The king of War

บทที่ 422 เพื่อฉันเอง



บทที่ 422 เพื่อฉันเอง

“คนของตระกูลคนรวยแต่ละตระกูล ในเจียงผิง ก็มาแล้ว!”

“เจ้าบ้านหาน หานเดี่ยวเทียน กลับมาด้วยตัวเอง!!

“แล้วก็เจ้าบ้านเฉิน เฉินซิงไห้ก็มางานต่อสู้ด้วยตัวเอง!!

“อดีตเจ้าบ้านตระกูลกวน กวนเจิ้งซานก็มาแล้ว!”

“โอ้พระเจ้า! งานต่อสู้ในวันนี้ มันจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไม คนใหญ่โตมากมายขนาดนี้ ถึงมางานเอง?”

ทันทีที่หยาง เฉินและคนอื่นๆ เข้าไปในงาน ผู้คนนับไม่ถ้วน ส่งเสียงอุทานออกมา

คนที่รู้ถึงความตั้งใจที่แท้จริงของสมาคมบูโด ที่จัดงานต่อสู้ ครั้งนี้คือคนที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง และยังมีคนที่มีอำนาจบางคน อีกด้วย

คนส่วนใหญ่ในงาน ไม่รู้ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ดังนั้นเมื่อเห็นคนใหญ่โตอย่างหานเดี่ยวเทียนปรากฏตัว ก็ ตกใจกัน

ในฝูงชน ชายหนึ่งหญิงสองคน กำลังมองไปยังทางเดินวีไอพี อย่างตื่นเต้น

สามคนนี้ไม่ใช่คนอื่น มันคือหวางหย่งที่เคยเจอกับหยางเฉิน นอกงานนั่นแหละ กับแฟนสาวของเขาหลัวหยวนหยวน และสวลี่ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัด

“งานต่อสู้ในวันนี้ไม่ได้มาเปล่า ๆ จริงๆ มีคนที่ใหญ่โตและ

ทรงพลังอยู่มากมาย” “นั่นสิ ผู้นำตระกูลหานร่ำรวยอันดับ 1 ในเจียงผิง หานเดี่ยว เทียนก็มา! ผู้นำตระกูลจูร่ำรวยอันดับ 1 ในหนันยัง กว่างจื้อ

มาด้วย!!

“แต่ว่า ชายหนุ่มที่ถูกห้อมล้อมด้วยผู้นำตระกูลใหญ่ที่มั่งคั่ง ของเจียงผิง คือใครกัน?”

หลัวหยวนหยวนกับสกุลีพูดอย่างตื่นเต้น ดวงตาของพวกเธอ เต็มไปด้วยความตกใจ เพียงแต่ว่า ที่นั่งของพวกเธออยู่ตรงกลางสุด ไกลจากทางเดิน

VIP มากเกินไป พวกเธอมองเห็นได้เพียงคร่าวๆ แต่ไม่เห็น

ใบหน้าของคนเหล่านั้นเลย

ไม่เพียงแต่พวกเธอเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มองเห็น ได้ไม่ชัดเจน

“ฉันได้ยินมาจากพ่อของฉันว่า ครั้งนี้ราชาเจียงผิงก็จะมาด้วย ชายหนุ่มคนนั้น จะต้องเป็นราชาเจียงผึ้งแน่นอน!

ดวงตาของหลัวหยวนหยวนเต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ

สวลี่มองดูชายหนุ่มด้วยความชื่นชม เต็มไปด้วยความชื่นชอบ และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “หยวนหยวน เธอต้องช่วยฉัน ต้องเจอ กับราชาเจียงผิงให้ได้ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากแต่งงานกับเขาจริงๆ!”

“อย่าฝันกลางวันเลย ราชาเจียงพิงคือใคร? เขาเป็นราชาของ

ทั้งเจียงผิง ที่สำคัญยังเด็กมาก คิดว่าผู้หญิงที่อยากจะแต่งงาน กับเขา คงจะล้อมเจียงผิงได้หนึ่งรอบเลย!” หลัวหยวนหยวนค่อนข้างรู้ตัวเองดี “ผู้ชายคนนี้ จะมองมาที่

เราได้อย่างไร?”

“หยวนหยวน อย่าพูดคำที่ทำให้ท้อใจอย่างนั้นสิ! ขอแค่ฉัน สามารถเข้าใกล้ราชาเจียงผิงได้ ฉันจะทำให้เขาตกหลุมรักฉัน อย่างแน่นอน!”

“ผู้ชายแบบนี้ ถึงจะถูกเขาเอาฟรีๆ ฉันก็เต็มใจ!”

“ไม่ได้! ฉันตกหลุมรักเขาอย่างช่วยไม่ได้แล้ว ในชีวิตนี้ จะ แต่งกับเขาเท่านั้น!!

บนหน้าที่แต่งจัดของเธอ เต็มไปด้วยความรัก

“ราชาเจียงผิง คือหยางเฉิน!”

ไรตอนที่ผู้หญิงสองคนกำลังมีอารมณ์รัก ทันใดนั้นก็มีเสียง ตกใจดังขึ้นรอบตัวพวกเธอ

ดวงตาของหลัวหยวนหยวนและสวลี่ ต่างก็จับจ้องไปที่หว่าง หย่ง

“หวางหย่ง นายกำลังพูดอะไรไร้สาระ?” สกุลไม่พอใจทันที “ราชาเจียงพิงคือใคร? ไม่ใช่ไอ้ยาจกนั้น ที่จะสามารถเปรียบเทียบกันได้?”

“ฉันพูดความจริง พวกเธอดเสื้อผ้าที่ราชาเจียงผิงใส่ เหมือน กับของหยางเพื่อนของฉัน รูปร่างก็เหมือน”

หวางหย่งอธิบายอย่างตื่นเต้น แม้ว่าเขาจะมองเห็นหน้าหยางเฉินไม่ชัด แต่กลับจำเสื้อผ้าที่

หยางเฉิน ใส่ได้

“หุบปาก!”

หลัวหยวนหยวนพูดอย่างโมโห “แกมันไอ้สวะ! ถ้ากล้าพูดได้ สาระอีก ก็ออกไปเลย!!

“ราชาเจียงผึ้งมีสถานะแบบไหน? นายถึงกล้าลบหลู่ได้?” หลัวหยวนหยวนหน้าบึงมาก และเธอก็ตบหน้าหวางหย่ง

หวางหย่งปิดหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอัปยศ แต่ เมื่อคิดถึงน้องสาวของเขา เขาก็ต้องทนกับผู้หญิงเลวคนนี้ต่อไป

สวลี่จ้องหวางหย่งอย่างดุร้ายและพูดประชดประชันว่า “ขยะก็ คือขยะ เพื่อนที่รู้จักก็เป็นยาจกอีกด้วย ถ้าไม่ใช่ว่านายยังเป็น ประโยชน์กับหยวนหยวน คำพูดของนายก็เพียงพอแล้ว ที่หยวน หยวนจะเตะนายออกไป

เห็นได้ชัดว่าหลัวหยวนหยวนก็เห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน สาว และพูดอย่างเย็นชาว:”ถ้านายอยากรักษาน้องสาวของนาย ก็เชื่อฟังฉันซะ อย่าหาเรื่องให้ตัวเองเลย”
หวางหย่งโกรธจนตัวสั่น แต่เมื่อเขาคิดถึงน้องสาวของเขา มือ ที่กำาแน่นของเขาก็ค่อยๆ คลายออก

“หวางหย่ง!”

ในขณะนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างหลังเขา

หวางหย่งหันหน้าอย่างแรง ก็เห็นหยางเฉินมองมาที่เขาด้วย รอยยิ้ม

หลัวหยวนหยวนกับสกุลีก็หันหน้าไปพร้อม ๆ กัน เมื่อพวกเธอ เห็นหยางเฉิน หัวใจของสองสาวก็สั่นเทาอย่างอดไม่ได้

เพราะชุดและรูปร่างของหยางเฉินเหมือนกับราชาเจียงผึ้ง ที่ พวกเธอมองเห็นจากระยะไกล

“หยางเฉิน นายคือราชาเจียงผิงใช่ไหม?”

จู่ๆหวางหย่งก็ถามเสียงดังด้วยความตื่นเต้น

เมื่อได้ยินคำพูดของหวางหย่ง หยางเฉินก็ยิ้ม และไม่ได้ตั้งใจ

จะซ่อน

จุดประสงค์ของการมาวันนี้คือเพื่อแข่งขัน ถ้าเขาอยากครอบ ครองเจียงผิงและหนันยัง เขาต้องสู้

แม้จะไม่ยอมรับในตอนนี้ แต่พอขึ้นเวทีต่อสู้ หวางหย่งก็ต้องรู้

อยู่ดี

“หวางหย่ง นายกำลังเล่นตลกอะไรอยู่?”

ในตอนที่หยางเฉินกำลังจะสารภาพ เสียงของหลว หยวนหยวนก็ดังขึ้น

“ใช่ อย่ามาดูถูกไอดอลของฉัน ราชาเจียงพิงคือใคร? เขาเป็น ราชาของเจียงผิง เขาจะเป็นเพื่อนของนายได้ยังไง?

สวลีไม่ปิดบังความดูถูกต่อหวางหย่งเลยสักนิด และพูดด้วย การเยาะเย้ย

ในเวลาเดียวกันในดวงตายังมีความเคืองเล็กน้อย ราวกับว่า เป็นเพราะหวางหย่งเปรียบเทียบหยางเฉินกับราชาเจียงผิง ซึ่ง เป็นการดูถูกราชาเจียงผึ้ง

สีหน้าของหวางหย่งไม่พอใจเล็กน้อย เขารู้จักตัวตนของหยาง เฉินเป็นอย่างดี เป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว และแม่ก็ป่วยอยู่

ตอนที่อยู่ในโรงเรียน หยางเฉินมักจะไม่ไปกินข้าวที่โรง อาหาร ต่อมา เขาบังเอิญพบว่าหยางเฉิน จะหมั่นโถวหนึ่งลูกกิน ในตอนเที่ยงทุกวัน

และเป็นเพราะเหตุ ที่เขามีความเห็นอกเห็นใจต่อหยางเฉิน เป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลย และจงใจ เข้าหาหยางเฉิน เสนอความช่วยเหลือ

นับๆแล้ว ก็เพียงช่วงสั้น ๆ ประมาณเจ็ดแปดปี ชายหนุ่มที่กิน แต่หมันโถวเป็นอาหารกลางวันเท่านั้น แม้ว่าเขาจะสามารถเข้า งานต่อสู้ได้ แล้วจะเป็นราชาเจียงผิงได้อย่างไร?

คิดถึงนี้ หวางหย่งก็ยิ้มอย่างขมขื่น: “เมื่อกี้ฉันเกือบจำนายเป็น ราชาเจียงผิงซะแล้ว”
จากนั้น หยางเฉินยิ้มและไม่อธิบาย และนั่งกับหวางหย่ง

งานต่อสู้ไว้นนี้ได้แบ่งสนามกีฬาเมืองเอกใยเจียงผิงออกเป็น ที่นั่งชั้น 3 บน กลาง และล่าง โดยที่นั่งชั้นบนคือแถวหน้า ที่นั่ง ชั้นกลางคือแถวกลาง และที่นั่งระดับล่างคือแถวสุดท้าย

หมายเลขที่นั่งที่ไม่แบ่งแยก ก็คือ หวางหย่งและคนอื่นๆ อยู่ที่ นั่งแถวกลาง และพวกเขาสามารถหาที่นั่งที่ใดก็ได้ในแถวกลาง

ในใจกลางโรงยิม มีสนามแข่งขันเล็กๆ

รอบๆเวที แบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก

ตระกูลใหญ่ชั้นนำในเมืองหนุนยัง ตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ ในเมืองเจียงผิง และสมาคมบูโด นั่งอยู่ในแถวต่างๆ

ในฐานะราชาเจียงผึ้ง หยางเฉินนั้นอยู่ใกล้เวทีมากที่สุด โดย

ธรรมชาติ ตำแหน่งตรงกลางในทางของเจียงผึ้ง

แต่ในเวลานี้เขากลับนั่งตามหวางหย่ง และนั่งในที่นั่งชั้นสอง ตรงกลาง

ถ้าไม่ได้อยู่ตรงกลางของสถานที่ ฉากบนจอใหญ่ก็จะถูกชิง โครไนซ์กับฉากในเวที ณ ตำแหน่งนี้ มันมองไม่เห็นอะไรเลย

“หยางเฉิน ดูเหมือนว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายคงจะใช้ ชีวิตอยู่ดีนะ ถึงสามารถเข้าร่วมงานต่อสู้นี้ได้”

หวางหย่งกลัวว่าจะมีการขัดแย้งกันระหว่างหยางเฉินกับหลัว หยวนหยวน เลยจงใจเปลี่ยนเรื่อง
หยางเฉินยิ้ม “ยังใช้ได้

“เหอะๆ!”

สวลี่ยิ้มอย่างดูถูก “หวางหย่ง เกรงว่านายจะเข้าใจผิดเรื่อง หนึ่ง ไม่ใช่ว่าสามารถเข้าร่วมงานต่อสู้นี้ได้ ก็ถือว่ามีความ สามารถได้ตั๋วจริงๆ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ