องไม่ใช่คนโง่อย่าง แน่นอน

จากแววตาของเฝิงฉวน เขาก็มองเห็นความแค้นอันแรงกล้า

แล้วเฝิงฉวนยังมาต่อต้านตัวเองตอนนี้ จึงมีความเป็นไปได้ เพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือการตายของลูกชายเฝิงฉวน ต้อง เกี่ยวข้องกับตระกูลหนึ่งแน่นอน

“ผู้นำเฝิง ไม่ทราบว่าการตายของลูกชายคุณ เป็นฝีมือของ ใครกันแน่? คุณพูดออกมาได้เลยไม่ต้องกลัว วันนี้ที่อยู่ตรงนี้มี แต่ผู้นำตระกูลใหญ่แห่งมณฑลเจียงผิงทั้งนั้น เพื่อไม่ให้เรื่องแบบ นี้ต้องเกิดขึ้นอีก เราจำเป็นต้องให้คนที่ทำผิดได้รับโทษอย่าง สาสม!”

หานเซี่ยวเทียนก็ได้ถือโอกาสนี้พูดออกมาเหมือนกัน

หลายคนต่างรับรู้ได้แล้วว่า การตายของลูกชายเฝิงฉวน มี ความเกี่ยวข้องกับตระกูลหนึ่ง

ทันใดนั้น เฝิงฉวนก็มองไปทางตระกูลหนึ่ง ยกมือขึ้นมา แล้วพูดอย่าง โมโห า “หนิงเฉิงหยู ลูกชายของฉันจริงจังกับแกแค่ ไหน แต่แกกลับฆ่าเขา แถมยังคิดที่จะอำพรางศพอีก!!

“การฆ่าคนตายก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต มันเป็นกฎที่ไม่อาจ เปลี่ยนแปลงได้! วันนี้ ฉันจะใช้เลือดของแก มาเซ่นไหวให้ วิญญาณของลูกชายฉัน!!

เฝึงฉวนนั้นโมโหมากจริงๆ โกรธจนสั่นไปทั้งตัว

หนิงเฉิงหยู่สีหน้าซีดเซียว และกัดฟันพูด “ผู้นำเผึ้ง คุณอย่า พูดอะไรมั่วๆ นะ เรื่องบางเรื่อง มันต้องมีการรับผิดชอบนะ!”

“ทําไม? กล้าทําไม่กล้ารับอย่างนั้นเหรอ?”

เฝิงฉวนพูดประชด “ทั้งๆ ที่เป็นคนของตระกูลหนึ่งแท้ๆ แต่ก็ เป็นได้แค่เศษสวะตัวหนึ่งเท่านั้น!!

“บัดซบ! แกหาว่าใครเป็นเศษสวะ ?”

หนิงเฉิงหมู่รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที และได้ลุกพรวดขึ้นมา “หุบปาก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ