The king of War

บทที่ 334 เปราะบาง



บทที่ 334 เปราะบาง

ในเวลาเดียวกัน ณ บ้านตระกูลเมิ่งในเจียงโจว

ในห้องโถงใหญ่ หญิงวัยกลางคนที่ดูสง่านั่งอยู่ในเก้าอี้หลัก ส่วนเพิ่งหงอย หัวหน้าครอบครัวตระกูลเพิ่งได้แต่นั่งอยู่ข้าง หญิงวัยกลางคนคนนั้นด้วยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยเต็มใจมากนัก

“คุณหญิงหวงมาเจียงโจวตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ทำไมไม่แจ้งผม ล่วงหน้าก่อน? ผมจะได้ไปรับคุณที่สนามบินครับ

ใบหน้าเมิ่งหงเย่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ลึกๆ ในดวงตาของ เขากลับเต็มไปด้วยความกลัว

คุณหญิงหวงสีหน้านิ่งเฉย ดวงตาที่เหมือนตาเหยี่ยวจ้องมอง

ไปที่เพิ่งหงเย่และดูเหมือนจะสามารถมองทะลุความกลัวในใจ

ของเมิ่งหงเย่ได้

“ฉันขอถามคุณว่า ลูกชายฉันเพิ่งฮุย เขาตายยังไง? แล้วเพิ่ง เทียนเจียว สามีเก่าของฉันตายยังไง?

คุณหญิงหวงตรงเข้าประเด็นทันที ในขณะที่เธอถามคำถามนี้ นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าที่รุนแรง ซึ่งก็ทำให้เพิ่ง หงเย่กลัวจนขนหัวลุก

คุณหญิงนามสกุลหวงคนนี้ เธอกลับเป็นแม้แท้ๆ ของเมิ่งฮุย ซึ่งก็คือลูกสะใภ้ของเมิ่งหงอย่
แม้จะเป็นเช่นนี้ เมิ่งหงเก็ไม่กล้าที่จะละเลยแม้แต่น้อย เขา กลับให้คุณหญิงหวงคนนี้นั่งอยู่ในที่นั่งสำคัญของห้องรับแขกใน บ้าน

คนที่ได้รับความเคารพเป็นพิเศษจากเพิ่งหงอย และยังมี นามสกุลหวงอีกด้วย ซึ่งมีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ตระกูลหวง หนึ่งในแปดของตระกูลแห่งเย็นตู

และเธอคนนี้ก็คือหวงเหมย

ซึ่งการมาเจียงโจวในครั้งนี้ก็เพื่อเพิ่งฮุยกับเพิ่งเทียนเจียว

เจิ่งหงเย่กลัวจนหัวใจเต้นรัว ดวงตาของเขาแดง และพูด อย่างขมขื่นว่า “คุณหญิงหวงครับ ฮุยเอ๋อกับเทียนเจียวตายด้วย น้ำมือของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อหยางเฉินครับ!

จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องของเมิ่งฮุยกับเมิ่งเทียนเจียวอย่าง ละเอียด

และสิ่งที่ควรเล่าเขาได้เล่าไปหมดแล้ว แต่เหลือเพียงสองเรื่อง ที่เขายังเก็บเป็นความลับ นั่นก็คือเรื่องที่เขาไล่เมิ่งฮุยออกจาก บ้านต่อหน้าทุกคน และการปฏิเสธการแก้แค้นของเพิ่งเทียนเจียว

หลังจากฟังสิ่งที่เพิ่งหงเย่พูด ดวงตาทั้งคู่ของหวงเหมยก็กลาย เป็นสีแดง นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร

“ทำไมฉันยังได้ข่าวว่าคุณไม่ชอบลูกชายฉัน แล้วไล่เขาออก จากบ้านต่อหน้าทุกคนไม่ใช่เหรอ? แล้วเพิ่งเทียนเจียวก็เคยขอ ความช่วยเหลือจากตระกูลเมิ่งเพื่อทำการล้างแค้นให้ลูกชายฉันแต่คุณกลับปฏิเสธ?”

หวงเหมยยังดูสงบ แต่บุคลิกที่โดดเด่นของเธอก็ยิ่งทำให้ดูน่า เกรงขามมากขึ้น

หลังจากได้ยินคำถามนี้ สีหน้าของเมิ่งหงเยก็เปลี่ยนไปทันที ถ้าหากเขารู้ว่าหวงเหมยเป็นคนของตระกูลหวงในแปดตระกูล แห่งเย็นตู แล้วเขาจะไล่เพิ่งฮุยออกจากบ้านทำไม? แล้วเขาจะ

ปฏิเสธคำขอของเมิ่งเทียนเจียวทำไม?

เขาไม่รู้แม้กระทั่งความสัมพันธ์ของหวงเหมยกับเมิ่งเทียน เจียวด้วยซ้ำ

เขารู้เพียงว่า วันหนึ่งเมื่อสามสิบปีก่อน จู่ ๆ เมิ่งเทียนเจียวได้ พาเด็กทารกชายกลับมาคนหนึ่ง และยังบอกว่าเป็นลูกชายของ

เขา

ซึ่งเด็กทารกชายคนนี้ก็คือเพิ่งฮุย

เพิ่งหงเย่ยังเคยแอบให้เพิ่งฮุยไปตรวจดีเอ็นเอว่าเขาเป็น ลูกชายแท้ๆ ของเมิ่งเทียนเจียว และเมื่อชัดเจนแล้วเขาถึงจะ ยอมรับในตัวของเมิ่งฮุยได้

แต่ในวันนี้ หวงเหมยกลับบุกมาถึงบ้านของเขาเพื่อมาถาม สาเหตุการตายของเพิ่งเทียนเกี่ยวกับเมิ่งฮุย

ด้วยเหตุนี้เพิ่งหงเย่จึงรู้สึกเสียดายมาก แต่ ณ เวลานี้ ในใจ ของเขาเหลือเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้น

“คุณหญิงหวง ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ นะครับ”
เพิ่งหงเย่พูดด้วยความกลัวและสีหน้าซีดเซียว “ความคาดหวัง ของผมที่มีต่อเทียนเดียวกับฮุยเอ๋อทุกคนก็เห็นแล้ว ผมกระทั่ง แหกกฎให้ฮุยเอ๋อได้มีโอกาสแย่งชิงตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลกับ ทายาทคนอื่นๆ ด้วย

“แต่หยางเฉินคนนี้มีอิทธิพลจริงๆ มันคนเดียวสามารถกระทบ ทั้งตระกูลเมิ่งของเราได้

“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น เดี๋ยวรอคุณหญิงหวงตรวจสอบเสร็จก็ จะรู้เองว่าผมไม่ได้ปิดบังคุณเลยแม้แต่นิด

“ถึงอย่างไรแล้ว เทียนเจียวก็เป็นลูกชายที่ภาคภูมิใจที่สุดของ ผม และฮุยเอ๋อก็เป็นหลานชายที่ภาคภูมิใจที่สุดของด้วยผมเช่น กัน ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุสุดวิสัยจริงๆ ผมจะยอมทิ้งพวกเขาได้ยังไง ล่ะ?”

เจิ่งหงเยถึงกับลุกขึ้นยืนและไม่กล้านั่งลงไปอีก ถ้าหากไม่ใช่ เพราะหวงเหมยเป็นรุ่นลูกของเขา ตอนนี้เขาคงคุกเข่าขอความ เมตตาจากเธอไปนานแล้ว

หวงเหมยเองก็รู้ดีว่าเพิ่งหงเย่ไม่กล้าโกหกเธอ

อีกอย่างเมิ่งหงเย่ก็ยังเป็นพ่อของเพิ่งเทียนเจียว และยังเป็น ของเมิ่งฮุยอีกด้วย ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่เสียเวลาคุยกับเขาแล้ว

“หยางเฉินที่คุณพูดถึง มันเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงขั้น จัดการกับยอดฝีมือของตระกูลเมิ่งของคุณภายในครั้งเดียวได้?” หวงเหมยขมวดคิ้วถาม
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าเธอจะไม่เคยมาที่ตระกูลมิ่ง แต่เธอก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวตระกูลเพิ่งเป็นอย่างดี เธอรู้อย่างชัดเจนว่าภูมิหลังของตระกูลเจิ่งนั้นดีแค่ไหน

แต่ไม่คิดเลยว่าครอบครัวยิ่งใหญ่อย่างตระกูลเพิ่งกลับเกือบ ถูกทําลาย โดยเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

“คุณหญิงหวง สิ่งที่ผมพูดไปล้วนเป็นความจริงหมด ผมไม่

กล้าโกหกคุณแม้แต่คำเดียวเลยนะครับ!! เพิ่งหงเย่พูดอย่างรีบร้อนเพราะกลัวว่าหวงเหมยจะอารมณ์เสีย

แล้วสั่งฆ่าเขา

แต่หวงเหมยไม่ได้พูดอะไร และสีหน้าของเธอเต็มไปด้วย ความเคร่งขรึม

ในฐานะผู้หญิงจากครอบครัวตระกูลหวง เธอไม่ใช่คนโง่อย่าง

แน่นอน

ชายหนุ่มอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีสามารถเอาชนะยอดฝีมือของ ตระกูลเพิ่งได้ คนหนุ่มที่มีฝีมือดีขนาดนี้ ต่อให้อยู่ในแปดตระกูล แห่งเย็นตูก็หาพบได้ยาก

“ปรมาจารย์ถัง คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

ทันใดนั้น หวงเหมยมองไปที่ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ เธอ แล้วถามเขา

ปรมาจารย์ถังเป็นยอดฝีมือที่เธอพามาจากตระกูลหวง เขามีหน้าที่ปกป้องความปลอดภัยของเธอ และฝีมือของเขาก็ แข็งแกร่งมาก

เมื่อพูดถึงศิลปะการต่อสู้ การที่ปรึกษาปรมาจารย์ถังจึงเป็น เรื่องเหมาะสมที่สุด

ปรมาจารย์ถังถามทันทีว่า “เมิ่งหงเย่ ยอดฝีมือของตระกูลเมิ่ง

ของคุณคือใครครับ?”

“เพ้าค่า!”

เมิ่งหงเย่พูดอย่างเสียงดัง และเข้าดำคนหนึ่งที่สวมเสื้อคลุมสี และหน้ากากแสยะยิ้มก็เดินออกมาจากด้านหลังเขา

ปรมาจารย์ถังก้าวไปข้างหน้าและมองไปที่เข้าดำคนนั้น ใช้ สุดความสามารถของคุณมาสู้กับผมดู!!

“ได้”

เพ้าคำพูดขึ้น

“เฉง!”

ในเวลาเดียวกัน เพ้าดำก็ชักดาบของเขาออกมา

ซึ่งคำที่เล่าขานกันว่า “เพ้าออกดาบ เลือดไหลเป็นแม่น้ำ คำนี้ สำหรับปรมาจารย์ถังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กกระจ้อย ร่อยเท่านั้น

“เข้ามาเลย!”

ปรมาจารย์ถังยืดตัวตรงแล้วสองมือไขว้หลังและตะโกนใส่เข้าแต่เพ้า ไม่กล้าประมาทเลยแม้แต่น้อย และเขาสามารถ สัมผัสถึงแรงกดดันอันมหาศาลจากตัวของปรมาจารย์ถังได้

แม้จะรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ แต่เขาก็ต้องสู้

“ยิบ!”

เข้าค่าตะโกนด้วยความโกรธ ขาของเขามีการเคลื่อนไหว อย่างกะทันหัน และเขาได้ระเบิดความเร็วที่เร็วที่สุดในชั่วพริบตา

ทุกคนเห็นเพียงเงาสีดำที่พุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์ถัง แต่ ปรมาจารย์ถังยังคงยืนอยู่กับที่ด้วยมือข้างหนึ่งที่ไขว้หลังไว้ ส่วน มืออีกข้างปล่อยอยู่ในระดับช่วงเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์ถังตั้งใจจะใช้เมื่อเพียงข้างเดียวใน การรับมือกับเพ้า

ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจจะโอ้อวด แต่เขามีคุณสมบัติที่จะเย่อหยิ่ง จริงๆ เพราะแม้แต่ในเมืองเยน เขายังเป็นปรมาจารย์ที่ติด อันดับด้วย

ส่วนยอดฝีมือของเหล่าเศรษฐีในเมืองเอก สำหรับเขาแล้วเป็น เรื่องกระจ้อยร่อยเท่านั้น

เขาปล่อยให้เค้าดระเบิดพลังอย่างเต็มที่ จุดประสงค์คือ อยากรู้ความแข็งแกร่งของหยางเฉินเท่านั้น

“ฟุบ!”
และในชั่วพริบตา เพ้าก็ได้มาถึงตรงหน้าปรมาจารย์ดัง สองมือของเขาถือมีดแล้วฟันลงไปด้วยความแรง

“แท๊ง!”

เมื่อเห็นว่ามีดของเค้ากำลังจะตกลงมาบนหัวของ ปรมาจารย์ถัง ในขณะนี้ปรมาจารย์ถังก็ยื่นมือออกมา สะบัดนิ้ว และเสียงปะทะกันของโลหะก็ดังขึ้น

ด้วยความตกใจของทุกคน มีดของเค้าถูกนิ้วมืดแล้วพุ่ง กระเด็นออกไป

“บูม!”

เข้าถึงทำกับหน้าทิ้ง หลังจากรู้ตัวอีกที หน้าอกของเขาถูก กระแทกด้วยแรงอันมหาศาล

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เลือดก็พุ่งออกมาเต็มปาก ทั้ง

ตัวของเขากระเด็นออกไปหลายเมตร และก่อนที่เขาจะร่วงลงพื้น

เขาก็ได้หมดสติไปแล้ว

บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที

ดวงตาของเมิ่งหงเย่เบิกกว้าง เขาจ้องมองไปที่ปรมาจารย์ถัง ที่ยืนสองมือไขว้หลังอยู่ตรงกลางห้องโถงนั้น

นิ้วเดียวสามารถดีดดาบของเพ้าจนกระเด็นออกไป

ฝ่ามือเดียวสามารถโบยเท้า กระเด็นออกไป

ในโลกนี้ยังมีปรมาจารย์ที่ทรงพลังขนาดนี้อยู่หรือ?
แม้เขาจะรู้ว่าเค้าต้องพ่ายแพ้โดยที่ไม่ต้องสงสัย แต่เขาไม่ คาดคิดว่าเค้าว่าจะแพ้อย่างราบคาบขนาดนี้

“เปราะบางจริงๆ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ