The king of War

บทที่202 เจอกันที่สำนักงานเขต



บทที่202 เจอกันที่สำนักงานเขต

“ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว พวกเธอคืนมาสักแดงเดียวหรือ ยัง? เรื่องราวที่โจวซุ่ยแอบทำลับหลังฉันพวกนี้ พวกเธอคิดว่า ฉันไม่รู้จริงเหรอ? ตอนนี้เหยียดหยามฉันก็ว่าไป นึกไม่ถึงยังมา เหยียดหยามลูกเขยฉันอีก”

“ตอนนี้ พวกเธอบอกฉันมาที พวกเธอมีสิทธิ์อะไรมาเหยียด หยามพวกฉันงั้นเหรอ?”

ฉันต้าหย่ง ในเวลานี้ ไฟโกรธเดือดเต็มอก จึงนำเรื่องพวกนั้นที่ โจวซุ่ยแอบทำลับหลังเขา พูดออกมาทั้งหมดแบบไม่เหลือเยื่อ

โจวซุ่ยหน้าตาตกใจ หล่อนคิดมาโดยตลอดว่าฉันต้าหย่ง

ไม่รู้เรื่องพวกนี้ เดิมทีไม่ว่าอะไรเขาล้วนรู้ทั้งนั้น

ฉินซีและฉินไม่ชัดเจนในเรื่องพวกนี้เท่าไร เวลานี้ฉินต้าหย่ง พูดออกมาแล้ว พวกเธอถึงได้รู้

“ฉินต้าหย่ง นายพูดมั่วอะไรกัน? เดิมที่ฉันไม่ได้เอาเงินจาก ชุ่ยมาสักแดงเดียว ยังมีคฤหาสน์สองหลังนี้ด้วย ฉันจ่ายเงินสร้าง เองทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเงินของบ้านนายเลยสักนิด!”

โจวอวี้เจี้ยอับอายจนโมโห โต้ตอบกลับเสียงดัง

เขาเป็นพี่ชายของโจวชุ่ย คือลูกชายของเขาที่พรุ่งนี้จะ แต่งงาน
“ฉินต้าหย่ง คุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย อย่ามาพูดเหลวไหลนะ ฉันเคยไปหาเสี่ยว ขอยืมเงินสามแสนจริง แต่ไม่เคยเอาเงิน สาวฉันมาสักแตงเดียว!

โจวอวี้หรงตะโกนเสียงดังขึ้นมาเช่นกัน พูดโกหกขึ้นมาแบบ หน้าตาเฉยไม่ลนลาน

หล่อนเป็นน้องสาวของโจวซุย ตอนหยางเฉินกลับมาจาก ชายแดนเหนือ เพิ่งกลับมาถึงบ้านเล็กตระกูลฉิน คือโจวอทรง นําทีมเหยียดหยามหยางเฉิน

ฉันต้าหย่งเพียงส่งเสียงหัวเราะเยาะมองทางโจวซุย “มา ตอนนี้เธอบอกต่อหน้าของทุกคนไปสิ บอกพวกเขาว่าคำพูดที่ฉัน เพิ่งพูดไป มีประโยคไหนที่ไม่จริงบ้าง?

เวลานี้โจวยู่ฮุ่ยหวาดผวาแล้ว เรื่องราวที่หล่อนทำเหล่านั้น ฉัน

ต้าหย่งล้วนรู้หมด

“แม่คะ ที่พ่อพูดเป็นความจริงทั้งหมด ถูกหรือเปล่า?”

ฉินยีดวงตาแดงก่ำ จ้องโจวชุ่ยตาไม่กะพริบแล้วสอบถามไป

ฉินซีก็ตาแดงมองทางหล่อนเหมือนกัน ผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอ เรียกว่าแม่มายี่สิบกว่าปี

สองพี่น้องไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้เป็นโจวซุยทำทั้งหมด

ถ้าเป็นตอนที่ในครอบครัวมีสภาพเงื่อนไขดี ขอแค่หล่อนพูด มาคำเดียวว่าอยากให้คุณลุงและคุณน้ายืมเงิน พวกเธอจะไม่ ลังเลใดๆ เลย
แต่ตอนที่โจวชุ่ยทำเรื่องพวกนั้นไป เป็นช่วงที่ในครอบครัว อับจนที่สุด

“ชุ่ย เธอรีบพูดสิ! ฉันกับอทรงไม่เคยยืมเงินเธอมาก่อน เลย”

โจวอวี้เจียรีบเร่ง ให้บอกไป

หน้าโจวซุ่ยเต็มไปด้วยอาการดิ้นรน หล่อนไม่อยากพูดความ จริงออกมา แต่หล่อนรู้ว่าถ้าหล่อนปฏิเสธที่จะพูดความจริง ฉิน ต้าหย่งต้องหย่าขาดกับหล่อนแน่นอน

หล่อนอยู่ที่นั่นของฉันต้าหย่ง ยังตักตวงไม่พอเลย ยังมียอด เมฆาคฤหาสน์ใหญ่ขนาดนั้นอีกหลังหนึ่ง ถ้าหย่าขาดกับฉันต้า หย่งไปแบบนี้ หล่อนคงไม่มีอะไรสักอย่างจริงๆ

ฉินต้าหย่งมองโจวชุ่ยด้วยท่าทางนิ่งสงบ เขารู้ว่าโจวยชัย กำลังคิดอะไร ดังนั้นในใจเขาจึงมีความมั่นใจว่าโจวซุ่ยจะพูด ความจริงออกมา

“โจวซู่ชุ่ย ดีที่สุดแกคิดให้ดีก่อนค่อยตอบ คนตระกูลโจวของ ฉัน ห้ามมาใส่ร้ายกันและกัน!

ในเวลานี้เอง นายท่านตระกูลโจวเอ่ยปากกะทันหัน จ้องโจว ชุ่ยแบบท่าทางเย็นชา

สำหรับเรื่องนั้นที่ฉันต้าหย่งพึ่งพูดเมื่อสักครู่ เขาในฐานะผู้นำ ของตระกูล รู้ชัดเจนดี ตอนนี้ในห้องโถงใหญ่ ไม่เพียงมีคนของตระกูลโจวอยู่ ยังมีญาติพี่น้องตระกูลอื่นด้วย แม้กระทั่งมีคนนอกอยู่บางส่วน

ถ้าโจวยู่ฮุ่ยพูดความจริงออกมา นี่ต้องเป็นความอัปยศอดสู ของทั้งตระกูลโจว

หยางเฉินรู้ว่าโจวชุ่ยทำอะไรไม่มีขอบเขต กลับนึกไม่ถึงว่าจะ ท่าเรื่องเกินเหตุเช่นนี้

เดิมทีที่เขามา นำของขวัญราคาแสนแพงมาให้ญาติแต่ละคน เพื่อรักษาหน้าฉัน เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากตระกูลโจว

ผลปรากฏว่าถูกเข้าใจผิดตั้งแต่ยังไม่พูดอะไร ทว่ากลับเป็น ฉินต้าหย่งเปิดโปงเรื่องฉาวโฉ่บางอย่างของโจวซุ่ยออกมา

“โจวยซุ่ย นายท่านพูดไม่ผิด ดีที่สุดเธอคิดให้ดีก่อนค่อยตอบ ถ้าเธอกล้าพูดความเท็จสักประโยคเดียว มะรืนนี้วันจันทร์ พวก เราเจอกันที่สำนักงานเขต

เวลานี้ฉินต้าหย่งเอ่ยปากพูดขึ้น ท่าทีแน่วแน่ที่สุด เวลานี้ สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของโจวซุยกันไม่ กะพริบ

ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินไม่พูดสักคำ มองทุกอย่างแบบสงบ

การแสดงออกของฉันต้าหย่ง ทำให้เขาพึงพอใจมาก

ไม่ใช่เพราะฉินต้าหย่งช่วยพูดให้เขา แต่เป็นเพราะท่าที่ไม่ ทำตัวต่ำต้อยและไม่โอหังของฉันต้าหญิง
ปัจจุบันนี้เรื่องที่ฉันต้าหย่งเป็นผู้จัดการใหญ่บริษัทวัสดุ ก่อสร้างหลงเหอ เกรงว่าเดิมที่โจวซุยอาจไม่รู้ไม่อย่างนั้นคง ไม่มีท่าทีแบบนี้ต่อฉันต้าหย่งเป็นอันขาด

หยางเฉินให้เขาไปรับหน้าที่ที่บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ เพียงแค่ให้งานชิ้นหนึ่งกับเขา ตอนนี้ดูแล้วอนาคตจําเป็นต้อง มอบตำแหน่งที่สำคัญกว่านี้ให้เขาแล้ว

เวลานี้ โจวซุ่ยหน้าตาดิ้นรนเต็มที่

ด้านหนึ่งคือคนของบ้านพ่อแม่ตนเอง ด้านหนึ่งคือฉันต้าหย่ง สำหรับหล่อนนั้น ต้องสนับสนุนคนบ้านพ่อแม่ตนเองแน่นอน ไม่ อย่างนั้นหล่อนผู้หญิงที่เห็นแก่เงินขนาดนี้ คงไม่แอบฉันต้าหย่ง เอาเงินมากขนาดนั้นมาให้คนบ้านตนเองยืมแบบลับหลังได้

หล่อนรู้ดี ถ้าเกิดเลือกปิดบังความจริง ฉันต้าหญิงจะต้องหย่า ขาดกับหล่อนแน่

“ที่ต้าหย่งพูดมา ล้วนเป็นความจริงทั้งหมด ฉันเคยเอาเงินมา ให้พี่ใหญ่กับน้องยืม รวมทั้งคฤหาสน์สองหลังในลานบ้านแห่งนี้ ก็เป็นฉันออกเงินสร้าง

ลังเลอยู่ตั้งนาน ในที่สุด โจวซุ่ยพูดความจริงออกมาแล้ว

ครืน!

หล่อนพูดเรื่องพวกนี้ออกมา ทั้งหมดในที่นั้นเกิดเสียงฮือฮากัน

เกรียว

คาดไม่ถึงว่าเป็นเรื่องจริง
ฉินซีและฉินทั้งสองคนก็ทำหน้าอึ้งทึ่ง ถึงแม้เมื่อสักครู่จะเดา ความจริงออก แต่ตอนที่โจวซุ่ยยอมรับด้วยปากตนเอง พวก เธอยังยากมากที่จะยอมรับความจริงเรื่องนี้ได้

“แม่ ตอนนั้นบริษัทพี่โดนแย่งไป และคลอดเสี้ยวเสี้ยวอีก ใน บ้านสถานการณ์เป็นยังไง หรือว่าแม่ไม่รู้ชัดเหรอ? นึกไม่ถึงว่า แม่จะแอบพวกเราเอาเงินมากขนาดนั้นออกไปให้ยืม!

ฉันยีตาแดงตะโกนบอก “หนูสงสัยขึ้นมาแล้ว หนูกับพี่ สรุป แล้วใช่ลูกสาวแท้ๆ ของแม่หรือเปล่า!”

โจวซุ่ยสั่นไปทั้งตัว พูดอธิบายด้วยท่าทางสับสน “เสี่ยว พวกลูกเป็นลูกสาวแท้ๆ ของแม่แน่นอน ลูกฟังแม่อธิบายนะ ที่ แม่สร้างคฤหาสน์ไว้ที่นี่ ล้วนเป็นสมบัติที่เหลือไว้ให้พวกลูก สองพี่น้อง คุณตากับคุณลุงของลูกรับปากแม่ไว้นานแล้ว รอพวก เขาจากโลกไป คฤหาสน์นี้จะเหลือไว้ให้พวกลูก?”

“โจวซุ่ย เธอพูดไร้สาระอะไรกัน?

โจวชุ่ยเพิ่งพูดจบ โจวอวี้เจี้ยก็โกรธจัด ตะคอกใส่ “ลูกสาวที่ แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป พ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่ดี เธอ อยากมาแย่งชิงสมบัติแล้วเหรอ?”

“ฉันเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อ คฤหาสน์นี้ อนาคตต้องปล่อย ให้ฉันสืบทอดสิ! ต่อให้ฉันตายไป ยังมีเสียวขายอยู่ จะตกไปถึง ลูกสาวของเธอได้ยังไงกัน!

“อีกอย่างคฤหาสน์สองหลังในลานบ้านนี้ ล้วนเป็นฉันออกเงิน สร้าง ฉันไม่เคยยืมเงินมาจากเธอทางนั้นเลย!”
โจวอ เจียอารมณ์อีกเพิ่มผิดปกติ เดิมที่ไม่ยอมรับ

โจวอวี้หรงพูดตามมาติดๆ “พี่ ทำไมถึงมาใส่ร้ายฉันกับพี่ ใหญ่แบบนี้ได้ล่ะ? ฉันยอมรับว่าไปหาเสียวขอยืมเงินสามแสน จริง แต่ว่าไม่เคยไปขอยืมเงินพี่เลยสักแดงเดียว!”

“หุบปากไปให้หมดเดี๋ยวนี้………………

นายท่านตระกูลโจวที่นั่งอยู่ตำแหน่งหลักใหญ่ ในที่สุด โมโห เดือดดาล ตะโกนขึ้น จากนั้นก็ไออย่างแรง

“พ่อ!”

ชั่วขณะหนึ่งคนของตระกูลโจวตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน รีบล้อม

เข้ามาทันที

“โจวชุ่ย เธอดูว่าตัวเองทำพ่อโกรธจนถึงขนาดไหนแล้ว?”

โจวอวี้เจี้ยถลึงตาใส่โจวซุ่ยพลางพูดขึ้น จากนั้นมองทางฉิน ต้าหย่ง “ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป ฉันตามคิดบัญชีนายไม่เลิกแน่!

ฉันต้าหย่งกำลังอยากโต้เถียง หยางเฉินดึงเขาไว้สักทีโดยฉับ พลัน ส่ายหน้าให้เขาไป

เขาจึงยอมกดไฟ โกรธลงเอาไว้ก่อน

นายท่านตระกูลโจวเพียงแค่โรคหืดกำเริบ ทานยาโดยเฉพาะ แล้ว ไม่นานก็ฟื้นตัวกลับมาสู่สภาพปกติ

“พ่อคะ พ่อไม่เป็นอะไรนะคะ?”

โจวซุ่ยท่าทางประหม่า
นายท่านตระกูลโจวโบกมือ “ต่อไป เรื่องของบ้านแก ฉันจะไม่ ยุ่งอีกแล้ว ผลสุดท้าย พวกแกยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนตา แก่อย่างฉันกลับกลายเป็นศัตรู!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ