The king of War

บทที่ 97 ติดปีกก็หนีไม่รอด



บทที่ 97 ติดปีกก็หนีไม่รอด

ทุกคนในครอบครัวตระกูลฉินต่างก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฉันเพีย นอนอยู่ในโลงศพ

นายท่านฉินที่โกรธอยู่กับยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “นายทำอะไร กับเสี่ยวเฟย?”

เขามีลูกชายเพียงคนเดียว นั่นก็คือพ่อของฉินเฟย ซึ่งนับ ตั้งแต่ลูกชายของเขาเสียชีวิต ฉันเฟยก็เป็นทายาทในสายเลือด คนสุดท้ายของเขา

และในวันนี้เขาได้เห็นฉันเฟยนอนอยู่ในโลงศพแบบนี้ ใครๆ ก็นึกภาพออกว่าตอนนี้เขาจะโกรธมากแค่ไหน

หลินเสวเหลียนน้ำตาไหลรินออกมาและร้องไห้ตะโกนเสียงดัง

ว่า “ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก! ” เธอวิ่งเข้าไปหาหยางเฉิน แต่หม่าชาวมาขวางไว้และตะโกน

พูดว่า “ไปให้พ้น!”

หม่าชาวได้ติดตามหยางเฉินในสนามรบมานานหลายปี ซึ่ง ความน่าเกรงขามในตัวของเขานั้นชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นหลินเส เหลียนที่ถูกตะคอกใส่ก็ตกใจกลัวจนหยุดอยู่กับที่

“ท่านผู้นํา ท่านต้องขอความเป็นธรรมให้กับเสี่ยวเฟยนะ!” หลินเสบู่เหลียนรู้ตัวว่าไม่สามารถทำอะไรหยางเฉินได้ เธอจึง ทำได้เพียงพูดกับนายท่านฉินด้วยน้ำตา
นายท่านฉินในเวลานี้รู้สึกโกรธมาก แต่เขายังไม่รู้ว่าฉันเฟย ยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว อีกอย่างยอดฝีมืออย่างหม่าชาว ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วย เขาจึงไม่กล้าทำอะไรมากกว่านี้ ได้แค่รอ คนของตระกูลกวนมาถึงที่นี่ก่อน

“ไอ้แก่ วันนี้ผมมีสองคำถามจะถามคุณ ถ้าคำตอบคุณทำให้ ผมพอใจ ผมอาจจะปล่อยตระกูลฉินของพวกคุณไปได้ แต่ถ้าค่า ตอบทำให้ผมไม่พอใจ ตระกูลฉินของคุณก็ไม่จำเป็นต้องอยู่อีก ต่อไป”

หยางเฉินมือไขว้หลังแล้วพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

คำก็ไอ้แก่ สองคำก็ไอ้แก่ ซึ่งมันก็ทำให้นายท่านฉันโกรธจน สุดจะทนแล้วจริงๆ

แต่ถึงกระนั้น นายท่านฉันก็ยังต้องเก็บอารมณ์โกรธและถาม ว่า “ข้าตอบคำถามของนายได้ แต่นายต้องบอกมาก่อนว่าเสียว เฟยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?

“ยังมีชีวิตอยู่เหรอ? เหอะๆ คุณจะประเมินครอบครัวคุณสูงไป แล้ว? มันมีสิทธิ์อะไรที่จะให้ผมเลอะมือไปฆ่ามัน?” หยางเฉิน ดอย่างดูถูก

ถึงแม้จะเป็นการดูถูก แต่สำหรับตระกูลฉินแล้วก็ถือว่าเป็น ข่าวดี

“นายอยากรู้อะไร ว่ามา!” นายท่านฉินเอ่ยปากพูด “เมื่อกี้นี้ ฉินเฟยพาทีมรื้อถอนไปที่บ้านเล็กตระกูลฉิน แล้วพวกเขาก็ทุบบ้านทั้งๆ ที่คนในครอบครัวเรายังอยู่ในบ้าน ผม อยากถามว่ามันเป็นค่าสั่งของคุณใช่ไหม?” หยางเฉินถาม

สำหรับหยางเฉินแล้วเรื่องนี้เป็นความผิดที่ให้อภัยไม่ได้จริงๆ เพราะในขณะที่บ้านถูกรื้อถอนนั้น ฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยวยังอยู่ใน บ้านอยู่เลย ถ้าบ้านถล่มลงมาทับฉินซีกับเสี้ยวเสี้ยวแล้วมันจะ เกิดอะไรขึ้น?

นายท่านฉินเลิกคิ้วแล้วตอบ “บ้านหลังนั้นเป็นทรัพย์สินของ ตระกูลฉินของเรา ในเมื่อครอบครัวของนายถูกไล่ออกจาก ตระกูลแล้ว แล้วนายมีสิทธิ์อะไรไปพักอาศัยอยู่ที่นั่นอีก?

“คุณหมายความว่า การที่ฉันเฟยสั่งให้รถขุดพังบ้านโดยที่ยัง มีคนอยู่ในบ้านนั้น เป็นคำสั่งของคุณใช่ไหม? ลงเล็กน้อย ” หยางเฉินหรี่ตา

นายท่านฉันรู้สึกว่าลางสังหรณ์เริ่มไม่ดีเข้าแล้ว เพราะไม่ว่าจะ อยู่ในบ้านของตระกูลกวนเมื่อคืนนี้ หรือว่าตอนนี้ วาจาและท่าที ของหยางเฉินนั้นแข็งกร้าวมาก ซึ่งถ้าเทียบกับหยางเฉินในห้าปี ก่อนนั้นเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย

“ข้าก็แค่สั่งให้เขาไล่พวกนายออกจากบ้าน แล้วให้เขาซื้อบ้าน นั้นทิ้ง ก็แค่นั้น” นายท่านฉินตอบอย่างตรงไปตรงมา

หลังจากที่นายท่านฉินตอบคำถามเสร็จ เขาก็รู้สึกว่ากลิ่นอาย แห่งการฆ่าของหยางเฉินที่มีต่อเขานั้นลดลงไปไม่น้อย

“คำถามที่สอง โลงศพพวกนี้ฉินเฟยเป็นคนส่งไปด้วย แถมยัง บอกว่าได้เตรียมโลงศพใบเล็กให้กับลูกสาวผมด้วย อีกอย่างมันบอกเองว่าคุณเป็นคนสั่งมา แล้วคุณจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?” หยางเฉินถามอีกครั้ง

“สารเลว!”

ครั้งนี้นายท่านฉันเองก็รู้สึกโกรธด้วยเช่นกัน “ข้าขอให้มันทำ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เรื่องนี้ข้าไม่รู้เรื่องด้วย

หลังจากพูดจบ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินเสาเหลียน “ว่ามา เรื่องนี้เป็นฝีมือเธอใช่ไหม?”

นับตั้งแต่ฉินเฟยได้รับตำแหน่งผู้สืบสกุลของตระกูลฉิน หลิน เสวเหลียนก็วางตัวเย่อหยิ่งในครอบครัวนี้ และยังเป็นผู้บงการ เรื่องต่างๆ อยู่เบื้องหลังของฉันเฟยอีกด้วย

ซึ่งเรื่องนี้นายท่านฉันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเหมือนกัน แต่ไม่คิด ว่ามันจะบานปลายขนาดนี้

หลินเสเหลียนตกใจจนทำตัวไม่ถูก “พรึ่บ” เธอคุกเข่าลงต่อ หน้านายท่านฉินและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้นำคะ เรื่องนี้ หนูไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ! หยางเฉินก็แค่ไอ้กระจอกที่ถูกขับไล่ออก จากครอบครัว แล้วจะไปเชื่อคำพูดมันได้ยังไง? เผลอๆ โลงศพ พวกนี้มันเป็นคนจัดหามาเอง เพื่อจะสร้างเรื่องมากล่าวหาเสี่ยว เฟยก็ได้นะ”

เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกผิด ถึงได้คุกเข่าลงแบบนี้ หยางเฉินได้แต่ หรี่ตามองเธอ เพราะไม่ว่าจะเป็นความคิดของเธอหรือไม่ หยาง เฉินก็จะลงโทษฉินเฟยกับผู้หญิงคนนี้ให้สาสม
นายท่านฉินเริ่มรู้สึกลำบากใจ เขารู้จักคนอย่างหลินเส เหลียนดี นับตั้งแต่หลินเสเหลียนคุกเข่าลงเขาก็รู้ความจริงใน เรื่องนี้แล้ว

แต่นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายของตระกูลฉินของเขา ดังนั้นเขาจึง ไม่ทําอะไรกับหลินเสวเหลียนต่อหน้าสาธารณะอยู่แล้ว

“หยางเฉิน ขาตอบคําถามทั้งสองข้อของนายไปแล้ว อีกอย่าง ต่อให้เสี่ยวเฟยทำอะไรกับพวกนายก็ตาม แต่พวกนายก็ไม่ได้ เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ? แล้วนายคิดจะเอายังไงอีก?” นายท่านฉัน พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“โครม!”

หยางเฉินเตะออกไปด้วยความแรง จนโลงศพ โลงหนึ่งแตก เป็นเสี่ยงๆ

ทุกคนต่างก็ตกใจอีกครั้ง

“คุณบอกว่าบ้านเล็กตระกูลฉินเป็นทรัพย์สินของครอบครัว ตระกูลฉิน และบอกว่าคุณจะเอามันกลับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่หลานชายคุณซื้อถอนบ้าน โดยที่ครอบครัวผมยังอยู่ข้างใน แล้วคุณยังมีหน้ามาถามผมว่าผมจะยังไงงั้นหรือ?”

คำพูดของนายท่านฉันทำให้หยางเฉินโกรธขึ้นมาทันที “หลานคุณขนโลงศพไปเป็นคันรถ แล้วขู่ว่าจะฆ่าผมด้วย แต่คุณ กลับบอกว่าผมไม่เป็นอะไรอย่างนั้นใช่ไหม?”

“ถ้าผมเป็นคนไร้ประโยชน์จริงๆ ตอนนี้คนที่นอนอยู่ในโลงศพคงต้องเป็นผมแล้ว!

“คุณว่ามาสิ เรื่องนี้ มันจะจบลงง่ายๆ แบบนี้ได้ใช่ไหม?”

หยางเฉินยิงคำถามอย่างไม่หยุด ด้วยท่าทีที่แข็งกร้างและ กลิ่นอายแห่งการสังหารอันทรงพลังของเขาก็ปกคลุมคฤหาสน์ ตระกูลฉินทั้งหมด

นายท่านฉินที่ทำให้ความโกรธของหยางเฉินปะทุขึ้นมาก็เริ่ม สัมผัสถึงความเย็นเยือกอันทรงพลังนั้น เขาค่อยๆ เดินถอยหลัง ไปและใบหน้าก็ซีดเซียวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

“แล้วนายจะเอายังไง?” นายท่านฉันถามด้วยความรู้สึกผิด

“ในเมื่อหลานชายคุณชอบหักแขนหักขาคนอื่นมากนัก งั้นวัน นี้คุณที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลฉินก็ต้องลงมือหักแขนหักขาของมัน ด้วยตัวคุณเอง แล้วก็ห้ามเอามันไปรักษาด้วย

ความเย็นชาประกายขึ้นในดวงตาของหยางเฉิน “ผมให้เวลา คุณตัดสินใจสามสิบวิ ถ้าให้ผมเป็นคนจัดการเอง มันจะไม่ใช่แค่ หักแขนขาเท่านั้น”

“นายกล้าจริง!”

ใบหน้าของนายท่านฉินกลายเป็นสีแดงและเห็นได้ชัดว่าเขา โกรธจนสุดขีด

“เหลืออีก 20 วินาที!!

หยางเฉินสีหน้าเฉยเมย
“หยางเฉิน นายจะมากไปแล้วนะ ตระกูลฉินของเรามีความ สัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลกวนนะ ถ้านายกล้าทำอะไรที่นี่ ตระกูลกวน ไม่มีวันปล่อยนายไปแน่” นายท่านฉันพูดจาข่มขู่เขา

“สิบวีสุดท้าย!”

หยางเงินยังคงตอบอย่างเย็นชา

หม่าชาวได้เดินมาถึงโลงศพที่ฉันเฟยนอนอยู่แล้ว จากนั้นเขา ยื่นมือออกมาบีบจุดฝังเข็มของฉันเฟยและทำให้ฉันเฟยตื่นขึ้นมา ทันที

ทันทีที่ฉันเฟยตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่ในบ้านตระกูลฉิน เขาจึงพูดอย่างงงงวยว่า “ผมอยู่ที่นี่ได้ไง?”

“หยางเฉิน ถ้านายกล้าแตะต้องเสี่ยวเฟยแม้แต่ปลายนิ้ว

ตระกูลฉินของเราจะขอสู้กับนายจนตายไปข้าง!” นายท่านฉันพูด

ด้วยความโกรธ

“หมดเวลาแล้ว ในเมื่อตระกูลฉินไม่ทำอะไร งั้นผมก็ต้องเป็น คนจัดการเองสินะ”

หยางเฉินพูดไปด้วยและเดินเข้าไปหาฉันเฟยไปด้วย

จนกระทั่งถึงตอนนี้ ฉินเฟยเพิ่งรู้ตัวว่าเขาถูกหยางเฉินพากลับ มาที่บ้านตระกูลฉิน

“หยางเฉิน นายคิดจะทําอะไร?”

เมื่อเห็นหยางเฉินที่กำลังเดินเข้ามา ฉันเฟยก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านเล็กตระกูลได้ผุด ขึ้นมาในความคิดของเขา

ณ เวลานี้ เมื่อเห็นท่าทีของหยางเฉินเขาถึงกับตัวสั่นอย่างไม่ หยุด

“คุณปู่ครับ ช่วยผมที!” ฉันเฟยรีบตะโกนอย่างกังวล

“หยางเฉิน นายกล้าหาเขาเหรอ”

นายท่านฉินเบิกตากว้าง “พวกนาย รีบเข้าไปจัดการมันซะ!” หม่าชาวก้าวไปข้างหน้า และจู่ ๆ เขาใช้เท้ากระทืบพื้นด้วย ความแรง จนพื้นแผ่นหินควอตซ์แตกและทรุดตัวลงไปทันที

ด้วยภาพนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลฉินถึงกับผวาและสงสัยว่านี่ มันเป็นแรงมนุษย์จริงหรือ?

ยามรักษาความปลอดภัยสิบกว่าคนของตระกูลฉินก็ไม่มีใคร กล้าก้าวไปข้างหน้าเลย

ฉันเฟยที่นอนอยู่ในโลกศพก็รีบคลานออกมาและกำลังคิดจะ วิ่งหนี แต่เขาก็ถูกหยางเฉินเตะจนล้มลงกับพื้น

ทันใดนั้น เท้าข้างหนึ่งของหยางเฉินก็เหยียบไปที่เข่าของฉัน

เฟย

“ผมรับปากกับเสี่ยวซีแล้วว่าจะไม่ฆ่าคุณ ฉะนั้นจากวันนี้ไป คุณก็ใช้เวลาที่เหลืออยู่บนเตียงก็แล้วกันนะ!

แม้หยางเฉินจะพูดอย่างเฉยเมย แต่ในสายตาของฉันเฟยแล้วเขาก็คือปีศาจที่ดุร้ายตนหนึ่ง

“หยางเฉิน ผมผิดไปแล้ว ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมไม่กล้า ทําอีกแล้ว”

ฉันเฟยรีบอ้อนวอนด้วยความกลัว

“แครก!”

ทันใดนั้น หยางเฉินใช้แรงที่ขาอย่างหนัก และเสียงกระดูกที่ ถูกบดขยี้จนแตกหักก็ดังสนั่นขึ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ