The king of War

บทที่ 264 ทุกคนรู้สึกสะใจ



บทที่ 264 ทุกคนรู้สึกสะใจ

เรื่องราวทางนี้ เดิมก็เป็นจุดสนใจของทั้งร้านอาหาร การ ปรากฏตัวของหยางเฉินดึงดูดสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา เดียวแล้ว

ตอนที่พนักงานสาวมองเห็นหยางเฉิน หน้าตาดูตกใจ “หยาง เฉิน!”

พนักงานสาวคนนี้คือเซี่ยเหอ

เวลานี้ดวงตาเธอแดง น้ำตาคลออยู่ภายในเบ้าตา

เธอเหมือนเป็นเด็กสาวสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง สวยงาม อ่อน

โยน จิตใจดี “บนเสื้อผ้าของเธอ ไม่มีน้ำแกงเปื้อนไปโดนสักหยด อยากให้ เพื่อนฉันชดใช้ ดูจะทำเกินเหตุไปไหม?”

หยางเฉินมองทางเว่ยหมิงเยวอย่างเย็นชา ผู้หญิงคนนี้ยัง ทำให้คนรู้สึกรำคาญจริงๆ

เขามองดูแล้ว มีเพียงตรงจานวางกับข้าว มีน้ำแกงสาดโดน นิดหน่อย สําหรับเสื้อผ้าของเว่ยหมิงเยว่ เดิมที่ไม่ได้เป็นอะไร

ส่วนชายหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเว่ยหมิงเยว่ ยังทำสายตาตื่นกาม ต้องเซี่ยเหออยู่ตลอด

ไม่นานหยางเฉินก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
เห็นได้ชัดว่าเป็นเว่ยหมิงเยว่เห็นเซี่ยเหอหน้าตางดงามเช่นนี้ แม้แต่ผู้ชายของตนเองยังถูกดึงดูด ดังนั้นจึงเกิดความอิจฉาใน ใจ จงใจหาเรื่องยุ่งยากให้เซี่ยเหอ

“นายเองเหรอ!”

เวลานี้เว่ยหมิงเยวจําหยางเฉินขึ้นมาได้แล้ว ความโกรธบน หน้าค่อยๆ เผยขึ้นมา

ผู้หญิงคนนี้เป็นคุณหนูของตระกูลเวียของสี่พรรค์แห่งเมือง เจียง โจว

ครั้งก่อนที่หน้าประตูสมาคมประมูลเพิ่งจี้ เว่ยหมิงเยวพยายาม ใช้อำนาจบีบบังคับหยางเฉินให้แกล้งเป็นแฟนของหล่อน เพื่อ มาสลัดเมิ่งชวนแห่งตระกูลเพิ่งออกไป

ผลปรากฏว่าถูกหยางเฉินปฏิเสธ หลังจากที่อับอายจนโกรธ

แค้น จึงใส่ร้ายว่าหยางเฉินรังแกหล่อนอย่างน่ารังเกียจ

ส่วนเมิ่งชวนก็ตามจีบเว่ยหมิงเยวอีกครั้ง หล่อนจึงจำความ แค้นที่มีต่อหยางเฉินเอาไว้ในใจตั้งแต่ตอนนั้น

วันนี้เป็นครั้งที่สองที่หยางเฉินได้เจอผู้หญิงคนนี้

“คุณเว่ยครับ คุณรู้จักคุณผู้ชายท่านนี้?”

ผู้จัดการร้านอาหารถามด้วยความระมัดระวัง

เว่ยหมิงเยว่กลอกลูกตาวนรอบหนึ่ง กล่าวตำหนิ “ฉันเว่ยห มิงเยวมีสถานะแบบไหนกัน? จะรู้จักกับพวกสวะแบบนี้ได้ด้วยเห?

ร้านอาหารพวกคุณทำงานกันยังไง? ตอนกลายมาเป็น สถานที่รองรับสวะแล้วเหรอ

“เป็นพนักงานทําโผล่มาเป็นช่วยอีก ถูกลือออกไม่จะโดน หัวเราะเยาะหรือไง?

ตอนนี้ ถ้าไม่พวกกินข้าวบนแล้วใสออกไปสาย

เว่ยหมิงเยพูดสั่งสอนจัดการร้านอาหารไปยกความ หมายนั้น ล้วนเป็นการเหยียดหยามหยางเฉิน พูดจบ หล่อนยกข้าวเหลือจากลงข้าวสวยบนพื้น พูดแบบหน้าตาเย้ยหยัน กินข้าวเปล่า

อย่างเดียว เดาว่าพวกเธอกินลงงั้นเพิ่มกับ

หน่อยแล้วกัน รสชาติน่าจะเลวนะ กินด้วยกัน!”

ผู้จัดการร้านอาหารเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้ว ทันที “ยังไม่กินแล้วหัวไปอีก?

“ไอ้หนุ่ม อยากเลียนแบบฮีโร่ช่วยคนอื่น เงินยังกล้าเสแสร้ง

“ยังอยากอยู่เมืองเจียงโจวต่อไป รีบกินข้าวด้วยกันผู้หญิงคนเร็ว”

จัดการร้านอาหารดาเซี่ยเหอจบ จึงตะโกนหยางเฉินต่อ
พูดจบ ยังจงใจเหยียบลงบนอาหารที่พื้น ใช้แรงขยี้พอสมควร บนหน้าที่มันเยิ้มเต็มไปด้วยความเย็นชา “ไอ้หนุ่ม รู้หรือเปล่า ว่าที่นี่คือที่ไหนกัน? ที่นี่คือร้านอาหารเป่ยหยวนซุน ทั้งเมืองเจียง โจ นี่เป็นร้านอาหารชั้นสูงที่สุด!”

“รู้ไหมว่าราคาอาหารที่คุณเวยบริจาคให้พวกเธอเท่าไร? ข้าว สวยถ้วยนั้น เป็นข้าวสีแดงที่แพงสุดบนโลกใบนี้ ถ้วยเล็กตั้งหนึ่ง พันกว่า ผัดผักจานเล็กๆ นั้น เป็นผักอินทรีย์เกรดดีที่นำเข้าจาก ต่างประเทศ จานเล็กๆ ก็ตั้งสองพันกว่า”

“พวกเธอเป็นพนักงานคนหนึ่ง เป็นยาจกคนหนึ่ง ชีวิตนี้คงไม่ เคยกินอาหารที่แพงขนาดนี้หรอกมั้ง? ยังไม่ขอบคุณความ เมตตาใหญ่หลวงของคุณเว่ยอีก!”

ผู้จัดการร้านอาหารหน้าตาดูเยาะเย้ยเต็มที่ เขารู้จักสถานะ ของเว่ยหมิงเยว่ ขอเพียงสามารถทำให้ผู้หญิงคนนี้ดีใจ ไม่ว่า อย่างไรย่อมได้ทั้งนั้น

หน้าเซี่ยเหอเต็มไปด้วยความสับสน ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเว่ยห มิงเยว่เป็นใคร แต่จากท่าทางของผู้จัดการร้านอาหาร สามารถรู้ ได้ว่าเบื้องหลังของเว่ยหมิงเยว่คงแกร่งมาก

เธอรบกวนหยางเฉินมาหลายครั้งแล้ว กังวลจริงๆ ว่าเป็น เพราะตนเอง ถึงลากหยางเฉินมาผิดใจบุคคลยิ่งใหญ่ไปด้วย

“หยางเฉิน นี่คือปัญหาของฉันเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณรีบ ไปเถอะ!”

เซี่ยเหอพูดเร่งอย่างกระวนกระวายใจ
หญิงสาวโง่เขลา จิตใจดีคนนี้ เพียงอยากแบกรับทุกอย่าง เอาไว้เอง

“ไป? ไปที่ไหน? ข้าวที่คุณเวยบริจาคให้ยังไม่ได้กินเลย! เขา

กล้าจากไปสักก้าวก็ลองดู?”

ผู้จัดการร้านอาหารทำหน้าข่มขู่

“ผู้จัดการคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพื่อนของฉันเลยสักนิด ขอร้อง ให้เขาออกไปก่อนได้หรือเปล่าคะ?”

หน้าเซี่ยเหอเต็มไปด้วยการอ้อนวอน น้ำตาคลออยู่ในเบ้าตา แต่เธอยังอดกลั้นไว้อย่างเข้มแข็ง ไม่ให้น้ำตาไหลออกมาสัก หยดเดียว

ลูกค้ามากมายที่ทานข้าวอยู่ในร้านอาหารต่างทนดูไม่ได้ แต่ หลังจากรู้สถานะของเว่ยหมิงเยว่เข้า ก็ไม่มีใครกล้ามาพูดแทน ให้เช่นกัน

เว่ยหมิงเยวทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง นั่งอยู่ตรงนั้น ภายในลูก ตาลึกมีแสงเย็นเฉียบเปล่งประกาย

ครั้งก่อนที่หน้าประตูสมาคมประมูลเพิ่งจี้ หยางเฉินปฏิเสธ หล่อน สำหรับหล่อนแล้ว นั่นคือความอัปยศอดสูที่ใหญ่ที่สุด

เดิมทีจดจําหยางเฉินใส่ใจมาโดยตลอด นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะ

ให้หล่อนมาเจอที่นี่ได้

หล่อนย่อมไม่ปล่อยหยางเนินไปอย่างง่ายดาย
หยางเฉินหรี่ดวงตาที่แหลมคมขึ้นมา มองทางผู้จัดการร้าน อาหาร “นายบอกว่าอยากให้พวกเรากินข้าวที่พวกนายเหยียบ ไปแล้ว งั้นเหรอ?”

“เชีย! แกแม่งหูหนวกเหรอ?”

ผู้จัดการร้านอาหารตะโกนว่า “ถูกต้อง ขอแค่พวกแกกินข้าว บนพื้นแล้ว ฉันจะปล่อยพวกแกออกไป!

มีเว่ยหมิงเยว่สนับสนุนเขาอยู่ ตอนนี้เขาไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น

ในแววตาลุ่มลึกของหยางเฉินมีไฟโกรธสองดวงลุกโซน ทันใดนั้นก้าวเท้าเดินมายังผู้จัดการร้านอาหาร

“แกอยากจะทําอะไร?

เห็นหยางเฉินเดินมาทางตนเอง ผู้จัดการร้านอาหารตกใจ ทันใด รีบตะโกนโวยวายเสียงดัง

“หยางเฉิน!”

เซี่ยเหอรู้ว่าฝีมือของหยางเฉินเก่งกาจ ชั่วขณะนั้นหวาดผวา แล้ว จับแขนของหยางเฉินไว้โดยจิตใต้สำนึก

หยางเฉินหันหน้ามองทางเซี่ยเหอ เผยรอยยิ้มที่ท่าทางอ่อน โยนออกมา “วางใจได้ ผมจะไม่ทำไปเกินกว่าเหตุ!

เพิ่งพูดจบ หยางเฉินก็เดินไปทางด้านหน้าต่อ

แต่ละก้าวที่เดินไปนั้น ผู้จัดการร้านอาหารรู้สึกได้ถึงความ สับสนระดับหนึ่ง จนกระทั่งหยางเฉินเดินมาที่ตรงหน้าเขา เขาอายจนโมโห พลันตะโกนว่า “ทำไม? แกยังกล้ามาตีฉันด้วยหรือ

ไง?”

“แก?”

หยางเฉินพูดจาเยาะเย้ย “แบบนั้นคงท่ามือฉันสกปรกไป ด้วย!”

ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา หยางเฉินยื่นแขนข้างหนึ่งออก มากะทันหัน ชั่วพริบตาเดียวคว้าบนศีรษะของผู้จัดการร้าน อาหาร จากนั้นใช้แรงกด

“ปิง!”

ส่วนหน้าศีรษะของผู้จัดการร้านอาหารกระแทกพื้นโดยตรง ถูกหยางเฉินกดไว้บนอาหารที่เคยโดนเหยียบกองนั้นอย่าง รุนแรง

“ในเมื่อแกคิดว่าอาหารรสชาติดีขนาดนั้น งั้นก็กินทั้งหมด เองเลยสิ!”

ทั้งตัวหยางเฉินล้วนมีแต่ความอันธพาล ในลูกตาที่ดำมืดนั้น สาดยิงแสงหนาวเหน็บดุร้ายสองดวงออกมา ฉากนี้ สั่นสะเทือนจิตใจของทุกคนในที่เกิดเหตุอย่างลึกซึ้ง

ผู้คนทั้งในที่เกิดเหตุเงียบงันไร้เสียง มองหยางเฉินแบบอึ้ง

ค้าง

แต่ในสายตาของคนมากมายต่างรู้สึกสบายใจ
เมื่อสักครู่การกระทําทั้งหมดของผู้จัดการร้านอาหารกระตุ้น ความโกรธของหลายคนไปตั้งนานแล้ว ติดอยู่ที่เว่ยหมิงเยวยัง อยู่ในร้าน จึงไม่มีใครกล้าลุกออกมาเท่านั้น

เวลานี้มองเห็นหยางเฉินลงมือกับเขา มีเพียงรู้สึกสะใจอย่าง มาก

สําหรับการที่หยางเฉินลงมือนั้น เว่ยหมิงเยว่กลับไม่แปลกใจ สักนิดเดียว ที่หน้าประตูสมาคมประมูลเพิ่งตอนนั้น แม้แต่เพิ่ง ชวน หยางเฉินยังกล้าตี นับภาษาอะไรกับผู้จัดการร้านอาหารคน หนึ่ง

ในสายตาของเว่ยหมิงเยวมีความรู้สึกเย็นชาที่แผนร้ายสำเร็จ ประกายแวววาวอยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ