The king of War

บทที่226ลูกพี่ลูกน้องที่ร้ายกาจ



บทที่226ลูกพี่ลูกน้องที่ร้ายกาจ

“คุณสามี ฉันว่านี่ก็ดึกพอสมควรแล้ว นายไปส่งฉันก่อนดี ไหม” เธอเห็นสถานการณ์ระหว่างเฉินอิงเหากับหยางเฉินไม่ค่อยดี

ฉินซีจึงเอ่ยขึ้นอย่างกังวล

ถึงแม้หยางเฉินจะไม่กลัวสักนิด แต่เขาไม่อยากให้ฉันกลัว เลยพยักหน้า “โอเค! ผมจะไปส่งคุณ!

“ไอ้เวร! มาอวดดีแล้วจะไปงั้นเหรอ ถามพี่เหาหรือยังว่า ให้แก ไปไหม”

หยางเฉินกับฉินซีเพิ่งลุกขึ้น หวังรีบลุกขึ้นไปขวางพวกเขาไว้

ครั้งนี้เฉินอิงเหาไม่รั้งหวัง เขายังไม่ได้ตัวฉัน จะปล่อยฉัน

กับหยางเฉินไปง่ายๆ ได้อย่างไร

เจิ้งเหม่ยหลิงแสยะยิ้มและพูดว่า “หยางเฉิน ฉันแนะนำให้ นายคุกเข่าขอโทษพี่เหา ไม่แน่พี่เหาอาจจะเห็นแก่หน้าของพี่ฉิน ซี แล้วปล่อยนายไป ไม่งั้น นายอย่าหวังว่าจะได้ออกจากที่นี่ เลย!”

“เหม่ยหลิง ทำไมถึงทำกับพี่เขยของเธอแบบนี้”

ฉินซีมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ เธอหันไปตำหนิเจิ้งเหม่ยหลิง

ถึงเธอจะรู้ว่าเจิ้งเหม่ยหลิงไม่ถูกกับหยางเฉิน แต่เธอคิดไม่ถึงคุกเข่าขอโทษอีก

“ฉันพูดแบบไม่ปิดบังเลยฉันจัดอาหารนี้ เพราะเหา ฉันอยากคู่ควรกับเลย

เจิ้งเหม่ยหลิงไม่ปิดบังอีกต่อไป เธอหัวเราะแล้วพูด“เป็นมา ยอมให้เป็นคนรักของเขา ต่อไปถ้าเขาได้เป็นตระกูล รับรองเขาต้องตอบแทนพี่แน่นอน!

สีหน้าของเต็มไปด้วยความตกตะลึง เธอพอรับกับ ประโยคทำให้สงสัยว่าตัวเองหูฝาดหรือเปล่า

ลูกลูกน้องตามตูดเธอต้อยตั้งแต่เด็ก มาว่าเธอเป็น

ของมือสอง แถมยังให้เธอเป็น

เจิ้งเหม่ยหลิง ไหมกำลังพูดอะไร

ฉินซีตาแดงและกัดฟันถามขึ้น

อยู่

เจิ้งเหม่ยหลิงแสยะยิ้ม พอฉัน เถอะ คืนนอนเขาสักคืน พรุ่งนี้เช้ามีค้ามากมาย เป็นฝ่ายเข้าคุยธุรกิจกับพี่

ในที่สุดฉินซีก็ตระหนักอย่างถ่องแท้ เจิ้งเหม่ยหลิงกำลังจะขายเธอให้คนอื่น

เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอแตกสลาย

ก่อนหน้านี้เธอดีกับเจิ้งเหม่ยหลิงมาก ตอนที่เจิ้งเหม่ยหลิง

เรียนมหาวิทยาลัย เธอยังให้เงินใช้บ่อยๆ ตอนที่บริษัทของเจิ้งเหม่ยหลิงประสบปัญหาหนัก เธอก็ยื่นมือ

เข้าไปช่วย

แต่ทว่าวันนี้ ลูกพี่ลูกน้องที่เธอเคยช่วยเหลือ กลับดูหมิ่นว่าเธอ เป็นสินค้ามือสอง แถมยังจะส่งเธอไปนอนกับคนอื่น

เฉินอิงเหาไม่ได้พูดห้าม ตอนนี้มีความร้ายกาจปรากฏขึ้นบน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความได้ใจ

เดิมทีเจิ้งเหม่ยหลิงวางแผนกับเขาว่าจะมอมเหล้าฉินซี จากนั้น

เจิ้งเหม่ยหลิงจะพาฉันไปที่เตียงของเฉินอิงเหา

แต่ทว่าหยางเฉินไม่หลงกล เขาไม่แตะเหล้าสักนิด แถมยังไม่ ให้ฉิน ดื่มเหล้าอีกด้วย

ตอนนี้ทั้งสองคนจะกลับแล้ว ทำให้เจิ้งเหม่ยหลิงร้อนใจ จน เผยธาตุแท้ออกมาต่อหน้าของทุกคน

ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ หยางเฉินยังคงนิ่งดุจสายน้ำ แต่ทว่า แววตาของเขาลุ่มลึก มีลูกไฟดวงเล็กสุ่มอยู่ในตา มันสามารถ ระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

“มองอะไร รีบคุกเข่าสิ ไม่งั้นอย่าว่าพี่เหาโหดเหี้ยมก็แล้วกันเขาไม่เกรงใจนายแน่!

เห็นหยางเฉินมองตัวเอง เจิ้งเหม่ยหลิงอดตื่นตระหนกไม่ได้

เธอรีบตวาดใส่หยางเฉิน เพื่อผ่อนคลายความตื่นตระหนกของ ตัวเอง หยางเฉินไม่สนใจ สายตาของเขามองไปที่เฉินอิงเหา “แน่ใจ

เหรอว่าจะให้เราอยู่ที่นี่ต่อ

“เหม่ยหลิงเป็นคนเชิญมาทานข้าว ยังไงก็ต้องทำตามที่เธอ บอก!”

เฉินอิงเหายกยิ้มมุมปาก

ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ แต่เขาก็ยังไม่เผยธาตุแท้ของ ตัวเอง ให้ทุกคนเห็น เขาต้องรักษาความเป็นสุภาพบุรุษเอาไว้

“แปะๆๆ!”

เขาพูดจบ จู่ๆ ก็ตบมือ

จู่ๆ ประตูห้องอาหารถูกเปิดออก ชายร่างกำยำสองคนเดินเข้า มายืนข้างหลังเฉินอิงเหา พวกเขามองหยางเฉินด้วยแววตาเย็น ยะเยือก

เมื่อกี้ เฉินอิงเหาเรียกบอดี้การ์ดมานั่นเอง

รอยฝ่ามือของหยางเฉิน ที่ประทับบนโต๊ะทำให้เขาตกตะลึง มาก

เมื่อมีบอดี้การ์ดของตระกูลเฉิน เขาก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
สําหรับเขา ตอนนี้หยางเฉินเหมือนปลาที่อยู่บนเขียง รอให้ เขาเชือดเท่านั้น

“ไอ้ฉิบหาย! แกขัดหูขัดตาฉันตั้งนานแล้ว รีบขอโทษพี่เราซะ ไม่งั้นฉันจะลงมือจัดการแกเอง!” “รีบคุกเข่าขอโทษซะไอ้โง่ ไม่แน่ถ้าพี่เหาอารมณ์ดี เขาอาจจะ

ไว้ชีวิตแกก็ได้!”

“เมื่อกี้เก่งนักไม่ใช่เหรอ เก่งต่อ ดูสิว่า ใครใหญ่”

จู่ๆ ทุกคนพากันก่นด่าหยางเฉิน และพากันอวดดีเป็นอย่าง

มาก

ฉินซีทั้งกลัวและตกใจ ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจมาก เสียใจที่ผู้

หญิงแบบเจิ้งเหม่ยหลิง ถึงขนาดต้องขายลูกพี่ลูกน้อง เพื่อผล

ประโยชน์ของตัวเอง

เจิ้งเหม่ยหลิงนั่งข้างเฉินอิงเหา สีหน้าของเธอดูได้ใจ เมื่อมี บอดี้การ์ดของเฉินอิงเหา เธอจึงกร่างได้เต็มที่

“หยางเฉิน ตอนนี้รู้หรือยังว่าพี่เราเก่งแค่ไหน ถ้ารู้ว่าอะไรเป็น อะไร ก็รีบตอบตกลงว่าจะมอบพี่ฉินซีให้พี่เขา

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดอย่างเยาะเย้ย

“หุบปาก!”

ฉันพูดอย่างโมโห อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ เธอไม่มีสิทธิ์นั้น!”
“ฮ่าๆ ฉัน เธออย่ามาอวดดีกับฉัน เมื่อกี้พี่เหาบอกแล้ว นี่คือ มื้ออาหารที่ฉันจัดขึ้น ต้องฟังคำพูดของฉัน

เจิ้งเหม่ยหลิงหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น “ถ้าเธอยังกล้าพูดไร้สาระอีก ประโยคเดียว ฉันจะให้คนจัดการกับสามีกากเดนของเธอ เธอ เชื่อฉันหรือเปล่า”

“เสี่ยวซี!”

ฉันกำลังจะพูด แต่โดนหยางเฉินเรียกเอาไว้ก่อน

เธอมองหยางเฉินด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษนะ ฉันก็ไม่รู้ เหมือนกันว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้!

หยางเฉินยิ้มบางๆ และส่ายหน้า มือทั้งสองข้างจับไหล่ของฉัน ซี และพูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนว่า

“อย่าลืมสิ ผมเคยสัญญากับคุณ ผมจะไม่ให้คุณเป็นอันตราย แม้แต่น้อย ถ้าผมเป็นอะไรไป แล้วจะปกป้องคุณได้ยังไงล่ะ สําหรับผมแล้ว คนพวกนั้นแค่ตัวตลกเท่านั้น ทำไมต้องกลัวด้วย

เมื่อสัมผัสถึงความแข็งแกร่งที่แผ่ออกจากตัวหยางเฉิน ความ

กังวลเมื่อครู่ของฉินซี หายวับไปในพริบตา

จู่ๆ เธอก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ขอแค่มีหยางเฉินอยู่ข้างกาย ถึงฟ้าจะถล่มลงมา เธอก็จะไม่เป็นอะไร

“หยางเฉิน นายอวดดีเกินไปจริงๆ!”

เจิ้งเหม่ยหลิงตวาดออกมา เธอเอ่ยปากสั่งบอดี้การ์ดของเฉินอิงเหาทั้งสองคน “จัดการมันซะ!”

ขณะที่บอดี้การ์ดทั้งสองคน กำลังจะพุ่งเข้าไปหาหยางเฉิน จู่ๆ ประตูห้องอาหารถูกเปิดออกอย่างแรง

วินาทีต่อมา คนจำนวนมากกรูเข้ามาในห้องอาหาร คนที่ยืนอยู่ข้างหน้า คือวัยรุ่นขี้เมาที่โดนพวกเขาจัดการ “พ่อ ไอ้เวรพวกนี้มันทำร้ายผม แถมยังพูดว่าจะฆ่าผมด้วย! เงินไปที่พวกเฉินอิงเหา และพูดออกมาด้วยความโมโห


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ