The king of War

บทที่ 217 โลกของทั้งสองคน



บทที่ 217 โลกของทั้งสองคน

หานเฟยเฟยขอโทษอย่างนอบน้อมขนาดนี้ แม้แต่หยางเฉินก็ แทบไม่อยากจะเชื่อ

หรือว่าเพราะเขาบอกว่าไม้เกาหลังหยกที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง

ไม่ใช่ของแท้

“คุณหาน อย่างเกรงอกเกรงใจขนาดนั้น!

หยางเฉินเอ่ยขึ้น จากนั้นจึงถามว่า “คุณหาน รู้จักผมหรือ เปล่า”

เริ่มแรก หานเฟยเฟย ไม่ชอบหน้าเขามาก ต่อมาถึงเธอจะไม่ ชอบหน้าเขาเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีความเกรงใจเขาอยู่ไม่น้อย

เฉินอิงเหากับเจิ้งเหม่ยหลิง แค่แนะนำให้เธอตรวจสอบ หนังสือเชิญของเขา แต่ทว่าหานเฟยเฟยกลับไล่สองคนนั้นออก ไปต่อหน้าคนจํานวนมาก

ส่วนเขา แค่บอกว่าวัตถุโบราณ ในนิทรรศการวัตถุโบราณ ของตระกูลหาม เป็นของจริงหรือของปลอม

ถ้าเรื่องนี้แดงออกไป จะเกิดผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูล หาน ไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่ถึงอย่างนั้น หานเฟยเฟยกลับไม่ไล่เขาไป แต่กลับขอโทษ เขาด้วยซ้ำ
ทั้งหมด ทำให้หยางเฉินรู้สึกสงสัยว่าทานเฟยเฟยรู้จักเขา หรือเปล่า

ความสงสัยของหยางเฉิน เหมือนกับความสงสัยของคน จํานวนมากเช่นกัน

ท่ามกลางสายตาสงสัยของทุกคน หานเฟยเฟยยิ้มบางๆ “เรา

เคยเจอกันครั้งแรก!!

พูดจบ เธอก็หันหลังเดินไปที่ประตูนิทรรศการ จู่ๆ เธอหันกลับ มายิ้มให้หยางเฉิน “เราจะได้เจอกันอีก!”

ครั้งนี้ เธอเดินออกจากนิทรรศการ โดยไม่หันกลับมาอีก

หลงเหลือเพียงหยางเฉินที่มีสีหน้าสับสน กับผู้คนที่เต็มไปด้วย ความสงสัย อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เฉินอิงเหากับเจิ้งเหม่ยหลิงโดนไล่ ทั้ง

สองก็ออกมาทันที

“พี่เหา โทษไอ้เลวหยางเฉินเลย ไม่งั้นเราคงไม่ขายหน้าขนาด นี้หรอก!”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด

เฉินอิงเหาไม่พูดอะไร ใบหน้าของเขาเย็นชา แต่ทว่าในใจ กำลังวางแผนว่าจะจัดการกับหยางเฉินอย่างไร

ถึงแม้เขาไม่กล้าทำอะไรทานเฟยเฟย แต่จัดการกับลูกเขยที่ แต่งเข้ามาอยู่ในตระกูลเล็กๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง
“พี่เหา คืนนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวเอง เราค่อยหาคนมาอีกครั้งหนึ่ง แค่พี่เหาคอยบงการ ไม่ต้องลงมือเองหรอก มีคนมากมายที่จะ ลงมือแทนพี่”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดด้วยสีหน้าร้ายกาจ

เฉินอิงเหาหันไปมองเจิ้งเหม่ยหลิง “อย่าลืมเรื่องที่เธอรับปาก ฉัน แค่เอาผู้หญิงคนนั้นมาอยู่บนเตียงฉัน คฤหาสน์หลังที่อยู่โร สการ์เด้นวิลล่าเขต จะเป็นของเธอ!”

“พี่เหาวางใจได้เลย เรื่องที่ฉันรับปากพี่ ฉันทำได้อย่างแน่นอน รอดูคืนนี้เลย!” สีหน้าของเจิ้งเหม่ยหลิงเต็มไปด้วยความร้ายกาจ

ชั้นบนสุดที่ห้องราชาของร้านอาหารเปียหยวนซุนในเมืองโจว เฉิง

หน้าโต๊ะอาหารขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีคนแก่หัวหงอกเพียง สามคนนั่งอยู่ ถึงอายุมากแล้ว แต่ก็ยังดูอ่อนวัย แก้วเหล้าขาวสี ใสวางอยู่ตรงหน้าทุกคน

ในห้องอาหารสุดหรู กลับมีเหล้าขาวเอ้อร์กัวโถวราคาถูก วาง อยู่บนโต๊ะสองสามขวด ไม่เหมาะกับประตูห้องอาหารสักนิด ที่ หน้าห้องอาหารยังมีชายร่างกายกำยำ ยืนเฝ้าอยู่อีกด้วย

เห็นเช่นนี้ รู้ได้เลยว่าคนแก่สามคนไม่ใช่คนธรรมดา

“เหมียวเจิ้งอวี่ นายดูสิ วันนี้มีคนคิดว่าชาต้าหงเผาจากต้นแม่ ที่ภูเขา มูลค่าหลายสิบล้านเป็นของปลอม นี่มันเกิดอะไรขึ้น

คนแก่ที่เป็นหัวหน้า ถามด้วยสีหน้าสงสัย
“พอพูดเรื่องนี้ก็โมโหขึ้นมา!

คนแก่อีกคนเอ่ยขึ้นว่า “เจิ้งเต๋อหัว นี่ถือเป็นเรื่องของตระกูล นาย นายพูดมาดีกว่า!

ในบรรดาคนแก่ทั้งสามคน คนที่เป็นหัวหน้าคือหานเดี่ยว เทียน เจ้าบ้านตระกูลหาน ที่หยางเฉินเคยช่วยเอาไว้

ส่วนอีกสองคนที่เหลือ คนแรกคือเหมียวเจิ้งอวี่ เจ้าบ้านตระกูล ระดับกลาง ในเมือง โจวเฉิง คนต่อมาคือเจิ้งเต๋อหัว ผู้ก่อตั้ง เจิ้งเห อกรุ๊ป และเป็นปู่ของเจิ้งเหม่ยหลิง

ใบหน้าชราของเจิ้งเต๋อหัวแดง เขาถอนหายใจ “ฉันอยู่ใน ชนบทมาทั้งชีวิต ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ รุ่นน้องส่งชาต้าหงเผา จากต้นแม่ที่ภูเขาอู๋อี้ไปให้ แต่รุ่นพี่ไม่เห็นค่ารุ่นน้อง คิดว่าใบชา เป็นของปลอม แถมยังดูหมิ่นรุ่นน้องคนนั้นด้วย

ต่อมาฉันไปกับเหมียวเจิ้งอวี่ เหมียวเจิ้งอวี่เจอกล่องใบชาใน ถังขยะ มันเป็นเรื่องจริง ใบชา 200 กรัมเต็มๆ!

“แต่สุดท้ายก็โดนหลานสาวของฉัน เอาไปทิ้งในท่อน้ำทิ้ง จน

พังพินาศไปหมด!”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่เจิ้งเต๋อหัวพูด หานเดี่ยวเทียนเบิกตาโพลง “ชาต้าหงเผาจากต้นแม่ 200 กรัมงั้นเหรอ”

“ใช่ เหมียวเจิ้งอวี่ นายลางสังหรณ์ดีน นายน่าจะรู้ ใบชาที่เขา พูดถึงเป็นของจริง อย่างไม่ต้องสงสัย!” เจิ้งเต๋อหัวพูดออกมา ตรงๆ
เหมียวเจิ้งอวี่ส่งเสียงที่ออกมา “นายยังมีหน้ามาพูด ก็เพราะ หลานสาวสุดรักของนาย ขโมยมันไปจากมือฉัน แล้วเอาไปทิ้ง ในท่อน้ำทิ้ง เงินหลายสิบล้านไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับฉันอยู่ แล้ว แต่ใบชาดีขนาดนั้นกลับโดนทำลาย! เสียของชะมัด!

“นั่นเป็นใบชาที่ไม่สามารถประเมินราคาได้! ว่ากันว่าไม่มีใน ตลาดอีกแล้ว มีแค่ในงานประมูลใหญ่ๆ เท่านั้น ถึงจะมีในงาน ประมูล ก็เอาออกมาประมูลมากสุดแค่สิบกว่ากรัมเท่านั้น ซาต้า หงเผาจากต้นแม่ 200 กรัม ทั้งชีวิตฉันยังไม่เคยเจอเลย! น่า เสียดาย! น่าเสียดายจริงๆ!

หานเซี่ยวเทียนพูดอย่างเสียดาย จากนั้นจึงถามว่า “เจิ้งเต๋อ หัว นายว่ารุ่นน้องคนนั้น น่าจะไม่ธรรมดาหรือเปล่า ถึงสามารถ หาชาต้าหงเผาจากต้นแม่ 200 กรัม มาได้เยอะขนาดนี้ นี่มันของ ราคาแพงมากเลยนะ”

เจิ้งเต๋อหัวส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ฉันก็ไม่เคยเจอเขา เหมือนกัน ตอนที่ฉันกับเหมียวเจิ้งอวไป รุ่นน้องคนนั้นโดน ครอบครัวของฉันไล่ไปแล้ว!!

“รุ่นน้องที่สามารถหาชาต้าหงเผาจากต้นแม่ มูลค่าหลายสิบ ล้านมาได้ โดนกล่าวหาว่าเป็นใบชาปลอม แถมยังโดนไล่ไป ด้วย ครอบครัวของนายช่างมีตาหามีแววไม่จริงๆ ! ฮ่าๆ

สีหน้าของหานเดี่ยวเทียนตกตะลึง จากนั้นจึงอดหัวเราะออก มาไม่ได้ “ถ้าฉันเดาไม่ผิด หลังจากที่ครอบครัวของนายรู้ว่าเป็นใบชาแท้ คงแทบหงายหลังเลยสินะ”

เจิ้งเต๋อหัวหน้าแดงก่ำ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาคิดว่านายท่านตระ กูลโจวช่างโง่เขลาเสียจริง

“พอเถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว หงุดหงิดชะมัด!”

เหมียวเจิ้งอวี่มองหานเซี่ยวเทียนแล้วถามว่า “หานเดี่ยวเทียน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมโรคหัวใจของนาย ถึงกำเริบได้ล่ะ”

หานเยี่ยวเทียนส่ายหน้าอย่างขมขื่น “ฉันเคยผ่าตัดบายพาส หัวใจเมื่อหลายปีก่อน หมอบอกว่าถ้าอาการกำเริบ อาจถึงแก่ ชีวิตได้ทุกเมื่อ วันนี้ต้องชมไอ้หนุ่มนั่น ไม่งั้นฉันคงต้องตายข้าง ถนน และไปเจอสหายร่วมรบที่สละชีพ ในตอนนั้น

หานเซียวเทียนนึกย้อนไป ในสมัยนั้น สหายร่วมรบคือเพื่อน แท้ มีบางเรื่องที่สามารถคิดถึงได้ตลอดชีวิต

นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ชายแก่ที่มีฐานะแตกต่างกัน ถึงมานั่ง ดื่มเหล้าพูดคุยกันได้ แม้จะอายุปูนนี้แล้ว

“เดี๋ยวนี้พวกรุ่นน้องแต่ละคนช่างสุดยอด”

เหมียวเจิ้งอวี่ยิ้มแล้วพูดว่า “คนหนึ่งส่งใบชาที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้ มาให้ ส่วนอีกคนช่วยชีวิตนาย ทั้งสองล้วนอายุน้อย

“นี่สินะที่เขาเรียกว่าคลื่นลูกใหม่ เก่งขึ้นทุกยุค! ถ้ายุคนี้ แข็งแกร่ง ประเทศของเราจะรุ่งเรือง!” หานเซี่ยวเทียนพูดอย่างปลงๆ
หยางเฉันไม่รู้ว่า มีคนคนแก่สามคน กำลังชมเขาไม่หยุดปาก ทั้งๆ ที่ไม่เคยพบกันมาก่อน

ตอนนี้หยางเฉินกำลังพาภรรยา ดื่มกับโลกของคนสองคน

ยากมากที่ทั้งสองจะอยู่ในโลกของคนสองคน หยางเฉันคิดว่า ถ้าไม่ทำอะไรสักหน่อย คงเสียดายช่วงเวลาที่งดงามเช่นนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ