The king of War

บทที่ 342 ภรรยาหึงหวง



บทที่ 342 ภรรยาหึงหวง

ตอนที่หยางเฉินคาดเดาจุดมุ่งหมายของตระกูลเมิ่งอยู่ มือถือ ของเขาด้งขึ้นมาแล้ว เป็นอ้ายหลินโทรศัพท์เข้ามา

“พี่เฉิน หวงอันตายแล้วนะ!”

หยางเฉินพึ่งรับสาย เสียงที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมของ อ้ายหลินดังขึ้นฉับพลัน “ข่าวลือว่าหวงจงพ่อของหวงอัน ไปที่ ตระกูลเมิ่งของเมืองเอกแล้วด้วย”

หลังจากได้ยิน หยางเฉินบิดคิ้วขึ้นมาแล้ว

เมื่อวานตอนบ่าย เขาพึ่งเจอกับหวงอันมาเอง

ถ้าไม่ใช่ฉินห้ามปราม บางทีหวงอันคงตายอยู่ในมือของเขา

ไปแล้ว

หวงอันก็ยังตายจริงๆ ด้วย เรื่องนี้มีเงื่อนงำเป็นแน่

“ได้ ฉันรู้แล้ว”

หยางเฉินพูดจาแบบเรียบนิ่ง

อ้ายหลินเพียงแค่แจ้งให้ทราบไว้หน่อย จากนั้นวางสาย

โทรศัพท์แล้ว

เธอย่อมจะไม่สงสัยเป็นธรรมดาว่าการตายของหวงอันมีส่วน เกี่ยวข้องกับหยางเฉิน
ตามมาด้วยมือถือของหยางเฉินดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นกวนเจิ้งซานโทรมา

“คุณหยางครับ วันมะรืนนี้ ตระกูลเพิ่งจะจัดประชุมแลกเปลี่ยน ธุรกิจที่สามปีมีครั้ง ในเมืองเอก ผมกับหวังเวียง ยังมีเฉินซึ่งไม่ ล้วนได้รับบัตรเชิญมา ท่านล่ะครับ?”

กวนเจิ้งซานเอ่ยปากสอบถาม

หยางเฉินตอบว่า “ได้รับมาแล้ว”

“ผมมีความรู้สึกว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้ พุ่งเป้ามาที่ พวกเราครับ” กวนเจิ้งซานพูดด้วยเสียงทุ้ม

“หม? ยังไงกัน?” หยางเฉินถามอย่างสงสัย

กวนเจิ้งซานตอบว่า “การประชุมแลกเปลี่ยนธุรกิจของเจียงผึ้ง ทุกสามปีจัดขึ้นหนึ่งครั้ง โดยให้แต่ละตระกูลใหญ่ในมณฑล เจียงผิงจะวนกันจัดงาน การประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ เดิมทีถึง ตาของตระกูลเฝิงแห่งเมืองจีนเหอแล้ว โดยเฉพาะเวลาก็ยังมาไม่ ถึง ตระกูลเพิ่งกลับส่งบัตรเชิญมาก่อนแล้ว”

“นี่อธิบายได้เพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือว่าตระกูลเชิงบากหน้าไป พึ่งพาตระกูลเมิ่ง จากนั้นนำสิทธิ์การจัดประชุมแลกเปลี่ยนของ ครั้งนี้ มอบให้ตระกูลเพิ่งเรียบร้อยแล้ว”

“หลายวันก่อน พวกเราพึ่งไปที่ตระกูลเพิ่งมา การตายของเพิ่ง เทียนเจียวและเมิ่งฮุย ถึงแม้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับท่านโดยตรง แต่ก็ เกี่ยวกับท่านอยู่ดี”
“ว่ากันตามเหตุผล ตระกูลเพิ่งน่าจะกำลังอยู่ในความโศกเศร้า แต่มาจัดประชุมแลกเปลี่ยนล่วงหน้าแบบกะทันหัน ก็ผิดปกติใน ตัวมันเองอยู่แล้วครับ”

กวนเจิ้งซานพูดการคาดเดาของตนเองออกมาแล้ว ความจริง เขายังมีการคาดเดาที่ใหญ่ยิ่งกว่านี้ เพียงแต่ไม่มีหลักฐาน เขาจึง ไม่กล้าพูดมั่วซั่ว

หยางเฉินไม่ได้ว่าอะไร หลังเงียบอยู่สักครู่หนึ่ง ก็หัวเราะอย่าง เหยียดหยาม “ไม่ว่าตระกูลเพิ่งจะพุ่งเป้ามาที่ผมหรือไม่ ในเมื่อ คือการประชุมที่สามปีมีครั้งหนึ่งของเจียงผิง ผมย่อมขาดไม่ได้ เด็ดขาด”

“คุณหยางครับ ผมคิดว่าเพื่อความปลอดภัยในชีวิตแล้ว ท่าน อย่าเข้าร่วมจะดีกว่าครับ” กวนเจิ้งซานพูดแบบกังวลใจอยู่บ้าง “วางใจได้ ถ้าตระกูลเมิ่งกระจอกๆ ยังจัดการไม่ได้ ผมยังจะ

กล้าพาพวกคุณสร้างยุคที่เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไรกัน?”

น้ำเสียงของหยางเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจ และเหยียด หยามต่อตระกูลเพิ่งด้วย

พอได้ยิน กวนเจิ้งซานไม่พูดโน้มน้าวอีกต่อไป ภายในใจกลับ แอบเฝ้าปรารถนาอยู่บ้าง

เขานึกขึ้นได้ฉับพลัน ในงานเลี้ยงอายุเจ็ดสิบปีของเขา ชาย กํายำที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าร้อยคนมาเยือนตระกูลกวนอย่าง กะทันหัน นำตัวของญาติพี่น้องตระกูลไปทั้งหมด
แต่ต่อมา พอหยางเฉินพูดคำเดียว ก็มอบอิสรภาพของทุกคน ตระกูลกวนดังเดิม

นึกถึงจุดนี้ กวนเจิ้งซานรีบแสดงท่าทีออกมา “ในเมื่อท่าน อยากไปเข้าร่วมที่ตระกูลเพิ่งด้วยตนเอง งั้นผมจะไปด้วยกันกับ ท่านสักหนครับ! รอให้เรื่องนี้เรียบร้อย ถึงตาที่ผมจะได้ดื่มกับ ช่วงเวลาความสุขของครอบครัวแล้วครับ ฮ่าๆๆๆ…….

ปัจจุบันนี้ กวนเจิ้งซานมอบหมายตำแหน่งผู้นำให้รุ่นหลาน กวนเสวซงแล้ว แต่งานของตระกูลเพิ่งครั้งนี้ เขารู้ว่าสำคัญอย่าง มาก และสามารถเปลี่ยนแปลงคณะตัวแทนในอนาคตของ ตระกูลกวนได้เลย เขาจึงจำเป็นต้องไปด้วยตนเองสักเที่ยว

หลังจากนั้นเฉินซิงไห่และหวังเฉียงก็ทยอยโทรศัพท์เข้ามาหา แล้ว ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน นั่นคือการประชุมแลกเปลี่ยนธุรกิจ

หลังจากที่รู้ว่าหยางเฉินอยากไปที่ตระกูลเพิ่งด้วยตนเอง เฉิน ชิงไห่และหวังเฉียง ล้วนแสดงท่าที่จะตามติดหยางเฉินไปด้วยไม่

ห่าง

“หยางเฉิน ผู้นำเฉินที่ลูกพูดถึงเมื่อกี้ คือเฉินชิงไห่ของเมืองโจ วเฉิงเหรอ?”

เห็นหยางเฉินวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉันต้าหย่งถามด้วย ท่าทางตกใจ

“เขาเองครับ!”

หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย
เมื่อสักครู่ตอนที่เขารับโทรศัพท์ ไม่ได้หลบซ่อนฉันต้าหย่ง ดัง นั้นเนื้อหาบทสนทนาของเขา ฉินต้าหย่งล้วนได้ยินทั้งหมดแล้ว

อิทธิพลที่เขาควบคุมไว้ในมือนับวันยิ่งใหญ่โตขึ้น คนข้างกาย

ที่สามารถเชื่อใจได้นับวันยิ่งหายลงไปอย่างรวดเร็ว

ฉันต้าหย่งเป็นพ่อตาของเขา ถ้ายินยอมช่วยเหลือตนเอง นั่น คงเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว

วันนั้นที่หยางเฉินวางแผน ตอนหลอกโจวยและเพิ่งเทียน เจียวไปที่ตระกูลกวน กวนเจิ้งซานและหวังเฉียงออกหน้าด้วย ตนเอง ฉันต้าหย่งก็รับรู้ว่าตระกูลกวนและเมืองคง ล้วนยอมอยู่ ใต้อำนาจของหยางเฉินแล้ว

กลับไม่รู้ว่าแม้แต่ตระกูลเฉินแห่งเมืองโจวเฉิง ยังเคารพ นบนอบต่อหยางเฉินเช่นนี้

หลังจากที่ตระกูลเฉินกลายเป็นมหาอำนาจของเมืองโจวเฉิง ตำแหน่งของตระกูลเฉินที่มณฑลเจียงผิง เกินกว่าตระกูลกวนไป ตั้งนานแล้ว

แค่คิดก็รู้ถึงความตื่นตกใจของฉันต้าหย่ง ในเวลานี้ได้

“พ่อครับ เรื่องของผม พ่อรู้มาประมาณหนึ่งแล้ว แต่ผมยัง อยากบอกพ่ออีกว่าที่พ่อเห็นมาทั้งหมดในตอนนี้ ไม่ใช่พลัง ทั้งหมดของผม”

หยางเฉินพูดแบบหน้าตาจริงจัง “ขอแค่ผมยินยอม ต่อให้เป็น แปดตระกูลแห่งเยนตู ก็พังทลายลงในชั่วข้ามคืนได้!”
คําพูดของหยางเฉิน ราวกับฟ้าผ่าลงมาฉับพลัน ระเบิดดังอยู่ ข้างหูของฉันต้าหย่ง

ในสายตาของเขา สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจวยิ่งใหญ่มากแล้ว สำหรับตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก ก็คือยากที่จะเข้าใกล้ได้ ส่วน แปดตระกูลแห่งเยน ก็คือยักษ์ใหญ่เลยทีเดียว

หยางเฉินกลับพูดว่าต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเยนตู เขายังมี ความสามารถพังทลายลงได้หมด

ค่าพูดประโยคนี้พูดออกมาจากในปากของหยางเฉิน และไม่

เหมือนกับการคุยโว

ฉันต้าหย่งเชื่อเช่นกันว่าหยางเฉินจะไม่หลอกตนเอง

“ในเมื่อลูกบอกเรื่องพวกนี้กับพ่อแล้ว งั้นต้องการให้พ่อทำ อะไร สั่งมาได้ทั้งนั้น!

ฉินต้าหย่งเพียงแค่ตกใจอยู่บ้างนิดนึง แต่ไม่นานภายในใจก็ สงบลงมาแล้ว

หยางเฉินหัวเราะเล็กน้อย “คงไม่ถึงกับสั่ง ตอนนี้สิ่งที่พ่อต้อง ทำคือรักษาตัวให้ดี ถือโอกาสใช้ช่วงนี้รักษาตัวให้หาย สามารถ ลองทำความเข้าใจสถานการณ์ที่เยนตูดูสักหน่อย

พอได้ยินดังนั้น ในใจฉันต้าหย่งตกใจ นี่คือหยางเฉันคิดจะ อยากไปเติบโตที่เยนดูแล้วเหรอ?

“ได้!”
จินต้าหย่งไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย รีบรับปากทันที สําหรับเขานั้น หยางเฉินช่วยชีวิตเขามาสองครั้งแล้ว

ครั้งแรกคือตนเองติดการพนันจนเป็นนิสัย หนี้พนันท่วมจนเขา เกือบจะไปถึงขั้นที่ฆ่าตัวตาย เป็นหยางเฉันคิดแผนการ ทําให้ เขาเรียนรู้ความเจ็บปวด ในช่วงที่คนคนหนึ่งสูญเสียทุกอย่างไป ให้เขากลับเนื้อกลับตัวใหม่ และฮึกเหิมมุมานะขึ้นมา

ครั้งที่สองคือโจวซุ่ยจ้างคนร้ายฆ่าเขา ก็เป็นหยางเฉินช่วย ชีวิตเขาแล้ว

สามารถพูดได้ว่าเขาเป็นคนที่ผ่านความเป็นความตายมาส องครั้ง มีอะไรให้หวาดกลัวอีก?

ปฏิกิริยาของฉันต้าหย่ง หยางเฉินพอใจอย่างมาก รอล้วปิง

เอาเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาได้ นั่นคือช่วงเวลาที่ฉันต้าหย่งจะได้แสดง

ฝีมือของตนเอง

แต่ตอนนี้ยังมีเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งต้องทำ นั่นคือการ ประชุมแลกเปลี่ยนธุรกิจของเจียงผิง

ไม่ว่านี่คือแผนร้ายของตระกูลเพิ่งหรือไม่ แต่สำหรับเขาแล้ว กลับเป็นโอกาสอันหนึ่ง

โอกาสในการควบคุมเจียงผิงอันหนึ่ง

ก่อนเข้านอน หยางเฉินได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งอีก “พี่หยาง พรุ่งนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดอายุครบยี่สิบปีของฉัน พี่มาได้หรือเปล่า?”

หลังจากรับสายโทรศัพท์ เสียงที่สดใสซัดแจ๋วเสียงหนึ่งลอย มา ในเสียงเต็มไปด้วยการรอคอย

เป็นหานเฟยเฟยของตระกูลหานแห่งเมืองเอก โทรมา

“พรุ่งนี้เหรอ?”

หยางเฉินมองเสี้ยวเสี้ยวที่หลับปุ๋ยอยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง ลังเล

อยู่บ้าง

พรุ่งนี้คือสุดสัปดาห์ เดิมทีเขากะว่าจะไปคลาสงานอดิเรก เรียนภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนเสี้ยวเสี้ยวด้วยกันกับฉัน

“ถ้าพี่ไม่มีเวลา งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก!”

สัมผัสถึงความลังเลในคำพูดของหยางเฉิน เสียงของหาน เฟยเฟยเห็นได้ชัดผิดหวังอยู่บ้าง

“กี่โมง? จัดที่ไหน?” หยางเฉินถามขึ้น

“พรุ่งนี้ห้าโมงเย็นค่ะ ที่ตระกูลหาน

ได้ยินหยางเฉินถามเรื่องเวลาและสถานที่แล้ว หานเฟยเฟย ดีใจขึ้นมาทันที

“ได้ พรุ่งนี้ตอนเย็น ฉันจะไปที่ตระกูลหานตรงเวลา

ครั้งนี้ หยางเฉินตอบรับแบบสบายใจ เพราะคลาสงานอดิเรก ภาษาอังกฤษของเสี้ยวเสียวคือตอนเช้า
พอดีเลย เขาไปเป็นเพื่อนภรรยาและลูกสาวในช่วงเช้า ช่วง เย็นไปตระกูลหาน

ถือว่าเห็นแก่หน้าของหานเยี่ยวเทียน เขามีความจําเป็นต้อง

ไปเยี่ยมเยือนที่ตระกูลหาน

ยิ่งไปกว่านั้น การประชุมแลกเปลี่ยนธุรกิจของเจียงผิงในวัน มะรืนนี้ เขาต้องการความช่วยเหลือของตระกูลหานด้วย

พิ่งวางสายโทรศัพท์ ก็พบว่าฉันกำลังจ้องตนเองแบบท่าทาง ไม่เป็นมิตร

ทันใดนั้นหยางเฉินมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง หัวเราะเก้อๆ แล้วสารภาพก่อนเอง “เป็นหลานสาวของเจ้าบ้านทาน ทาน เฟยเฟย พรุ่งนี้จะฉลองวันเกิด ก่อนหน้านี้เจ้าบ้านหานเคยช่วย ผมไว้หลายครั้ง ผมอยากไปเยี่ยมเยือนสักหน่อยพอดี

ฉันยังคงไม่พูดอะไร เพียงแค่จ้องหยางเฉินไว้

ในใจหยางเฉินหวาดวิตก รีบพูดว่า “พรุ่งนี้ตอนเช้า ผมจะไป คลาสงานอดิเรกเป็นเพื่อนคุณกับเสี้ยวเลี้ยว ตอนบ่าย พวกเรา ไปตระกูลหานด้วยกัน เป็นยังไง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ