The king of War

บทที่ 239 เฉินอิงจนตาย



บทที่ 239 เฉินอิงจนตาย

หยวนเซ่าตอบอย่างไม่ลังเลว่า “เบื้องหลังของตระกูลมู่คือ ตระกูลหาน นับว่าเป็นหนึ่งในตระกูลต้นๆ แห่งเมืองเอก ถ้ามาอยู่ ในเมือง โจวเฉิง ก็เป็นผู้ครอบครองเมืองโจวเฉิง ถึงตระกูลหยวน จะร่วมมือกับตระกูลเฉิน ก็ไม่สามารถต้านทานตระกูลมู่ได้”

“ถ้าพูดให้ถูกก็คือ ถึงตระกูลใหญ่ในเมืองโจวเฉิงร่วมมือกัน ก็ ยังไม่สามารถต้านทานตระกูลมได้

หยวนมู่พูดเสริมว่า “ก่อนหน้านี้ประมาณชั่วโมงครึ่ง ที่ร้านอา หารเป่ยหยวนซุน ไอ้สวะที่แกเรียก เหยียบแขนของมู่เจิ้นจน พิการ ต่อหน้าของตงเฟิง อีกทั้งเฉินอิงเหา ยังโดนบังคับให้ คุกเข่าร้องขอชีวิต ต่อหน้าเขาด้วย”

“อะไรนะ”

หยวนเซ่าตกใจจนหน้าซีดเผือด เขาพูดอย่างตกใจว่า “พี่ไม่ ได้ล้อผมเล่นใช่ไหม นี่มันเป็นไปได้ยังไง”

หยวนส่งเสียงที่ออกมา “นี่คือเรื่องจริง ตอนนั้นในห้อง อาหาร นอกจากตงเฟิง ยังมีผู้นำตระกูลใหญ่ในเมือง โจวเฉิ งอีกเยอะแยะ พวกเขาเห็นภาพตรงหน้าด้วยตาของตัวเอง”

“มู่ตงเฟิงอายุเกือบสี่สิบแล้ว ภรรยาของเขาถึงเพิ่งจะคลอด เจิ้นออกมา เรียกได้ว่ามีลูกตอนแก่ เขาโอ๋เจิ้นมาก แต่ทว่า หยางเฉินทำให้แขนของลูกชายเขาพิการต่อหน้าทุกคน ตอนนี้แกยังคิดว่าหยางเฉิน เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้ามาในบ้านผู้หญิง อีกเหรอ คิดว่าเขาเป็นคนธรรมดาอย่างนั้นเหรอ”

หยวนเซ่าอึ้งไป เขารู้ว่าหยวนไม่หลอกเขาแน่นอน

คิดถึงความแค้นระหว่างหยางเฉิน อีกทั้งยังคิดถึงเรื่องที่เจิ้น ถูกหยางเฉินทำให้แขนพิการต่อหน้าของทุกคน เขารู้สึกโชคดี มาก อย่างน้อยเขาก็ยังไม่โดนหยางเฉินทำร้ายกลับ

“ใช่สิ เมื่อกี้พวกแกไม่ได้ทำให้อะไรเขาใช่ไหม”

จู่ๆ หยวนก็ถามขึ้นอย่างเป็นกังวล

หยวนเซ่ารีบส่ายหน้า “พี่ เรื่องในคืนนี้ เป็นแผนของเฉินอิงจ นทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องนักฆ่าด้วย ไม่เกี่ยวอะไรกับผมสักนิด

“อะไรนะ พวกแกหานักฆ่ามาด้วยเหรอ”

หยวนมตกใจมาก เขาตวาดออกมา

หยวนเซ่าแทบจะร้องไห้ออกมา เขารีบพูดว่า “เป็นนักฆ่าที่เฉิ นอิงจนเป็นคนหามา ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วย

“ไอ้เวรเอ๊ย!”

หยวนมสบถออกมา “ฉันเตือนแกตั้งนานแล้ว เขามีบัตร ทอง ของธนาคารสากล เพียงพอที่จะอธิบายได้ว่า เขาไม่ใช่ คนธรรมดา ฉันเคยบอกแกแล้วว่าความแค้นระหว่างเรากับเขา เป็นเพราะเฉินอิงจวิ้นก่อขึ้น จะแก้แค้นเขายังไง ให้เป็นเรื่องของ เฉินอิงจวิ้น แกยังกล้าไปสมคบคิดกับมันอีก!”
“พี่ ผมผิดไปแล้ว พี่บอกผมมาหน่อย ถ้าเขาจะฆ่าผมจริงๆ ผม จะทํายังไงดี

หยวนเซ่าอกสั่นขวัญแขวน อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่ตระกูลมู่ หยางเฉินยังกล้าทำลายเลย

“เขาไม่น่าจะทำอะไรแก ไม่งั้นเมื่อเขาไม่ปล่อยแกมาหรอก”

หลังจากหยวนมู่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดออกมาและถาม ต่อว่า “แกแน่ใจใช่ไหม ว่านักฆ่าคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับแก

“ผม ผมให้เขาไปแค่หนึ่งล้าน!

หยวนเช่าพูดความจริงออกมา

“เพียะ!”

หยวนตบหยวนเซ่าด้วยหลังมือ จากนั้นจึงสบถว่า “แกนหน้า ไม่อายจริงๆ ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อนหน้านี้

“พี่ ถึงพี่จะตีผมจนตาย แต่ผมทำมันลงไปแล้ว ตอนนี้พี่รีบคิด เถอะ ผมจะทำยังไงดี!!

หยวนเช่าร้องไห้ออกมา ไม่ใช่เพราะเจ็บจากการโดนตบ แต่ เพราะเขากลัวหยางเฉิน

ในความทรงจำของเขา เขารู้ดีว่าผู่เจิ้นกำเริบเสืบสานแค่ไหน เขากลัวปีศาจตัวนี้มานานแล้ว

แต่ทว่าตอนนี้ เขากลับมารู้ว่าคนที่เขากลัว โดนหยางเฉิน เหยียบจนแขนพิการ แถมยังทำต่อหน้าของอู่ตงเฟิงอีกด้วย ตอนเขากลัวหยางเฉินสุดขีด

“เรื่องฉันยังไงหยวน พูดอย่างหงุดหงิด

อีกด้านหนึ่งภูเขาธาตุ

เมื่อหยวนออกมากับหยวนเซ่า อิงจนออกมากัน

ถึงแม้เขาจะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ต้องมีเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน ไม่หยวนคงไม่ตัดความสัมพันธ์หน้าของหรอก

หลังออกจากภูเขาห้าธาตุ ตลอดทาง

ไม่ทำไม รู้สึกว่าอะไรผิดปกติ รู้สึกเหมือนจะเจอกับ

อันตรายในช้า

อีกทั้งความรู้สึกนี้ยังรุนแรงมาก รุนแรงจนเขาหวาดกลัว

เอี๊ยด…….

ขณะเงาโผล่มาหน้ารถ

เฉินอิงจวิ้นเหยียบเบรกว่าเงามาขวางหน้ารถ หายไปแล้ว

ฉิบหายคงจะไม่ใช่หรอก

สีหน้าของเฉินอิงจวิ้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เขามองเวลา โดยอัตโนมัติ เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ตอนนี้รอบๆ เต็มไปด้วยความมืด ไร้แสงสว่างจากดวงจันทร์ มีเพียงแสงไฟจากรถเท่านั้น

เฉินอิงจนสั่นไปทั้งตัว การเบรกอย่างกะทันหันเมื่อครู่ ทำให้ รถควันขึ้น

เขาพยายามสตาร์ทรถ แต่สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด

“ให้ตายเถอะ!”

เฉินอิงจนกำหมัดทุบลงบนพวงมาลัย ด้วยสีหน้าหงุดหงิด

ตอนนี้เขาต้องลงจากรถ เพื่อไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาเพิ่งเดินลงมาจากรถ ลมโชยผ่านหลังของเขา จนขนลุกไป

ทั้งตัว

“ใครน่ะ”

เขาหันขวับไปมอง แต่ไม่พบอะไร

ความกลัวในใจ ทำให้เขารู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี

เมื่อเขาเห็นว่ามีคนอยู่หน้ารถชัดๆ เขาถึงเหยียบเบรก แต่ ทว่าตอนนี้กลับไม่มีใครสักคน รถก็เสียอีกด้วย

สำหรับเฉินอิงจวิ้น นี่มันเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ

“พลั่ก!”

เมื่อเขาเปิดฝากระโปรงรถ เพื่อที่จะตรวจดู จู่ๆ ก็มีเงาดำพุ่งเข้ามาถีบเขาจนกระเด็น

เฉินอิงจนตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่เพราะเจ็บ แต่ เพราะความกลัวที่อยู่ลึกๆ ในใจต่างหาก

“ฉันผิดไปแล้ว ฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว ขอร้อง

ล่ะ อย่าฆ่าฉันเลย……

เฉินอิงจวิ้นล้มลงกับพื้น เขารีบลุกขึ้นมา และเอาหัวโขกกับพื้น

“นายทําอะไรผิดเหรอ” เสียงอันเย็นยะเยือกดังขึ้น

“ฉัน ฉัน……”

เฉินอิงจวิ้นพูดแต่คำว่าฉัน เพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไร

“ดูเหมือนว่า นายจะทำเรื่องเลวๆ เอาไว้เยอะสินะ เยอะจนไม่รู้ ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหน

เสียงนั่นเต็มไปด้วยความอาฆาตอย่างรุนแรง

เฉินอิงจวิ้นตั้งสติได้ เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้เจอผี แต่เป็นคนต่าง หาก

อาศัยแสงจากไฟรถยนต์ เขาเห็นเงาดำถือมีดแวววาวอยู่ใน มือ และกำลังคืบคลานเข้ามาหาเขา

“นาย นายเป็นใคร”
เฉินอิงจนสั่นไปทั้งตัว

ถึงจะไม่ได้เจอผี แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น มันทำให้เขารู้สึกกลัว ยิ่งกว่าเจอผีเสียอีก

อีกฝ่ายถีบเขาจนกระเด็น แถมยังถือมีด เดินเข้ามาหาเขาอีก นี่จะเอาชีวิตกันชัดๆ

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เฉินอิงจวิ้นตกใจจนจะ ร้องไห้ จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นและวิ่งหนีไป

“สวบ!”

เขาเพิ่งวิ่งออกไปได้เพียงสามสี่เมตร ลำแสงแวววาวก็สว่าง วาบ ปลายแหลมของมีดเฉือนลงไปที่ลำคอของเขา

เฉินอิงจนยกมือกุมคอ ร่างของเขาล้มลงกับพื้น ตาของเขา

เบิกกว้างและสิ้นใจลง

แต่คนชุดดำหันหลังไป และหายวับไปในความมืด ราวกับ ราชาในยามค่ำคืน

ในขณะเดียวกัน หยางเฉินกับซูซานก็กลับมาถึงโรงแรม

ทันใดนั้น หยางเฉินได้รับข้อความ: “เฉินอิงจวิ้นตายแล้ว!”

ข่าวแพร่กระจายไปทั่วเมือง โจวเฉิงอย่างรวดเร็ว ข่าวนี้สร้าง ความตื่นตระหนกให้คนจำนวนมาก

เฉินอิงจวนผู้หล่อเหล่า ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูลเฉิน ถูกปาดคอตายอย่างน่าเวทนา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ