The king of War

บทที่ 375 ไม่ได้หรือ



บทที่ 375 ไม่ได้หรือ

“ดูเหมือนว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะไม่ราบรื่นขนาด นั้นแล้วสิ!”

“แน่นอน ขนาดทายาทผู้สืบสกุลของแปดตระกูลแห่งเย็นตู ยังมาร่วมด้วย มันต้องไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน!

“บางทีการประชุมแลกเปลี่ยนของตระกูลเพิ่งในครั้งนี้ อาจ เล็งเป้าไปที่ตระกูลหนึ่งกับตระกูลหานก็ได้นะ”

ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นต่อกัน และหลายๆ คนก็มองไปที่

ตระกูลหานกับตระกูลหนึ่ง “แต่ก่อนที่จะเริ่มการประชุมแลกเปลี่ยน ผมต้องจัดการเรื่อง

ส่วนตัวของผมก่อน!”

สีหน้าของเมิ่งหงเย่หม่นหมองลง และทันใดนั้น สายตาที่เฉียบ คมของเขาก็มองไปที่กวนเจิ้งซาน

ตามทิศทางที่เพิ่งหงเย่มอง ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าเขากำลังมอง

ใครอยู่ กวนเจิ้งซานเลิกคิ้วและแสดงสีหน้าอย่างเย็นชามาเช่นกัน

เขาคาดการณ์ไว้แต่แรกแล้วว่าการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้จะ ไม่ผ่านไปอย่างราบรื่นแน่นอน มีความเป็นไปได้สูงมากที่อีกฝ่าย จะมาเพื่อหยางเฉิน โดยเฉพาะ
เนื่องจากตระกูลกวนเป็นตระกูลที่ภักดีที่สุดของหยางเฉิน หากเพิ่งหงเขต้องการเล่นงานหยางเฉิน พวกเขาต้องหาวิธีเพื่อ จัดการกับตระกูลกวนก่อนอย่างแน่นอน

หยางเฉินเองก็มองเรื่องนี้ขาดอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงได้แต่มอง เพิ่งหงเย่อย่างนิ่งเฉย และรอดูว่าเพิ่งหงเยจะมาไม้ไหน

“เจ้าบ้านกวนครั้งก่อนที่คุณมาหาเรื่องในบ้านตระกูลเจิ่งของ ผม คุณน่าจะยังไม่ลืมใช่ไหม?

เพิ่งหงเพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่าง

มาก

เพิ่งหงเย่เป็นถึงผู้นำของตระกูลเพิ่ง ไม่มีทางที่เขาจะเอาเรื่องนี้ มาเล่นตลกอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่าตระกูลคนรวยในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่ง จะกล้าไป ท้าทายตระกูลที่ร่ำรวยระดับต้นๆ ของเมืองเอกได้อย่างไร? “เจ้าบ้านเพิ่งพูดเกินเหตุไปไหมครับ ผมก็แค่ไปหาคนที่บ้าน

ตระกูลเมิ่งเท่านั้น”

“แต่แน่นอน ถ้าเจ้าบ้านเพิ่งยืนกรานคิดว่าตระกูลกวนของผม ตั้งใจไปหาคุณ ผมก็จะไม่ว่าอะไร!

“เพราะตระกูลกวนของผม ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!” กวนเจิ้งซานสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงแข็งกร้าว โดยปราศจากความสิ้นหวังและความกลัวจากการตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูล ยักษ์ใหญ่นี้

“เจ้าบ้านกวนยังแข็งข้อไม่เปลี่ยนเลยนะครับ!”

เมิ่งหงเย่หรี่ตาพูดต่อ “แต่ แล้วยังไง?” กวนเจิ้งซานไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองไปที่เพิ่งหงอยู่อย่างเป็น ชาและรอคําพูดต่อไปของเขา

“ไม่ว่ายังไง คุณเป็นคนพาคนของตระกูลกวนไปหาเรื่องที่ตระ กูลเพิ่งของผม เรื่องนี้ คุณต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนให้ผม

เพิ่งหงายเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “ตอนนี้ ผมจะให้คุณสอง ทางเลือก ตัวเลือกแรกคือตระกูลกวนของคุณต้องแตกสลาย! ทางเลือกที่สอง กำไรทั้งหมดของตระกูลกวนของ คุณต้องชดใช้ ให้ตระกูลเมิ่งของผมครึ่งหนึ่ง!

“เหอะ ๆ !”

กวนเจิ้งซานหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “เจ้าบ้านเพิ่งคุณยากไร้ ขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับขอแบ่งกำไรครึ่งหนึ่งของตระกูลกวน ของผม?”

“แล้วแต่คุณจะพูด แต่ตอนนี้ บอกคำตอบที่คุณจะเลือกมา

เมิ่งหงเย่หรี่ตาพูด

“ผมเลือก ทางเลือกที่สาม!

กวนเจิ้งซานพูดอย่างติดตลก
“ทางเลือกที่สาม?”

เพิ่งหงเย่ขมวดคิ้วและจ้องไปที่กวนเจิ้งซานด้วยความโกรธ

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระให้มากไป อยากทำอะไรตระกูลกวนของ ผมก็เชิญเข้ามาเลย!”

กวนเจิ้งซานพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

และคำพูดนี้ทําให้ทุกคนต้องเงียบไป

ในการประชุมแลกเปลี่ยนของตระกูลเพิ่งยังกล้าทำตัว แข็งกร้าวขนาดนี้ กวนเจิ้งซานคนนี้มันเบื่อโลกมากเลยหรือ?

ความคิดเดียวกันนี้ปรากฏขึ้นในหัวของผู้คนที่นับไม่ถ้วน

เพิ่งหงเยถึงกับผงะไป เขาไม่คิดเลยว่าเพิ่งหงเย่จะกล้าต่อกร กับเขาต่อหน้าสาธารณะแบบนี้

“ในเมื่อคุณอยากตายมากนัก งั้นผมขอสมทบให้คุณก็แล้ว

กัน!”

เมิ่งหงเย่พูดอย่างเย็นชา

หวงจงซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งเจ้าภาพได้พักสายตามาตลอด แต่หลัง จากได้ยินคำพูดของกวนเจิ้งซานเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที

หวงเหมยที่นั่งถัดจากหวงจงก็แสดงท่าทีเหมือนดูละครอย่าง

ใจจดใจจ่อ

“ใครก็ได้ มาไล่กวนเจิ้งซานคนนี้ออกไป!
ในขณะที่ทุกคนยังคงสงสัยว่าเพิ่งหงเย็จะจัดการกับกวนเจิ้ง ซานด้วยวิธีไหน ทันใดนั้น เขาก็ตะโกนออกมาและทำให้ทุกคน ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

ทันทีหลังจาก ชายร่างใหญ่นับสิบคนก็เดินเข้ามาล้อมรอบคน ของตระกูลกวนไว้

“เจ้าบ้านเพิ่งคุณจะทำเกินไปไหม?”

และในเวลานี้ เสียงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก็ดังขึ้น

“เฉินชิงไห่?”

เพิ่งหงเข่ขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างไม่พอใจ “ทำไม? ผู้นำเงิน คิดจะเข้าข้างตระกูลกวนแล้วเหรอ?”

“ทําไมครับ ผิดตรงไหน?”

เฉินชิงไห่พูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

“คุณไม่กลัวตระกูลเฉินที่กำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองต้องกลายเป็น อดีตงั้นเหรอ?” เมิ่งหงเพูดจาข่มขู่

ในขณะนั้น บรรยากาศก็เต็มไปด้วยเชื้อเพลิง และดูเหมือนว่า สงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

เหล่าเศรษฐีมากมายที่อยู่ในที่ประชุมต่างก็ตกตะลึงกันหมด

เดิมทีมีเพียงตระกูลกวนที่กล้าต่อกรกับตระกูลเพิ่ง แต่ในตอน นี้ตระกูลเฉินก็เริ่มต่อต้านด้วยแล้ว

สำหรับค่าข่มขู่ของเมิ่งหงเย่นั้น เฉินซิงไห่ไม่ได้รู้สึกกลัวและยังแสดงสีหน้าเรียบเฉย

ทุกคนต่างมองมาที่เขาและอยากรู้ว่าผู้นำของตระกูลที่เพิ่งถูก แต่งตั้งขึ้นใหม่ซึ่งมีอิทธิพลรองลงมาจากสามตระกูลยักษ์ใหญ่ จากเมืองเอกนี้ เขาจะมีท่าทีอย่างไร

ในความคาดหวังของทุกคนนั้น เฉินชิงไห่ค่อยๆ ลุกยืนขึ้นและ หรี่ตามองเมิ่งหงเย่ “คุณกำลังข่มขู่ผมใช่ไหม?”

ในน้ำเสียงของเขามีกลิ่นอายแห่งความอาฆาตปะปนอยู่เล็ก น้อย

เพิ่งหงเย่เลิกคิ้วแล้วจ้องไปที่เฉินซิงไห่และพูดว่า “ถ้าคุณคิด ว่าผมกำลังข่มขู่คุณ มันก็เป็นไปตามนั้น

บูม!

เมื่อประโยคนี้ถูกพูดขึ้น ที่ประชุมก็เงียบลงทันที

เจ้าแห่งยักษ์ใหญ่ของสองตระกูลกำลังจะเผชิญหน้ากันแล้ว แม้ภูมิหลังของตระกูลเฉินจะไม่ดีเท่าตระกูลเมิ่ง แต่ก็ด้อยกว่า เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ถ้าหากสองตระกูลยักษ์ใหญ่นี้ทำสงครามกันจริงๆ เกรงว่า จะไม่มีผลดีต่อใครเลย เพราะตำแหน่งของพวกเขาอาจจะถูก แทนที่โดยตระกูลอื่นก็ได้

“ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอเตือนเจ้าบ้านเพิ่งหน่อย ตระกูลกวนเป็น ตระกูลพี่น้องที่ใกล้ชิดที่สุดของตระกูลเฉินของผม ไม่ว่าใครหน้าไหน ถ้ากล้าแตะต้องตระกูลกวน มันก็จะกลายเป็นศัตรูของตระ กูลเฉินของผมด้วยเช่นกัน!

เฉินซิงไห่หรี่ตาพูด

ผู้คนจากตระกูลอื่นๆ ต่างก็อึ้งกันหมด

ทุกคนรู้ดีถึงความร้ายแรงของเรื่องที่จะเกิดขึ้น แต่ตามเหตุผล แล้ว สองตระกูลใหญ่นี้ไม่ควรที่จะมาต่อกรกันในงานแบบนี้เลย

เพราะคนที่อยู่ที่นี่คือเหล่าเศรษฐีแนวหน้าทั้งหมดของมณฑล เจียงผิง เมื่อไหร่ที่พูดต่อหน้าทุกคน คำพูดนั้นก็จำเป็นต้องเป็นไป ตามนั้น ไม่อย่างนั้นอนาคตจะมีหน้าอยู่ต่อในมณฑลเจียงผึ้งได้ อย่างไร?

“นี่เป็นงานประชุมแลกเปลี่ยนที่ตระกูลเมิ่งของผมเป็นเจ้าภาพ ในเมื่อมีคนคิดจะสร้างปัญหาในงาน ผมก็ทำได้เพียงไล่เขาออก จากงานนี้!”

เมื่อเมิ่งหงเย่พูดจบ เขาก็โบกมือออกคำสั่ง “ไล่คนของตระกูล กวนกับตระกูลเฉินออกไปให้หมด! ถ้าใครกล้าขัดขืน ฆ่ามันทิ้ง

“รับทราบครับ!”

ยอดฝีมือหลายสิบคนของตระกูลเพิ่งขานตอบอย่างพร้อม เพรียงกัน ทำให้ที่ประชุมสนั่นไปด้วยเสียงอันทึกก้อง

ณ เวลานี้ ทุกคนดูตื่นตากันหมด นี่สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ณ หรือ?
เนื่องจากตระกูลมิ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมแลก เปลี่ยนครั้งนี้ ดังนั้นผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของสถานที่ ก็ล้วนเป็นคนของตระกูลเพิ่งทั้งนั้น

ด้วยเหตุนี้ เกรงว่าจะไม่สามารถหยุดยั้งตระกูลเพิ่งได้ ถ้าหาก มีเพียงตระกูลกวนกับตระกูลเฉินเท่านั้นที่ยืนหยัดในการต่อต้าน กับตระกูลเมิ่ง

“เมิ่งหงเย่ คุณคิดว่าคุณใช้มือแค่ข้างเดียวก็สามารถปิดทั่วฟ้า ได้เหรอ?”

ในขณะนี้ คนอีกคนก็ก้าวออกมาแล้วมองไปที่เพิ่งหงเยู่ด้วย ความโกรธ

“หนึ่งในสามตระกูลยักษ์ใหญ่จากเมืองเอก ผู้นำของตระกูล หาน หานเดี่ยวเทียน!!

มีคนอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“ให้ตายสิ! ใครช่วยบอกผมทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

“นี่มันยังใช้การประชุมแลกเปลี่ยนของเมืองเอกอีกเหรอ? ทำไมผมถึงรู้สึกว่าอยู่ในสนามรบเลย?”

“ถ้าหากเป็นแค่ตระกูลเฉินกับตระกูลกวนยังไม่ใช่เรื่องใหญ่ อะไร แต่ถ้าตระกูลหานก็เข้าร่วมด้วยคงสรุปไม่ได้แล้วว่าฝ่าย ไหนจะชนะ!”

“ตระกูลหานเข้าร่วมด้วยแล้วทำไมล่ะ? อย่าลืมสิ เจ้าภาพใน การจัดการประชุมแลกเปลี่ยนครั้งนี้คือใคร!
แต่ในตอนนี้ สีหน้าของหยางเฉินยังคงนิ่งสงบ และดูเหมือน เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนี้เลย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ