The king of War

บทที่ 490 เลิกจ้างให้หมด



บทที่ 490 เลิกจ้างให้หมด

“ท่านประธาน ผมผิดไปแล้วครับ ผมผิดไปแล้วจริงๆ โปรดให้

โอกาสผมอีกครั้งนะครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน” ซงซวี่หมิงคุกเข่าแทบเท้าของหยางเฉิน ใบหน้าเต็มไปด้วย ความหวาดกลัว ขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด

เขามีอำนาจในเยี่ยนเงินกรุ๊ปมาหลายปี คุ้นเคยกับชีวิตที่ หรูหราฟุ่มเฟือยแล้ว

ต่อให้หยางเฉินเป็นเพียงคนที่ถูกทอดทิ้ง แต่ก็ไม่ใช่คนที่เขา จะล่วงเกินได้

มิฉะนั้น ตระกูลอวี้เหวินจะยอมคืนกิจการที่กำไรงามอย่าง เยี่ยนเงินกรุ๊ปกลับคืนให้หยางเฉินด้วยสภาพสมบูรณ์ได้ยังไง?

แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็เพียงพอที่จะอธิบายได้แล้วว่าหยางเฉิน ไม่ได้เป็นเพียงคนที่ถูกทอดทิ้ง ไม่เป็นที่ต้อนรับของตระกูล มี หนำซ้ำยังไม่อนุญาตให้ก้าวเข้ามาในเมืองเยี่ยนตูแม้แต่ก้าว เดียวอย่างที่คนนอกลือกัน

มิฉะนั้นครอบครัว Yuwen จะมอบ Yan Chen Group ให้ Yang Chen ได้อย่างไร

บัดนี้ หยางเฉินได้เข้ามาในเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว จะบอกว่าเขา ถูกห้ามไม่ให้ก้าวเข้ามาในเมืองเยี่ยนได้ยังไง
“หลายปีที่ผ่านมา นายได้ลาภโดยมิชอบไปจำนวนมากเลย สินะ?”

หยางเฉินมองซ่งเหยางอย่างผู้เหนือกว่า และพูดอย่างเย็น ชา “ภายในวันนี้ นายต้องคืนเงินเหล่านั้นมาให้หมด แล้วจากนั้น ก็ไปมอบตัว ไม่อย่างนั้น ฉันไม่รังเกียจที่จะทำให้นายหายไปจาก โลกนี้หรอกนะ!”

เมื่อได้ยิน สีหน้าของซงซวหยางก็หมดอาลัยตายอยากลงทันที ที่เขาคุกเข่าขอความเมตตาก็เพราะหวังว่าหยางเฉินจะปล่อยตัว เองไป

แต่คิดไม่ถึงว่า นอกจากหยางเฉินจะไม่ยอมปล่อยเขาไปแล้ว ยังจะให้เขานำทุกอย่างที่เอาไปจากเยี่ยนเงินกรุ๊ปคืนกลับมาให้ หมด มิหนำซ้ำยังจะให้เขาไปมอบตัวอีก

นี่เขาจะทำลายตัวเองลงอย่างราบคาบสินะ!

“นายสามารถกุมอำนาจในเยียนเฉินกรุ๊ปได้นานขนาดนี้ย่อม เป็นคนฉลาด นายน่าจะรู้ว่าถ้าฉันต้องการชีวิตของนาย ต่อให้ นายหนีไปที่สุดขอบฟ้าฉันก็สามารถหานายจนเจอได้

“อย่าสงสัยในสิ่งที่ฉันพูด ไม่อย่างนั้นถึงเวลานายจะไม่เพียง แต่ต้องเอาสิ่งที่กินเข้าไปแล้วออกมา แม้แต่ชีวิตก็ต้องจบสิ้นลง”

“ฉันรู้ว่านายยังมีคนตระกูลอวี่เหวินสนับสนุนนายอยู่ นายไม่ ต้องบอกฉันหรอกว่าเป็นใคร ฉันไม่อยากรู้ แต่ฉันสามารถบอก นายได้เลยว่าฉันไม่เคยเห็นตระกูลอวี่เหวินอยู่ในสายตา”
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ น้ำเสียงเย็นยะเยือก

ซึ่งซวี่หยางรู้สึกถึงเพียงความหนาวเหน็บอันน่าหวาดกลัว แต่ ช่านจากสันหลังขึ้นไปถึงเหนือหัว จนเขามีความรู้สึกตกลงไปใน คลังน้ำแข็ง

ความแข็งแกร่งและความเยือกเย็นที่หยางเฉินแสดงออกใน เวลานี้ทำให้เขาจำต้องเชื่อว่าหยางเฉินไม่เกรงกลัวในตระกูลอ

เหวินจริงๆ

ในอดีตเขาก็เคยคิดถึงปัญหานี้ สิบแปดปีที่แล้ว ตระกูลอวี่เห วินเคยไม่หยางเฉินและแม่ของเขาออกจากเมืองเยี่ยนจริงๆ แต่ ทำไมอยู่ๆสิบแปดปีต่อมาก็คืนเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้กับหยางเฉิน

ดูยังไงก็เหมือนตระกูลอวี่เหวินอยากเอาใจหยางเฉิน ตอนนี้ดูแล้วเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ “ไสหัวออกไป!”

หยางเฉินตะคอกกร้าว

เมื่อได้ยินแล้ว ซงซวี่หยางรีบล้มลุกคลุกคลานออกไป

เหล่าคนมุงที่ตอนแรกล้อมรอบอยู่หน้าประตูห้องทำงานของผู้ จัดการใหญ่ รอชมเรื่องสนุก แต่เมื่อพวกเขาเห็นซังซวี่หยางเป็น คนวิ่งออกมาจากข้างในก็อึ้งกันไปหมด

หลังจากนั้น ร่างสองร่างก็ถูกโยนออกมาจากห้องทำงาน ประหนึ่งขยะ
เมื่อพวกเขาเห็นหัวหน้ารูป และบอดี้การ์ดของซ่งเหยางที สลบไม่ได้สติ ก็มีสีหน้าตะลึง

“ใครก็ได้บอกฉันทีว่า เมื่อเกิดอะไรขึ้นในห้องทํางานของ

ประธาน ว?”

“ทําไมคนที่ล้มลุกคลุกคลานออกมาถึงเป็นประธานซึ่งล่ะ? ไหนจะคนที่ถูกโยนออกมาอีก ทำไมถึงเป็นคนของประธานซึ่ง ล่ะ?”

“พวกนายอย่าลืมนะว่าข้างในห้องทำงานของประธานล้วมีคน หนุ่มสองคนอยู่ด้วย

ข้างนอกห้องทํางานของลัวปิง ทุกคนพูดกันไปต่างๆนานา ส่วนภายในห้องทำงานเหลือเพียงหยางเฉิน หม่าชาว และ ลั่วปิงสามคน

ลัวปิงกล่าวอย่างตื้นตัน “ท่านประธานครับ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปใน ตอนนี้เกือบทุกคนเชื่อฟังซ่งซวี่หยางกันหมด ตอนนี้ซ่งซวหยาง โดนท่านเล่นงานไป คงไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์แล้วอย่าง แน่นอน”

“ขอเพียงท่านประธาน ให้เวลาผมอีกครึ่งเดือน ผมจะช่วยให้ คุณกุมอำนาจของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปได้อย่างแน่นอน”

ลั่วปิงพูดอย่างมั่นใจ
หยางเฉินกลับส่ายหัวและเอ่ยขึ้น ซึ่งชวีหยางเป็นเพียงหมาก ของใครบางคน ภายในเยี่ยนเงินกรุ๊ปยักษ์ใหญ่แห่งนี้ยังมีผู้ บริหารระดับสูงจำนวนมากที่เกรงว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับตระ กูลอวี่เหวิน”

ตอนนี้จัดการซ่ง วี่หยางไปแล้วหนึ่งคนก็จริง แต่ยังมีซ่งซวี่ หยางคนที่สอง คนที่สาม

ล้วปิงขมวดคิ้วเป็นปม อารมณ์ตื้นตันเมื่อกี้ก็ค่อยๆสงบลง เขา รู้ว่าที่หยางเฉินพูดมานั้นไม่ผิด ซงซวี่หยางเป็นเพียงหมากตัว หนึ่ง

ต่อให้ชิงซวี่หยางหายไป แต่ในบริษัทยังมีผู้บริหารระดับสูง คนอื่นที่เป็นปรปักษ์กับตัวเอง ถ้าเขาอยากควบคุมเยียนเฉินกรุ๊ ปอย่างสมบูรณ์ นอกเสียจากว่าจะเลิกจ้างผู้บริหารระดับสูงที่เป็น ปรปักษ์กับตัวเองให้หมด

ไม่อย่างนั้น การที่เขาหมายจะกุมอำนาจของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปไว้

ยังมีอุปสรรคอีกมากมาย

“รีบจัดประชุมผู้บริหารระดับสูงของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปซะ ใครที่ไม่ เชื่อฟังเลิกจ้างให้หมด”

หยางเฉันคิดไปคิดมาแล้วกล่าวขึ้น

ลั่วปิงตะลึงในทันใด หากจะเลิกจ้างทุกคนที่ไม่เชื่อฟังจนหมด เกรงว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปจะสูญเสียผู้บริหารระดับสูงไปกว่าครึ่ง

สูญเสียผู้บริหารระดับสูงไปทีเดียวมากขนาดนี้ เยี่ยนเงินกรุ๊ปจะดำเนินการต่อได้ยังไง?

“ท่านประธานครับ คุณทำแบบนี้จะเป็นการเร่งรีบในการสร้าง ผลงานไปหรือเปล่าครับ?” ลัวปิงลังเลนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยปาก กาม

หยางเฉินหัวเราะเย็นๆ “ทำไมนายไม่คิดล่ะว่าผู้บริหารระดับ สูงที่ไม่เชื่อฟังอย่างซ่งเหยางจริงๆแล้วเชื่อฟังใครกันแน่?

“ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ในเยี่ยนเงินกรุ๊ป เยี่ยนเงินกรุ๊ปก็จะ สูญเสียมากขึ้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่รวบหัวรวบหางทีเดียว เลยล่ะ?”

“ทำเช่นนี้อาจจะดูเหมือนทอนกำลังผู้อื่นด้วยการตัดกำลังตัว เอง แต่ความจริงแล้วเป็นวิธีที่จัดการทีเดียวสบายไปตลอด

“รอจนทําความสะอาดเยี่ยนเงินกรุ๊ปจนเรียบร้อยแล้ว ถึงตอน

นั้นนายก็จะเป็นคนเดียวที่ออกคำสั่งในกรุ๊ปได้ ขอเพียงนาย

บริหารบริษัทให้ดี สิ่งที่สูญเสียไปก็จะได้คืนมาในเวลาอัน

รวดเร็ว”

หยางเฉินมั่นใจในตัวล้วปิงอยู่มาก

ความสามารถด้านธุรกิจที่ทั่วปิงแสดงให้เห็นที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ป สาขาเจียงโจวนั้น หยางเฉินรู้ดี

คนประเภทนี้ หากให้เขาได้อยู่บนเวทีที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ เขามีแต่ จะทํางานได้ดียิ่งขึ้น

“ผมเข้าใจแล้วครับ!”
หลังจากได้ฟังคำอธิบายของหยางเฉินแล้ว ถั่วปังก็ตระหนักได้ ในทันใด ขณะเดียวกันก็ซาบซึ้งด้วย ความเชื่อมั่นในตัวเขาที่ หยางเฉินมอบให้เกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้

ได้ติดตามเจ้านายเช่นนี้ ตราบใดที่สามารถทำในสิ่งที่เขาสั่ง ออกมาได้ดี ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทั้งนั้น

ลั่วปิงไม่กล้าละเลย รีบเรียกเลขามาทันทีและจัดการประชุม ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ ห้องประชุมใหญ่ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ภายห้องประชุมขนาดใหญ่มีคนนั่งอยู่น้อยกว่าครึ่ง ที่นั่งส่วน ใหญ่ว่างเปล่า

ทุกที่นั่งมีป้ายชื่อและแผนกที่สอดคล้องกันบนโต๊ะ

หรือก็คือ ตำแหน่งที่ว่างเปล่าเหล่านั้นควรมีคนนั่งอยู่ ตอนนี้ ได้เวลาเริ่มประชุมแล้ว แต่ยังมีผู้บริหารระดับสูงที่ยังไม่มาถึงอยู่ มาก

“ประธานรั่วครับ ประธาน และประธานโกว รวมถึงผู้จัดการ หม่าและผู้จัดการหลิวบอกว่าไม่สบาย ขอลาครับ”

“ประธานล้วครับ ประธานเหลียนและผู้จัดการหยวนก็ขอลา ครับ!”

“ประธานรั่วครับ ผู้อำนวยการหลี่และผู้จัดการเงินก็ขอลา ครับ!
ในไม่ช้า บรรดาหัวหน้าย่อยในแผนกต่างๆก็พากันลุกขึ้นและ แจ้งลาให้กับหัวหน้าของพวกเขา

การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมของบุคลากรระดับหัวหน้าขึ้น ไปของทั้งกรุ๊ป บัดนี้ผู้อำนวยการ รองประธาน และผู้จัดการ แผนกต่างๆลาหยุดกันหมด

เห็นได้ชัดว่าเป็นความตั้งใจ

แม้ว่าลั่วปิงรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังโกรธ มากในเวลานี้

“ตอนนี้ไปแจ้งบรรดาหัวหน้าที่ขอลาว่า ฉันจะรอพวกเขาอีก สิบนาที หากยังไม่มาหลังจากนี้ก็ไม่ต้องมาที่ บริษัทอีก ทั้งหมด นั่นจงไสหัวออกไปตามขั้นตอนการเลิกจ้างซะ!”

ลั่วปิงพูดด้วยเสียงอันดังลั่นและสายตาเย็นยะเยือก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ