The king of War

บทที่ 381 เศษเหล็กที่ไร้ค่า



บทที่ 381 เศษเหล็กที่ไร้ค่า

“นักแม่นปืน ยิงซาน!”

“ว่ากันว่า การยิงปืนของงานนั้น เข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์เลย

นะ!”

“ดูท่าครั้งนี้ไอ้หนุ่มนั้นคงไม่รอดแน่ๆ!

ตอนที่ได้เห็นชายในชุดกันลมคนนั้นชักปืนออกมา ทุกคนตรง นั้นต่างก็ตื่นตกใจขึ้นมาทันที

ดูแล้วติงซานอายุน่าจะราวๆ สี่สิบปี ใส่เสื้อกันลมทรงยาวสีดำ แต่กลับสวมแว่น กรอบสีทอง

ยากที่จะจินตนาการได้ ว่านักแม่นปืนที่ยิงเข้าเป้าร้อย

เปอร์เซ็นต์นั้น จะเป็นคนที่สายตาสั้น

ในตอนนี้ ติงซานกำลังจ้องมองหยางเฉินด้วยสีหน้าที่ล้อเลียน แล้วพูดไปว่า “ฉันขอเตือนให้แกยืนอยู่กับที่นิ่งๆ จะดีกว่าแค่ เพียง ผู้นำตระกูลหนึ่งสั่งมาแค่คำเดียว ฉันก็ส่งแกกลับบ้านเก่า ได้ทันที”

“แกกล้าหรอ!”

กวนเจิ้งซานกับเฉินซิงไห่ โมโหขึ้นมาทันที

หานเซียวเทียนก็ทำหน้าโมโหเหมือนกันและตวาดใส่หนิง หยวนไปว่า “หนิงหยวน นี่แกเล่นกับไฟเลยหรอ!
“เล่นกับไฟอย่างนั้นเหรอ?”

หนึ่งหยวนทำหน้าเยาะเย้ย หน้าหยางเฉินและพูดด้วย ความโมโหง่า “คนที่เล่นกับไฟนั้นเป็นมัน ไม่ใช่ฉัน

“มันฆ่าคนของหนิงจี้หยวนคนนี้ต่อหน้าผู้คนมากมาย ตอนนี้ ยังอยากที่จะฆ่าญาติของตระกูลหนึ่งอีก แล้วจะให้ฉันยืนดูมันฆ่า เขาอย่างหน้าตาเฉยอย่างนั้นเหรอ?”

“ไม่ว่าใครก็ตาม กล้ามาท้าทายกับอำนาจของตระกูลหนึ่ง ของฉัน มันก็ต้องตายสถานเดียว!!

พอมีนักแม่นปืนอย่างยิ่งซานอยู่ด้วย หนิงซานก็ทำหน้าไม่ กลัวเลยสักนิด

กับการที่หยางเฉินสามารถสังหารหลิวชิงลงได้ เขาเองก็รู้สึก ตกใจมาก แล้วมันจะยังไงหล่ะ?

เขารู้ว่าผู้แข็งแกร่งระดับสูงในวงการบูโดบางคน สามารถ ระเบิดพลังการทำลายล้างออกมาได้ในชั่วพริบตา แต่ก็ยังไม่ สามารถหลบหลีกอาวุธสงครามได้อยู่ดี

หลายปีที่ผ่านมา การที่ตระกูลหนึ่งของเขาสามารถยืนหยัด เป็นหนึ่งในสามตระกูลเศรษฐีระดับสูงสุดของมณฑลเจียงยิ่งนั้น ก็พึ่งพาหลิวชิงกับยิงซานนี่แหละ

คนหนึ่งคือผู้แข็งแกร่งด้านบูโด ส่วนอีกคนก็เป็นผู้แข็งแกร่ง

ด้านอาวุธสงคราม

ถึงแม้ชิงซานจะตายไปแล้ว แต่เขาก็ยังเหลืองซานอีกคน
ถ้าเทียบกันแล้ว เขาก็ยังให้ความสำคัญกับงานมากกว่า หวงจงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งกิตติมศักดิ์ ยังคงไม่แสดงท่าทางอะไร ออกมา

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ ต่างก็อยู่ในการควบคุมของเขาทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าความสามารถของหยางเฉินจะเกินกว่าที่เขาคิดไว้แต่ใน สถานการณ์ตอนนี้ เขาก็ยังไม่จําเป็นต้องออกโรงเองอยู่ดี

สําหรับเขาแล้ว ตระกูลเจิ่งนั้นหมดประโยชน์ไปแล้ว ตอนนี้ก็ ต้องดูที่ตระกูลหนิงแล้ว

ถ้าตระกูลหนึ่งสามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้ เขาก็ สามารถสนับสนุนตระกูลหนึ่งให้ขึ้นเป็นตระกูลเดอะคิงของ มณฑลเจียงผิงได้

แต่ถ้าตระกูลหนึ่งก็พลอยแพ้ไปด้วย เขาก็ไม่ติดใจอะไรที่จะ ดันตระกูลเล็กๆ สักตระกูลขึ้นมาแทนได้

สําหรับเขาแล้ว ถ้าต้องการสร้างตระกูลเดอะคิงของมณฑล เจียงยิ่งขึ้นมาสักตระกูล มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่ายเลย

แต่ก่อนหน้านั้น เขาจำเป็นต้องกำจัดตัวปัญหาอย่างหยางเฉิ นออกให้ได้ก่อน

เพิ่งหงเยู่ที่นั่งกระวนกระวายอยู่ข้างๆ หวงจงมาโดยตลอดนั้น ในใจก็รู้สึกโกรธแค้นเหมือนกัน

เขานั้นได้ล่วงเกินหยางเฉินอย่างถึงที่สุดแล้ว ต่อให้หวงจงจะ ทอดทิ้งตระกูลเมิ่ง เขาก็มีแต่ต้องเลือกที่จะติดตามหวงจงต่อไป
ตอนนี้ ทุกคนต่างก็มองไปยังชายหนุ่มที่กำลังยืนอยู่ตรงกลาง ของห้องสัมมนา

ในที่สุดหยางเฉินก็หยุดเดิน หรี่ตามองหนิงหยวน “ผมจะให้ โอกาสคุณได้ช่าระบาปสักครั้ง ฆ่าหนิงเฉิงอยู่ด้วยมือของคุณเอง ซะ แล้วผมจะไว้ชีวิตคุณ!”

“ชาฮาฮาฮา~”

พอได้ยินหยางเฉินพูดออกมาแบบนั้น หนิงหยวนก็หัวเราะ ออกมาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่หัวเราะจนหนำใจแล้ว เขาก็พูด ด้วยสีหน้าที่ดูถูกว่า “เหมือนแกจะเข้าใจอะไรผิดไปเรื่องหนึ่งนะ ตอนนี้ชีวิตของแกมันอยู่ในกำมือของฉัน ขอแค่ฉันสั่ง แกก็จะได้ ตายโดยที่ไม่มีที่ให้ฝัง แล้วแกยังกล้ามาข่มขู่ฉันอีกเนี่ยนะ?”

“ฉันเคยเห็นคนที่หลงตัวเองมากๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นวัยรุ่นคน ไหนที่หลงตัวเองได้เท่าแกเลย ต่อให้ฝีมือของแกจะดีแค่ไหน แล้วคิดว่าจะเก่งเกินกว่าอาวุธสงครามรึไง?”

ตอนนี้ฉันก็จะให้ทางรอดกับแกทางหนึ่งเหมือนกัน มันอยู่ใต้ อาณัติของตระกูลหนึ่งของฉันซะ ฉันสามารถมอบอนาคตที่สดใส ให้แกได้!”

หนิงจี้หยวนพูดด้วยสีหน้าที่หลงตัวเอง

เขาอยากได้ชีวิตของหยางเฉิน แต่หลิวชิงก็เพิ่งถูกฆ่าไปเมื่อ ข้างกายของเขาจึงขาดผู้แข็งแกร่งด้านโดไปคนหนึ่ง

ในเมื่อหยางเฉินสามารถฆ่าหลิวชิงได้อย่างง่ายดาย แน่นอนเขาต้องแข็งแกร่งกว่าหลิวซึ่งอยู่แล้ว

ถ้าเขาสามารถตระกูลหนึ่งของ

ก็เหมือนกับเสือที่ติดเลย! โคลท์คิงคอบร้าของติงซาน ยังคงเล็งที่หัวของหยางเฉิน

จนถึงตอนนี้ และรอคอยคำ

หวงนั่งอยู่ตรงของหยวนแล้ว ได้ขมวดคิ้วขึ้นอย่างเนียนๆ

เขาเคยกับหนิงยวนแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่ตระกูลเพิ่ง พ่ายแพ้ มณฑลเจียงผึ้งกับการสังหารหยางเฉิน ก็ จะตกเป็นของตระกูลหนึ่ง

แต่มาตอนหนิงหยวนกลับต้องการรับหยางเฉินมาพวก หนิงหยวนไม่ได้โง่ เขารู้มานานแล้ว ว่าตัวเองแค่เบี้ยตัวหนึ่งมือของหวงจงพร้อมที่จะ

เมื่อมันเป็นแบบนี้ แล้วทำไมเขาต้องรับฟังคำทุก อย่างของหวงจงล่ะ?

แปดตระกูลพวกเขาอยู่ที่เมืองเยน ถ้าตระกูลคิงแห่งเจียงผึ้งแล้ว ต่อให้เป็นแปด ตระกูลแห่งเย็นตู เขาไม่กลัว

หยวนบอกให้ไปแล้ว เขาทำหน้าประหลาด จะให้เทพสงครามรักษาดินแดนเหนืออย่างเขาไปเป็นบอดี้การ์ดให้ ต่อให้เป็นจิ๋วโจว จะมีใคร บ้างที่คู่ควร?

“ดูแล้ว คุณก็ยังไม่เห็นค่าทางรอดที่ผมมอบให้สินะ!”

หยางเฉินสายหน้า พร้อมกับทำหน้ารำคาญใจ

“งั้นก็แสดงว่า แกเองก็ปฏิเสธที่จะมาอยู่กับฉันสินะ?”

หนิงจี้หยวนหรี่ตาทั้งสองข้างลง “ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ก็คง ต้องส่งแกให้ไปที่ชอบที่ชอบแล้ว!”

คําพูดคํานี้ของเขา ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณให้ติงซานทำการ สังหารได้

“ปัง!”

เสียงดังที่แสบแก้วหูดังขึ้นในของสัมมนาของการประชุมแลก เปลี่ยน ผู้คนต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ

“นะ……..นี่มันเป็นไปได้ยังไง?

ฉายา “นักแม่นปืน” นั้นไม่ได้มีดีแค่ชื่อ

หลายปีมานี้ คนที่ตายด้วยมือเขานั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน และในปีนของเขาก็บรรจุกระสุนอยู่แค่นัดเดียว ซึ่งมันก็คือความ เย่อหยิ่งและความมั่นใจของนักแม่นปืน

และเขาก็ไม่เคยพลาดเป้ามาก่อน แต่ในครั้งนี้ เขากลับยิง พลาดจนได้

ทั้งๆ ที่เขาเล็งตรงไปที่หยางเฉินแล้ว แต่เป้าหมายกลับหายไปต่อหน้าต่อตาเขา

และในทันใดนั้นเอง ความรู้อันตรายที่รุนแรงก็มาเยือน ขนทุก

เส้นบนร่างกายของติงซาน ตอนนี้พวกมันก็ได้ลุกขึ้นมาอย่าง พร้อมเพรียงกัน “ไอ้ของแบบนี้ สำหรับผมแล้ว มันก็เป็นแค่เศษเหล็กที่ไร้ค่า

เท่านั้น!”

น้ำเสียงที่เยาะเย้ยดังมาจากทางด้านหลังของตึงซาน

ทันใดนั้น ร่างกายของติงซานก็แข็งเกร็ง มือข้างขวาที่จับโคล คิงคอบร้าไว้ กำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง

“นะ……..นี่ แกทำได้ยังไง?

งชานหันหลังกลับไปอย่างยากลำบาก แล้วเห็นหยางเฉินกำ ลังมองเขาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม มุมปากปรากฏรอยยิ้มที่ สนุกสนานออกมา

ไม่ใช่ติ่งซานแค่คนเดียว แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างเบิก ตาโต และจ้องมองหยางเฉินด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

หลบกระสุนได้อย่างนั้นเหรอ?

มันเป็นไปได้ยังไง?

แม้แต่หวงจงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งกิตติมศักดิ์มาโดยตลอด แววตา ก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความอึ้ง

ไม่ใช่ว่าตระกูลหวงจะไม่มีผู้แข็งแกร่งที่สามารถหลบกระสุนได้แต่คนที่อายุน้อยอย่างหยางเฉินนั้น มันไม่มีจริงๆ

อย่าว่าแต่ตระกูลหวงเลย ทั้งเมืองเยน ก็ไม่เคยปรากฏมา ก่อน

ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ ขอแค่เขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตระกูล แกร่งไหนๆ ของแปดตระกูลแห่งเย็นตูก็ตาม ก็จะต้อนรับเขา

อย่างเคารพนับถือแน่นอน

เพิ่งหงเที่อยู่ข้างๆ หวงจง นั่งไม่เป็นสุขแล้ว ความรู้สึกที่ อันตรายสายหนึ่ง ได้ปกคลุมไปทั้งตัวเขาแล้ว

วินาทีที่เขาเลือกที่จะติดตามตระกูลหวง เพื่อบีบให้หยางเฉิน ต้องออกมานั้น ตระกูลเมิ่งกับหยางเฉินก็ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกัน ได้แล้ว

ตอนนี้ ตระกูลหวงได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะทอดทิ้งตระ กูลเมิ่ง แล้วหันไปสนับสนุนตระกูลหนึ่งแทนต่อให้สุดท้ายแล้ว ตระกูลหวงจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เกรงว่าตระกูลเพิ่งในหลังจากนี้ คง ต้องอยู่ใต้อาณัติของตระกูลหนึ่งแน่นอน

ส่วนทางด้านของตระกูลหนึ่งนั้น สีหน้าของหนิงหยวนก็ดูแย่ อย่างถึงที่สุด

“ไอ้สารเลว นี่แกเป็นตัวอะไรกันแน่?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ