The king of War

บทที่ 295 ใจกล้ามาก



บทที่ 295 ใจกล้ามาก

คนขับก็ได้ตอบไปนํา จากนั้นก็ได้รีบเหยียบคันเร่ง เสียงของ เครื่องยนต์ก็ได้ดังก้องถนน ก็ได้ขับแซงรถของเฉินชิงไห่ทันที

“เซี้ย! ไอ่แก่กวนเจิ้งซานนั่น กล้าที่จะแซงรถของฉัน เร่งเครื่อง เร่งเครื่อง! แซงมันไปเพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของ ตระกูลเฉิน ฉันจำเป็นต้องไปให้คุณหยางเห็นเป็นคนแรก!

เฉินชิงไห่ยังคิดว่าในรถเบนท์ลีย์คันนั้น เป็นกวนเจิ้งซาน ก็ได้ ตะโกนออกมาด้วยความโมโห

กวนเจิ้งซาน ให้กวนเสวซงเอารถของตัวเองไปตระกูลเมิ่ง และ ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความภักดีของเขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไป กวนเสวซึ่งก็เป็นผู้นำตระกูลกวน

ก็แค่ ข่าวนี้ ยังไม่ได้ปล่อยออกมา

ข้างหลังของตระกูลกวนกับตระกูลเฉิน ก็ยังมีขบวนรถอีก ขบวน เป็นเจ้านายหวังเฉียงของเมืองคงแห่งเจียงโจว

ตั้งแต่เขาได้รับใช้หยางเฉินนั้น ก็ได้ภักดีเอามากๆ ถึงแม้ว่า

อำนาจเทียบไม่ได้กับตระกูลใหญ่ของเจียงโจว แต่ว่าก็เป็น ตระกูลที่มีอำนาจมากต่อจาก ตระกูลใหญ่ ตอนที่รถของกวนเจิ้งซานกับเฉินซิงไห่เข้ามาในเมืองเอกนั้น ข่าวนี้ ก็ได้ถูกส่งไปถึงหูตระกูลใหญ่ต่างๆ ในเมืองเอก
เมืองเอก ตระกูลหาน!

ผู้นำตระกูลหานทานเชี่ยวเทียน ก็ได้อยู่ในลานบ้านพอดี จิบ ชาด้วยสีหน้าสบายๆ

อยู่ๆ หานเฟยเฟยก็ได้รีบวิ่งมา “คุณปู่คะ ไม่ดีแล้วค่ะ เกิดเรื่อง กับพี่หยางแล้ว!”

“หยางเฉิน?”

หานเซียวเทียนก็ได้ถามอย่างประหลาดใจ

หานเฟยเฟยพยักหน้าไม่หยุด “ก็เมื่อกี้ หนูได้ข่าว แม่สะใภ้ ของพี่หยาง ได้ถูกคนของตระกูลเพิ่งพาตัวไป จากข่าวลือได้ตาย ไปแล้ว ตอนนี้พี่หยางได้บุกไปที่ตระกูลเพิ่งคนเดียว เพื่อที่จะล้าง แค้นให้แม่สะใภ้ของเขา!

“อะไรนะ?”

หานเซี่ยวเทียนก็ได้รีบลุกขึ้นมาทันที พูดอย่างตกใจ “หยางเฉิ นอยากจะไปตายเหรอ?”

“เขาไม่รู้ว่าตระกูลเมิ่งเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ของเมืองเอกเห รอ? กล้าที่จะไปที่ตระกูลเพิ่งคนเดียว นี่เป็นการไปตายไม่ใช่เห รอ?”

“ตอนนั้นตอนที่อยู่ในเมืองโจวเฉิง เห็นเขาก็ไม่เหมือนเป็นคน ที่ทำอะไรวาบนี่นา! ทำไมคราวนี้ได้ใจร้อนแบบนี้?” หานเซี่ยวเทียนก็ได้โมโหเล็กน้อย แต่ก็เป็นความร้อนใจ
กับเบื้องลึกเบื้องหลังของหยางเฉิน เขาไม่รู้เลยแม้แต่นิด และ ก็ไม่ได้ไปสืบ

สําหรับเขาแล้ว ให้เป็นไปตามวาสนา หยางเฉินช่วยชีวิตเขา งั้นก็เป็นผู้มีพระคุณของเขา ไม่ว่าหยางเฉินมีฐานะอย่างไร ก็ไม่ เป็นไร

“คุณปู่ค่ะ คุณไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปที่ตระกูลเมิ่ง คิดวิธีช่วยพี่ หยาง!” หานเฟยเฟยก็ได้รีบพูด

“ได้ ไปที่ตระกูลเมิ่งด้วยตัวเอง!” หานเซี่ยวเทียนก็ได้รีบลุก

ขึ้นแล้วก็เดินออกไปข้างนอก

“คุณปู่ หนูไปด้วย!”

หานเฟยเฟยก็ได้ค่อยๆ วิ่งตามไป

นอกจากตระกูลหาน ก็ได้มีตระกูลใหญ่ในเมืองเอกมากมาย ที่ได้ข่าวนี้

แต่ว่า พวกเขารู้แต่ว่าเป็นแค่คนอายุน้อยของเจียงโจว บุกไป ที่ตระกูลเมิ่งคนเดียว กับเรื่องนี้ พวกเขาก็ได้มีความประหลาด เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะไปตระกูลเพิ่งด้วยตัวเอง

ยังไงซะในสายตาพวกเขา ตระกูลเพิ่งอยู่ในจุดที่สูง นอกจาก ตระกูลร่ำรวยในเย็นตู ยังจะมีใครที่สามารถสะเทือนรากฐาน ของตระกูลเมิ่งได้?

เทียบกับอันนี้แล้ว พวกเขาสงสัยมากกว่าว่า ผู้นำตระกูลใหญ่ ของเจียง โจวกับเมือง โจวเฉิง ทำไมถึงได้มาเมืองเอกพร้อมกัน?
ตอนที่พวกเขาเห็นว่า รถพวกนั้น ได้ขับไปที่ทางบ้านของตระ กูลเจิ่งนั้น ในที่สุดพวกเขาก็สังเกตเห็นว่าไม่ปกติ

เมื่อกี้พึ่งรู้ว่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งบุกไปที่บ้านตระกูลเพิ่งคน เดียว จากนั้นก็ได้มีข่าวส่งมาต่อว่าตระกูลใหญ่ของเมือง โจวเฉิ งกับเจียงโจวได้ไปทางตระกูลเมิ่ง

ประตูประต่อสองเรื่องนี้เข้าด้วยกัน พวกเขาถึงได้รู้สึกว่า ตระ กูลเมิ่งเกรงว่าได้เจอกับปัญหาเข้าแล้ว

“ไป ไปตระกูลเมิ่ง!”

ผู้นำตระกูลใหญ่นับไม่ถ้วน ก็ได้สั่งคำสั่งเดียวกันออกไป เวลาเดียวกัน ทั้งเมืองเอกก็ได้มีความเคลื่อนไหว ตระกูลใหญ่ นับไม่ถ้วน ก็ได้มุ่งหน้าไปยังตระกูลเพิ่ง

ใครๆ ก็สังเกตได้ว่า จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

ตอนที่หลายๆ ที่ได้มุ่งหน้าไปยังตระกูลเจิ่งนั้น หยางเฉินก็ได้

ไปถึงหน้าคฤหาสน์ของตระกูลเมิ่งแล้ว

“เมิ่งฮุย ออกมาตามซะเถอะ!”

หยางเฉินก็ได้ตะโกนไปยังคฤหาสน์

เขาไม่เคยเจอเพิ่งฮุยมาก่อน แต่กลับเข้าใจดี ภายใน คฤหาสน์หลักหลังนี้นั้น เป็นผู้นำตระกูลเพิ่งแน่

“ไร้มารยาท!”

หยางเฉินพึ่งพูดจบ คฤหาสน์หลังข้างๆ คฤหาสน์หลักนั้น ก็ได้มีชายร่างก๋ายาที่มีใบหน้าแบบตะวันตกเดินออกมา ตะคอกใส่ หยางเฉินว่า “หน้าบ้านผู้นำแบบนี้ คิดว่าจะปล่อยนายที่มา ตะโกนหน้าบ้านไปได้เหรอ?”

จากนั้นต่อด้วย คนอีกสองคนที่ได้เดินออกมาจากคฤหาสน์ หลังนั้น

ทั้งสองดูอายุน้อยมาก หนึ่งในนั้น หยางเฉินเคยเจอ เป็นเมิ่ง ชวน

และข้างๆ เมิ่งชวน ก็ได้มีคนอายุประมาณสามสิบ เวลานี้ก็ได้ มองหยางเฉินด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความสนุก ก็ได้พูดไปว่า “ไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่า นายใจกล้ามากๆ คนคนเดียว ก็กล้าที่จะ มาตระกูลเมิ่ง!”

“แกคือเมิ่งฮุย?”

หยางเฉินเปิดปากไปถาม ไม่รอให้เพิ่งฮุยเปิดปาก เขาก็ได้พูด ออกไปว่า “ฉันก็นับถือในความใจกล้าของแกมาก ที่กล้าเชิญฉัน มาที่บ้านตระกูลเมิ่ง!”

“แต่ว่า แกคิดจริงเหรอว่า อยู่ในตระกูลเมิ่ง ฉันก็ฆ่านายไม่ได้ แล้ว?” ใบหน้าของหยางเฉินก็ได้เต็มไปด้วยความอาฆาต

คำพูดของหยางเฉิน เสียงดังลั่น

ก็เหมือนมีดที่แหลมคน ก็ได้แทงไปที่ใจของเมิ่งฮุยอย่างแรง และเพิ่งชวนที่อยู่ข้างๆ เมิ่งฮุย ก็ได้ตกใจจนช็อกไปตั้งนาน แล้ว แววตาก็ได้เต็มไปด้วยความกังวล
เขาเป็นคนเดียวในเชื้อสายหลักของตระกูลเมิ่ง ที่ได้เห็นความ น่ากลัวของหยางเฉิน

เวลานี้ หยางเฉินก็ได้ยืนอยู่ในที่ที่ห่างจากเขาไปหลายสิบ เมตร ถ้าเกิดเหมือนกับตอนที่อยู่สมาคมประมูลเพิ่งจี้ครั้งก่อน ปากกาแท่งเดียว ก็สามารถเอาชีวิตตัวเองได้

“ฉันอยากจะรู้จริงๆ อยู่ในตระกูลเมิ่ง แกจะทำอะไรฉันได้?

เพิ่งฮุยก็ได้สูดหายใจเข้าลึกๆ สายตาก็ได้เต็มไปด้วยความน่า สะพรึงกลัว อยู่ในตระกูลเมิ่ง กล้าที่จะข่มขู่เขา เป็นความน่าอาย ของเขา

“โซโร ฆ่ามัน!”

เมิ่งฮุยก็ได้โบกมือ โซโรไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย ก็ได้ พุ่งไปทางหยางเฉินทันที

“ไอ้ตัวที่ไม่รู้จักความตาย กล้าที่จะไร้มารยาทกับคุณชายเมิ่ง แบบนี้ วันนี้ก็ได้เป็นวันตายของแก

ในมือของโซโรก็ได้ถือมีดสามเหลี่ยม ตอนที่พูดอยู่ ก็ได้ไปถึง ตรงหน้าของหยางเฉิน แล้วก็ได้โจมตีไป

สีหน้าของหยางเฉินได้ไร้ความรู้สึก มองมืดสามเหลี่ยมของอีก ฝ่ายที่กำลังมาโดนตัวของตัวเอง อยู่ๆ ก็ได้ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง

“ปิ้ง!”

ในความตกใจของทุกคน หยางเฉินก็ได้คว้าแขนของโซโรไว้
และมีดสามเหลี่ยม เห็นว่าห่างจากหัวใจของหยางเฉิน เพียง ช่องว่างนิดเดียวเท่านั้น แต่กลับขยับไปข้างหน้าต่อไม่ได้เลยแม่

นัยน์ตาของ โชโรก็ได้บีบ ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความไม่น่า เชื่อ อาวุธของเขาถึงแม้ว่าเป็นมีดสามเหลี่ยม แต่ว่าพละกำลัง เป็นจุดแข็งของเขา

มือของหยางเฉิน ก็เหมือนกับปากกาจับเหล็ก จับมือของโซโร ไว้แน่น ทำให้เขานั้นขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิด

“เป็นไปได้ยังไง?”

โซโรก็ได้ร้องออกมาอย่างตกใจ

เพิ่งฮุยกับเพิ่งชวนในที่ไม่ไกล ก็ได้หวาดกลัวมากๆ

เพิ่งฮุยที่เป็นถึงรุ่นที่สามที่มีความสามารถที่สุด แล้วยังมีสิทธิ์ที่ จะแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลกับพวกรุ่นลุงได้ ก็สามารถที่จะบ่ง บอกถึงจุดยืนของเขาในตระกูลเพิ่งได้แล้ว

และโชโรที่เป็นบอดี้การ์ดของเขา ความสามารถจะไปกากได้ ยังไง?

แต่ว่าตรงหน้า การโจมตีครั้งแรกของโซโร ไม่เป็นผลกับ

หยางเฉินจริงๆ

“วางใจเถอะ นี่มันพึ่งเริ่ม ความสนุกยังอยู่ข้างหลัง

เพิ่งฮุยก็ได้แกล้งทำเป็นใจเย็น ก็ได้พูดกับเมิ่งชวน ที่ได้สั่นแล้วหลบอยู่ข้างหลังเขา

“ปล่อยมือ!”

โซโรก็ได้กัดฟัน ในความช่วยไม่ได้ ก็ยังได้พูดคำที่ทำให้เขา นั้นรู้สึกขายหน้าออกไป

พอเขาพูดคำนี้ออกมา สีหน้าบนใบหน้าของเมิ่งฮุยก็ได้แข็งไป

เลย

โซโรไม่มีทางที่ได้ดิ้นหลุดออกมาจากมือของหยางเฉินได้

ต่อมา อยู่ๆ หยางเฉินก็ได้เตะออกไป เตะไปที่หน้าอกของโซ ไรอย่างแรง

เสียงที่ดัง โซโรก็ได้กระเด็นออกไปเลย

และตรงหน้าอกของเขา ก็ได้มีรอยยุบอย่างชัดเจน ตอนที่เขา ล้มไปกับพื้นนั้น ทั้งคนก็ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

“นี่ เป็นที่พึ่งของนาย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ