The king of War

บทที่ 298 ลงมือด้วยตนเอง



บทที่ 298 ลงมือด้วยตนเอง

“หานเชี่ยวเทียน ฉันไม่สนว่านายกับมันเกี่ยวข้องอะไรกัน และ ไม่อยากรู้ด้วย แต่ที่นี่คือตระกูลเมิ่ง!” เจิ่งหงเย่ตวาดใส่ “ถ้าฉันให้มันเอาหลานชายฉันไปจริง งั้นวัน

หลัง คนอื่นจะมองตระกูลเมิ่งของฉันยังไงกัน?”

“วันนี้ นายกลับพาคนมาที่ตระกูลเพิ่งของฉัน หรือว่าไม่กลัววัน หลังฉันจะพาคนไปที่ตระกูลหานของนายสักที?”

“ฉันเตือนนายนะ ดีที่สุดอย่าได้บุ่มบ่าม เพื่อพวกที่โดนทอดทิ้ง คนหนึ่งแล้ว ไม่คุ้มค่า!

“แน่นอน ถ้านายอยากเปิดศึกกับตระกูลเจิ่งของฉันจริง พวก

ฉันเป็นเพื่อนร่วมสู้ด้วยได้จนจบ!”

วินาทีนี้ เมิ่งหงเยลักษณะท่าทางโหดเหี้ยม แข็งกร้าวไร้ที่ เปรียบ ไม่ยอมถอยสักก้าวเลยทีเดียว

สายตาของทานเซียวเทียนค่อยๆ อึมครึมลงไป “เมิ่งหงเย่ นี่ นายกำลังข่มขู่ฉัน?”

“ถ้านายจะเห็นว่าเป็นการข่มขู่ ก็ไม่เป็นไรนะ!”

เมิ่งหงเย่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

สำหรับสถานะของหยางเฉิน หานเซี่ยวเทียนไม่รู้เลยสักนิด และไม่เคยสอบถามมาก่อนด้วย เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับไมตรีจิตมิตรภาพ รู้เพียงว่าหยางเฉินช่วยชีวิตของตนเองไว้แล้ว งั้นก็คือผู้มีพระคุณของตนเอง

ในเมื่อนายอยากเปิดศึก งั้นฉันจะให้ความร่วมมือ

หานเชี่ยวเทียนไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย เอ่ยปากตอบรับทันที

พอพูดจบ เขาก็โทรศัพท์ต่อหน้าผู้คน “สั่งการลงไป ตระกูล หานรีบเข้าสู่โหมดเตรียมรบแบบเร่งด่วน รอคอยคำสั่งของฉันไว้ ตลอด!”

หานเซียวเทียนเดิมทีเกิดที่ชายแดนเหนือ ถึงแม้จากมาตั้งนาน แล้ว ความสามารถบนตัวก็เลือนหายไปพอสมควร ปัจจุบันนี้ กลับเพื่อหยางเฉินแล้ว ถึงมาสู้รบ

เพียงแค่เพื่อศักดิ์ศรีตนเอง เมื่อสักครู่เมิ่งหงเย่จึงพูดไปแบบ ไม่ทันคิด แต่ว่านึกไม่ถึงว่าหานเดี่ยวเทียนจะตรงไปตรงมาเช่นนี้ บอกว่าเปิดศึกก็เปิดศึก

นี่ทำให้เขารู้สึกถึงแรงกดดันที่เข้มข้นที่สุดเลย ที่เมืองเอก ตระกูลหานและตระกูลเมิ่ง ยังมีตระกูลหนึ่งอีกแห่ง คือ สาม ตระกูลใหญ่”

ระหว่างสองตระกูลใหญ่ไม่ว่าตระกูลไหนก็ตาม ถ้าเปิดศึกขึ้น มา จะต้องทำให้ตระกูลที่สามได้รับผลประโยชน์อย่างหลีกเลี่ยง ไม่ได้

ดังนั้นหลายปีมานี้ สามตระกูลใหญ่จึงอยู่กันอย่างสงบมาโดย ตลอด ถึงแม้จะแอบสู้กันไม่ขาด แต่ว่าไม่เคยปะทะกันซึ่งหน้ามาก่อน

หลายปีมานี้ นี่ยังเป็นครั้งแรก!

ไม่เพียงแค่เพิ่งหงเย่เท่านั้น ยังมีคนอื่นๆ ของตระกูลเมิ่ง ต่างมี

ความรู้สึกเหมือนฝันไป ออกหน้าเพื่อชายหนุ่มคนนั้นยังไม่พอ ยังอยากเปิดศึกด้วย

เพื่อเขาด้วยเหรอ?

หัวใจเฉินซึ่งไห่เต้นรัวตุบๆ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างหาน เซี่ยวเทียนและหยางเฉินนั้น เขารู้ชัดเจนมาก เพียงแค่บุญคุณ ช่วยชีวิตครั้งหนึ่ง

แต่นึกไม่ถึงว่าหานเดี่ยวเทียนเพื่อหยางเฉินแล้ว จะเปิดศึกกับ ตระกูลเมิ่ง

ทั้งตระกูลเมิ่งเงียบงันลงพักหนึ่ง ไม่มีสักคนกล้าส่งเสียงออก

“หานเซียวเทียน นายแน่ใจว่าอยากเปิดศึก?”

เพิ่งหงเยู่กัดฟันถามขึ้น แต่ท่าที่ไม่ได้ดื้อดึงแบบเมื่อสักครู่นี้

แล้ว

“ตอนนี้ไม่ใช่ฉันอยากเปิดศึก แต่เป็นนาย

หานเซี่ยวเทียนพูดจาเผด็จการอย่างยิ่ง “เป็นรุ่นหลานของ นาย ฆ่าแม่ยายของหยางเฉิน หยางเฉินแค่มาแก้แค้นเท่านั้นเอง เป็นนาย ใช้อำนาจรังแกคนอื่น อยากปกป้องรุ่นหลานของนาย!”
“หยางเฉินเป็นผู้มีบุญคุณของฉัน ฉันย่อมอยากออกหน้าเพื่อ เขาเป็นธรรมดา!”

“ขอแค่นายส่งคนออกมาให้ พวกฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้!

เห็นได้ชัดว่าหานเดี่ยวเทียนไม่อยากเปิดศึกเช่นกัน ไม่ว่าเป็น ตระกูลเมิ่งหรือตระกูลหาน ต่างไม่มีทางรับผลสุดท้ายของการ เปิดศึกไหว

แต่ถ้าตระกูลเพิ่งยืนกรานไม่ส่งคนมาให้ เขาก็ไม่กลัวการสู้รบ

หยางเฉินนึกไม่ถึงเลยว่าจะดึงตระกูลหานเข้ามาพัวพันด้วย ปัจจุบันนี้การกระทำทุกอย่างของหานเดี่ยวเทียน ทำให้เขารู้สึก ประทับใจมากจริงๆ

“พี่หยาง พี่วางใจได้เลย มีคุณปู่อยู่ ใครก็มาทำอะไรไม่ได้ ค่ะ!”

หานเฟยเฟยยิ้มกริ่มพูดขึ้น เหมือนไม่ได้รู้สึกถึงสักนิดเดียว ถ้า เกิดเปิดศึกจริง จะส่งผลกระทบต่อตระกูลหานมหาศาล

หยางเฉินหัวเราะแล้ว จากนั้นสายตามองไปทางเมิ่งหงเย่ “เจ้า บ้านเมิ่ง อยากจัดการปัญหาต้องหาคนต้นเรื่อง ผิดแล้วก็ต้อง ชดใช้ หวังว่าคุณจะคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ!”

เดิมทีหยางเฉินอยากพังตระกูลเพิ่งทิ้ง แต่นึกไม่ถึงจะดึงผู้มี อิทธิพลมากขนาดนี้เข้ามาเชื่อมโยงด้วย

ถ้าเกิดลงมือ เกรงว่าเขาคงถูกผลักไปถึงจุดที่อันตรายในชั่ว พริบตาเดียว
หลายปีมานี้ ยกทัพออกศึก เคยล่วงเกินผู้มีอิทธิพลต่าง ประเทศมากเหลือเกิน

ข่าวที่เขาออกมาจากชายแดนเหนือไม่ได้เปิดเผยออกไป ถ้า เกิดถูกอิทธิพลต่างประเทศบางที่พบเข้า เกรงว่าทุกคนที่อยู่รอบ กายของเขา อาจจะต้องเผชิญกับอันตรายใหญ่หลวง

ไม่เพียงแค่นี้ ชายแดนเหนือจะเผชิญหน้ากับวิกฤติเหมือนกัน

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือกเริ่มต้นจากเมืองเจียงโจว

ถ้าไม่ใช่เพื่อประเทศชาติแล้ว ไม่ใช่เพื่อญาติพี่น้องแล้ว เขาคง ไปเยือนเยน โดยตรงแล้ว ตีตระกูลอวี่เหวินให้แตก จะมีอะไร ยากกัน?

ถึงแม้เขาอยากพังตระกูลเพิ่งให้ย่อยยับอย่างไร ก็ไม่สามารถ ใช้วิธีการโอ้อวดแบบนี้ได้

เมิ่งหงเย่ไม่ได้พูดอะไร บนหน้าดูขัดแย้งอยู่บ้างอย่างเห็นได้

ชด

เวลานี้เพิ่งฮุยกลับหวาดผวาแล้ว เขารู้ดีมาก ถ้าถูกส่งตัวออก ไปให้เขาจะต้องเผชิญกับอะไร

“คุณปู่ครับ พวกเขาพุ่งมาที่ตระกูลเพิ่งชัดๆ หากพวกเรา ประนีประนอม ถ้าเกิดแพร่ออกไป ตระกูลเพิ่งจะกลายเป็นตัว ตลกของทั้งเมืองเอกแน่!

หน้าเมิ่งฮุยกังวลเต็มที่ พูดเสียงดัง “คุณปู่ครับ ในเมื่อพวกเขา อยากรบ งั้นพวกเราให้ความร่วมมือด้วยก็ได้! ตระกูลของเมืองโจวเฉิงกับเมืองเจียงโจวกระจอกๆ ไม่กี่ตระกูล ไม่คุ้มค่าให้พูด ถึง?”

“สําหรับตระกูลหาน ผมไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะกล้าเปิดศึก

จริง ต่อให้อยากเปิดศึกจริง ใครจะได้ชัยชนะไป ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ!” “คุณปู่ ตระกูลเมิ่งของพวกเราไม่กลัวการสู้รบใดๆ ในเมื่อ พวกเขาอยากรบ งั้นก็รบเถอะครับ!”

เพิ่งฮุยร้อนใจขึ้นแล้วจริงๆ เร่งรัดเมิ่งหงเย่ให้เปิดศึกสุดฤทธิ์ แต่ทว่าทั้งตระกูลเพิ่งมีเพียงเขาคนเดียวที่อยากรบ ส่วนคน อื่นๆ ไม่มีใครเอ่ยปากสักคน

พวกเขาไม่โง่ เปิดศึกกับตระกูลหาน ถึงเป็นตระกูลเพิ่งได้รับ ชัยชนะ นั่นก็เป็นชัยชนะที่น่าสังเวช

ถึงตอนนั้นที่เสียหายคือผลประโยชน์ของตระกูลเมิ่ง ผล

ประโยชน์ของพวกเขาแต่ละคน

“คุณปู่ครับ หรือว่าท่านก็กลัวตระกูลหานแล้วเหมือนกัน? หรือ ว่าจิตใจแข็งแกร่งของตระกูลเมิ่งของพวกเราไม่มีแล้ว?” เมิ่งฮุย พูดต่อไป

“โอหัง!”

เพิ่งหงเย่พลิกฝ่ามือตบไป ตบลงบนหน้าของเมิ่งฮุยอย่างแรง จากนั้นตะคอกใส่ “นี่ไม่ใช่เป็นเรื่องโง่ๆ ที่แกทำหรือไง?

“ดูแล้วหลายปีนี้เป็นฉันให้ท้ายแกเกินไป ถึงทำให้นับวันแกยิ่งกำเริบเสืบสาน!”

“วันนี้เป็นต้นไป ถอนอำนาจทุกอย่างของแก ห้ามแกออกไป ไหนหนึ่งปี ห้ามก้าวออกจากคฤหาสน์สักก้าว!”

ในที่สุดเมิ่งหงเย่ตัดสินใจเรียบร้อย เขายังต้องปกป้องเมิ่งฮุย

เพิ่งฮุยเป็นรุ่นหลานที่เขาให้ความสำคัญอย่างมาก แต่เปรียบ เทียบกับอนาคตของตระกูลเมิ่งแล้ว เมิ่งฮุยคนเดียว และไม่ใช่ไม่ สามารถแทนที่ได้!

ต่อให้เพิ่งฮุยตายไป ก็จะมีคุณชายเมิ่งคนที่สองปรากฏตัวขึ้น

แต่ถ้ามอบเพิ่งฮุยออกไปให้จริง วันหลัง ตระกูลเพิ่งก็คงเป็น

ตัวตลก เกรงว่าผู้มีอิทธิพลที่ติดตามตระกูลเพิ่งเหล่านั้น คงถือ โอกาสทรยศเข้าข้างอีกฝ่ายไปด้วย

“ขอบคุณครับคุณปู่! ขอบคุณมากครับคุณ! ผมรับรอง

ภายในหนึ่งปีต่อไปนี้ จะไม่ออกจากตระกูลเพิ่งสักก้าวเด็ดขาด

ครับ!”

เพิ่งฮุยตะลึงอยู่ตั้งนาน ชั่วขณะนั้นหน้าตาดีอกดีใจเต็มที่

“เมิ่งหงเย่ นายแน่ใจว่าจะเลือกแบบนี้?” หานเดี่ยวเทียนสีห น้าค่อยๆ อึมครึมถึงขีดสุดแล้ว

“หานเยี่ยวเทียน อยากเอาชีวิตของหลานชายฉัน เป็นไปไม่ได้ เด็ดขาด!!

เมิ่งหงเย่พูดแบบหน้าตานิ่งเฉย “สำหรับความผิดที่เขาก่อ ฉันสามารถให้เขาขอโทษได้ ตระกูลเม็งจะชดเชยให้อย่างเหมาะสม ด้วย”

*ขอโทษ? ชดเชย?”

หยางเงินท่าทางเย้ยหยัน ส่ายหน้าแล้ว ทันใดนั้นก้าวเท้าเดิน ไปทางเมิ่งฮุย เดินไปพลางเอ่ยปากบอกว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันจะลงมือด้วยตัวเอง!

หยางเฉิน โกรธเคืองจริงๆ แล้ว เดิมทีเขายังอยากพังตระกูล เพิ่งให้พินาศ แต่เพราะด้วยสาเหตุบางอย่าง เขาจึงเลือกที่จะ ปล่อยตระกูลเมิ่ง ให้รอดตัวไป

แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลเพิ่งจะไม่รู้จักดีชั่วเช่นนี้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นอย่างน้อยต้องให้เพิ่งฮุยได้ชดใช้ล่ะมั้ง? “หยางเฉิน อย่าวู่วาม

หานเดี่ยวเทียนรีบเข้ามา คว้าหยางเฉินเอาไว้ ส่งสัญญาณทาง สายตาให้นิดหน่อย

หยางเฉินหัวเราะเล็กน้อย ส่ายหน้าแล้ว “เจ้าบ้านหาน วันนี้ คุณมาได้ ผมรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก ส่วนที่เหลือ ให้ผมมาจัดการ เอง!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ