The king of War

บทที่ 161 ฉันแต่งงานแล้ว



บทที่ 161 ฉันแต่งงานแล้ว

เธอเห็นกับตาว่าเซี่ยเหอจับมือของหยางเฉินไว้ โกรธมาก จริงๆ แต่ไม่ในช้า เธอก็นึกถึงการทำตัวของหยางเฉิน เรื่องราว เมื่อกี้นี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง ต่อให้ไม่มี ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคน จับของหยางเฉิน

ถ้าหากในเวลานี้หยางเฉันรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ จะ ต้องกลุ้มใจอย่างแน่นอน

“หยาง…..เสี่ยวเซีย!!

ในเวลานี้ คุณหมอหานเพิ่งออกมาจากที่คณบดี เห็นหยางเฉิน และเซี่ยเหอ เธอกำลังจะเรียกหยางเฉิน ทันใดนั้นก็จำเรื่องที่ หยางเฉินขอร้องให้เก็บเป็นความลับ

“เสี่ยวเซี่ย จะบอกข่าวดีเรื่องหนึ่งให้เธอ ค่ารักษาพยาบาลแม่ ของเธอ และค่ารักษาพยาบาลที่ค้างชำระของโรงพยาบาลก่อน หน้านี้ ทั้งหมดมีที่พึ่งพาแล้ว

คุณหมอหานบอกข่าวดีนี้ให้เซี่ยเหอเป็นอันดับแรก

เซี่ยเหอดูเฉื่อยชา ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนความสุขที่ ร่วงหล่นจากสวรรค์ เมื่อกี้นี้ยังกังวลเรื่องยืมเงิน คุณหมอทานก็ ทำให้เธอประหลาดใจมากขนาดนี้

“คุณหมอหาน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลังจากผ่านไปนาน เซีย เหอถึงได้ดึงสติกลับมา
คุณหมอหานจับมือของเซี่ยเหอไว้ และพูดอย่างมีความสุข มี คนใจดี บริจาคเงินจำนวนมหาศาลให้กับโรงพยาบาล เพื่อจัดตั้ง มูลนิธิโรคโลหิตมีสารของปัสสาวะและทำให้เกิดภาวะเป็นพิษขึ้น ได้ เมื่อกี้นี้นี่เอง คณบดีเตรียมการให้คนไปร่างเอกสารทาง ราชการ แม่ของเธอเป็นเป้าหมายแรกที่ได้ความช่วยเหลือของ มูลนิธิ”

เซี่ยเหอถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความ ดีใจทันที พูดอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณค่ะคุณหมอทาน ขอบคุณ ค่ะคุณหมอหาน!”

“ต้องขอบคุณคนใจดีคนนั้น ฉันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก จากนี้ไป เธอก็อยู่เคียงข้างของเธอแม่ด้วยความสบายใจ เกิดหาแหล่งไต ที่ตรงกัน พวกเราจะทำการปลูกถ่ายไตให้แม่ของเธอทันที

คุณหมอหานพูดด้วยรอยยิ้ม เธอสงสารเซี่ยเหอจริงๆ อายุ

น้อยๆ ก็ต้องแบกรับแรงกดดันมากขนาดนี้

“คุณหมอหาน ฉันอยากจะถาม คนใจดีที่คุณพูดถึงคนนั้น เป็น ใครเหรอคะ? ฉันอยากจะขอบคุณเขาด้วยตัวเอง เซี่ยเหอก็ถาม อีกครั้ง

คุณหมอหานส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “อีกฝ่ายหนึ่งทำการ บริจาค โดยไม่ระบุชื่อ เป็นผู้มีน้ำใจที่ทำความดีโดยไม่ทิ้งชื่อไว้ จริงๆ ในเมื่อตัดสินใจเขาทำแบบนี้ออกมา คงจะไม่ต้องการให้ คนอื่นติดตามเขามากเกินไป

เซี่ยเหอส่ายหัวเล็กน้อย ในดวงตามีความผิดหวัง
“นี่เป็นแฟนของเธอเหรอ? ดูดีมากจริงๆ ดูเป็นผู้ชายที่ดีนะ เจอแล้วก็แต่งงานกันเถอะ อย่างได้พลาดโอกาสอย่างเด็ดขาด!

คุณหมอหานมองไปที่หยางเฉิน พูดอย่างหัวเราะชอบใจ ตอน นี้เธอมองหยางเฉิน มองยังไงก็ชอบอย่างนั้น

ใบหน้าของเซี่ยเหอหน้าแดงทันที รีบพูดอย่างรวดเร็ว: “คุณ หมอหาน คุณอย่าได้เข้าใจผิด เขาเป็นเพียงแค่เพื่อนของฉัน!

“แฟนก็มาจากเพื่อนไม่ใช่เหรอ?”

คุณหมอหานคัดค้านด้วย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข่าวดีก็ บอกกับเธอแล้ว ฉันก็ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว”

หลังจากที่พูดจบ เธอก็หันหลังจากไป

ใบหน้าอันบอบบางของเซี่ยเหอ ยังคงแดงก่ำ

หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย: “พาฉันไปเยี่ยมคุณน้าหน่อย! ตามเซี่ยเหอไปห้องผู้ป่วยแม่ของเธอ หยางเฉินเห็นหญิงวัย กลางคนที่หน้าตาดูธรรมดามาก กำลังนอนอยู่บนเตียงในโรง พยาบาลด้วยใบหน้าที่อ่อนแอ

“แม่ค่ะ นี่เป็นเพื่อนของหนู หยางเฉิน!”

เซี่ยเหอพูดกับหญิงวัยกลางคน

คุณแม่เซี่ยถึงได้ลืมตาขึ้นมา ตอนที่เห็นหยางเฉิน ดวงตาก เปล่งประกายอย่างกะทันหัน

“คุณน้า สวัสดีครับ!”
หยางเฉินวางกระเช้าผลไม้ไว้โต๊ะข้างเตียง และยิ้มแล้ว

ทักทาย

รอยยิ้มที่อ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณแม่เซีย และ ไปที่เก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย: “หยางเฉิน เชิญนั่งลง!”

“ใช่แล้วแม่ค่ะ มีข่าวดีจะบอกกับแม่ เมื่อกี้นี้คุณหมอทานบอก ว่า มีคนใจดีบริจาคเงินจำนวนมหาศาลโดยไม่ระบุชื่อ และจะตั้ง กองทุนมูลนิธิโรคโลหิตมีสารของปัสสาวะและทำให้เกิดภาวะ เป็นพิษขึ้นได้ และแม่ กลายเป็นเป้าหมายแรกที่มูลนิธิให้ความ ช่วยเหลือ” เซี่ยเหอแบ่งปันข่าวนี้ให้กับคุณแม่เซี่ย

“จริงเหรอ?”

“เป็นความจริงอย่างแน่นอน คุณหมอหานบอกกับหนูด้วยตัว เอง”

“งั้นก็ดีมาก ในที่สุดลูกสาวของแม่ก็ไม่ต้องวิ่งวุ่นกังวลเรื่อง

เงินอีกต่อไปแล้ว!”

เมื่อเห็นสองแม่ลูกโอบกอดอยู่ด้วยกัน ท่าทางร้องไห้ออกมา ด้วยความดีใจ ในใจของหยางเฉินก็รู้สึกพึงพอใจมาก

ถ้าหาก เมื่อห้าปีที่แล้ว ก็มีมูลนิธิแบบนี้ บางที แม่ก็ไม่เสียชีวิต

ใช่มั้ย?

หลังจากพูดคุยกับสองแม่ลูกไม่กี่คำ หยางเฉินก็เตรียมตัวจากไป
ทันทีที่ลุกขึ้น กลับโดนคุณแม่เซี่ยห้ามไว้อย่างกะทันหัน และ ถามอย่างกระตือรือร้นว่า “หยางเฉิน ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่?

“ปีนี้ผมอายุยี่สิบเจ็ด!” หยางเฉินตอบตามความจริง

“หยางเฉิน ครอบครัวของคุณเป็นคนที่ไหนเหรอ?” คุณแม่เ

ยถาม

“ถือได้ว่าเป็นเจียง โจว!” หยางเฉินยังคงไม่รู้อะไรเลย “หยางเฉิน ครอบครัวของคุณมีกี่คนเหรอ?” คุณแม่เซี่ยถา มอีกครั้ง

ในไม่ช้า หยางเฉินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ก็กลืนไม่เข้าคาย ไม่ออกทันที เขาถูกคุณแม่เซี่ยคิดว่าเป็นแฟนของเซี่ยเหอเหรอ?

วันนี้เกิดอะไรขึ้น?

โดนคุณหมอหานเข้าใจผิด ต่อจากนั้นก็โดนคุณแม่เซี่ยเข้าใจ ผิด และแม้แต่ฉินซีก็เข้าใจผิด

“แม่ค่ะ แม่สำรวจสำมะโนครัวเหรอ?”

ใบหน้าของเซี่ยเหอเต็มไปด้วยความอับอาย “หยางเฉิน แต่งงานแล้ว ลูกสาวของเขาอายุสี่ห้าปีแล้ว”

“หา? แต่งงานแล้วเหรอ!” คุณแม่เซี่ยดูผิดหวัง

“คุณน้า คุณพักผ่อนก่อน ไว้วันหลังผมจะมาเยี่ยมคุณใหม่! หยางเฉินรีบลุกขึ้นบอกลา
หลังจากที่เซี่ยเหอส่งหยางเฉินถึงนอกประตูแล้ว พูดด้วย ใบหน้าขอโทษ: “ขอโทษด้วย ทําให้คุณถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว” “ก็คือไอ้หมอนั่น!”

ในขณะนั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอย่างกะทันหัน เป็นจาง ผ่านที่เคย โดนหยางเฉินเตะก่อนหน้านี้

ข้างหลังของเขายังมีบอดี้การ์ดใส่ชุดสูทตามอยู่สองคน เมื่อ ได้ยินคําพูดจาง ฝาน บอดี้การ์ดทั้งสองก็วิ่งไปหาหยางเดินอ ย่างพร้อมเพรียง

เซี่ยเหอดูสับสนวุ่นวาย มองไปที่จวงนี้ฝานแล้วพูดด้วยโกรธ “นายจะทําอะไร?”

“นังผู้หญิงสารเลวอย่างเธอ ยังมีหน้ามาถามว่าฉันจะทำ

อะไร?”

จวงปู่ฝานแสยะยิ้ม: “ในเมื่อเขากล้าเป็นแฟนของเธอ งั้นฉันก็ จะจัดการเขาก่อน!”

แววตาของหยางเฉินเริ่มเย็นชา และพูดอย่างเป็นซาว่า “ที่นี่ เป็นโรงพยาบาล อย่าได้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วย มีเรื่อง อะไร พวกเราไปคุยกันข้างนอก!

“แกแมร่งเป็นตัวอะไร? ก็กล้าพูดเงื่อนไขกับกู?”

จวงปู่ฝานอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก และสั่งว่า “จัดการ หมอนให้ฉัน!”
บอดี้การ์ดทั้งสองได้รับคำสั่งจากจวงปู่ผ่าน และพุ่งไปที่หยาง เฉินอย่างพร้อมเพรียง

เซี่ยเหอกังวลอยู่ครู่หนึ่ง และยืนขวางตรงหน้าของหยางเฉิน โดยไม่รู้ตัว และพูดด้วยความโกรธ ใส่จวงปู่ผ่าน “จวงปู่ผ่าน นายมีอะไรก็มาลงที่ฉัน

ตอนที่เสียงของเธอลดลง บอดี้การ์ดทั้งสองก็พุ่งเข้าไปแล้ว

หนึ่งคนในนั้นก็ต่อยหมัดไปทางหยางเฉิน เซี่ยเหอก็ปรากฏตัว ตรงหน้าหยางเฉินอย่างกะทันหัน บอดี้การ์ดคนนั้นไม่ทันที่จะเก็บ แรงแล้ว ทําได้เพียงต่อยหมัดลงไป

เซี่ยเหอก็กลัวจนหน้าถอดสี ดูเหมือนว่าจะรู้สึกถึงลมแรงตอน ที่บอดี้การ์ดต่อยหมัดมา และหลับตาทั้งสองลงโดยไม่รู้ตัว

ในเวลาเดียวกัน ก็มีแขนที่แข็งแรง โอบกอดเธอไว้ในอ้อม แขนอันอบอุ่นอย่างกะทันหัน ต่อจากนั้น เธอรู้ว่าร่างกายของตัว เองกำลังลอยขึ้นในอากาศ

“ผลัวะ! ผลัวะ!”

รอตอนที่เธอลืมตาขึ้นมา ตัวเองก็ยืมบนพื้นที่ใหม่แล้ว และ บอดี้การ์ดสองคนนั้น กลับเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่สองลูก กระเด็นออกไปไกลสิบกว่าเมตร และล้มลงอยู่บนพื้นแล้ว คร่ำครวญ

เซี่ยเหอเบิกตาทั้งสองกว้าง เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
และดวงปีผ่านที่เห็นทุกอย่างกับตา รูม่านตาหดตัวลงอย่าง

กะทันหัน ในดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ