The king of War

บทที่ 416 สนับสนุนการยั่วยุ



บทที่ 416 สนับสนุนการยั่วยุ

เมื่อสาขาเจียงผิงถูกยกเลิก ผู้คุมอำนาจของสาขาเจียงสิ่งนี้จะ ถูกแบ่งไปสาขาอื่นๆ ทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ยากมากที่จะก้าวไปถึงตำแหน่งปัจจุบัน ในสาขาเชียงผึ้ง

“ท่านเก้าโปรดวางใจ พวกเราจะทุ่มสุดกำลังความสามารถ เพื่อเอาหนันยังและเจียงผิงมาควบคุมไว้ในมือ

ฉือเจียงรีบรับปากทันที คนอื่นๆ ก็พากันขานรับ

ครู่หนึ่ง ทั่วทั้งสาขาเจียงผิง ล้วนเป็นเสียงเชียร์จากผู้คน

“หยางเฉิน แกฆ่าน้องชายของฉัน ตอนนี้แกก็ฆ่าลูกศิษย์ของ ฉันอีก ฉันจะปล่อยให้แกตายโดยไร้ที่ฝังศพ!”

ดวงตาของหนิวเกนหุยเต็มไปด้วยความดุร้ายและพลังอาฆาต หลายคนอดตัวสั่นไม่ได้ หนิวเกนหุยในเวลานี้ ทำให้ผู้คนรู้สึก สะพรึงกลัวมาก

ในอีกด้านหนึ่ง หยางเฉินได้ออกจากหนันยังไปพร้อมกับหาน เชี่ยวเทียน

ระหว่างทาง หานเดี่ยวเทียนได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในอดีต ให้หยางเฉินฟังตามความเป็นจริง

“ดังนั้น ตอนนี้ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในหนันยังได้ถูก สังหารแล้ว ขอเพียงผมสามารถเอาชนะ หนิวเกนหุยได้ในอีกสามวันข้างหน้า ผมก็จะสามารถควบคุมหนันยังและเจียงผึ้งทั้ง สองมณฑลได้ในเวลาเดียวกัน ตระกูลมั่งคั่งสิบกว่าตระกูล ล้วนมี ให้ผมใช้สอย?”

หยางเฉินเอ่ยถาม

หานเซียวเทียนพยักหน้า พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหยาง จู่ๆ ผม ก็รู้สึกเหมือนผมอยู่ในชายแดนเหนือเหมือนเมื่อตอนที่ผมยัง เด็ก!”

หยางเฉินยิ้มแต่ไม่พูดอะไร แต่ในใจเขากำลังครุ่นคิดว่า ตระกูลมั่งคั่งสิบกว่าตระกูลในหนันยังและเจียงผิง จะช่วยเขาได้ มากเพียงใด

“คุณหยาง ด้วยศักยภาพของคุณ การที่จะเอาชนะเจียงยิ่งกับ หนันยังมันง่ายดายมาก”

จู่ๆ หานเซียวเทียนก็พูดขึ้นว่า “พอถึงตอนนั้น แม้ว่าจะเป็น

แปดตระกูลแห่งเยี่ยน ก็ไม่มีตระกูลใดกล้าดูถูกคุณ

“ถึงอย่างไรชายหนุ่มที่มีศักยภาพแข็งแกร่ง มีตระกูลมั่งคั่ง หลายสิบตระกูลอยู่ในมือ เมื่อเติบโตขึ้นมา จะกลายเป็นฝันร้าย สำหรับทุก ๆ แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู

“ตอนนี้เรากำลังรองานต่อสู้เจียงผิงในอีกสามวันข้างหน้า ความยอดเยี่ยมของคุณหยางจะปรากฏแล้ว”

สีหน้าของหานเยี่ยวเทียนเต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่หยางเฉินกลับส่ายหน้า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เรื่องครั้งนี้เกรงว่าจะไม่ง่ายแบบนั้น

“คุณหยางหมายความว่ายังไง?

สีหน้าของหานเซียวเทียนก็เคร่งขรึมขึ้น ถามด้วยเสียงทุ้ม

“หวังว่า ผมจะคิดมากไปเอง”

หยางเฉินไม่ได้อธิบาย

แต่ในใจเขานั้น กลับรู้สึกค่อนข้างเป็นกังวล

ในอดีต บรรดาตระกูลมั่งคั่งในเมืองเยี่ยนตูมักจะไม่ยื่นมือ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลมั่งคั่งในแต่ละมณฑล แต่เมื่อ เร็วๆ นี้ ได้มีตระกูลมั่งคั่งจำนวนมากในเมืองเยี่ยน หลายคนได้ รุกเข้าเกาะกินตระกูลมั่งคั่งในแต่ละมณฑล

หากสมาคมบูโดต้องการครอบครองเจียงผึ้งและหนันยังใน คราวเดียว ตระกูลมั่งคั่งในเมืองเยี่ยนจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร เลยงั้นเหรอ?

สําหรับเจียงผิงแล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่ดี

ความวิตกกังวลของหยางเฉิน ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล

ถึงอย่างไร ตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งแปดตระกูลแห่งเยี่ยน ได้ มอบหมายเท่านให้มาหาตนที่เจียงผิงแล้ว

ไฉนเลยตระกูลเย่จะไม่ต้องการควบคุมเจียงผึ้ง

อีกอย่างสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ไม่รู้มีบางกลุ่ม แอบมีการเคลื่อนไหวหรือเปล่า
“คุณหยางไม่จำเป็นต้องกังวลมากจนเกินไป ตอนนี้เจียงผึ้ง ส่วนใหญ่ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะ สมาคมบูโด ก็จะไม่มีงานต่อสู้เจียงผึ้ง

“หรือว่าในงานต่อสู้อีกสามวันข้างหน้า คุณจะยกเลิกการเข้า ร่วม”

“ตอนนี้ คุณได้กลายเป็นราชาเจียงผิงแล้ว สมาคมบูโดมีสิทธิ์

อะไรไปยั่วยุคุณ?” ท่าทีของหานเซียวเทียนที่มีต่อหยางเฉินนั้นเคารพนับถือและ

ไว้วางใจมาก

นี่ไม่ใช่การหน้ามืดตามัว แต่เขานั้นเข้าใจและรับรู้ถึง ศักยภาพของรักษาดินแดนเหนือ

เมื่อได้ยินสิ่งที่หานเดี่ยวเทียนพูด หยางเฉินก็ส่ายหน้า ใน

เมื่อสมาคมบูโดต้องการยั่วยุเรา ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้พวกเขา

สมหวัง!”

“คราวนี้ผมสามารถปฏิเสธการท้าทายของพวกเขาได้ แต่ต่อ ไปจะมีสมาคมบูโดที่สองและสามเกิดขึ้นในอนาคต ผมคงไม่ สามารถทำตัวเป็นใบ้ได้ทุกครั้งหรอกนะ?”

“ในเมื่ออยากสู้ก็สู้! ให้บทเรียนที่ลึกซึ้งแก่พวกเขา และให้ พวกเขากับตระกูลเย่รู้ว่า แม้แต่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนก็ไม่ สามารถกําเริบเสิบสานในเจียงผิงได้

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้านิ่งสงบ เสียงมีพลังและโน้มน้าวจิตใจ
หานเยี่ยวเทียนได้ยินเช่นนี้ก็เดือดพล่าน สงบใจไว้ไม่อยู่ เขา พูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณหยางพูดถูก ในเมื่อพวกเขาต้องการสู้ ถ้าอย่างนั้นก็โจมตีพวกเขาให้หนักๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้จักตัว เอง!!

กว่าหยางเฉินจะกลับถึงยอดเมฆาเป็นเวลาที่สองแล้ว

เขาย่องกลับไปที่ห้อง ขณะที่กำลังจะเข้านอน ก็ได้ยินฉันพูด ว่า “กลับมาแล้วเหรอคะ!”

หยางเฉินจึงพบว่า ฉินซียังคงตื่นอยู่

“แปะ!”

ฉินซีเปิดโคมไฟหัวเตียง จ้องเขม็งมาที่หยางเฉินด้วยดวงตาที่ แดงก่ำ

เสี้ยวเลี้ยวหลับไปแล้ว ท่านอนดูน่าเกรงขามมาก นอนแผ่

อย่างหยิ่งผยองบนเตียงเป็นรูป “ไม้กางเขน”

หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าขอโทษ “ขอโทษนะ ทำให้คุณต้องเป็น ห่วงอีกแล้ว!”

ฉินซีสายหัวเล็กน้อย พูดด้วยความเข้าใจ “ในเมื่อคุณกลับ บ้านดึก คุณก็ต้องมีเหตุผลของคุณ

เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูด หยางเฉินก็รู้สึกตื้นตันอยู่เต็มหัวใจ แต่เรื่องเหล่านี้ เขากลัวว่าฉันจะเป็นห่วง จึงไม่สะดวกที่จะ บอกเธอ เขาจึงเลือกที่จะปกปิดมัน
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันแล้ว หยางเฉินก็สอดตัวเข้าไปใน ผ้าห่ม แล้วกอดฉินซีแน่นจากทางด้านหลัง

ฉินซีสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่ไม่นานก็สงบลงและรู้สึกอุ่นใจ

ในไม่ช้า ก็ได้ยินเสียงกรนเบาๆ ดังขึ้นมา ฉินซีผล็อยหลับไป แล้ว

หัวใจของหยางเฉินเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและตำหนิตนเอง เดิมทีเขาคิดว่ากลับมาคราวนี้ จะทำให้ภรรยาและลูกสาวของ เขามีชีวิตที่สงบสุขและมีความสุข แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ปัญหาจะ เกิดขึ้นทีละน้อยไม่จบไม่สิ้น

เดิมทีเขาไม่ต้องการไปเมืองเยี่ยนตูดินแดนแห่งความขัดแย้ง อีก แต่เมื่อเขานึกถึงสิ่งที่เขาและแม่เคยประสบมา เขาก็ไม่มีทาง เลือกอื่นนอกจากต้องไปที่เมืองเยี่ยน

ตอนนี้ศัตรูที่เขาเผชิญหน้าแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แปดตระกูล แห่งเยี่ยนได้ปรากฏตัวขึ้นหลายตระกูลแล้ว ถือว่าเป็นการต่อ ต้านสมาคมบูโดอย่างสมบูรณ์

จากนี้ไป อันตรายรอบตัวเขาจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อก่อนบนรถของหานเดี่ยวเทียน ที่เขากังวลไม่ใช่เรื่องศัตรูที่ แข็งแกร่งเกินไป แต่กลัวว่าภรรยาและลูกสาวจะเข้ามาพัวพันไป ด้วย

หลังจากนิ่งเงียบไปนาน เขาก็แก้ไขข้อความแล้วส่งออกไป15 สิงหาคม ต้องรีบกลับไปที่เจียงโจว!”
ค่ำคืนอันเงียบสงัด รุ่งเช้าวันถัดมา เหมือนเดิมตามปกติ หยางเฉินส่งลูกสาวไปโรงเรียนอนุบาล แล้วค่อยส่งฉันไปที่ซาน เหอกรุ๊ป

เพียงแต่ว่าทันทีที่รถจอดลงที่ประตูซานเรือกรุ๊ป ก็เห็นรถเบนซ์ อเนกประสงค์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตูบริษัทด้วย

และข้างรถอเนกประสงค์ก็มีหญิงวัยกลางคนยืนอยู่

ประเด็นสำคัญก็คือ หยางเฉินเพิ่งเห็นหญิงวัยกลางคนคนนี้ เมื่อวานนี้เอง

“เธอมาที่นี่ทำไมอีก?”

ฉันก็เห็นหญิงวัยกลางคนเช่นเดียวกัน สีหน้าดูไม่ดีเลย

แววตาของหยางเฉินกะพริบออกมาอย่างเฉียบคม เมื่อวาน ขณะที่เย่ม่านต้องการบอกตัวตนของเธอ กลับถูกหยางเฉินเข้า มาขวางไว้ วันนี้มาถึงอีกแล้ว เธอยังคงตามตอแยไม่เลิกอีกหรือ?

“ผมจะไปกับคุณ!”

หยางเฉินพูดจบก็ลงจากรถก่อน

“ประธานฉิน ฉันมารอคุณตั้งนานแล้ว!”

ทันทีที่หยางเฉินกับฉันลงจากรถ เมานก็ลงจากรถด้วย เหลี ยงเหลียนคอยตามเธออยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิด จ้องมองหยาง เฉินด้วยสีหน้าจริงจัง

ทุกครั้งที่เห็นหยางเฉิน เหลียงเหลียนมักจะรู้สึกว่าคนที่ตนเองเผชิญหน้าอยู่นี่ไม่ใช่คน แต่เป็นปีศาจร้ายมาจากนรก ส่วนหยางเฉินกลับไม่แม้แต่จะมองเขา เขาหรี่ตามองเท่าน

“คุณมาหาฉันทําไม?”

ฉันพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ท่าที่ไม่เป็นมิตรเลยสักนิดเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ