The king of War

บทที่ 214หญิงสาวที่เผด็จการ



บทที่ 214หญิงสาวที่เผด็จการ

ฉันค่อนข้างกังวลขึ้นมา แม้ว่าเธอจะรู้อำนาจของหยางเฉิน แต่ตระกูลหานเป็นมหาเศรษฐีชั้นนําของเมืองเอก

“สามี ไม่งั้นพวกเราออกจากที่นี่กันเถอะ?”ฉินซีเอ่ยปากพูด

หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย ความสามารถของสามีเธอเป็นยังไง เธอไม่รู้เหรอ?”

ประโยคนี้ฟังดูมักจะรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ชอบมาพากล ทันใด นั้นใบหน้าของฉินซีก็แดงขึ้น แม้ว่าเธอจะกังวลใจ ก็รู้ว่าหยาง เฉินไม่ใช่คนโง่ ในเมื่อเขาเข้ามาแล้ว คงจะไม่มีปัญหา

“เศษสวะอย่างแก ต้องการรนหาที่ตาย อย่าได้ทำให้พวกเรา ติดร่างแหไปด้วย ไม่มีบัตรเชิญ ก็รีบไสหัวออกไปซะ! ไม่อย่างนั้น ถูกคนพบเข้าแล้ว อย่าได้พูดว่ารู้จักกับพวกเรา”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดอย่างโกรธเคือง

เธออยากให้หยางเฉินถูกคนของตระกูลหานพาตัวไปใจแทบ ขาด แต่ก็ไม่สามารถที่จะโดนพาตัวไปในเวลานี้ได้ เนื่องจาก หยางเฉินเป็นสามีของฉินซี และฉินซีก็มาพร้อมกับเธออีก

ถ้าหากตระกูลหานจะสอบสวนจริงๆ เธอก็หนีความรับผิดชอบ

ไม่พ้น

โดนเจิ้งเหม่ยหลิงพูดว่าเป็นเศษสวะหลายครั้งหลายหน แม้แต่คนที่อ่อนแอก็โกรธ หยางเฉินเลิกคิ้ว จ้องมองเธออย่างเยือกเย็น แล้วพูดว่า “ในเมื่อกลัวว่าจะติดร่างแหไปด้วย งั้นก็ไสหัวออกไป ให้ไกลหน่อย ไม่อย่างนั้นถูกคนของตระกูลหานพบเข้า ฉันก็จะ

บอกว่าเธอพาฉันมา!”

“แก แก แกไอ้สารเลว!”

เจิ้งเหม่ยหลิงถูกคำพูดของหยางเฉินทำให้ใบหน้าเต็มไปด้วย ความโกรธ

“เหม่ยหลิง ช่างเถอะ!”

ทันใดนั้นเฉินอิงเหาเอ่ยปากพูด

“พี่เหา แต่เขาแอบเข้ามา หากถูกพบเข้า พวกเราก็จะ เกี่ยวข้องไปด้วย”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดอย่างกังวลขึ้นมา

เฉินอิงเหายิ้มอย่างราบเรียบ: “วางใจได้ ถ้าหากถูกคนพบเข้า นั่นก็เป็นเรื่องของตัวเขาเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา อย่าลืมนะ พวก เราไม่ได้เข้ามาพร้อมกันกับเขา

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของเจิ้งเหม่ยหลิงก็เปล่งประกาย: “นั่น นะสิ ต่อให้ถูกพบเข้า งั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา!”

หลังจากพูดจบ ทั้งสองก็หันหลังเดินออกไป

เดิมที่เฉินอิงเหายังอยากอยู่ร่วมกันกับฉินซีตามลำพัง แต่มี หยางเฉินอยู่ เขาเข้าใจ ตัวเองทำอะไรก็เปล่าประโยชน์
“หยางเฉิน นายคงจะไม่ใช่ว่าแอบเข้ามาจริงๆ?

รอเฉินอิงเหาและเจิ้งเหม่ยหลิงออกไปแล้ว ฉินซีถามด้วย ท่าทางกังวลใจ

หยางเฉินยิ้มแล้วส่ายหน้า: “ลั่วปิงเธอรู้จักมั้ย?” “เมื่อก่อนเขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียง

โจวไม่ใช่เหรอ?”ฉินซีถาม

“ใช่ ตอนนี้เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของต้าเหอกรุ๊ปในเมืองโจว เฉิง และพิพิธภัณฑ์โจวเฉิง เป็นกิจการของต้าเหอกรุ๊ป เมื่อกี้นี้ เขาพาฉันเข้ามา” หยางเฉินอธิบาย

“หลังจากที่เขาลาออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็กลายเป็นผู้จัดการ ใหญ่ของต้าเหอกรุ๊ป!”ฉินซีพูดด้วยความประหลาดใจ

หยางเฉินยิ้ม: “อันที่จริง เขาไม่ได้ลาออก และถูกฉันย้ายมาที่ เมือง โจวเฉิง รับผิดชอบจัดการเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับต้าเหอก รุ๊ป”

“นายขี้โม้อีกแล้ว!”

ฉินซีกลอกตาขาวแล้วพูด: “ต้าเหอกรุ๊ปเป็นกิจการที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองโจวเฉิง แม้แต่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว ก็ยังตาม ไม่ทัน”

หยางเฉินส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ในใจแอบพูดว่า: “เรื่องนี้ ฉันไม่ได้ปิดบังเธอนะ ตัวของเธอไม่เชื่อเอง”
ปากฉิน บอกไม่เชื่อ แต่ในใจกลับแอบตกใจเล็กน้อย

หยางเงินเป็นคนแบบไหน เธอรู้ดีมาก และไม่ใช่คนที่พูดจามั่ว ชั่วไม่คำนึงถึงความจริง หรือว่า ประธานของต้าเหอกรุ๊ป เป็นเขา จริงเหรอ?

ถ้าหากเป็นแบบนี้ หยางเฉินจะมั่งมีมากแค่ไหนกันแน่?

ทันใดนั้นฉินซีก็ไม่กล้าคิดเรื่องนี้แล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เฉินอิงเหาและเจิ้งเหม่ยหลิงจากไป และไปก็ไปที่ห้องโถงนิทรรศการที่อยู่ข้างๆ

“พี่เหา พี่คงจะไม่ใช่ว่ายอมแพ้เรื่องลูกพี่ลูกน้องของฉันแล้ว นะ?”

เจิ้งเหม่ยหลิงพูดด้วยสีหน้ากังวลใจ

เฉินอิงเหายิ้มเล็กน้อย: “เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว เห็นได้ ชัดว่าไม่ได้มีความตั้งใจที่จะหย่า หรือว่าจะให้ฉันทายาทอย่าง สง่าผ่าเผยของตระกูลเฉิน ยุ่งเกี่ยวกับเธออย่างไม่ชัดเจนเหรอ?”

แววตาของเจิ้งเหม่ยหลิงเฉียบคมเล็กน้อย มองไปรอบๆ เมื่อ เห็นว่าไม่มีใครอยู่ เธอถึงได้พูดกระซิบว่า: “ถ้าหากฉันจำไม่ผิด พี่เหาน่าจะชื่นชอบสาวสวยเป็นพิเศษใช่มั้ย? แม้ว่าจะไม่สามารถ แต่งงานกับเธอ แต่ถ้าหากแค่เล่นสนุกล่ะ?”

เฉินอิงเหาหรี่ตาทั้งสองลงเล็กน้อย จ้องมองเจิ้งเหม่ยหลิงแล้ว พูดว่า “เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหล่อนไม่ใช่เหรอ? นี่คือตั้งใจ จะเอาลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ส่งมอบไปถึงบนเตียงฉันเหรอ?”
เจิ้งเหม่ยหลิงยิ้มอย่างเยือกเย็น “ลูกพี่ลูกน้องอะไรนะ? เธอ คู่ควรเหรอ? แค่รองเท้าพังๆข้างหนึ่งเท่านั้นเอง แต่งงานกับเศษ สวะคนหนึ่ง ก็เป็นความอับอายของตระกูลโจวชัดๆ ถ้าหาก ไม่ใช่เพื่อเหา ฉันไม่มีทางทำดีกับเธอ”

“ดี ตราบใดที่เธอสามารถส่งหล่อนมาถึงบนเตียงของฉันได้ คฤหาสน์ของเหม่ยกยส่วนหลังนั้น ก็เป็นของเธอ

เฉินอิงเหาก็กระตุกมุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย เมื่อคิดถึง หน้าตาสวยงดงามมากของฉัน เขาก็แทบรอไม่ไหว

“ขอบคุณพี่เหา! ขอบคุณค่ะพี่เหา

เจิ้งเหม่ยหลิงดีใจในทันที และรีบพูดขอบคุณ

“เธอมีแผนการอะไร?เฉินอิงเหาถาม

“พี่เหา เมื่อกี้นี้บอกว่า คืนนี้ฉันเป็นเจ้ามือ เลี้ยงข้าวพวกพี่ ไม่ใช่เหรอ? งั้นพวกเราก็ทำแบบนี้ดีกว่า……

ปากของเจิ้งเหม่ยหลิงแนบไปที่ข้างหูของเฉินอิงเหา และ กระซิบแผนการของตัวเอง

ฉันไม่รู้เรื่อง ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ก็วางแผนถึงตัวของเธอ แล้ว ในเวลานี้กำลังชื่นชมโบราณวัตถุกับหยางเฉินไปทุกที่

“สมกับที่เป็นงานแสดงนิทรรศการวัตถุโบราณที่จัดขึ้นโดย มหาเศรษฐีในเมืองเอก ทุกอย่างล้วนเป็นผลงานที่ดีเลิศ”

หลังจากที่ฉินซีดูโบราณวัตถุหลายชิ้นติดต่อกัน ใบหน้าของเต็มไปด้วยความชื่นชม

หยางเฉินกลับไม่เห็นด้วย ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “มีผลงานที่ ดีเลิศก็มีอยู่ แต่ไม่มาก สิ่งสำคัญคือ ตระกูลหานกลับเอาของ ปลอมมาหลอก”

ของปลอมเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร?”ฉินซีดูประหลาดใจ

“ไม้เกาหลังชิ้นนั้น ก็เป็นของปลอม!” หยางเฉินไปไม้เกาหลังที่ชั้นผิวภายในสีแดง ในตู้กระจกใบ หนึ่งแล้วพูด

“นายกล้าหาญมากเกินไปแล้ว กล้าพูดว่าโบราณวัตถุของ บริษัท โบราณวัตถุเหม่ยเป็นของปลอม!

ทันทีที่เสียงของหยางเฉินลดลง เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ

ก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ตอนที่หยางเฉินพูดกับฉินซี เสียงยังเบามาก แต่เสียงนี้กลับดัง มาก และดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับไม่ถ้วนทันที

เมื่อเห็นหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบ กำลังยืนอยู่ข้างกายหยาง เฉิน ใบหน้าเล็กที่บอบบาง มาพร้อมกับความโกรธ ในแววตา เต็มไปด้วยความไร้ความปรานี

ผู้คนรอบข้าง ก็ดูประหลาดใจ

มีคนกล้าสงสัยว่าโบราณวัตถุที่จัดแสดง โดยตระกูลหานเป็น ของปลอม นี่เป็นปรปักษ์กับตระกูลหานอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่เหรอ?

เฉินอิงเหาและเจิ้งเหม่ยหลิงก็เดินเข้ามาเช่นกัน ทั้งสองคน มองไปที่หยางเฉินด้วยท่าทางมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบ ถักเปียผมหางม้าหนึ่งช่อ ไม่ได้ แต่งหน้าแม้แต่น้อย ดวงตาโต ผิวบอบบางมาก ส่วนสูงหนึ่งร้อย

เจ็ดสิบเซนติเมตร และหน้าตางดงามละเอียดอ่อนมาก

สายตาสดใสเป็นอย่างมาก และจงใจกล่าวหาหยางเฉินอย่าง เสียงดัง เพียงแต่โกรธ เพราะหยางเฉินบอกว่าไม้เกาหลังชิ้นนั้น เป็นของปลอมอย่างเดียว

หยางเฉินไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อย จ้องไปที่หญิงสาวอย่างยิ้ม กริ่มแล้วพูดว่า “น้องสาว ฟังความหมายของเธอ โบราณวัตถุ ของบริษัทโบราณวัตถุเหม่ย ก็ต้องเป็นของจริงเหรอ?”

“แน่นอน! บริษัท โบราณวัตถุเหม่ยเป็นกิจการของตระกูล หานของเรา ด้วยอำนาจของตระกูลหานของเรา จะเอาของปลอม ออกมาแสดงได้อย่างไร?”

หญิงสาวดูเย็นชา ตวาดใส่หยางเฉินว่า “นายบอกว่าไม้เกา หลังชิ้นนั้นเป็นของปลอม นั่นก็เป็นการดูถูกตระกูลหาน นายต้อง ขอโทษตระกูลหาน!”

เมื่อหญิงสาวพูดในสิ่งนี้ออกไป ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

ไม่ใช่เพราะเธอจะให้หยางเฉินขอโทษ แต่คำว่า “ตระกูลหาน ของเราสามคำนี้ในปากของเธอ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หญิงสาวคนนี้ เป็นคนของตระกูลทานเหรอ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ