The king of War

บทที่ 504 เป็นไปไม่ได้



บทที่ 504 เป็นไปไม่ได้

ต่อให้ไม่เห็นด้วย ก็ควรพูดในที่ส่วนตัวมิใช่หรือ?

เหตุใดต้องมากระด้างกระเดื่องต่อหน้าคนอื่นด้วย? อวี่เหวินเกาหยางมีท่าทางแย่มาก สีหน้าหม่นหมองจนน่ากลัว ทันใดนั้นก็ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว “หุบปากซะ!”

หยูเหวินหรูมีสีหน้าดื้อรั้นไม่ยอมคน พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “เป็นลูกนอกสมรสที่ถูกครอบครัวทอดทิ้งมาหลายปี เพียง ประโยคเดียวก็สามารถตัดสินตำแหน่งทายาทตระกูลตระกูลอ เหวินได้แล้วหรือไม่? ดูถูกกันจริงๆ!”

โครม!

ทุกคนตกตะลึง คำพูดของหยูเหวินหวเปิดเผยข้อมูลมากเกินไป

เห็นได้ชัดว่าลูกนอกกฎหมายที่เขาพูดถึงไม่ใช่หวังเฉิน แต่ เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งคุยกับหวังเฉินทางโทรศัพท์

เมื่อสิบแปดปีก่อน ตอนที่หยางเฉินถูกขับไล่ออกจากตระกูล และเมืองเยี่ยนตู เรื่องนี้ได้ก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ทุก คน ในที่นี้ต่างก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

เมื่อครู่พวกเขายังสงสัยว่า หวังเฉินโทรหาใคร ตอนนี้พวกเขา ได้รู้แล้ว
เพราะมีลูกนอกกฎหมายของอวี่เหวินเกาหยางมีเพียงคนเดียว นั่นคือหยางเฉินที่ถูกขับไล่ออกมาพร้อมกับมารดาเมื่อสิบแปดปี ก่อน

ไม่มีใครคาดคิดว่า ในอีกสิบแปดปีต่อมา เด็กอายุเพียงเก้า ขวบคนนั้นจะกลับมาแล้ว!

และเขายังพยายามที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของตระกูลอ

เหวีนด้วย! อวี่เหวินเกาหยางโกรธมากจนตัวสั่น สีหน้าหม่นหมองน่ากลัว

หยูเหวินหนูไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย เขายิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “ถ้าผมจำไม่ผิด เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว คุณเป็นคนขับไล่พวกเขา สองแม่ลูกออกจากตระกูล ปล่อยให้พวกเขาออกจากเมืองเยี่ยน ไม่ให้ก้าวเข้ามาเหยียบเมืองเยี่ยนอีกเลยตลอดชีวิต มิฉะนั้น จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี

“ตอนนี้เขากลับมาแล้ว แต่คุณกลับกลืนน้ำลาย ไม่เพียงแสร้ง ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ยังต้องการปลดผมออกจาก ตำแหน่งทายาทเพราะคำพูดของเขาประโยคเดียว แต่งตั้งลูก นอกกฎหมายของศัตรูให้เป็นทายาทคนใหม่ คุณทำแบบนี้ ไม่รู้ สึกผิดต่อแม่ของผมบ้างเหรอ?”

“ในตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของผม คุณจะมีทุกอย่างแบบ ในวันนี้ไหม?”

หยูเหวินหวูแผดเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว โดยไม่คำนึง ถึงหน้าตาของอวี่เหวินเกาหยางเลย
แม้ว่าทุกคน ในที่นี้จะรู้ว่าเขาพูดอะไร แต่เมื่อพูดต่อหน้าทุกคน มันก็เหมือนกับเป็นการตบหน้าอวี่เหวินเกาหยางอย่างแรง

อวี่เหวินเกาหยางเป็นผู้นำของตระกูลอวี่เหวิน หนึ่งในแปด

ตระกูลแห่งเยี่ยนตู แต่กลับถูกลูกชายของตัวเองวิพากษ์วิจารณ์ต่อหน้า

สาธารณชน แค่คิดก็รู้ถึงความโกรธในใจของเขาในเวลานี้

“!”

อวี่เหวินเกาหยางตบหน้าหยูเหวินหาอย่างแรง พูดอย่างโกรธ เกรี้ยวด้วยดวงตาแดง “หุบปาก! หุบปากเดี๋ยวนี้!”

หยูเหวินหนูมองอวี่เหวินเกาหยางย่างไม่เชื่อสายตา ตั้งแต่เล็ก จนโต นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อตีเขา

มีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา แต่แววตากลับยังเต็ม

ไปด้วยความไม่ยินยอม ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะขึ้นมา “พ่อดีผม

เพราะลูกนอกสมรสเพียงคนเดียว!!

หลังจากอวี่เหวินเกาหยางตบไปแล้ว ก็รู้สึกเสียใจ สีหน้าของ เขาอ่อนลงมาก พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “พ่อทำแบบนี้ก็เพื่อ ผลประโยชน์ของลูก ตอนนี้ลูกอาจจะไม่เข้าใจ แต่ลูกจะต้อง เข้าใจในอนาคต!”

เรื่องบางเรื่องเขาไม่สามารถบอกได้ ถ้าพูดไปก็เท่ากับทรยศ ชาติ เขาคงตายอย่างน่าสยดสยอง

ก็เหมือนกับที่หยูเหวินหวูพูด ถ้าไม่มีแม่ของหนูเหวินหว เขาคงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้

ก็เพราะเช่นนี้ เมื่อสิบแปดปีที่แล้ว เขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะขับไล่ หยางเดินออกจากตระกูล ออกจากเมืองเขียน

ตอนนี้หยางเฉินชัดเจนมากเกี่ยวกับตัวตนและสถานะของเขา แค่ประโยคเดียวก็สามารถโค่นล้มตระกูลอวี่เหวินทั้งตระกูลได้

ในอดีตแม่ของหนูเหวินหวูบังคับให้เขาขับไล่หยางเฉินสองแม่ ลูกออกจากเมืองเยี่ยน ทุกสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้แอบทำอย่างลับๆ อาจปลุกปั่นความอาฆาตของหยางเฉิน

ที่เขาทำแบบนี้ เพียงเพราะเขาไม่ต้องการเห็นลูกชายสองคน ของตัวเองต้องมาเข่นฆ่ากัน

“เพื่อผมเหรอ?”

แน่นอนว่าหนูเหวินหาไม่เชื่อ เขาหัวเราะเยาะ “ถ้าพ่อต้องการ ให้เขากลับคืนสู่ตระกูลก็พูดออกมาตรงๆ จะมัวเสแสร้งทำไม?”

“คุณคงไม่ได้คิดจริงๆ หรอกนะ แค่เขาบอกว่าสามารถทำให้ วิกฤตของตระกูลอวี่เหวินกลับมาอีกครั้ง เขาก็ทำได้จริงๆ?

“คุณแก่แล้วเลอะเลือน! นี่เป็นเพียงลูกนอกกฎหมายสองคนที่ เล่นละครเพื่ออำนาจของตระกูลอวี่เหวิน คุณเชื่อได้อย่างไร?”

หยูเหวินหวูยิ้มเยาะ

แต่ทันทีที่เขาเพิ่งพูดจบ ชายชราในชุดราชวงศ์ถังก็วิ่งเข้าไป ในห้องประชุม ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“ผู้นำ ข่าวร้าย! กิจการของตระกูลอวี่เหวินได้รับความเดือด ร้อนอย่างหนักอีกครั้ง ความมั่งคั่งของตระกูลอวี่เหวินก็กำลัง ตกต่ำอย่างรวดเร็ว!”

“ครั้งนี้โดนโจมตีรุนแรงกว่าครั้งก่อนอีก

“ถ้ายังไม่สามารถหยุดยั้งความเสียหายได้ทันเวลา เกรงว่า ความมั่งคั่งของตระกูลอวี่เหวินจะลดลงถึงสิบเปอร์เซ็นต์ภายใน วันนี้!

พ่อบ้านชราพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

“อะไรนะ?”

“เมื่อกี้ก็กลับเป็นปกติแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีปัญหาอีกแล้ว ล่ะ?”

“สิบเปอร์เซ็นต์ของความเสียหาย คือการทำให้ตระกูลเห

วินต้องถอนตัวออกจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู

“เราต้องหาวิธีหยุดความเสียหายโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้น ทรัพย์สินของครอบครัวที่บรรพบุรุษของเราสะสมมาหลายชั่ว อายุคนจะถูกทําลายลงในมือคนรุ่นเราจริงๆ!

ในห้องประชุม สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนมี สีหน้ากังวล

มีเพียงอวี้เหวินเกาหยางที่สงบนิ่งเหมือนน้ำ เขาย่อมรู้ว่าหยาง เฉินเป็นคนทำทั้งหมด และมีเพียงเขาเท่านั้นที่ทำได้เช่นนี้
การแก้แค้นตระกูลอวี้เหวินของคุณเริ่มต้นขึ้นแล้วหรือ? หัวใจของอวี้เหวินเกาหยางเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ภายนอกหวังเฉินดูสงบนิ่ง แต่ในใจกลับตกใจมาก

เขารู้ว่าตระกูลหวงยอมสวามิภักดิ์ต่อหยางเฉินแล้ว และตระ กูลเย่ก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหยางเฉิน

แต่ลำพังสองตระกูลนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะลดมูลค่าความ มั่งคั่งของตระกูลอวี่เหวินลงสิบเปอร์เซ็นต์ได้ภายในวันเดียว

อย่าบอกนะว่า ตระกูลหวงและตระกูลเมีไพ่เด็ดที่หยางเฉิน ไม่มีอยู่ในมือ?

“โทรหาเขาสิ!”

ทันใดนั้นเสียงของอวี่เหวินเกาหยางก็ดังขึ้น หวังเฉิงจึงได้สติ กลับมา

ในเวลานี้ คนอื่นๆ ก็พากันได้สติกลับมา ที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อครู่นั้น เป็นเสียงหวังเฉิงโทรศัพท์ อีกฝ่ายบอกว่าจะปล่อยให้ ตระกูลอวี่เหวินประสบปัญหาอีกครั้ง

อย่าบอกนะว่า คนคนนั้นเป็นคนทำจริงๆ?

มีคนยกมือขึ้นมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือโดยไม่รู้ตัว พลัน รู้สึกตกใจอย่างรุนแรง

นับตั้งแต่หวังเฉิง โทรศัพท์เสร็จสิ้นจนถึงตอนนี้ ผ่านไปเป็น เวลาห้านาทีพอดี
ภายในเวลาห้านาที ตระกูลอวี่เหวินก็ได้รับความเดือดร้อน อย่างหนักเช่นนี้ จริงหรือที่ชายหนุ่มที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเมื่อ สิบแปดปีที่แล้วเป็นคนทำทั้งหมด

ภายในใจของหยูเหวินหวสั่นไหวอย่างรุนแรง รู้สึกหนาวเหน็บ ไปทั้งตัว เขาเดินโซเซและถอยหลังออกไปหลายก้าว แล้วพูด อย่างไม่เชื่อสายตา “เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

หวังเฉินหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดโทรหาหยางเฉิน โดยไม่ลังเล

“คุณหยุดเถอะ!” เขาพูดอย่างไม่อ้อมค้อม

“ตกลง!”

หยางเฉินตอบเพียงคำเดียว แล้ววางสายไป

“เพราะความไม่รู้ของคุณ คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไปล่วงเกินใครมา ถึงได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับตระกูลของเราแบบนี้”

“ตอนนี้ความจริงอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว แต่คุณก็ยังไม่ยอมเชื่อ

“คุณบอกผมมาซิ คนอย่างคุณ มีคุณสมบัติอะไรที่จะเป็น ทายาทของตระกูลอวี่เหวินต่อไป?”

หลังจากวางสาย หวังเฉินก็มองไปที่หยูเหวินหวแล้วถามอย่าง ประชดประชัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ