The king of War

บทที่196 ปาดคอทีเดียวตาย



บทที่196 ปาดคอทีเดียวตาย

เฉียนเปียวรู้จักชื่อของหงเทียนหยา ขับรถเข้ามาชนคฤหาสน์ ของหงเทียนหยา โดยตรง ตอนนี้มือถือมีดเอาไว้เดินไปยังหง เทียนหยา เห็นได้ชัดว่าอยากฆ่าเขา

โดยเฉพาะหงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเพิ่งที่เชิญมา ถ้าโดนฆ่า ในตระกูลจวง ตระกูลเพิ่งต้องเอาเรื่องนี้มาลงที่ตระกูล จวงเป็นแน่

“แจ้งมือปืนว่าเตรียมตัวให้พร้อม!!

จวงเจี้ยนเซ่อพูดสั่งการกับพ่อบ้านอาวุโสด้านข้าง

ญาติสายตรงของตระกูลจวงโดยรอบต่างทำหน้าตื่นตกใจ คาดไม่ถึงว่าจวงเจี้ยนเซ่อจะให้มือปืนออกหน้า ช่างทำให้คนรู้สึก มหัศจรรย์ใจเหลือเกิน

ถึงแม้ในที่เกิดเหตุล้วนเป็นญาติสายตรงของตระกูลจวง แต่ นอกจากจวงเจี้ยนเซ่อและคนมีอำนาจมากที่ควบคุมตระกูลไม่กี่ คนแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่รู้กันว่าตระกูลจวงยังมีมือปืน

พ่อบ้านอาวุโสองอยู่ครู่หนึ่ง พูดแบบหน้าตาเป็นกังวล “ผู้นำ ครับ ถ้าเกิดใหมือปืนลงมือ เกรงว่าจะนำพาความวุ่นวายใหญ่ หลวงมาให้ตระกูลนะครับ ขอให้ท่านพิจารณาอีกทีด้วยครับ!”

ที่ประเทศจิ่วโจว ปืนเป็นของที่ควบคุมเข้มมาก ไม่มีระเบียบ การที่เกี่ยวข้อง ถ้าเกิดถูกจับได้ว่าแอบซ่อนปืนไว้ นั่นคือโทษสถานหนัก

“ไปทำตามที่ฉันสั่ง!”

จวงเจี้ยนเซ่อพูดจาเย็นชาไร้ที่เปรียบ

“ครับ ผู้นํา!”

พ่อบ้านอาวุโสไม่กล้าพูดอะไรมากอีก รีบหมุนตัวออกไป

ถ้าไม่ใช่ว่าไม่มีทางเลือก จางเจี้ยนเซ่อคงไม่ใช้ปืน

หลายปีมาขนาดนี้ ตระกูลจวงเพียงแค่สร้างทีมอาวุธปืนขึ้น กลับไม่เคยส่งลงไปใช้งานเลย นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ใช้งานแล้ว

แต่เขาไม่ทำแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดหงเทียนหยาเป็นอะไรไป ตระ กูลเพิ่งต้องเอาเรื่องนี้มาคิดบัญชีกับตระกูลจวงแน่นอน อย่างนั้น ตระกูลจวงมีทางตายสถานเดียว

ในคฤหาสน์ ซึ่งเทียนหยายืนอยู่ที่เดิม ดวงตาทั้งสองจ้อง

เฉียนเปียวไม่กะพริบ ในสายตาเต็มไปด้วยความระวัง

เขารู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของเฉียนเปียวได้แล้ว

เวลานี้ เฉียนเปียวหยุดตรงตำแหน่งห่างจากหงเทียนหยา ประมาณสามเมตร

“แกคือ เฉียนเปียว?”

ในที่สุดหงเทียนหยาก็เห็นใบหน้าของเฉียนเปียวชัดเจน ชั่ว ขณะนั้นหน้าตาตื่นตกใจ
สมัยก่อนเรียนเปียวคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลหยาง แห่งเมืองเฉิงโจว และสามารถพูดได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่ง ของเมืองเฉิงโจว

ตระกูลหยางเพราะมีเฉียนเปียวอยู่ เพียงการกระทำครั้งเดียว ก็ก้าวขึ้นมาเป็นตระกูลอิทธิพลใหญ่ชั้นนำของเมืองเฉิงโจว ต่อ ให้เป็นตระกูลเฉินและตระกูลหยวนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเฉิง โจว ต่างไม่กล้าบุ่มบ่าม เพราะความน่าสยองของเฉียนเปียว

หงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง ย่อมรู้จักเฉียนเปียว เป็นธรรมดา

เพียงแต่เฉียนเปียวไม่เคยเจอเขา สายตาที่เย็นชาไม่เปลี่ยน ไปจากเดิม

“เฉียนเปียว ฉันกับแกไม่มีความแค้นต่อกัน ทำไมแกต้องมา

หาเรื่องวุ่นวายกับฉันด้วย?”

ทันใดนั้นหงเทียนหยาเอ่ยปากถาม ในน้ำเสียงมีความโกรธ เคืองระดับหนึ่ง

ถึงแม้เขาจะไม่เคยปะทะมือกับเฉียนเปียว แต่ชื่อเสียงของ เฉียนเปียว ทั้งเมืองเจียงผิง ล้วนโด่งดังไปทั่ว

ถ้าไม่ต้องปะทะกันได้ ซึ่งเทียนหยาย่อมยินดีเป็นธรรมดา

“แปดคนนั้นที่แกส่งไป โดนฉันฆ่าตายหมดแล้ว ตอนนี้แกคิด ว่าระหว่างพวกเราไม่มีความแค้นต่อกันงั้นเหรอ?”

เฉียนเปียวพูดขึ้นกะทันหัน
“อะไรนะ? คนของฉัน ตายแล้ว?”

หงเทียนหยา โกรธจัดในชั่วขณะหนึ่ง เขายังรอข่าวดีของแปด คนนั้นมาโดยตลอด ไม่ทันรอให้คนกลับมา กลับเป็นเฉียนเปียว มาเยือนแทน

ไม่นานเขาตอบสนองเข้ามาแล้ว “แกทำงานให้หยางเฉิน?”

“ไม่ผิด แกกล้าลงมือกับเขา งั้นก็เป็นศัตรูของฉัน”

เฉียนเปียวพูดด้วยหน้าตาเรียบเฉย “ฉันให้เวลาแกห้านาที พูดสิ่งที่อยากบอกออกมาก่อนตาย!

“ไอ้เด็ก โอหัง!”

ชั่วพริบตาเดียวหงเทียนหยาระเบิดความโกรธ พุ่งไปยังเฉียน เปียว โดยตรง

ถึงแม้เขาจะไม่อยากปะทะกับเฉียนเปียว แต่ไม่ได้หมายความ

ว่ากลัวเฉียนเปียว

สายตาเฉียนเปียวเย็นชาถึงขั้นสุดแล้ว หลายปีนี้ที่ตระกูล หยาง เขาฆ่ายอดฝีมือมาไม่น้อย ขอเพียงคนที่มาประลองฝีมือ กับเขา ล้วน โดนเขาสังหารทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้นสักคน

ต่อให้หงเทียนหยาเป็นยอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง ก็จะไม่มีข้อ ยกเว้นเช่นกัน

ภาพเงาเฉียนเปียววาร์ปหาย มีดในมือกรีดเป็นเส้นรัศมี วงกลมง่ายๆ เส้นหนึ่งในอากาศที่ว่าง
“ฟี่บ!”

ร่างกายของทั้งสองคนเข้ามาตัดผ่านกัน จากนั้นหยุดชะงัก ใน เวลาเดียวกัน แวบหนึ่ง ซึ่งเทียนหยาหน้าตาหวาดกลัวเต็มที่ ดวงตาเบิกโต บนล่าคอปรากฏรอยเลือดแถวหนึ่ง ค่อยๆ แยกออก เขาใช้มือ

ทั้งคู่มาอุดคอเอาไว้แน่น กลับไม่มีทางควบคุมเลือดสดที่ไหล

ออกมาจํานวนมากได้

“ตึง!”

ร่างกายของหงเทียนหยาล้มลงบนพื้นไปโดยตรง กระตุกอยู่ สักครู่หนึ่ง ก่อนจะไม่ขยับเขยื้อนสักนิดอีกต่อไป

ทีเดียว ตัดสินเป็นหรือตาย

ทุกคนในตระกูลจวงที่เฝ้าอยู่หน้าประตูของหงเทียนหยาต่าง เบิกดวงตาโตกันหมด

พวกเขาเห็นด้วยตาตนเอง ซึ่งเทียนหยาพุ่งไปทางเฉียนเปียว ก่อนเอง ตามมาด้วยเฉียนเปียวพุ่งออกไปแล้ว จากนั้นทั้งสอง ข้ามผ่านตัวกันไป แล้วยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

สุดท้ายหงเทียนหยาโดนปาดคอทีเดียวตาย

คนของตระกูลจวงแข็งเป็นหินไปทั้งตัวผู้แข็งแกร่งของตระกูล เพิ่งในสายตาพวกเขาที่อยู่เหนือมวลชน และความสามารถไม่ ธรรมดา คาดไม่ถึงจะโดนคนปาดคอทีเดียวตาย
นี่เป็นไปได้อย่างไร?

ในหัวสมองของแต่ละคนล้วนปรากฏความคิดเหมือนกันออก

มาแล้ว

“ต่อต้านฉัน อาจจะรอดได้ ต่อต้านเขา สังหารสิ้นซาก

เฉียนเปียวจ้องศพของหงเทียนหยา พูดจาแบบเฉยชา

จากนั้นก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์

เพียงแต่เขาเพิ่งเดินออกมา กลับถูกปากกระบอกปืน มืดสิบ กว่ากระบอกเล็งศีรษะ

เขายักคิ้ว สายตาเย็นเฉียบตกอยู่บนตัวของจางเจี้ยนเซ่อ “ตั้งแต่ฉันออกจากสถานที่นั้น โดนคนเอาปืนมาจ่อนับครั้งไม่ ถ้วน แต่ฉันยังคงมีชีวิตอยู่รอดมาได้ รู้ไหมว่าทำไม?”

ไม่รอให้จวงเจี้ยนเซ่อตอบกลับ เขาพูดต่อมาติดๆ “เพราะพวก

มันตายกันหมดไง!

ถูกเฉียนเปียวจ้องไว้ จวงเจี้ยนเซ่อรู้สึกเหมือนสัตว์ป่าตัวหนึ่ง กำลังจับจ้องอยู่ ขอเพียงฝ่ายตรงข้ามแค่คิดนิดหน่อย ก็สามารถ ฆ่าเขาทิ้งได้

และเขาไม่รู้ชัดเจนดีว่าเฉียนเปียวไม่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้ง ตัวตึงแน่นขึ้นมา เตรียมหลบเลี่ยงทุกเมื่อ

บนโลกใบนี้ คนที่สามารถหลบลูกกระสุนปืนได้ ไม่ใช่ไม่มี แต่ เขาไม่ใช่คนประเภทนั้น
เวลานี้ เพียงใช้คําพูดมาขู่ขวัญจางเจี้ยนเซ่อ เพื่อเอาตัวเอง ออกไปอย่างอยู่รอดปลอดภัย

ต่อให้คนทีโดนปืนจ่อศีรษะคือเจียนเปียว แต่คนของตระกูล

จวงกลับไม่มีใครผ่อนคลายสักคนเดียว

เฉียนเปียวปาดคอหงเทียนหยาที่เดียวตาย ฉากนี้ช่างน่า ตกใจเหลือเกิน ทําความกดดันในจิตใจอันใหญ่หลวงที่สุดมาให้ พวกเขา

“ท่านหงเป็นคนของตระกูลเมิ่ง ถึงแม้จะเป็นผู้นำของตระกูล เพิ่ง ก็ต้องปฏิบัติตัวด้วยความเคารพ แกกลับฆ่าเขาแล้ว นี่คือ การทำตัวเป็นศัตรูกับตระกูลเมิ่ง!”

จวงเจี้ยนเซอฟื้นกลั้นความกลัวในใจไว้ กัดฟันพูดไป

เขารู้ว่าเฉียนเปียวยิ่งใหญ่เกรียงไกร แต่กลับไม่เชื่อว่าเขาจะ สามารถรอดชีวิตออกไปจากการเล็งเป้าของมือปืนสิบกว่าคนได้

ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่เขาฆ่าคือหงเทียนหยา บางทีจวงเจี้ยนเซ่อ

คงไม่ล่วงเกินเขา

แต่หงเทียนหยาตายแล้ว ถ้าให้เฉียนเปียวออกไปแบบอยู่รอด ปลอดภัย รอตอนที่ตระกูลเพิ่งตรวจสอบความจริงออกมาได้ กระจ่าง นั่นคือวันแห่งหายนะของตระกูลจวง

ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยเฉียนเปียวออกไปโดยเด็ดขาด

“พูดมาขนาดนี้ แกไม่คิดจะปล่อยฉันไปสินะ?”
สายตาเฉียนเปียวค่อยๆ เย็นชาลงไป บนตัวปลดปล่อยความ หนาวเหน็บออกมา

จางเจี้ยนเซ่อมีภาพลวงตาขึ้นมา ผู้ชายตรงหน้าเคยผ่าน ประสบการณ์การสังหารที่ดุจกล้างบาปมา ถึงได้ครอบครอง ลักษณะพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

ในขณะเดียวกันเจียนเปียวนำกำลังทั้งตัวรวบรวมไว้ที่ส่วนขา แล้ว ถ้าเกิดแนวโน้มไม่ดี เขาเลือกที่จะหลบหายไปในวินาทีแรก จวงเจี้ยนเซ่อไม่ได้พูดอะไร บนใบหน้าเต็มไปด้วยการดิ้นรน

ตั้งนาน สีหน้าเขาค่อยๆ สงบนิ่ง จ้องเฉียนเปียวพลางบอกว่า “แกฆ่าท่านหงแล้ว พวกฉันปล่อยแกออกไปไม่ได้ แกจําเป็นต้อง ไปตระกูลเพิ่งกับฉัน แล้วอธิบายเรื่องราว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ลั่นไกเถอะ!”

เฉียนเปียวพูดอย่างไม่ลังเลสักนิด “แต่ดีที่สุดแกคิดให้ดี ถ้า เกิดฆ่าฉันไม่ตาย งั้นคนที่ตายก็คือแก!”

บนมีดเล่มนั้นที่ฆ่าหงเทียนหยาไปเมื่อสักครู่นี้ รอยเลือดแข็ง ตัวเรียบร้อย ภายใต้แสงไฟที่สลัว เห็นได้ชัดว่าน่ากลัวยิ่งขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ