The king of War

บทที่201 นี่คือของจริง



บทที่201 นี่คือของจริง

“เสี่ยวซี เธอมาแล้วเหรอ!”

ฉินซีเพิ่งพาหยางเฉินเข้ามาในคฤหาสน์ของคุณตา ญาติพี่ น้องที่อยู่ในห้องต่างมองเข้ามาแล้ว

เพียงแต่ทุกคนล้วนไม่สนใจหยางเฉินกัน

“คุณตา คุณยาย คุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณน้าเขย สวัสดีค่ะ ทุกคน!”

บนหน้าฉินซีมีรอยยิ้มที่ฝืนใจระดับหนึ่ง ถึงแม้เธออยากให้ทุก คนยอมรับหยางเฉินมากแค่ไหน แต่ก็รู้ดีว่ายังไม่ใช่เวลา

หยางเฉินตามมาอยู่ด้านข้างฉินซี ทั้งสองมือหิ้วถุงน้อยใหญ่ ทั้งหมดล้วนเป็นของขวัญที่ก่อนพวกเขาจะมา หยางเฉินขอร้อง ให้ฉันซีนให้มาให้ญาติผู้ใหญ่

“คุณตาคะ นี่คือชาต้าหงเผาที่ท่านชอบมากที่สุด เป็นชาต้าหง เผาจากต้นแม่ของภูเขาอู๋อี้ต้นตำรับ เป็นหยางเฉินหยางเฉินทุ่ มราคาเยอะมาก ถึงซื้อมาได้ค่ะ”

“คุณยายคะ นี่คือเจ้าแม่กวนอิมที่ท่านเคารพที่สุด แกะสลัก ด้วยหยกเนไฟร์ตบริสุทธิ์ และเป็นของที่หยางเฉินใช้เส้นสายน้ำ มาจากเหอเถียนค่ะ”

“คุณลุง นี่คือ…..”
ฉินซีเหมือนเป็นลูกสะใภ้ที่เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมคนหนึ่ง

น่าของขวัญแต่ละชิ้นออกมา มอบให้เหล่าญาติผู้ใหญ่แล้ว แต่ละครั้งที่มอบของขวัญให้ชิ้นหนึ่ง ต้องอธิบายว่าเป็นหยาง เฉินซื้อมา

เดิมทีเหล่าญาติผู้ใหญ่เห็นฉันซีนำของขวัญมาให้ ยังดีใจกัน มาก หลังจากที่รู้ว่าเป็นของที่หยางเฉินซื้อ ทุกคนล้วนทำหน้า เฉยชา

เดิมทีห้องรับแขกที่ครึกครื้นอย่างยิ่ง ไม่นานก็สงบเงียบลงมา แล้ว

หลังจากสัมผัสได้ถึงความเย็นชาของเหล่าญาติผู้ใหญ่ ฉินซี

กัดริมฝีปากแดงไว้แน่น ในเบ้าตาเต็มไปด้วยน้ำตาที่สามารถ

ไหลรินได้ทุกเมื่อ

มือของเธอจับหยางเฉินเอาไว้แนบแน่น

“เชอะ!”

ในเวลานี้เอง คุณตาทำเสียงฮึดฮัดขึ้นกะทันหัน นำชาต้าหง เผาจากต้นแม่ของภูเขาอู๋อี้ที่ฉันเพิ่งให้มาเมื่อสักครู่นี้ ถือ โอกาสทิ้งลงไปในถังขยะด้านข้างแล้ว

“เสี่ยวซี แกคิดว่าตาอายุมากจนเลอะเลือนแล้วใช่ไหม? ถึง สามารถเอาของปลอมพวกนี้มาหลอกลวงฉันได้?
คุณตาทําหน้าเย็นชาพูดไป

ชั่วขณะนั้นฉินซีสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ “คุณตาคะ หนูกล้า หลอกลวงคุณตาได้อย่างไรกันคะ?”

“แกรู้รึเปล่าอะไรเรียกว่าชาต้าหงเผาจากต้นแม่?”

คุณตาทําเสียงฮึดฮัดบอกว่า “ต้นแม่ของชาต้าหงเผาของ ภูเขาอู๋อี้ถูกจัดให้เป็นของคุ้มครองสำคัญตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ ปี2005 ก็หยุดเก็บกันไปแล้ว”

“ต่อให้ไปหาใบชาชนิดนี้มาได้ งั้นก็มีเพียงที่งานประมูลถึงมี ได้ ที่หงเผาของภูเขา ครั้งที่7ปี2005 ชาต้าหงเผาจากต้นแม่ ของภูเขาอู๋อี้ถูกประมูลไปด้วยราคาสองแสนแปดพัน

“ใบชาห่อนี้ที่แกให้ฉันมา อย่างน้อยมี200กรัมได้มั้ง? ถึงแม้ จะเป็นปี2005 อย่างน้อย ใบชาห่อนี้ยังต้องประมูลด้วยราคาสอง ล้านกว่า ยิ่งเป็นสมัยนี้ อย่างน้อยคงกว่าสิบล้านได้มั้ง?

“แกบอกฉันว่าใบชาที่ราคาสิบล้านนี้ เป็นของที่ลูกเขยสวะคน หนึ่งซื้อมา?”

สำหรับคุณตานั้น รู้เรื่องชาต้าหงเผาของภูเขาอี้ชัดเจนดีจริง กล่าวมาได้กระจ่างสมเหตุสมผล

เวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าไม่ พอใจฉินซีเอามากๆ

ฉันย่อมไม่สงสัยในตัวหยางเฉิน จนกระทั่งเวลานี้ เธอถึงรู้ว่า ใบชาห่อนี้คาดไม่ถึงแพงขนาดนี้
“คุณตาคะ ใบชาเป็นของจริงค่ะ!”

ชั่วขณะนั้นจิน ร้อนใจแล้ว รีบอธิบายทันที

“ป้าบ!”

คุณตาแบบนโต๊ะกาแฟไปอย่างแรง ตะโกนว่า “แกถามคนที่ อยู่ในนี้ มีใครคิดว่าใบชาห่อนั้นเป็นของจริงบ้าง ถ้ามีใครกล้า บอกว่าเป็นของจริง ฉันก็กล้ายอมรับว่ามันเป็นหลานเขยของ ฉัน!”

พูดคำพูดพวกนี้ออกมา ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตาลง เห็นได้ชัด ว่าไม่มีใครกล้าเสนอหน้าออกมาหาเรื่องซวย ในเวลานี้

แน่นอนว่าต่อให้เป็นของจริง พวกเขาก็จะไม่ช่วยหยางเฉินพูด

“ใบชา อนั้น เป็นของจริง!” แต่ในเวลานี้เอง มีคนกล้าบอกว่าใบชาเป็นของจริง เวลานี้ สายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนตัวคนนั้นที่กำลังพูด

ภายใต้ความตกใจของทุกคน ฉันต้าหย่งเดินมาถึงข้างกาย ของหยางเฉินด้วยหน้าตานิ่งสงบ

คนที่พูดไปเมื่อสักครู่นี้ ก็คือเขา

“ผมสามารถยืนยันได้ว่าใบชาที่หยางเฉินเอามาให้คุณพ่อ เป็นชาต้าหงเผาจากต้นแม่ของภูเขาอู๋อี้จริงๆ”

ฉันต้าหย่งยืนอยู่ด้านข้างหยางเฉิน สายตามองไปยังนายท่าน ตระกูลโจว พูดจาด้วยท่าทางจริงจัง
หยางเฉินเป็นคนแบบไหน เขารู้แจ่มแจ้งดี ย่อมเชื่อเป็น ธรรมดา หยางเฉันคงไม่เอาใบชาของปลอมห่อหนึ่งมาให้นาย ท่านตระกูลโจว

นายท่านตระกูลโจวโกรธไม่เบาเลย ร่างกายกำลังสั่นเทานิด หน่อย

คนที่รู้เรื่องต่างดูออกว่าเขาไม่ยอมรับหยางเฉิน แต่กลับกัน ฉันต้าหย่งกันมาประกาศสนับสนุนหยางเฉินต่อหน้าสาธารณชน

“หนูก็แน่ใจเหมือนกันค่ะว่า ใบชานี้เป็นของจริง!

ตามมาด้วยฉันยีที่ก้าวออกมาแล้ว

พอเป็นแบบนี้ ทั้งบ้านฉินซี นอกจากโจวยชัยแล้ว ทุกคนล้วน คิดว่าใบชาเป็นของจริงทั้งสิ้น

ใบหน้าแก่หง่อมของนายท่านตระกูลโจวที่เต็มไปด้วยรอย

เหี่ยวย่นนั้น ยิ่งเพิ่มความแค้นเคืองขึ้น คนตระกูลโจวล้วนมองทางฉินต้าหย่งด้วยท่าทางเย้ยหยัน

“ฉินต้าหย่ง คุณพูดจามั่วซั่วอะไรกัน?”

โจวชุ่ยร้อนใจขึ้น ในขณะนั้น รีบลุกขึ้นมาทันที

หล่อนคิดมาโดยตลอดว่ายอดเมฆาที่หยางเฉินซื้อไปนั้น เป็น ซูเฉิงอู่ให้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณ ถึงได้ส่งคฤหาสน์ให้ ส่วนตัว หยางเฉินเองก็แค่พวกคนจนคนหนึ่ง

เมื่อสักครู่นายท่านตระกูลโจวก็บอกแล้ว ถ้าใบชาที่หยางเฉินให้เป็นของจริง น้อยนิดแค่นั้นยังราคาสิบล้าน ตีให้ตายหล่อนก็ ไม่เชื่อเช่นกัน

ฉันต้าหย่งไม่มองโจวซุ่ยสักนิดเดียว ถ้าไม่ใช่เห็นแกว่าเป็น

สามีภรรยากับโจวย เดิมทีเขาคงจะไม่มาเด็ดขาด

“ฉินต้าหย่ง นายเป็นครอบครัวเดียวกับเขา ต้องพูดแทนเขา อยู่แล้ว นายรีบหุบปากไปดีกว่า!”

“จริงด้วย นายยังคิดว่าตัวเองเป็นคนตระกูลฉินแบบเมื่อก่อน นั้นล่ะสิ?”

“ฉันได้ยินมาว่าตระกูลฉินใกล้จะล้มละลายแล้ว

“ต่อให้ไม่ล้มละลาย พวกเขาทั้งครอบครัวก็โดนไล่ออกมา จากตระกูลฉินตั้งนานแล้วแหละ

ไม่นาน คนตระกูลโจวต่างพุ่งเป้าเสียดสีฉินต้าหย่งกันหมด

“หุบปากให้หมดเดี๋ยวนี้เลย!

ขณะนั้นเอง ในที่สุดฉินต้าหย่งระเบิดความโกรธ ตะโกนออก มาทันใด

ชั่วพริบตาเดียวห้องโถงใหญ่เงียบสงบลงมา ทุกคนมองฉันต้า หย่งด้วยท่าทางตกใจ

ก่อนหน้านี้ฉันต้าหย่งเป็นคนแบบไหน พวกเขารู้ดีมาก เป็น ผู้ชายที่โดนภรรยาคุมเข้ม ตัดสินใจอะไรที่บ้านไม่ได้เลย ไม่ว่าอะไรล้วนฟังโจวยทั้งนั้น

วันนี้กลับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน อยู่ต่อหน้าคนตระกูล โจว ไม่ไว้หน้าโจวซุ่ยสักนิด คาดไม่ถึงยังกล้าตะโกนต่อหน้า ของนายท่านตระกูลโจว

“ฉันต้าหย่ง คุณบ้าไปแล้วเหรอ?”

โจวยซุ่ยรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของตนเองหายไปหมดเพราะฉินต้า หย่งชั่วขณะนั้นตวาดใส่

“นังตัวดีคนนี้ เธอหุบปากไปด้วยเลย!

ฉันต้าหย่งยื่นมือชี้หน้าโจวชุ่ย จากนั้นตะคอกใส่

คนของตระกูลโจวยังไม่เคยเห็นฉันต้าหย่งที่มีท่าทีแข็งกร้าว เช่นนี้มาก่อน เวลานี้ตกใจค้างกันหมด

โจวซุ่ยเองก็ตกใจยกใหญ่เหมือนกัน นึกถึงที่ช่วงนี้ฉันต้า หย่งอยากจะหย่ากับหล่อนมาโดยตลอด ถ้าเกิดหย่าร้าง หล่อน คงไม่ได้รับอะไรสักอย่าง จึงรีบหุบปากไม่พูดทันที

“พวกเธอแต่ละคนมองตัวเองสูงส่ง ดูถูกลูกเขยฉัน ดูถูกฉัน ฉันถามพวกเธอสักคำ พวกเธอมีสิทธิ์เหรอ?”

“โจวอวี้เจีย ห้าปีก่อน บริษัทของเสี่ยวซีได้รับความเสียหาย หนัก นั่นคือตอนที่บ้านฉันวิกฤติที่สุด นายพาลูกชายของนายไป ยืมเงินที่บ้านฉัน ลับหลังฉัน โจวซุ่ยแอบเอาเงินห้าแสนของฉัน ไปให้นายยืม”
“ยังมีคฤหาสน์สองหลังในลานบ้านแห่งนี้อีก นั่นคือลับหลังฉัน โจวซุยเอาเงินให้นายท่านมาสร้างหลังหนึ่ง ให้โจวเจียสร้าง อีกหลังหนึ่ง!”

“โจวอวี้หรง สี่ปีก่อน บริษัทของเธอเกือบล้มละลาย เธอไปยืม เงินที่บ้านฉัน บริษัทที่เสี่ยวซีก่อตั้งเองเพิ่งถูกแย่งไป และคลอด ลูกมาคนหนึ่ง แม้แต่ตัวเองยังไม่มีเงิน เธอกลับหลอกหล่อนว่า เธอเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ หลอกเสียวซีแล้วเอาเงินสามแสน เหลือติดตัวไว้ ให้เธอยืมไปทั้งหมด

“นี่ยังไม่หมดนะ คาดไม่ถึงว่าโจวชุ่ยจะแอบเอาเงินสองแสน ที่ฉันยืมมาเตรียมไว้ให้เสียวซี เปลี่ยนไปให้เธอยืมแทนอีก!!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ