The king of War

บทที่ 16 รับกรรมที่ตนก่อ



บทที่ 16 รับกรรมที่ตนก่อ

ในใจของฉัน เต็มไปด้วยความไม่ยินยอมและความกล้ำกลืนฝืน ทน เดิมเธอก่อตั้งซานเชือกรุ๊ปมาด้วยตัวเองเพียงลำพัง แต่กลับ โดนตระกูลฉินมาแย่งเอาไป ไม่ง่ายเลยกว่าจะหาโอกาสทาง บริษัทคืนมาได้ แต่สุดท้ายคุณกลับไม่รักษาคำพูด

“ไม่ยอมรับงั้นเหรอ?”

นายท่านฉันพูดอย่างเย็นชา “ถ้าหากไม่ใช่เพราะสามีได้ ประโยชน์ของเธอล่วงเกินจางกว่างเข้าละก็ ป่านนี้สัญญาของ ตระกูลจางก็คงจะอยู่ในมือของพวกเราแล้ว ยิ่งรวมกับสัญญา ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปนั่น ปีนี้ตระกูลฉินของพวกเราจะต้องแทรก เข้าไปเป็นตระกูลชั้นหนึ่งได้แน่ ตอนนี้เธอยังจะมีหน้าอะไรมาไม่ ยอมรับอีก

คําพูดของนายท่านฉินกรีดแทงเข้ามาในหัวใจของฉัน อย่างเหี้ยมโหดราวกับมีด

“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าถ้าหากฉันสามารถคว้าเอา สัญญาของตระกูลจางมาได้ คุณก็จะมอบตำแหน่งประธาน ๆ ให้ กับเธอ?”

เวลานี้หยางเฉินยืนมองนายท่านฉินที่อยู่ข้างกายของฉัน ด้วยสีหน้าสงบ ถ้าหากหม่าชาวอยู่ด้วยละก็ เขาจะต้องรู้แน่ว่า ท่าทางของหยางเดินในตอนนี้แหละเป็นตอนที่น่ากลัวที่สุด
“แกนับเป็นอะไรได้? คู่ควรจะมาตั้งเงื่อนไขกับฉันหรือ?”

นายท่าน นมองหยางเฉินอย่างเหยียดหยาม จากนั้นก็มอง ไปที่ฉินซีอีกครั้ง “ต่อให้เธอเอาสัญญาของตระกูลจางมาอีกสัก ร้อยฉบับ ตำแหน่งประธานก็ไม่ตกเป็นของเธอหรอก”

ทั้งประโยคนี้เอาไว้แล้วนายท่านฉันก็หันหลังจากไป

กลุ่มคนเอนเอียงไปตามอิทธิพลของฉันเพีย

“ฉินซี เธอนึกว่าเธอคว้าเอาสัญญามาได้แล้วก็จะถือเป็นผู้มี ความดีความชอบงั้นเหรอ?”

“นั่นสิ แบบนี้น่ะ เรียกว่าทำบุญล้างบาป

“ดีนะที่ผู้นำตระกูลหลักแหลมที่ไม่ส่งต่อบริษัทให้กับผู้หญิง

หน้าไม่อายคนนี้”

เสี่ยวเฟยสิ ถึงจะเป็นผู้สืบทอดของนายท่าน เธอคู่ควรที่จะ ไปแย่งชิงอำนาจกับเขาหรือ?”

ผู้คนมากมายที่ประจบสอพลอฉันอยู่เมื่อครู่ ในตอนนี้กลับ มีท่าทีเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ฉันถูกคำพูดของนายท่านฉันทำร้ายจิตใจอย่างถึงที่สุด ชานเรือกรุ๊ปถูกแย่งเอาไป ในใจของเธอไม่ยินยอมถึงเพียงไหน ห้าปีมานี้เธอทุ่มเทมามากเพื่อที่จะควบคุมบริษัทได้อีกครั้ง เธอ ทุ่มเทสุดแรงกายแรงใจ นึกไม่ถึงว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นนี้

“ฉินซี ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันเป็นประธานของชานเรือกรุ๊ป และต่อไปฉันยังจะเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลฉิน”

ฉันเฟยเดินเข้ามาด้วยความโอหังอวดดี จากนั้นก็มองกวาด หยางเฉินอย่างเหยียดหยาม แล้วหันกลับมามองฉันอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า “ถ้าหากฉันเป็นเธอนะฉันจะหย่ากับไอ้ตัวไว้ ประโยชน์นี้ มีเขาอยู่เธอก็ทำได้แค่แหงนหน้ามองดูฉันตลอดไป

หยางเงินก้าวเท้าเดินออกไปทันที ฉันเฟยหัวเราะเสียงเย็น ครั้งหนึ่ง “ทําไมเหรอ? อยากต่อยฉันเหรอ? แกก็ลองทำดูสิ ถ้า แกแตะต้องฉันแม้แต่ปลายเล็บ ก็รอดูฉินซีโดนขับไล่ออกจาก ตระกูลได้เลย!

อุณหภูมิของทั้งทางเดินนั้นลดลงมาหลายองศา โดย เฉียบพลัน หยางเฉินมองฉินเฟยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ความ ลับไม่มีในโลก เรื่องบางเรื่องทำลงไปแล้วก็ต้องชดใช้

ฉันเฟยหวาดผวาขึ้นมาในทันที พูดอย่างโมโหร้ายว่า “แก ไอ้สวะ แกพูดเพ้อเจ้ออะไร? พูดกับขยะอย่างแกประโยคเดียวก็ ถือว่าขายหน้าฉันแล้ว”

เขาพูดจบก็จากไปอย่างเร่งรีบ

สายตาของหยางเนินเยือกเย็นราวกับน้ำค้างแข็ง เมื่อห้าปี ก่อนเป็นฉันเฟยที่วางแผนใส่ร้ายฉิน เรื่องนี้จำเป็นต้องมีคนรับ

ผิดชอบ

ผู้คนแยกย้ายกันออกไป เหลือเพียงแต่ฉินซีและหยางเฉิน

“ฉินซี พวกเราไปกันเถอะ!
หยางเฉินมองดูท่าทางเจ็บปวดของฉันซี ในใจมีความทุกข์

ที่พูดออกมาไม่ได้

“ทําไมถึงเป็นนายอีกแล้ว? ทำไมต้องกลับมา? ฉันติดค้าง อะไรนายไว้เหรอ? เป็นเพราะนายที่ทำให้ฉันล้มเหลวครั้งแล้ว ครั้งเล่า ! นายรู้ไหมว่าซานเรือกรุ๊ปมีความหมายกับฉันอย่างไร?”

สายตาทั้งคู่ของฉินซีที่มองไปยังหยางเฉินเต็มไปด้วยความ เคียดแค้น ร้องไห้ออกมาเสียงดังเพื่อระบายความหมดอาลัย ตายอยากอย่างถึงที่สุดในตอนนี้

เวลาผ่านไปนานมาก อารมณ์ของฉันมั่นคงขึ้น เธอมองดู หยางเฉินด้วยความรู้สึกซับซ้อน เธอกัดริมฝีปากแดงแล้วเอ่ย ปากพูดขึ้นมากะทันหัน “ขอโทษนะ!”

หยางเฉินมีสีหน้าประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าฉินซีจะขอโทษ เขา เขาสายศีรษะเบา ๆ สีหน้าจริงจังขึ้นทันที “เธออยากจะแย่ง ซานเรือกรุ๊ปกลับมาไหม?”

“ฉันก่อตั้งซานเรือกรุ๊ปมาด้วยตัวเอง มองดูมันค่อย ๆ เติบโตขึ้นทีละก้าว ๆ มันเป็นเหมือนลูกของฉัน ฉันจะต้องแย่งมัน กลับมาแน่ หลายปีมานี้ฉันทำเพื่อตระกูลมามากมายขนาดนั้น กลับโดนพวกเขาเหยียดหยามทุกทาง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าใจ ฉันไม่ยินยอมละก็ ฉันไปจากตระกูลฉินนานแล้ว

ฉันพูดด้วยดวงตาแดง ๆ ทั้งคู่ สายตาเต็มไปด้วยความสิ้น

หวังต่อตระกูลฉิน

“ขอเพียงเธอยินยอม อย่าว่าแต่ตระกูลฉินจิ๊บจ้อยนั้นเลยต่อให้เป็นโลกทั้งใบ ขอเพียงเธอต้องการฉันก็ให้เธอได้” หยาง เงินสีหน้าจริงจัง

ฉันได้ยินคำนี้ ความผิดหวังบนใบหน้ายิ่งเข้มข้นขึ้น พูด ด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “นายรู้ไหมว่าชีวิตนี้ฉันเกลียดคนแบบ ไหนที่สุด?”

โดยไม่รอให้หยางเฉินตอบสนอง ฉันก็พูดต่อ “ก็คือคน หลอกลวง! คนที่ฉันรักไม่ต้องเป็นยอดวีรบุรุษก็ได้ แต่ต้องเป็น คนที่ซื่อตรง เป็นผู้ชายที่เด็ดเดี่ยว

เธอพูดจบก็เดินโซเซจากไป

มองส่งฉิน ตลอดจนเงาร่างของเธอหายไปจากระยะสายตา ของเขา หยางเฉิน โทรศัพท์ออกไปสายหนึ่ง “ฉันต้องการให้นาย เอาซานเหอกรุ๊ปมาให้ได้ภายในสามวัน ห้ามใช้เงินแม้แต่แดง เดียว!”

“ครับ ท่านประธาน!”

ทำงานท่านประธานชั้นบนสุดของชานเรือกรุ๊ป ห้อง

นายท่านฉินจัดการเรื่องราวอย่างรวดเร็วเฉียบขาด ตอนเช้า ประกาศอย่างเป็นทางการว่าฉันเฟยรับตำแหน่งประธาน ๆ ตอน บ่ายหนังสือแต่งตั้งอย่างเป็นทางการก็ถูกส่งไปยังทุก ๆ แผนก

นายท่านฉันมองดูฉันเฟยที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตน สีหน้าฟัง พอใจ “เสี่ยวเฟย ปู่เยาตำแหน่งประธานส่งต่อให้เจ้าแล้ว และก็ถือเป็นบททดสอบหนึ่งก่อนที่เจ้าจะสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล เจ้าจะต้องรักษามันไว้ให้ดี ๆ นะ”

ได้ยินคำว่าตำแหน่งผู้นำตระกูล ในใจของฉันเฟยก็ดีใจจน แทบบ้า แต่ท่าทางภายนอกกลับแสดงออกเหมือนได้รับความ ชอบจากผู้ใหญ่ “ท่าน ท่านวางใจได้ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิด หวังอย่างแน่นอนครับ!”

นายท่านฉันพยักหน้าน้อย ๆ พอนึกถึงคนอีกคนหนึ่ง เขาก็ ถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วพูดว่า “ก่อนที่เจ้าจะสืบทอดตำแหน่ง ผู้นำตระกูล ปู่จะหาโอกาสขับไล่ฉันออกจากตระกูล

ฉันเฟยยิ้มอย่างจองหอง “ท่าน ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกดู หมิ่นเท่านั้นเอง เธอจะยังสามารถก่อเรื่องอะไรได้อีกอย่างนั้น เขียวหรือ?”

“อย่าดูถูกเธอเชียว เธอสามารถใช้เวลาช่วงมหาวิทยาลัย

ก่อนตั้งซานเรือกรุ๊ปขึ้นมา จะไร้ความสามารถได้อย่างไรกัน? ถ้า หากเจ้ากล้าดูถูกเธอ ช้าเร็วก็ต้องพลาดท่าเสียทีแน่” นายท่าน ฉันมีท่าทีร้อนรนอยากจะให้หลานชายปฏิบัติตามคำสอน

ฉันเฟยมองท่าทีไม่สบอารมณ์ของนายท่านฉินออก เขาจึง รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ท่านสั่งสอนได้ดี ผมจะไม่ประมาทศัตรู แน่นอนครับ”

ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของสำนักงานก็ส่งเสียงดังขึ้นมาใน

นายท่านฉันมองฉันเฟย “หนังสือแต่งตั้งประธานส่งไปถึงทุก

ทันทีแผนกแล้ว ตอนนี้ภาระหน้าที่ทุกอย่างในบริษัทขึ้นอยู่กับการ บริหารจัดการของเจ้าแล้ว

ฉันเฟยรีบรับโทรศัพท์ในทันที เขาได้ฟังเพียงไม่กี่ประโยค สีหน้าก็เปลี่ยนอย่างรุนแรงในฉับพลัน เหงื่อเม็ดโตบนหน้าผาก ไหลลงมาไม่ขาดสาย

“พลั่ก!”

วางสายโทรศัพท์แล้ว ฉินเฟยก็นั่งชาไปทั้งตัวอยู่บนเก้าอี้

สํานักงาน

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

นายท่านฉินเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีอย่างมากขึ้นมาในฉับพลัน

ใบหน้าของฉันเฟยขาวซีด “ทีมกฎหมายของเยี่ยนเงินกรุ๊ป

โทรศัพท์มา บอกว่าจะยกเลิกสัญญากับพวกเราครับ”

“อะไรนะ?”

นายท่านฉินก็ตกใจจนหน้าถอดสี

“ไม่เพียงเท่านี้ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปยังบอกว่าพวกเราผิดสัญญา จะให้พวกเราชดใช้ค่าปรับราคาแพง ฉันเฟยพูดอีก

ถึงแม้ว่าจะเป็นนายท่านฉิน แต่ในตอนนี้ก็หวาดกลัวจนแตก ตื่นไม่แพ้กัน สีหน้าขาวซีดจนถึงขีดสุด ร่างกายโงนเงนเหมือนจะ ทรุดลงไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ