The king of War

บทที่ 340 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว



บทที่ 340 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ในขณะเดียวกัน ที่เมืองเอก

สนามบินนานาชาติ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง747ล่าหนึ่งค่อยๆ ลงจอด

ชายวัยกลางคนที่หน้าเหลี่ยมคนหนึ่ง ค่อยๆ เดินออกมา ด้าน หลังเขายังมีบอดี้การ์ดที่รูปร่างสูงใหญ่สองคนตามมาด้วย

“พี่ชายคะ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”

ชายวัยกลางคนจึงเดินออกจากสนามบิน หญิงวัยกลางคนที่ สวมกี่เพ้าสีดำชุดหนึ่งรีบร้อนเข้ามา ตาแดงก่ำพูดว่า “เป็นฉันที่ ปกป้องเสี่ยวอันได้ไม่ดี ท่านลงโทษฉันเถอะค่ะ!”

ตอนที่หวงเหมยมองเห็นสองคนด้านหลังของชายวัยกลางคน

หัวใจอดสั่นเทาไม่ได้

เธอรู้ว่าขอเพียงบอกข่าวการตายของหวงอันกับตระกูลหวง ตระกูลหวงต้องส่งผู้แข็งแกร่งเข้ามาทันที

แต่ว่าที่เธอคิดไม่ถึงคือหวงจงจะเข้ามาด้วยตนเองเลย ส่วน สองคนด้านหลังหวงจง เป็นยอดฝีมือชั้นสูงที่แท้จริงของตระกูล หวง

ส่วนหวงจง ก็คือบิดาของหวงอัน

“ท่าน……..ท่านจง!”
เพิ่งหงเย่ยืนอยู่ด้านข้างหวงเหมย พูดจาเสียงสั่นเครือ ก่อนมารับที่สนามบิน หวงเหมยเคยกำซับเมิ่งหงเปถึงสถานะ และตำแหน่งของหวงจงแล้ว

ตระกูลหวงทั้งหมดมีสามฝ่าย แต่ไม่ว่าความสามารถของฝ่าย ไหน ล้วนห้ามดูถูกทั้งนั้น

ถึงแม้ว่าบิดาของหวงเหมยจะเป็นผู้นำตระกูลห่วงคนปัจจุบัน แต่บิดาของหวงจงกลับเป็นพี่ชายแท้ๆ ของผู้นำตระกูลหวง

ส่วนหวงจง ทางฝ่ายหนึ่งนี้ เขาเป็นคนหนึ่งที่ความสามารถ โดยรวมแกร่งที่สุด อนาคต แม้กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าจะ สืบทอดตำแหน่งของผู้นำไป

ดวงตาของหวงจง ราวกับมีดที่คมกริบ ไม่มองเจิ่งหงอยสัก แวบเดียว เพียงแค่จ้องหวงเหมยไว้แล้วถามว่า “ลูกชายฉันหวง อัน สรุปว่าตายยังไงกัน?”

เมื่อคืนนี้ หลังหวงเหมยฆ่าหวงกันด้วยตนเองแล้ว ก็บอกหวง จง ให้รู้ในวินาทีแรก ถึงข่าวที่หวงอันถูกฆ่า เพียงแต่ในสาย โทรศัพท์ ไม่มีทางพูดรายละเอียดได้ชัดเจน

สําหรับวิธีการทํางานที่รวดเร็วและเฉียบขาดของพี่ชายคนนี้ ของตนเอง หวงเหมยยังเข้าใจแจ่มแจ้งอย่างมาก เวลานี้เธอจึง ไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อย รีบบอกทันที “เสี่ยวอันตายด้วยน้ำมือ ของชายหนุ่มที่ชื่อว่าหยางเฉินค่ะ!”

“ว่าตามข้อมูลที่ฉันกุมไว้ตอนนี้ หยางเฉินเป็นพวกถูกทิ้งของตระกูลอวี่เหวิน สิบแปดปีก่อน โดนไล่ออกจากตระกูลมาด้วยกัน กับแม่ของเขา”

“หลายปีมานี้ เขาอยู่ที่เมืองเจียง โจวมาโดยตลอด ประสบการณ์ชีวิตล้วนสามารถมองออกได้

“และเมื่อห้าปีก่อน เขาหายตัวไปกะทันหัน เขาพึ่งกลับมา

ประมาณครึ่งปีก่อน โดยเฉพาะกลับมาพร้อมความสามารถด้วย

“แต่ที่น่าแปลกคือห้าปีที่เขาหายไปนี้ ไปที่ไหนกันแน่ และเกิด เรื่องอะไรกับตัวเขาบ้าง ไม่มีเบาะแสใดๆ เลยค่ะ”

หวงเหมยบอกทุกอย่างที่เธอค้นหามาดี ให้หวงจงรู้ทั้งหมด

เลย

“คนของตระกูลอวี่เหวิน?”

หวงจงทําเสียงพึมพำ ในดวงตาสาดยิงแสงเย็นเฉียบสองดวง ออกมา “ไม่ว่าเขาเป็นใคร ความสามารถแกร่งแค่ไหน แล้วยังไง กัน? กล้าฆ่าลูกชายของหวงจงอย่างฉัน ฉันจะให้เขาตายทั้ง เป็น!”

ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นซา พูดประโยคนี้ออก มา อุณหภูมิโดยรอบเหมือนลดลงมาหลายองศา ต่อให้เป็นห่วง เหมย ยังอดหนาวสั่นไม่ได้เหมือนกัน

เพิ่งหงเย่ยิ่งหน้าตาตกใจกลัวเต็มที่ ถอยหลังไปหลายก้าว โดย จิตใต้สํานึก

เขามีภาพลวงตาอย่างหนึ่ง ถ้าให้หวงจงรู้ความจริงที่หวงอันโดนฆ่าแล้ว ทั้งตระกูลเพิ่งคงถูกบีบให้ตั้งอยู่ในสุสานไปด้วยกัน หมด

แต่เวลานี้ เขายืนอยู่แถวรบเส้นเดียวกันกับหวงเหมยแล้ว ย่อมไม่กล้าพูดมั่วซัวเป็นธรรมดา “พี่ชาย พวกเราจะไปเมืองเจียงโจวกันตอนนี้ ตามหาเจ้าหมอ

นั่น เพื่อแก้แค้นให้เสียวกันเลยหรือเปล่า?” หวงเหมยถามขึ้น

กะทันหัน

หวงจงส่ายหน้า ถามขึ้นอีกครั้ง “เธอบอกว่าแม้แต่ถังเจี้ยนยัง ถูกเจ้าหมอนั้นฆ่าแล้ว?

ถังเจี้ยนก็คือปรมาจารย์ถัง เวลานี้หวงเหมยยังมีท่าทางเศร้า เสียใจ “พี่ชายคะ เจ้าหมอนั่นไม่ธรรมดามากจริงๆ แม้แต่ ปรมาจารย์ถังยังตายอย่างอนาถอยู่ในมือเขาด้วยเลย

“ท่านจงครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ผมต้องการรายงานให้ท่านท ราบชัดเจนด้วยครับ เจ้าหมอนี่ไม่ธรรมดามากจริงๆ ไม่เพียงฝีมือ ของตัวเองเก่งกาจ ข้างกายยังมียอดฝีมือแอบคุ้มครองอยู่ด้วย ครับ”

“นอกจากนี้แล้ว ยังมีตระกูลใหญ่ชั้นนำระดับเมืองอีกหลายที่ ล้วนสมยอมเพื่อเขา มาเปิดศึกกับตระกูลเพิ่งของผมด้วยครับ”

เพิ่งหงเยถือโอกาสรีบนำทุกอย่างที่ตนเองรู้ บอกหวงจง ทั้งหมดแล้ว ดวงตาของเขาแดงเลือก พูดอย่างโมโหจัด “แม้ กระทั่งลูกชายและหลานชายที่สำคัญสุดของผมก็ตายอยู่ในมือ ของเขาครับ!”
หวงจงถึงได้มองเมิ่งหงเย่มาแวบหนึ่ง

หวงเหมยรีบพูดแนะนำ “ใช่แล้วค่ะ พี่ชาย ท่านนี้คือผู้นำตระ กูลเมิ่ง หนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองเอกมณฑลเจียงผึ้ง เมิ่ง หงเย่ค่ะ”

“ท่านจงเรียกผมว่าไอ้เพิ่งก็พอครับ” เมิ่งหงเยรีบบอกท่านที

หวงจงพยักหน้านิดหน่อย เอ่ยปากบอก “ที่มาเมืองเอกครั้งนี้ นอกจากจะมาเพื่อแก้แค้นให้เสี่ยวอันแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญอีก อย่างต้องทํา”

“ท่านจงมีตรงไหนที่สามารถใช้งานตระกูลเมิ่งของผมได้ รีบ เอ่ยปากมาได้เลยครับ บางทีผมอาจสามารถช่วยท่านจงได้” เมิ่ง หงเย่พูดขึ้น

หวงเหมยมองทางหวงจงอย่างสงสัย เรื่องสำคัญที่เขาหมาย ถึงนั้น ต้องเป็นภารกิจที่ตระกูลมอบหมายมาแน่

“ฉันอยากให้มณฑลเจียงผิง เป็นของตระกูลหวง!” หวงจงเอามือไพล่หลัง น้ำเสียงเผด็จการที่สุด

เขาพูดคำพวกนี้ออกจากปาก ราวกับหินยักษ์ร่วงลงทะเล ทำให้เกิดสถานการณ์เต็มไปด้วยอันตรายขึ้น

เพิ่งหงเย่หน้าตาอึ้งทึ่ง ให้มณฑลเจียงผิงเป็นของตระกูลหวง นี่ คืออยากเอาตระกูลใหญ่ชั้นนำของทั้งมณฑลเจียงผิง มาอยู่ใต้ อำนาจตระกูลหวงทั้งหมดเหรอ?
หัวใจของเขาเต้นรัวตุบๆๆๆ ในใจแอบตื่นเต้นอยู่บ้าง เมื่อคืนนี้หวงเหมยเคยบอกเขาถึงตำแหน่งและอำนาจของหวง จงที่ตระกูลหวงแล้ว

ในเมื่อหวงจงพูดด้วยตนเองว่าอยากให้ทั้งเมืองเจียงซึ่งเป็น ของตระกูลหวง ต้องไม่ใช่ตระกูลหวงมาดูแลมณฑลเจียงยิงด้วย ตนเองแน่ เพียงแต่กำหนดตัวแทนผู้มีอิทธิพล มาควบคุมแทน ตระกูลหวง

ที่มณฑลเจียงผิง ผู้ที่มีสิทธิ์แบกรับภารกิจใหญ่นี้ได้ มีเพียง ตระกูลใหญ่ชั้นนำสามตระกูลของเมืองเอก ตระกูลหานกับตระ กูลหนิง ยังมีตระกูลเพิ่งด้วย

ปัจจุบันนี้ ถ้าเขาสามารถได้รับความไว้วางใจของตระกูลหวง มา ไม่แน่ว่าตระกูลเพิ่งอาจจะมีความหวังใหญ่มาก ที่จะกลายมา เป็นตัวแทนของตระกูลหวง

ในใจหวงเหมยก็แอบตื่นตกใจ ถึงแม้ว่าแปดตระกูลแห่งเยนต จะแกร่งมาก แต่อยากพึ่งพาเพียงกำลังของตนเองอย่างเดียว มา รวบรวมตระกูลชั้นนำของมณฑลหนึ่งไว้ ก็ยังยากมากอยู่ดี

ถ้าหวงจงสามารถทำเรื่องนี้ได้ สำหรับตระกูลหวงแล้ว ย่อมมี ความหมายมากมาย

บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่หวงจงจะได้กลายเป็นผู้สืบทอด ตำแหน่งผู้นําคนต่อไป

“ท่านจงครับ ผมมีอยู่วิธีหนึ่ง บางทีอาจสามารถทำให้ท่านทสองเรื่องเสร็จได้พร้อมกันครับ

เพิ่งหงเย่ยิ้มกริ่มพูดขึ้นมากะทันหัน

หวงจงมองทางเมิ่งหงเยู่ด้วยท่าทางนิ่งสงบ จากนั้นพูดอย่าง เรียบนิ่ง “ในเมื่อเสี่ยวเหมยแนะนำนายให้ฉันรู้จักแล้ว งั้นก็น่าจะ เคยบอกกับนายด้วยว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน

เพิ่งหงเข่สั่นเทาทั้งตัว หวงเหมยเคยบอกเขาจริง หวงจงเป็น คนวางตัวในสังคมเผด็จการอย่างยิ่ง จัดการปัญหาว่องไวเด็ด ขาด ไม่ชอบการอ้อมค้อมมากที่สุด

เขาไม่กล้าลองหยั่งเชิงดูอีก รีบพูดทันที “ท่านจงครับ ตอนนี้ที่ มณฑลเจียงผึ้งมีตระกูลหานกับตระกูลเมิ่ง และยังมีตระกูลหนึ่ง เป็นตระกูลหลักครับ ก่อนหน้านี้หยางเฉินพาสตระกูลใหญ่มาบีบ ตระกูลเมิ่งของผมให้ยอมแพ้ ในนั้นยังมีตระกูลหานด้วยครับ”

“นอกจากนี้แล้ว ยังมีตระกูลเฉินแห่งเมืองโจวเฉิง และตระกูล กวนกับเมืองคิงแห่งเมืองเจียง โจวครับ”

“ถ้าตระกูลหานรวมตัวกับตระกูลเหล่านี้ ประสานกำลังด้วยกัน มีความเป็นไปได้ว่าจะกลายเป็นอิทธิพลอันดับหนึ่งของมณฑล เจียงผิงได้จริงครับ”

“ท่านจงแค่ต้องลงมือกับตระกูลหานก่อน ด้วยความสัมพันธ์ ของหยางเฉินและตระกูลหานแล้ว จะต้องออกมาด้วยตัวเองแน่ ถึงตอนนั้นฆ่าหยางเฉินโดยตรงเลย และถือโอกาสเหยียบ ตระกูลหาน ให้ราบคาบ
“ยังมีตระกูลเมิงของผมสนับสนุนท่านจงสุดกำลัง ตระกูลหนึ่ง เพียงตระกูลเดียว คงไม่พอให้หวาดกลัว จากนั้นยึดครองทั้ง มณฑลเจียงผิงมา ก็เป็นเรื่องง่ายดายแล้วครับ!

เพิ่งหงอยู่ทาหน้ายิ้มชั่วร้าย ในแววตาลึกเต็มไปด้วยความ เคียดแค้นที่รุนแรง

ก่อนหน้านี้เขายอมแพ้เรื่องการแก้แค้น เป็นเพราะกลัวตระกูล หาน แต่ปัจจุบันนี้มีตระกูลหวงแห่งเยนตูออกหน้า ตระกูลหานมี อะไรให้เกรงกลัวล่ะ?

หยางเฉินจําเป็นต้องตายแบบไม่ต้องสงสัย!

หวงจงได้ยินเข้า กลับพยักหน้าแบบแทบไม่เคยเห็น “ได้ งั้น ทำตามที่นายว่ามา เริ่มลงมือกับตระกูลหานก่อน!

สีหน้าเขานิ่งสงบ เหมือนว่ายึดครองมณฑลเจียงผึ้งมาต่าง

หากเป็นเรื่องใหญ่อันดับแรก ส่วนการแก้แค้นให้ลูกชายของ

ตนเองเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ