The king of War

บทที่ 88 วันสุดท้ายของตระกูลกวน



บทที่ 88 วันสุดท้ายของตระกูลกวน

ในตอนนี้ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด บวมไปทั้งหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่ กวนเจิ้งซานก็คงจะจำไม่ได้

“มึงอยากตายรึไง!

กวนเจิ้งซานเห็นว่าหลานตนเองถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้ สีหน้า บนใบหน้าก็โกรธมาก

กวนเสวีเฟิงบาดเจ็บหนัก ข้อต่อของแขนขาแตกหักจนหมด ต่อให้รอดไปได้ ก็ต้องนอนติดเตียงไปทั้งชีวิต

ในงานเลี้ยงวันเกิดของตนเอง หลานชายตนเองต้องมาได้รับ

ชะตากรรมแบบนี้ คิดดูก็รู้ ว่ากวนเจิ้งซานจะโกรธสักเพียงใด

แขกในงานทุกคน หลังจากได้เห็นสิ่งที่หยางเฉินกระทำไปแล้ว ก็ตกใจจนชาไปทั้งตัว

ไปต้องพูดถึงแค่เมืองเจียงโจวเล็กๆ นี้ ต่อให้เป็นโจว คน ที่ทำผมตายได้ ยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำไป หยางเฉินหน้านิ่ง จะระแวดระวังกับการที่ยอดฝีมือของตระกูล

กวนมาห้อมล้อมตนเองไว้เลย

หม่าชาวก็ยืนตัวตรงอยู่ข้างหลังของเขา พร้อมรับฟังคำสั่ง

ตลอดเวลา

ตอนที่กวนเสเห็นว่าน้องชายตนเองเจ็บหนัก แล้วก็นึกถึงที่หยางเฉินทําให้ตนเองบาดเจ็บ มันช่างต่างกันมาก

“วันนี้ถ้าไม่ให้มึงได้ชดใช้กับสิ่งที่ทำไว้ ก็จะไม่ขอเป็นคนอีก ต่อไป

กวนเจิ้งซานตาแดงเป็นเลือด ต่อให้อดกลั้นต่อไป สำหรับ เหตุการณ์แบบนี้ ก็ไม่มีทางที่จะควบคุมตนเองต่อไปได้อีกแล้ว

“ผมรู้สึกเสียดายแทนตระกูลกวนของคุณจริงๆ จนขนาดนี้แล้ว ยังจะให้ผมมาชดใช้ให้อีก ไม่รู้หรือว่าทำไมผมต้องทำกับหลาน ชายคุณด้วย?” หยางเฉินส่ายหัวพูดออกมา

“ต่อให้มันทำผิดไป นั่นมันก็เป็นหลานชายของกู มันมีสิทธิ์ที่ จะทำผิดได้บ้าง แต่มึง มึงไม่ควรทำร้ายมันขนาดนั้น จึงไม่ควร

กวนเจิ้งซานส่ายหน้าเบาๆ หน้านิ่งอีก แต่ใครๆ ก็สัมผัสได้ถึง

ความโกรธของเขาในตอนนี้

สายตาของทุกคนก็มีความหวังเล็กๆ ซ่อนอยู่ หยางเฉินมาหา เรื่องหลายรอบ ตอนนี้ยังจะทำร้ายหลานชายของกวนเจิ้งซานจน แทบจะจำหน้าไม่ได้อีก พวกเขาอยากรู้ว่า ตระกูลกวนจะทำ อย่างไรกับหยางเฉินกันแน่

“ผิดไปแล้วล่ะ คนที่สมควรได้รับโทษ ก็คือหลานชายของคุณ

มีสิทธิ์อะไรที่ละเว้นได้

หยางเฉินตอบไปนิ่งๆ แล้วพูดอย่างเจ็บใจว่า “ตระกูลกวน ของคุณ ช่างเป็นกบในกะลาจริงๆ ไม่รู้จักคำว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า หรือไง แบบนี้จะไปหาเรื่องกับคนเก่งๆ เอาง่ายๆกวนเจิ้งซานเข้าใจความหมายที่หยางเฉินพูดออกมา แล้วก็ หัวเราะ “มึงคงไม่คิดหรอกนะว่า ตนเองจะมีพลังอะไรนิดหน่อย แล้วจะกลายเป็นคนเก่งขึ้นมาได้?”

สําหรับกวนเจิ้งซาน ที่หยางเฉินเตะต่อยเก่ง ก็เพราะว่าเขาเคย เป็นทหารมาหลายปี แต่นี่ก็ไม่สามารถทดแทนตัวตนกันได้หรอก

“เดิมที ผมยังทนไม่ได้ ก็เลยเอาความผิดของหลานชายคุณ คนเดียว มานับเป็นความผิดของทั้งตระกูลกวน

หยางเฉินสายตาเป็นประกาย แต่ตอนนี้ กลับไม่มีความ สงสารอะไรเลย”

หยางเฉินที่ยังผมยิ้มอยู่เมื่อครู่นี้ ก็เปลี่ยนเป็นคนที่เผยรังสี นํามหิตไปทั่วร่าง

นี่ทำให้กวนเจิ้งซานที่ผ่านอะไรมากมาย ต้องรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้น

รังสีการฆ่า!

หยางเฉินคิดจะฆ่าเขา

“มึงคิดจะทำอะไร?” กวนเจิ้งซานก็โมโหออกมา

ทันใดนั้น ยอดฝีมือสิบกว่าคนของตระกูลกวนก็มาล้อมหยาง

เฉินและหม่าชาวเอาไว้

“หลานชายของมึงจะรับมือกับกู ก็เลยมาลักพาตัวลูกสาวไป แถมยังป่าวประกาศว่าจะจัดการกับกูทุกวิถีทาง
หยางเฉินเหมือนกำลังพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย แต่ มันโชคร้าย ถูกกูไปหาตัวลูกสาวพบก่อน ส่วนมัน ก็ได้แต่รับเอา ความโกรธ ไปแทน

“เดิมทีกมาที่นี่ ก็เพื่อจะมาดูว่าตระกูลกวนจะว่าอย่างไร แล้วก็ ค่อยตัดสินใจจะลงโทษไป

“แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ท่าทีของมึง ทำให้ไม่พอใจมาก ใน เมื่อเป็นแบบนี้ งั้นหลังจากนี้ ที่เจียงโจวก็จะไม่มีตระกูลกวนอีก ต่อไป

หยางเฉินพูดแบบนี้ด้วยสีหน้านิ่งๆ

“ฮ่าๆๆ !

ตำพูดของหยางเฉิน ทำให้กวนเจิ้งซานโกรธจัดจนต้อง หัวเราะออกมา

รอบยิ้มบนใบหน้าของกวนเจิ้งซานค่อยๆ หายไป แล้วเปลี่ยน การบูดเบี้ยวของใบหน้า ด้วยความโมโห “ไอ้กระจอกไม่รู้ความ พูดจาโอหัง โอหังถึงขีดสุด คิดจะฆ่าล้างตระกูลกวนของกูน?”

“ดูเหมือนว่ามึงจะไม่รู้อะไรเสียเลย”

พอสิ้นเสียงเขา ยอดฝีมือที่มาล้อมตัวหยางเฉินและหม่าชาวไว้ ก็หยิบปืนสั้นออกมาจากเสื้อสูท

กระบอกปืนสําๆ เล็กไปที่ตัวหยางเฉิน

ไม่ต้องสงสัย ขอเพียงกวนเจิ้งซานสั่งการ หยางเฉินก็จะถูกยิงจนพรุนไปทั้งตัว

คนในงานก็ตกใจไปตามกัน ทุกคนก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ยกเว้นหยางเฉินและหม่าชาว ที่ไม่มีความรู้สึกอะไร ราวกับสิ่ง ที่เล็งพวกเขานั้นไม่ใช่ปืน แต่เป็นของเล่นธรรมดาๆ

“ไอ้หนู กูยอมรับว่ามึงเก่ง แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเจ้าเก้านิ้วก็ยัง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมึง”

สายตาของกวนเจิ้งซานด้วยไปด้วยความร้ายกาจ “ต่อให้เป็น แบบนั้น มันก็ไม่ใช่สมัยช่วงสงครามเย็นที่คิดเอาพลังส่วนตัวมา ทำอะไรก็ได้ตามใจตนเอง แต่นี่เป็นยุคของอาวุธสงคราม มึงเก่ง นักไม่ใช่หรือไง? สู้ต่อไปสิ!

หยางเฉินทําหน้าดูถูก “มึงคงไม่คิดหรอกนะว่า แค่ไอ้เศษ เหล็กพวกนี้ จะสามารถเอาชีวิตได้?”

“เศษเหล็กงั้นรึ? ไอ้หนู มึงคงไม่คิดหรอกนะว่า ด้วยระยะแบบ นี้ แล้วปืน20กว่ากระบอกเล็งตั้งอยู่ แล้วมึงจะรอดไปได้?” กวน เจิ้งซานหัวเราะเยาะ

“มึงลองดูก็ได้”

หยางเฉินยิ้มนิ่งๆ

หม่าชาวก็ตั้งท่า เตรียมลงมือ

เห็นหยางเฉินนิ่งๆ ในใจกวนเจิ้งซานก็มีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี แต่ไม่นาน เขาก็ทิ้งความคิดแบบนั้นไป แล้วเอามือตบลงที่โต๊ะ พูดอย่างโมโหว่า “ไอ้หนู กูไม่อยากมาเสียเวลากับมึง ตอน นี้มีให้ถึงเลือกสองทาง ไปคุกเข่าขอโทษต่อหน้าหลานชาย บางทีกูอาจจะให้ถึงมีศพครบ32 หรือไม่ก็จะสั่งการ ให้ยิงถึงจน พรุนไปทั้งตัว”

“แล้วถ้ากูไม่เลือกเลยล่ะ?” หยางเฉินพูดเยอะเย้ย

“นิ้ว นิ้ว นิ้ว……………………

พอสิ้นเสียงหยางเฉิน ด้านนอกงานเลี้ยงก็มีเสียงดังมาก ใน ขณะเดียวกันก็มีลมแรงพักเข้ามา

โคมไฟคริสทัล บนยอดเพดานของห้องโถงงานเลี้ยง ก็ส่ายไป มา เกิดเป็นเสียงของแก้วกระทบกัน

“นี่มันเสียงอะไร?”

“เสียงมันมาจากข้างบน เหมือนว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์?”

“ที่นี่จะมีเฮลิคอปเตอร์ได้อย่างไร?”

ทุกคนก็ตกใจ กวนเจิ้งซานก็เปลี่ยนสีหน้า เสียงเฮลิคอปเตอร์ มันใกล้เข้ามา แถมเสียงที่ได้ยิน เหมือนจะไม่มีแค่ลำเดียว

“โครม! ”

แล้วตามด้วยเสียงดังสนั่น รถจี๊ปคันสีเขียว ชนประตูเข้ามาใน ห้องโถงงานเลี้ยง

จากนั้นก็มีรถจี๊ปอีกหลายคันตามเข้ามา แล้วก็ชายร่างกาย

อีกหลายคน
10คน!

30คน!

100คน!

ในตอนที่ทุกคนกำลังตกใจนั้น ในไม่กี่วินาที ชายสวมชุด เหมือนกันนับ100คนก็บุกเข้ามา

แล้วล้อมพวกของกวนเจิ้งซานไว้ในพริบตา ปืนกลนับร้อย กระบอก ล้วนเล็งไปที่กวนเจิ้งซานและมือปืน20กว่าคนของกวน เจิ้งซาน

“รีบวางปืนลง ไม่งั้นฆ่าไม่เว้น! “ชายผู้เป็นหัวหน้า พูดเสียง

ดังออกมา

“เสียงวางปืน”

เสียงปืนกลเข้าล่า นับร้อยกระบอก ดังขึ้นในความเงียบสงัด ทุกคนก็เหมือนจะได้กลิ่นของดินปืนที่ฉันจมูก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ