The king of War

บทที่ 151คอนโดทรุดโทรม



บทที่ 151คอนโดทรุดโทรม

หวงเหอบาธ ในห้องทำงานชั้นบนสุด หยางเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ชี้ไปยังโซฟาที่ตั้งอยู่ข้างใน “นั่งสิ!”

เว่ยเชินถึงได้กล้านั่งลงไป เมื่อคืนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในไดนา สตี้ คลับ ประทับอยู่ในหัวสมองของเขาอย่างลึกซึ้ง

ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งที่เล่นหักปืนด้วยมือ เปล่า ถ้าอยากฆ่าตนเองเข้าจริง ย่อมทําได้อย่างง่ายดายมาก ในใจของเขาแม้แต่ความคิดที่จะแก้แค้นสักนิดยังไม่กล้าคิดเลย

แน่นอนว่านี่คือก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เจอคนมีฝีมือขั้นสุดยอด เทียบได้กับหยางเฉินแบบนี้

“ว่ามา!”

หยางเฉินมองเว่ยเป็นพูดจาระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

“คุณหยางครับ ผมสามารถช่วยเป็นคนกลางให้ท่านพูดคุยกับ พวกเขาได้ เพียงแค่จะสำเร็จหรือไม่ ไม่กล้ารับประกันกับท่านนะ ครับ” เว่ยเชินพูดขึ้น

“ทำไม? อยากจะเจอพวกเขายังยากขนาดนี้?” หยางเฉินถาม อย่างหยอกล้อ

เว่ยเชินรีบบอกทันที “คุณหยางครับ ท่านก็ทราบ เรื่องแบบนี้มีผลกระทบใหญ่หลวง พอเปิดเผยออกมา จะนำความเดือดร้อน มากมายมาให้ผู้ร่วมงานทั้งคู่ ฝ่ายตรงข้ามจึงระมัดระวังหน่อย นี่ เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้

หยางเฉินเข้าใจเหตุผลนี้เช่นกัน วันนั้นตอนที่รู้ว่าคนขับรถที่ ส่งสาวสวยมายังไม่ชัดเจนว่าตนเองลากของอะไรมาเลย ก็พิสูจน์ ความจริงในจุดนี้แล้ว

อีกฝ่ายระวังอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องในวันนั้น เกรงว่าจะ ดึงดูดความสนใจของพวกเขา ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะกำลังตรวจ สอบอยู่

“ได้ งั้นนายช่วยแนะนำฉันสักหน่อย เวลาสถานที่ ให้ฝ่ายตรง ข้ามกำหนด หยางเฉินพูดอย่างเบิกบาน

ชั่วขณะนั้นเว่ยเป็นดีใจขึ้นมา แบบนี้ดีที่สุดแล้ว

“บอกฉันมาหน่อยสิ คนพวกนั้นที่ร่วมงานกับตระกูลเว่ยของ พวกนาย สรุปแล้วมีเบื้องหลังยังไง?” ทันใดนั้นหยางเฉินถามขึ้น อีก

เว่ยเป็นหัวเราะขมขื่นส่ายหน้าแล้ว พูดตามตรงนะครับ แม้แต่พวกเราที่ร่วมงานกันมาหลายปีขนาดนี้ ยังไม่รู้เบื้องหลัง ของอีกฝ่ายดีเลยครับ ทุกครั้งอีกฝ่ายจะจัดรถยนต์และคนขับที่ไม่ เหมือนกันมาส่งคนครับ โดยเฉพาะคนที่ส่งมาแต่ละครั้งล้วนมี คนที่ตามรถมาด้วย พอเกิดเรื่องผิดปกติใดๆ เขาจะหลบหนีไป โดยทันที”

“งั้นพวกนายรู้จักกันได้ยังไง?” หยางเฉินถามอีก
“เรื่องนี้ต้องเล่าไปถึงยี่สิบปีก่อนครับ ตระกูลเว่ย ในตอนนั้นยัง เป็นแค่ตระกูลเล็กๆ แห่งหนึ่ง คุณพ่อของผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง นั่นก็คือเขาที่แนะนำทั้งธุรกิจให้คุณพ่อของผมมา” เว่ยเงินบอก ไป

ระหว่างคิ้วของหยางเฉินขมวดตึงนิดๆ คาดไม่ถึงก่อนหน้า นานขนาดนั้นจะเริ่มร่วมงานกันแล้ว

พูดมาขนาดนี้ องค์กรแห่งนั้นคงเก่งกาจมากจริง ผ่านมายี่สิบ กว่าปีแล้ว ธุรกิจของพวกเขายังยืนหยัดต่อมาได้

ดูแล้วเบื้องหลังคงต้องเป็นปลาใหญ่ตัวหนึ่งเป็นแน่

“ปัจจุบันตระกูลเว่ยของพวกนายยิ่งใหญ่ขนาดนี้ หรือว่ายัง ไม่รู้เบื้องหลังของอีกฝ่ายชัดเจนดี?” หยางเฉินหน้าตาอึมครึม สอบถามไป

มองเห็นหยางเฉินเหมือนไม่เชื่ออยู่บ้าง ในขณะนั้นเว่ยเงิน ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน รีบพูดรับรองทันที “คุณหยางครับ แต่ละ คำที่ผมพูดเป็นความจริงนะครับ พวกเราเคยค้นหาแล้ว แต่ว่าหา อะไรไม่เจอเลยจริงๆ!

ดูท่าทางตระกูลเว่ยคงไม่รู้จักเบื้องหลังของอีกฝ่ายชัดเจน จริงๆ แต่หยางเฉินยังสามารถเข้าใจได้ ถ้าง่ายดายขนาดนั้นจริง คงสามารถตรวจสอบเรื่องนี้ได้ชัดเจน องค์กรแห่งนั้นคงไม่ สามารถอยู่รอดมาได้ยี่สิบกว่าปีหรอก

“นายรีบช่วยฉันติดต่อให้ไว จัดการเรียบร้อยแล้ว บอกฉัน ด้วย!”
หยางเฉินรู้ว่า ถึงถามต่อไปอีก เกรงว่าถามไม่ได้ความอะไร เลิกล้มความคิดทันที

“คุณหยางครับ บอกท่านตามตรงนะครับ เดิมทีพวกเราตระกูล เว่ยไม่มีช่องทางติดต่อของพวกเขาครับ ทุกครั้งล้วนเป็นพวกเขา ติดต่อพวกเรามา อาจจะไม่มีทางช่วยเป็นตัวกลางให้ท่านได้ ชั่วคราว รอให้อีกฝ่ายติดต่อมาแล้ว ผมจะพูดถึงเรื่องนี้กับพวก เขาทันทีเลยครับ” เว่ยเงินบอกไป

หยางเฉินตะลึง คาดไม่ถึงตระกูลเว่ยแม้แต่ช่องทางการติดต่อ ของอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังไม่มีด้วย การรักษาความลับนี้ช่างแน่นหนา เกินไปมั้ง?

“ได้ งั้นรอจัดการเสร็จเมื่อไร แจ้งให้ฉันรู้ตอนนั้นแล้วกัน” หยางเฉินพูดจบ ทิ้งหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองให้เว่ยเงิน

“ทำไมนายถึงยังไม่ไปอีก?”

หยางเฉินขมวดคิ้วถามทันใด

“คุณหยางครับ ท่านว่าหวงเหอบาธสามารถขายให้พวกผมได้ เมื่อไรกันครับ?” เว่ยเงินถามอย่างระมัดระวัง

“รอเมื่อไรที่นายทำธุระของฉันเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาพูดเรื่องนี้ กับฉัน” หยางเฉินพูดจาเย็นชา

ถึงแม้เว่ยเงินไม่ยอมอย่างไร ยามอยู่ต่อหน้าหยางเฉิน เขายัง ไม่มีความสามารถพอ ทําได้เพียงจากไป
อีกฝั่งหนึ่ง ฉินซีขับรถมาด้วยตนเอง พาฉันต้าหย่งและโจว ชุ่ยเข้าสู่เขตหมู่บ้านคอนโดระดับสูงแห่งหนึ่ง

“พ่อคะ ห้องที่พ่อเช่าคือที่นี่เหรอคะ?” ฉินซีถามขึ้น

ในมือของเธอลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง บนข้อมือหัว กระเป๋าถือใบหนึ่ง เดินตามฉันต้าหย่งไปข้างหน้า

ฉันต้าหย่งหัวเราะบอก “ที่นี่อยู่ใกล้บริษัท เข้างานเลิกงานพ่อ เดินไปกลับบ้านเอาได้ทุกวัน ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปด้วย โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมหมู่บ้านคอนโดนี้ก็ไม่เลวด้วย”

ฉันพยักหน้าแล้ว เห็นด้วยกับความคิดของฉันต้าหย่ง คอน โดแห่งนี้ขึ้นมาเก่าอยู่บ้าง แต่สภาพแวดล้อมยังดีมาก

ในลานสาธารณะคอนโดไม่อนุญาตให้รถเข้าออก โดยเฉพาะ ใจกลางเขตที่พักยังมีลานกว้างขนานใหญ่แห่งหนึ่ง รอบด้านจัด วางเครื่องออกกำลังกายจำนวนหนึ่ง ทั้งยังมีม้านั่งพักผ่อนด้วย

“ทางนั้นเป็นเขตคฤหาสน์ ราคาก็เข้าถึงได้มากด้วย รอพ่อ หาเงินได้ ค่อยซื้อคฤหาสน์ที่นั่นสักหลัง

ฉันต้าหย่งยื่นมือชี้ไปยังบริเวณด้านในสุดทางนั้น มีคฤหาสน์ ยี่สิบกว่าหลัง

“คอนโดเสื่อมโทรมเล็กๆ มีอะไรดีกัน? ดียังไง สามารถสู้ คฤหาสน์ของยอดเมฆาได้เหรอ?” โจวซุ่ยพูดอย่างอารมณ์เสีย

“นั่นมีอะไรดีล่ะ? ทั้งยอดเขาก็มีคฤหาสน์หลังเดียว แม้แต่เงา คนใกล้ๆ ยังไม่มี นี่ดีกว่าตั้งเยอะ รอให้ผมเกษียณแล้ว ยังสามารถเล่นหมากรุกกับคนรุ่นๆ เดียวกันนั้นได้ ตอนบ่ายยังออก ไปเต้นรำที่ลานกว้างได้ด้วย” ฉินต้าหย่งเหมือนพึงพอใจต่อที่นี่ มากจริงๆ

เห็นรอยยิ้มที่จริงใจบนหน้าของฉันต้าหย่ง แถมยังดูมีการรอ คอยระดับหนึ่งด้วย ฉินซีรู้ว่าบิดาไม่ได้พูดโกหก เขาชอบที่นี่จริง

“โอ๊ะ นี่ไม่ใช่คุณฉินเหรอ?”

ในเวลานี้เอง เสียงที่ไม่เข้าพวกกันดังขึ้นมาแล้ว ในคำพูดเห็น ได้ชัดว่ามีอารมณ์เย้ยหยันเข้มมาก

สามคนพ่อแม่ลูกมองเข้าไปทันควัน เห็นเพียงผู้หญิงสง่างาม อายุสามสิบกว่าคนหนึ่ง กำลังยิ้มกริ่มจ้องโจวชุ่ยอยู่

“เธอเองเหรอ!”

โจวซุ่ยจำผู้หญิงคนนี้ได้ทันใด

ตอนนั้นที่ฉินเลี้ยงอาหาร ตอนที่โจวซุยไปเข้าห้องน้ำออก มา ก็เป็นผู้หญิงคนนี้สนใจกำไลที่หยางเฉินซื้อให้เธอ จึงจงใจทำ กําไลของตนเองตกแตก จากนั้นใส่ร้ายโจวชุ่ย แถมยังให้เธอ ชดใช้ให้

ตอนที่เธอรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสะใภ้ตระกูลจาง อยู่ต่อหน้า สาธารณชน ต้องให้ฉันยื่นหน้าเข้าไปให้ผู้หญิงคนนี้ตบ ต่อมา หยางเฉินปรากฏตัว เธอจึงผลักภาระทุกอย่างไปให้บนหัวของ หยางเฉิน จากนั้นไม่สนใจฉินกับหยางเฉินว่าเป็นตายอย่างไร หนีไปตามลำพัง
และต่อมาก็เป็นจางกว่างพาผู้หญิงคนนี้ไปขอโทษที่ห้องส่วน ตัว และยังเอากำไลคืนให้เธอด้วย

ฉันค่อยๆ ผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาได้เช่นกัน ขณะนั้นสีหน้าเป็น ชาลงมา “คุณคือหวังลู่เหยาสินะ?”

“ยย นี่คือเพื่อนคุณเหรอ?”

วันนั้นที่เลี้ยงอาหาร ฉันต้าหย่งไม่อยู่ และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ยังคิดว่าผู้หญิงคนนี้รู้จักกับโจวชุ่ย จึงยิ้มพูดว่า “ผมบอกแล้ว เช่าห้องที่นี่ดีออก? คุณดูสิ เพิ่งมาก็เจอเพื่อนแล้ว”

“คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันลูกสะใภ้ของตระกูลจางที่น่าเกรงขาม จะมาพักที่เสื่อมโทรมแบบนี้ได้ยังไงกัน?

หวังลู่เหยามองฉันต้าหย่งแบบเยาะเย้ยแวบหนึ่ง และยิ้มกริ่ม จองโจวยที่สีหน้าดูแย่ “ได้ยินว่าพวกเธอทั้งครอบครัว โดนไล่ ออกจากตระกูลแล้ว? ทำไม? ตอนนี้แม้แต่ที่อยู่ยังไม่มี จนต้องวิ่ง มาเช่าห้องอยู่ที่นี่?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ