The king of War

บทที่ 312 ช่วยลูกผมก่อน



บทที่ 312 ช่วยลูกผมก่อน

สนามบินนานาชาติเจียงโจว โบอิง 747ลำหนึ่ง กำลังลงจอด อย่างช้าๆ

หญิงสาวที่ใส่แว่นดำอันใหญ่ กำลังก้าวเดินออกมาอย่างสง่า งามพร้อมกับผู้คน

ผมสีกัดลัดที่ยาวถึงบ่าอันแข็งแรงหมุนเป็นเกลียวเล็กน้อย เธอสวมชุดโบฮีเมียนสีเข้มที่เป็นกระโปรงยาวสวมหมวกบักเก็ต สีเบจไว้บนหัว พร้อมกับสวมรองเท้าส้นสูงที่ประณีตไว้ที่ขา

หน้าตาที่สะสวย เรือนร่างที่เรียวยาว การแต่งตัวที่มีสไตล์ ไม่ ด้อยไปกว่าพวกดาราสาวระดับหัวแถวเลยสักนิด

สายตาที่เร่าร้อนของผู้ชายหลายคน ต่างก็ไม่หยุดที่จะแอบ

มองมาทางนี้ และยังมีผู้หญิงบางคน มองเธอด้วยสีหน้าที่อิจฉา

และไม่มีใครคาดคิดว่าหญิงสาวที่สวยและแต่งตัวทันสมัย แบบนี้ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับ นานาชาติอย่างอ้ายหลิน

“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่นั่งเครื่องบินแล้วมาถึงก่อนเวลาเนี่ย” หลังจากที่อ้ายหลินเดินออกจากสนามบินมองดูเวลา ถึงได้รู้ว่า เครื่องบินได้มาถึงก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง

เธอหยิบมือถือออกมา กำลังจะโทรหาหยางเฉิน จู่ๆ ก็มีชาย วัยกลางคนสองคนเดินดื่มๆ เข้ามา ในมือของหนึ่งในนั้นยังถือรูปถ่ายเอาไว้หนึ่งใบ

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณอ้ายหลินรึเปล่าครับ?”

ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวทางการคนนั้นก้มมองรูปถ่ายในมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองอ้ายหลิน ถึงได้ทำการถามออกมา

“ฉันคืออ้ายหลิน พวกคุณคือคนที่พี่เฉิน ให้มารับฉันใช่มั้ย?

อ้ายหลินถามด้วยความสงสัย การเดินทางของเธอนั้นค่อน ข้างเป็นความลับ ในเมืองเจียง โจวนอกจากหยางเฉินแล้ว ก็ไม่ น่าจะมีใครที่รู้เรื่องอีก

หลังจากที่แน่ใจว่าเป็นอ้ายหลินแล้ว ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ ดีใจขึ้นมาทันที และรีบยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ คุณอ้าย ผมคือ เพิ่งเทียนเรียวแห่งตระกูลเพิ่งของเมืองเอกครับ รู้สึกดีใจมากที่ ได้พบกับคุณ”

พอได้ยินคำพูดของเมิ่งเทียนเรียว อ้ายหลินก็ขมวดคิ้วอย่าง แรง และไม่ได้ไปจับมือกับเมิ่งเทียนเรียว เธอแค่พูดออกไปอย่าง เรียบเฉยว่า “ขอโทษนะคะ ฉันยังมีธุระต้องไปทำอีก!

พูดจบ เธอก็เดินไปข้างๆ เตรียมที่จะไปโบกรถแท็กซี่

เมิ่งเทียนเรียวไม่ใช่คนที่หยางเฉินส่งมา แต่กลับรู้ว่าเธอมาที่ เมืองเจียงโจว เห็นได้ชัดว่าข้อมูลเรื่องการเดินทางของเธอนั้นรั่ว ไหลออกไปแล้ว

แต่ก่อนที่อ้ายหลินจะได้ออกไปไกล ก็ถูกบอดี้การ์ดที่อยู่ด้าน หลังเพิ่งเทียนเรียวขวางไว้ซะก่อน
“นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร?

อ้ายหลินทําหน้าโมโหขึ้นมาทันที

“คุณอ้ายครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ เลย เรื่องเป็นแบบนี้ครับ มือสองข้างของลูกชายผมได้รับบาด เจ็บร้ายแรง หมอบอกว่ามีแค่คุณเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ ไม่ อย่างนั้นลูกชายของผมก็จะโดนตัดมือทั้งสองข้างออกครับ

“เขายังหนุ่มยังแน่น ปีนี้เพิ่งอายุยี่สิบเก้า ถ้าต้องมาถูกตัดแขน ไปจริงๆ สําหรับเขาแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจ ของเขาเป็นอย่างมากเลยครับ”

“ตอนนี้คุณช่วยไปกับผมก่อน ขอแค่รักษาลูกชายของผมได้ ค่ารักษาเท่าไหร่ คุณก็กำหนดได้เลยครับ!”

เพิ่งเทียนเรียวรีบพูดอธิบาย แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น

ไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ จึงทำให้อ้ายหลินรู้สึกรำคาญมาก

“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ ที่เมืองเจียงโจว ฉันมีการผ่าตัดที่ เร่งด่วนต้องจัดการ ตอนนี้จึงยังไปกับคุณไม่ได้ คุณคิดว่าเอา แบบนี้ดีมั้ยคะ? รอให้การผ่าตัดทางนั้นเรียบร้อยแล้ว ฉันค่อยไป กับคุณแล้วกัน”

ถึงอ้ายหลินจะไม่ชอบวิธีการวางอำนาจของเพิ่งเทียนเรียว แต่ ด้วยจรรยาบรรณของความเป็นหมอ พอนึกถึงลูกชายของอีกฝั่ง อายุเพิ่งจะยี่สิบเก้า เธอก็ตัดใจปฏิเสธไม่ลง

วันนี้เธอเพิ่งเสร็จจากภารกิจการช่วยเหลือทางการแพทย์ระหว่างประเทศ หลังกลับประเทศ ยังไม่ทันได้ออกจากสนามบิน เยี่ยนตูเลย ก็ต้องต่อเครื่องมาที่เจียงโจวแล้ว

ไม่ได้เพราะฉินค้าหย่ง แต่เป็นเพราะเรื่องที่หยางเฉินขอให้เธอ ช่วยหาไตให้กับแม่ของเซี่ยเหอเมื่อก่อนหน้านี้ หลายวันก่อนเธอ ก็ได้เบาะแสแล้ว

ไตที่สามารถเข้ากับร่างกายได้ ถึงหาเจอก็ใช่ว่าจะสามารถ เอามาได้ง่ายๆ และยังจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายให้ เสร็จภายในเวลาที่กำหนดด้วย ดังนั้นหลังจากที่เธอกลับประเทศ ทำให้แม้แต่เวลาที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านยังไม่มีเลย และได้รับ มาที่เจียงโจวทันที

“นี่คือเงินสิบล้าน คุณรับมันไปก่อน ถ้ารักษาลูกผมจนหาย แล้ว ผมจะให้คุณอีกสิบล้านครับ!”

เมิ่งเทียนเรียวไม่พูดพร่ำทําเพลง หยิบเช็คเงินสดออกมาหนึ่ง

ใบ ขีดๆ เขียนๆ เซ็นชื่อของตัวเองลงไปแล้วยื่นมันให้อ้ายหลิน

สําหรับเขาแล้ว ขอแค่สามารถรักษามือของเมิ่งฮุยให้หาย อย่าว่าแต่ยี่สิบล้านเลย ต่อให้เป็นสองร้อยล้านเขาก็ยอม

เพราะว่า เขามีเพิ่งฮุยลูกชายแค่คนเดียว หลายปีที่ผ่านมานี้ นอกจากความผิดพลาดที่ประเมินหยางเฉินไปแล้ว ก็ไม่เคย ทําอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ถึงแม้เพิ่งฮุยจะถูกขับออกจากตระกูลไปแล้ว แต่เพิ่งเทียนเรียว ก็มีความมั่นใจเต็มร้อย ที่จะได้รับการสอบทอดเป็นผู้นำของ ตระกูลแน่นอน
ขอแค่เขาได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เมิ่งฮุยก็จะกลายเป็นคุณชาย ใหญ่ของตระกูลเพิ่งไปโดยปริยาย

อ้ายหลินขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้รับเช็คใบนั้น เธอแค่พูดออกไป อย่างไม่ชอบใจว่า “ฉันคิดว่า ฉันได้พูดไปอย่างชัดเจนแล้ว ที่ เจียงโจว ฉันมีการผ่าตัดที่เร่งด่วนมากๆ รออยู่ ถ้าการผ่าตัดนั่น เสร็จสิ้น ฉันก็จะไปกับคุณ

เพิ่งเทียนเรียวไม่ได้พูดอะไร แล้วเขียนเช็คอีกใบหนึ่ง และยื่น ให้อ้ายหลินเหมือนกับเช็คใบแรก “นี่คือยี่สิบล้าน! ไปเมืองเอก กับผมก่อน ถ้ารักษาลูกผมได้เสร็จแล้ว ผมจะให้คุณอีกสามสิบ ล้าน!”

“หลีกไป!”

ครั้งนี้ อ้ายหลินนั้นโกรธจริงๆ แล้ว จึงได้ตะคอกใส่เพิ่งเทียน เรียวไป

“ตอนนี้ ผมให้คุณห้าสิบล้านเลย!

เพิ่งเทียนเรียวขมวดคิ้วแล้วเขียนเช็คเงินสดอีกใบ

“ไสหัวไป!”

อ้ายหลินตวาดออกมา หมุนตัวแล้วตั้งใจที่จะเดินจากไป แต่ทันทีที่เธอหมุนตัว ก็ถูกบอดี้การ์ดของเมิ่งเทียนเรียวขวาง เอาไว้วะก่อน

“เกรงว่าคุณอ้ายคงจะยังไม่รู้ว่าผมนั้นเป็นใคร ผมขอแนะนำตัวก่อนแล้วกัน! ผมเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเพิ่งที่เป็นหนึ่งใน สามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก ลูกชายของผมเป็นหนึ่งในคนที่ โดดเด่นที่สุดในรุ่นที่สามของตระกูลเม็ง ต่อไปก็จะรับช่วงตระกูล เม้งต่อจากผม!”

“กะอีแค่เจียง โจวที่เล็กน้อย ผมคิดว่าไม่มีฐานะหรือตำแหน่ง ของใคร สูงกว่าผมได้แน่นอน”

“คุณอ้าย ผมไม่สนว่าคุณจะมีการผ่าตัดที่เร่งด่วนแค่ไหน แต่ ตอนนี้ คุณต้องไปช่วยลูกชายของผมก่อน ขอแค่สามารถช่วยได้ คุณสามารถยื่นข้อเสนอมาได้เลย!

เพิ่งเทียนเรียวทำหน้ามั่นอกมั่นใจ วางมาดใหญ่โต ราวกับทั้ง มณฑลเจียงผึ้งนี้มีแต่ตระกูลเพิ่งของเขาเท่านั้นที่สูงส่งที่สุด

อ้ายหลินรู้สึกโกรธมาก เธอเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญในวงการ แพทย์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก คนใหญ่คนโตแบบไหนบ้างที่เธอไม่ เคยเจอบ้าง ต่อให้อยู่ที่ต่างประเทศ ก็ยังเคยพบปะกับคนใหญ่ คนโตมาแล้วมากมาย

กะอีกแค่เศรษฐีคนหนึ่งในมณฑลเจียงสิ่งที่เล็กน้อย เธอไม่ อยากสนใจเลยจริงๆ ตอนนี้ กลับถูกอีกฝ่ายมาพัวพันอยู่แบบนี้ เธอจึงรู้สึกโมโห

มากแล้วจริงๆ

“ถ้าพวกคุณยอมหลบไปตั้งแต่ตอนนี้ รอฉันเสร็จจากการ ผ่าตัดทางนี้แล้ว ฉันก็จะไปกับพวกคุณ แต่ถ้าไม่ยอมหลบ ก็อยา หาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน!
อ้ายหลินพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ เธอคือคนที่มีจรรยา บรรณทางการแพทย์ แต่ถ้ามีคนมาบังคับเธอจรรยาบรรณ ทางการแพทย์นี้ก็อาจจะหายไปได้เหมือนกัน

นี่คือโอกาสสุดท้ายที่เธอมีให้กับเมิ่งเทียนเรียว

“พูดดีๆ ไม่ชอบ แต่ชอบให้บังคับกัน ในเมื่อคุณไม่ยอมไปกับ เรางั้นเราก็จําเป็นต้องบังคับคุณ ให้ไปด้วยแล้วล่ะ!”

เพิ่งเทียนเรียวเองก็โกรธแล้วเหมือนกัน โบกมือใหญ่ๆ ของตัว เอง “พาตัวเธอไป!”

บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังเขา ไม่มีความลังเลใดๆ ยื่นมือออก มาแล้วจับเข้าไปที่แขนของอ้ายหลิน

บอดี้การ์ยังไม่ทันได้โดนตัวอ้ายหลิน ก็ถูกอ้ายหลินเตะเข้าที่

หว่างขาซะก่อน

บอดี้การ์ดทําหน้าเจ็บปวด สองมือกุมไปที่หว่างขา พร้อมกับ ร่างกายที่คดงอลงไป

เขานึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าอายหลินจะกล้าใช้กำลังแบบนี้ แถม

ฝีมือยังแข็งแกร่งอีกด้วย

เขานั้นดูถูกอ้ายหลินไปแล้วจริงๆ ดังนั้นถึงได้โดนโจมตียังจุด ที่อ่อนแอที่สุดจนได้
เพิ่งเทียนเรียวเองก็งงเหมือนกัน บอดี้การ์ดที่เขานั้นจ้างมาตั้ง แพง แต่กลับเอาผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่งไม่อยู่?

“นี่เธอกล้าลงมือกับฉันรนหาที่ตายแล้ว!”

บอดี้การ์ดอตกลั้นความเจ็บปวดจากไข่แตก สีหน้าดุร้าย และพุ่งเข้าใส่อ้ายหลิน

อ้ายหลินนําหน้าหวาดกลัว เมื่อกี้เธอก็แค่ฉวยโอกาสตอนที่ อีกฝ่ายนั้นเผลอ ถึงได้โจมตีใส่บอดี้การ์ดได้

ถึงแม้ว่าเธอจะเคยฝึกการต่อสู้มาบ้าง แต่การที่ต้องมาประมือ กับบอดี้การ์ดที่มีฝีมือระดับนี้แบบซึ่งๆ หน้า มันก็ต้องสู้ไม่ได้อยู่ แล้ว

เธอนั้นไม่ได้กลัวว่าจะถูกเพิ่งเทียนเรียวพาตัวไป แต่ถ้าไปเสีย เวลาของแม่เซี่ยเหอเข้า ก็มีความเป็นไปได้สูงที่การผ่าตัดในครั้ง นี้จะล้มเหลว

พอเห็นอ้ายหลินกำลังจะถูกบอดี้การ์ดพาตัวไป ในช่วงหน้าส่ว หน้าขวานนี้เอง จู่ๆ ก็มีเงาของคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

“ตุบ!”

พอเสียงดังขึ้น บอดี้การ์ดของเมิ่งเทียนเรียวได้รอยกระเด็น

ออกไป

“คุณเองก็อยากถูกหักแขนหักขาเหมือนกันใช่มั้ย?”

น้ำเสียงที่เยือกเย็นดังขึ้นที่ข้างหูของเมิ่งเทียนเรียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ