The king of War

บทที่ 47 ความโกรธของฉัน



บทที่ 47 ความโกรธของฉัน

บ้านตระกูลลง มีศพสองศพวางอยู่ ร่างหนึ่งคือส่งโปเหม็น อีก ร่างคือลงเหว่ย

ตระกูลสงอย่างไรก็เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ของเจียงโจว ใน เวลานี้แขกเหรื่อมาไม่ขาดสาย คนนับไม่ถ้วนมาร่วมไว้อาลัยหลัง จากทราบข่าว

สงโป้เฉิงท่าทางเศร้าสร้อย “โป๋เหริน นะ ทําไมนายถึงมา จากไปเช่นนี้แล้ว? พี่ใหญ่ยังรอที่จะร่วมมือกับนาย นำพาตระกูล สงก้าวไปสู่จุดสูงสุด ตอนนี้นายจะให้พี่ชายตัวคนเดียว จะ ทำความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของเราให้สำเร็จได้ อย่างไร? ”

สงโป๊เฉิงน้ำหูน้ำตาไหล คนที่ไม่รู้ ยังคิดว่าความสัมพันธ์ของ เขาและส่งโป๋เหรินนั้นเหมือนจะดีมากเช่นนั้น

“ผู้นำตระกูลสง ขอแสดงความเสียใจด้วย! ” มีคนขึ้นหน้ามา ปลอบโยน

สงชิงซานดวงตาทั้งคู่ไร้ความรู้สึก ไม่สนใจใครสักคน หลัง จากเขาได้ยินข่าวร้ายแล้ว ก็มีท่าทางเช่นนี้มาตลอด
ทั้งตระกูลสงล้วนจมอยู่ในความโศกเศร้า เพียงแค่ไม่อาจ แยกแยะชัดเจน ว่าใครจริง ใครปลอม

มาจนถึงวันที่สองตอนเช้า สายตาของลงชิงชานถึงได้มีชีวิต ขึ้นมาเล็กน้อย เพิ่งคิดจะลุกขึ้นมา เท้าพลันซวนเซ เกือบจะล้มลง

ไป

“ท่านผู้นํา!

มีคนร้องอุทานขึ้นมาเสียงหนึ่ง รีบร้อนขึ้นหน้าไปพยุง

“ออกไป! ”

ส่งชิงซานตวาดด้วยความโกรธเสียงหนึ่งชั่วขณะไม่มีสักคน กล้าเข้าไปใกล้

เพียงเห็นเขาพยุงไม้เท้าในมือ อาศัยกำลังของตัวเอง ค่อยๆ

ลุกขึ้นมา

ในเวลานี้ ทุกคนต่างรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายสูงส่งมีอำนาจสาย หนึ่งบนร่างของสงชิงซาน ถึงแม้ว่าจะเป็นสงโป๊เฉิง ก็ยังหวาด กลัวเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าสงชิงซานจะอายุมากแล้ว แต่สาเหตุที่ตระกูลสง สามารถยกระดับมาถึงตระกูลอันดับต้นๆได้ ก็เป็นเขาที่พยายาม สร้างมาด้วยมือของเขาเอง ยังจะเรียบง่ายได้อยู่หรือ?

“ฉันประกาศสองเรื่อง เรื่องแรก วันนี้เป็นต้นไปธุรกิจทั้งหมดภายใต้ธงของตระกูลสง ปิดสามวัน สามวันนี้ คนทั้งหมดในตระกูลสงงดงานรื่นเริง” สงชิงซานกล่าวเสียงดัง กังวาน

ทุกคนล้วนตะลึง สงขิงซานทำเช่นนี้คือต้องการให้ตระกูลสง ทั้งหมดร่วมก้มหัวไว้อาลัยให้ด้วย เพียงแต่ว่าธุรกิจทั้งหมดปิด สามวัน ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจะต้องมหาศาลแน่นอน

ถึงแม้ว่าจะมีคนกังวลถึงผลประโยชน์ของตนเองจะได้รับความ เสียหาย แต่ว่าในเวลาเช่นนี้ ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมา

“เรื่องที่สอง! ”

ส่งชิงซานกวาดสายตามองทุกคน เอ่ยต่อไป “ใครก็ตามแต่ ไม่อนุญาตให้พูดคุยเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับสาเหตุการตายของ โป๋เหรินและเสี่ยวเหว่ย ผู้ฝ่าฝืน ไล่ออกจากตระกูล! ‘

ได้ยินเช่นนี้ ทุกคนต่างตกตะลึงถึงที่สุด

“คุณพ่อ การเสียชีวิตของเสี่ยวเหว่ยกับโป๋เหรินแม้จะพูด ว่าการช่วยเหลือไม่ได้ผลและเป็นเรื่องอุบัติเหตุไม่คาดคิด แต่ พวกเราล้วนเข้าใจดี เสี่ยวเหว่ยเป็นเพราะถูกทำร้ายบาดเจ็บ สาหัส ถึงได้ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ หรือว่าแค้นนี้ ก็ผ่านไปทั้ง แบบนี้หรือ? ” หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถามด้วยดวงดาแดงเรื่อ

หญิงวัยกลางคนก็คือภรรยาของลงโป๋เหริน คนที่เสียชีวิตทั้ง สองคน คนหนึ่งเป็นสามีของเธอ อีกคนเป็นลูกชายของเธอ เธอ แน่นอนว่าไม่ยินยอม

“หุบปาก! ”

ลงชิงชานพลันโกรธเกรี้ยวกะทันหัน ถลึงสายตาโกรธเกรี้ยว ใส่หญิงวัยกลางคนคนนั้นตวาดว่า “พวกเขานั้นเสียชีวิตด้วย อุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น เข้าใจไหม? ”

หญิงวัยกลางคนก็ถูกส่งชิงซานที่ระเบิดโทสะทำให้ตกใจแล้ว รีบร้อนหุบปากลง ถึงแม้ว่าในใจจะไม่ยินยอม แต่ก็ทำได้เพียง อดกลั้นไว้ ถ้าทําให้สงชิงซานเกิดโทสะ วันเวลาของเธอจะผ่าน ไปอย่างไม่ง่ายนัก

“ทั้งสองเรื่องที่ฉันเพิ่งจะพูดไป พวกนายต่างฟังเข้าใจแล้วใช่ ไหม? ” สงชิงซานกวาดตามองทุกคนแล้วถามขึ้นเสียงดัง

“เข้าใจแล้ว! ” ทุกคนตะโกนขึ้นพร้อมกัน

“โป๋เฉิง นายตามฉันมา! ” ก็เป็นในตอนที่สูงโป๊เฉิงกำลังงุนงง อยู่นั้น สงชิงซานก็เรียกเขาเสียงหนึ่ง
ลงไปเฉิงติดตามอยู่ด้านหลัง จนมาถึงห้องหนังสือ

“นายเข้าใจไหม เมื่อครู่ทำไมฉันถึงพูดแบบนั้น? ” แววตาของสงข่งงานจ้องมองลงไปเฉิง สีหน้าสงบนิ่งอย่าง มาก มองไม่ออกถึงความโกรธหรือยินดี

ลงไปเฉิงส่ายหน้า “คุณพ่อ เติมผมคิดจะถามคุณพ่อเป็นการ ส่วนตัว ว่าทําไมไม่แก้แค้น? ”

“เขาสามารถทำให้สถานบันเทิงทั้งหมดของตระกูลสง ถูก ตรวจสอบสั่งปิดภายในระยะเวลาสั้นๆ แล้วยังเป็นในเวลาสั้นๆ ที่ปลดล็อกสถานบันเทิงเหล่านั้นได้ นี่เพียงพอที่จะพูดได้ว่ากำลัง ความสามารถของเขามากมายแค่ไหน คิดจะจัดการตระกูลสงให้ กาย ง่ายดายอย่างมาก”

ในดวงตาทั้งคู่ของสงซิงซานเต็มไปด้วยประกายแสงแห่ง ความฉลาดเฉลียว “ถ้าในเวลานี้ พวกเราทำให้ทุกคนรับรู้ว่า เป็นเขาที่ทําร้ายเสี่ยวเหว่ยและโป๋เหรินจนตาย นายคิดว่าเขายัง จะปล่อยตระกูลสงไว้ไหม? ”

สงโป๊เฉิงไม่ได้คิดไปถึงหยางเฉินเลยสักนิด ดังนั้นถึงได้ไม่ เข้าใจเจตนาของสงซิงซาน ตอนนี้กลับเข้าใจแล้ว
“ถึงแม้กำลังของเขาจะแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็เป็นเพราะ เขา โป๋เหรินและเสี่ยวเหว่ยถึงได้ตาย หรือว่าพวกเราก็ต้องอด กลั้นไปเช่นนี้? “ตาทั้งคู่ของลงไปเฉิงแดง เอยอย่างไม่ยินยอม อย่างที่สุด

สงขิงซานฟรีตามองสงโป๊เฉิง ไม่ตอบแต่กลับเอ่ยถามขึ้น “นายว่า การตายของโป๋เหรินและเสี่ยวเหว่ย ใช่ฝีมือของคนทํา หรือเปล่า? ”

“เดิมทีก็เป็นคนที่ทำให้เกิดอยู่แล้ว ยอดฝีมือข้างกายหยาง เงิน ทําร้ายเสี่ยวเหว่ยจนบาดเจ็บสาหัส ถึงได้ทําให้เกิดการตาย ของเสี่ยวเหว่ย ยังมีอุบัติเหตุของโป๋เหริน” สงโป๊เฉิงเอ่ยตอบ

“ความหมายของฉันคือ ใช่ว่าเป็นเพราะโป๋เหรินและเสี่ยวเหว่ ยเกี่ยวข้องถึงผลประโยชน์ของคนบางคน ดังนั้นจึงถูกลอบ ทําร้าย แล้วเอาเรื่องทั้งหมดสาดไปให้หยางเฉิน” สายตาของสง ชิงซานจับจ้องอยู่ที่สงโป๊เฉิงมาโดยตลอด เหมือนกับต้องการจับ รายละเอียดทุกอย่างบนหน้าของเขา

สงโป๊เฉิงคิดไว้นานแล้วว่าสงชิงซานจะต้องสงสัยตนเอง มี การเตรียมตัวไว้แล้ว แล้วจะเปิดเผยพิรุธได้อย่างไร?

“อะไรนะ? หรือว่าคุณพ่อสืบหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของโป เหรินและเสี่ยวเหว่ยเจอแล้ว? ” สูงโป๊เจ๋งแสร้งทำที่ประหลาดใจ สีหน้าไม่มีความผิดปกติอื่นใด

สงข่งบานผิดหวังเล็กน้อย ไม่เห็นความผิดปกติอะไรจากบน ใบหน้าของลงโปเฉิง

สงซิงซานสีหน้าจริงจัง “โปเฉิง นายพูดไม่ผิด การตายของโป เหรินและเสี่ยวเหว่ย ไม่อาจปล่อยผ่านไปแบบนี้ได้ ฉันก็มีแค่นาย เป็นลูกคนเดียวแล้ว เพียงแค่นายสามารถล้างแค้นแทนพวกเขา ใต้ ฉันจะเอาตำแหน่งผู้นำส่งต่อให้นายทันที”

“ฉันเข้าใจแบบนี้ได้ใช่ไหม? ถ้าฉันไม่สามารถช่วยโป๋เหริน และเสี่ยวเหว่ยล้างแค้นได้ ท่านก็ไม่คิดจะมอบตำแหน่งผู้นำให้ ฉันแล้ว? ” ตาทั้งคู่ของสงโป๊เฉิงหลง

สงชิงซานเลิกคิ้ว “ตอนนี้ฉันก็มีนายเป็นลูกชายคนเดียวแล้ว ตำแหน่งผู้นำ นอกจากนายแล้ว ฉันยังจะให้ใครได้อีก? ”

“คุณพ่อไม่ใช่ยังมีลูกสาวหรือ? ยังมีลูกเขย ไม่แน่ว่า วันใดวัน หนึ่งคุณพ่อไม่สบายใจ เอาตำแหน่งผู้นำมอบให้พวกเขาล่ะ? ”

สงไปเฉิงพลันหัวเราะขึ้นมา อย่างไรก็ตาม พวกเขาถึงจะเป็น สายเลือดใกล้ชิดของคุณพ่อ ส่วนผม เป็นแค่คุณแม่ของผมสวม หมวกเขียวให้คุณพ่อเท่านั้น คุณพ่อแสดงออกต่อผู้คนชัดเจนว่าจะเอาตำแหน่งผู้นำ มอบให้ผม ก็เป็นเพื่อปกป้องลูกชายและหลานชายไร้ประโยชน์ ของคุณพ่อ คุณพ่อว่า ผมพูดถูกไหม? ”

“บังอาจ! ” สงโป๊เอ็งพลันโมโหขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วย ความไม่อยากจะเชื่อ

เขาไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้ สงโป๊เฉิงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่าถูกเขา

พูดได้ตรงจุดแล้ว

“ผมยังรู้สึกว่า คุณพ่อให้ฉันแก้แค้นแทนได้ขยะสองตัวนั้น ก็ เพียงแค่อยากจะยืมมืดฆ่าคน อย่างไรเสียคุณพ่อก็เพิ่งจะแสดง ท่าทีต่อหน้าผู้คน ว่าการตายของไอ้ขยะสองตัวนั้น ไม่เกี่ยวข้อง กับคนอื่น”

“รอให้ผมไปหาหยางเฉิน ถ้าเกิดว่าสําเร็จ เช่นนั้นก็นับ เป็นการแก้แค้นแทนไอ้ขยะสองตัวนั้น ถ้าเกิดล้มเหลว คุณพ่อก็ สามารถผลักออกไปได้อย่างสะอาดหมดจด

“คุณพ่อที่แสนดีของผม คุณพ่อนั้นเพื่อที่จะปกป้องไอ้ขยะสอง ตัวนั่น หลายปีมานี้ สิ้นเปลืองความคิดไปไม่น้อย แต่ว่าไม่เป็นไร พวกมันล้วนตายไปแล้ว ต่อไปคุณพ่อก็ไม่ต้องกังวลใจแล้ว” สงโป๊เฉิงสีหน้าไร้ความหวาดกลัว หลังจากคำพูดพวก พูดออกไปแล้ว สงขิงซานก็เบิกตากว้าง พูดอย่างโกรธ เกรียว “ไสหัวไป! แกไสหัวออกไปให้ฉัน! ถึงแม้ว่าตาย ฉันก็ไม่มี ทางเอาตำแหน่งผู้นำมอบให้แก

“ในที่สุดคุณพ่อก็ยอมรับแล้ว ถ้าเกิดผมทำเรื่องอะไรที่ อกตัญญูขึ้นมา เช่นนั้นก็สามารถเข้าใจได้ ใช่ไหม? ” ลงโปเฉิง หน้าเจ้าเล่ห์

“แกหมายความว่ายังไง? ” สงชิงชานพลันมีความรู้สึกไม่ดี อย่างหนึ่ง

ก็เป็นในตอนนี้ เงาร่างวัยกลางคนสายหนึ่งผลักประตูเข้ามา

“ประธานสูง นี่เป็นพินัยกรรมที่ฉันร่างไว้ล่วงหน้าแทนท่าน ผู้นำ ท่านผู้นำได้ลงชื่อแล้ว ท่านลองดู ถ้าไม่มีปัญหา เพียง ต้องการให้ท่านผู้นำประทับลายนิ้วมือเท่านั้น พินัยกรรมฉบับนี้ก็ จะสามารถมีผลได้ทันที ส่หน้าชายวัยกลางคนเคารพนบน้อม ยืนอยู่ด้านข้าง หยิบพินัยกรรมฉบับหนึ่งออกมา

เห็นชายวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้น ได้ยินคำพูดที่เขาเอ่ยออก มา สงชิงซานยืนขึ้นอย่างรวดเร็วทันที หน้าเขาแล้วเอ่ยขึ้น “แก แก แกกำลังพูดอะไร? ฉันเคยให้แกร่างพินัยกรรมแทนฉันเมื่อ ไหร่กัน? แล้วฉันเคยลงชื่อตอนไหน? ”

ชายวัยกลางคนยิ้มน้อยๆ “ท่านผู้นำ บนพินัยกรรมฉบับนี้ ท่านได้เคยลงชื่อไว้แล้ว”

เขาพูดไป แล้วยังเอาพินัยกรรมไปให้สงชิงซานกวาดตามอง ต่อหน้า

ตอนที่สูงชิงซานเห็นเนื้อหา เขาก็โมโหทันที “แกวางแผนเล่น งานฉัน! ”

เสียงของเขาหลุดออกมา หัวใจพลันมีความเจ็บปวดรุนแรง สายหนึ่งแผ่ออกมา ชั่วขณะนั้นสีหน้าก็ซีดขาวถึงขีดสุด เขามือไม้ สั่นคิดจะยื่นมือไปหยิบเอายาโรคหัวใจในกระเป๋าเสื้อ

สง โปเฉิงพลันหัวเราะออกมา เดินไปถึงด้านหน้าของสงซึ่ง ซาน ยื่นมือไปหยิบเอายารักษาโรคหัวใจขวดหนึ่งมา แล้วโยน ออกไปจากหน้าต่างอย่างสบายๆ

“คุณพ่อสุดที่รักของผม มีเรื่องหนึ่ง ฉันคิดว่าตอนนี้สามารถ บอกคุณได้แล้ว”

สงโป๊เฉิงเดินไปถึงด้านหน้าของสงชิงซาน พูดเสียงเบาที่ข้าง หูของเขา “ที่จริงแล้ว การตายของไอ้ขยะสองตัวนั้น ทั้งหมดเป็น อุบัติเหตุที่ผมส่งคนไปทำให้เกิดขึ้น คุณพ่อก็ลงไปอยู่เป็นเพื่อน พวกมันให้ดีๆ ส่วนตระกูลสง ผมจะดูแลให้ดีเอง
คําพูดของลงโป้เฉิงหลุดออกมา ดวงตาของสงซิงซานเบิก กว้างขึ้น อารมณ์แปรปรวนอย่างหนัก ไม่ช้า พลังชีวิตก็หมดไป ตายตาไม่หลับ

“คุณพ่อ! ”

ทันใดนั้นเสียงร้องโศกเศร้าเจ็บปวดสายหนึ่งก็ดังออกมาจาก ห้องหนังสือ “รีบเรียกรถฉุกเฉิน! รีบเรียกรถฉุกเฉิน! ”

ในเวลาสั้นๆ เพียงสองวัน ตระกูลสงก็เสียชีวิตติดกันสามคน เมื่อข่าวแพร่ออกไป ต่างก็ตื่นตกใจกันทั้งเจียงโจว

ตอนลงชิงชานยังมีชีวิตอยู่ก็แสดงออกชัดเจนหลายครั้ง ว่า ต้องการมอบตำแหน่งผู้สืบทอดให้กับสงโป๊เฉิง ตอนนี้ยังมี พินัยกรรมอยู่ในมืออีก สงโป๊เฉิงได้สืบทอดตำแหน่งผู้นำอย่าง ราบรื่น

ตระกูลฉิน หลังจากตอนที่นายท่านฉันได้รู้ข่าวแล้ว ก็ตกใจ อย่างที่สุด รีบร้อนเรียกฟางเยวมา

“ฟางเยว่ หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ตามอบหมายให้เธอ จะ ต้องจัดการหยางเวยให้อยู่หมัด เมื่อเธอแต่งเข้าตระกูลหยาง จากนั้นตระกูลฉินก็ต้องทะยานขึ้นฟ้าไปพร้อมกับเธอแล้ว” นาย ท่านฉันพูดอย่างจริงจังที่สุด
ไม่กี่วันมานี้ ทุกวันฟางเยวล้วนใช้ชีวิตไปวันๆ กับหยางเวย ถูกทำให้หลงไหลจนไม่รู้เรื่องอะไรนานแล้ว หน้าลำพองใจเอ่ย ม “ดาวางใจได้เลย โดยรวมแล้วฉันจับหยางเวยไว้ได้แล้ว เขา ก็สัญญากับฉัน รอให้เขากลับมาเมืองโจวเฉิงแล้ว ก็จะลงมือเรื่อง แต่งงาน”

“ชาๆ ! ! ”

นายท่านจินได้ยินแล้ว ขณะนั้นก็ดีใจเป็นล้นพ้น

ในความคิดของเขา ตระกูลสงตายติดต่อกันสามรุ่น ถึงขนาด ที่สูงชิงซานก็ตายไปแล้ว เขาแน่ใจว่า เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่าง ที่เห็นภายนอกแน่

วันนั้นสงโป๊เฉิงและสงโป๋เหรินมาขอโทษด้วยตัวเอง ถึงแม้ว่า จะจําผิดคน แต่อย่างน้อยก็ทําให้เขาเข้าใจว่าตระกูลสงล่วงเกิน หยางเวยไป ถึงได้มีจุดจบเช่นนี้

ประตูซานเรือกรุ๊ป หลังจากฉินซีเลิกงานแล้วเพิ่งจะเดินออก มาจากอาคารสำนักงาน ก็เห็นหยางเฉินกำลังรอตนเองอยู่แล้ว

“หยางเฉิน ทําไมนายต้องทําแบบนั้นด้วย? ” พอฉันมองเห็นหยางเฉิน ก็โมโหอย่างมาก
หยางเฉินงุนงงเล็กน้อย “เสี่ยวซี ฉันทำอะไร? ”

“ตระกูลลงนั้นทำผิดไปแล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้ทำอะไรฉันกับเสี่ยว นายกลับเป็นเพราะพวกเรา ถึงได้ฆ่าปิดปากพวกเขาทั้งสามรุ่น แล้ว หรือนายคิดว่าตนเองนั้นเก่งกาจ ก็สามารถไม่แนกฎหมาย ได้แล้ว? “ดวงตาทั้งคู่ของฉันซีแดง ใบหน้าโกรธเกรี้ยว

ตระกูลลงเกิดเรื่องติดต่อกัน ทำให้เธอไม่อาจไม่เอาเรื่อง

ทั้งหมดไปเชื่อมโยงเข้าด้วยกันกับหยางเฉิน

ตระกูลสงอย่างไรก็เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ถึงแม้จะเป็น ตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจว ก็ไม่กล้าลงมือกับตระกูลสงง่ายๆ นอกจากหยางเฉินแล้ว เธอคิดไม่ออกว่ายังมีใครที่สามารถทำถึง เรื่องเหล่านี้ได้

หยางเฉินหัวเราะเยาะหยืนตัวเอง “เสี่ยว ในสายตาของเธอ ฉันก็คือสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นหรือ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ