The king of War

บทที่ 75 เสี้ยวเสียวถูกลักพาตัว



บทที่ 75 เสี้ยวเสียวถูกลักพาตัว

” พวกเรายอมศิโรราบต่อเขาแล้ว ทำไมยังต้องส่งของ ตอบแทนให้เขาอีกล่ะครับ?” หยางเวยใบหน้าเต็มไปด้วย ความไม่เข้าใจ

“เธอไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ถ้าเขาไม่ใช่คนของตระกูลอวี่เหวิน เขานับว่าเป็นสิ่งใด? ยังคิดที่จะต่อกรกับตระกูลอวี่เหวินอีกหรือ? มันคือการรนหาที่ตาย!!

หยางเสียงหญิงยิ้มเยาะ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นเราก็ต้อง แสดงความยอมศิโรราบชั่วคราว ยืมมือเขาไปก่อน ให้ตระกูล หยางรุ่งโรจน์ขึ้นมาก่อน และเมื่อใดที่เขาจะต่อกรกับตระกูลอ เหวินจริงๆ เวลานั้นพวกเราก็จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาใดๆ ทั้ง

หยางเวยเข้าใจทันใดจึงรีบพูด : “ผมเข้าใจแล้ว แค่ต้องการ ใช้ประโยชน์เขา”

“ไร้สาระ! เด็กน้อยคนหนึ่งมีคุณสมบัติอะไรที่ทำให้ตระกูล หยางของฉันยอมศิโรราบ?”

หยางเสียงหญิงใบหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นก็สั่งการต่อ : “ตอนนี้เธอไปที่เจียงโจว ทำหน้าที่ประธาน บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ บริษัทนี้ฉันได้ส่งคนไปกว้านซื้อมา แล้ว และโอนหุ้นบริษัทสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ให้เด็กคนนั้น โดยไม่ คิดค่าใช้จ่าย
มุมปากหยางเวยยกขึ้นเป็นรอย โค้ง : “ขอบคุณครับ ท่าน วางใจ ผมจะไม่ทําให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

ไม่นานหยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากทั่วปิง

“ประธานกรรมการบริหาร ตระกูลหยางได้ซื้อบริษัทท้องถิ่น แห่งหนึ่งในเจียงโจว ชื่อบริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ และได้โอน หุ้นสี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ให้ท่านโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ” ลั่วปัง รายงานข่าวอย่างรวดเร็ว

หยางเฉินยิ้มเยาะ “จะเล่นอุบายกับฉัน?”

ลั่วปิงยังไม่รับรู้ถึงความคิดของตระกูลหยาง เมื่อได้ยินคำพูด หยางเฉินจึงถามอย่างงุนงง : “ประธานกรรมการบริหารความ หมายของท่านคือ?”

“ในเมื่อตระกูลหยางอยากส่งให้ฟรีๆ อย่างนั้นก็รับมัน ทั้งหมด” หยางเฉินตอบไม่ตรงคำถาม และวางสายโทรศัพท์

“ไอ้แก่ ช่างกล้าจริงๆ

หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย ถั่วชิงพึงกระจ่างในฉับพลัน : “การ เคลื่อนไหวของตระกูลหยางดูเหมือนการส่งของรางวัลชิ้นใหญ่ ในท่านประธานกรรมการบริหาร แต่ของรางวัลใหญ่ชิ้นนี้กลับ สามารถทำกำไรมหาศาลให้ตระกูลหยาง เพราะพวกเขารู้อยู่ แล้วว่าวิสัยทัศน์ของท่านประธานกรรมการบริหาร ไม่เพียงแต่ใน เจียงโจวเท่านั้นยังมีที่เย็นด้วย

หยางเฉินชัดเจนขึ้นอีกหน่อย เดิมคิดว่าตระกูลหยางจะยอมศิโรราบ ดูแล้วตอนนี้พวกเขาคิดจะยืมมือใช้อำนาจของเขามา เสริมทัพตระกูลหยาง

ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกัน เอาตระกูล หยางทั้งหมดมาเป็นของผม” หยางเฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย

เหตุการณ์นี้ทำให้หยางเฉินรับรู้ถึงสถานการณ์ของตนเอง

ไม่ว่าจะเป็นอำนาจท้องถิ่นในเจียงโจวหรืออำนาจในที่อื่นๆ มักจะคิดว่าเยี่ยนเงินกรุ๊ปของเจียง โจวเป็นเพียงบริษัทสาขา สาขาหนึ่ง

เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในชายแดนเหนือ ตัวตนนี้ไม่ สามารถเปิดเผยได้ง่ายๆ มิฉะนั้นไม่จำเป็นต้องเสียใจไป และไม่ต้องรีบร้อน ทุกอย่างที่

ตั้งแต่หลังจากฉิน รับตำแหน่งประธานชานเรือกรุ๊ป การ พัฒนาของบริษัทก็รวดเร็วมาก ในเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งเดือน มูลค่าตลาดของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า

แน่นอน นอกจากความพยายามของฉันแล้ว ยังมีหยางเฉิน เกี่ยวข้องอีกด้วย

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน หยางเฉินรอกว่ายี่สิบนาที ก็ยังไม่เห็นฉัน ออกมา

ขณะเดียวกัน จู่ๆ ฉันก็โทรศัพท์มา : “หยางเฉิน คืนนี้ฉันจะ ทำโอที คุณไม่ต้องรอฉันแล้ว ไปรับเสี้ยวเสียวก่อนเลย
หยางเฉินเวลา พบว่าถึงเวลาเลิกเรียนของโรงเรียนอนุบาล แล้ว ดังนั้นจึงพูด “รอฉันพาเสียวเลี้ยวกลับไปส่งบ้านก่อน แล้ว จะมารับเธออีกที

ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเวลารับเด็กของโรงเรียนอนุบาลหลาน เทียน

หน้าประตู ผู้ปกครองจำนวนมากเข้าแถวอยู่ คุณครูเรียกชื่อ ไปด้วยพาเด็กมาให้ผู้ปกครองไปด้วย

เสียวเสียวกําลังมองซ้ายแลขวา หาพ่อแม่ของตนเอง แต่หาไม่ เจอสักที

“เสี้ยวเสียว!”

ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น

“คุณน้าฟางเยวมาได้ยังไงคะ?” เมื่อเห็นฟางเยว่ ใบหน้าเสียว เสียวเต็มไปด้วยความสงสัย

แม้ปกติจะไม่ได้สนิทด้วย แต่เสี้ยวเสี้ยวก็รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้เป็น คุณน้าของเธอ เพียงแต่ความสัมพันธ์ไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนั้น

“น้าก็มารับเธอไงจ๊ะ! คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอต่างทำงานกัน

อยู่ เลยให้ฉันมารับเธอก่อน

ใบหน้าฟางเยว่เต็มไปด้วยรอยยิ้มรักใคร่ ในมือถือตุ๊กตาอยู่ ตัวหนึ่ง

สายตาของเสี้ยวเลี้ยวถูกตุ๊กตาดึงดูดทันที
“คุณเป็นคุณน้าของเสียวเสี้ยวหรือคะ?” คุณครูอนุบาลได้ยินที่ เสี้ยวเสี้ยวและฟางเยวพูดคุยกัน ก็ลดความระมัดระวังลงทันที

ฟางเยวยิ้มและพูด : “พ่อแม่ของเด็กต่างทำงานกันอยู่ เลยให้ ฉันมารับเลี้ยวเลี้ยวกลับบ้าน อย่างนั้นเอาอย่างนี้ดีไหม โทรศัพท์ หาคุณแม่ของเสี้ยวเสี้ยว และให้เธอพูดกับคุณ

ไม่รอให้คุณครูพูด ฟางเยวต่อสายโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว : “พี่คะ คุณคุยกับคุณครูหน่อย ฉันมารับเลี้ยวเลี้ยวกลับบ้านก่อน

“สวัสดีค่ะคุณครู ฉันเป็นคุณแม่ของเสี้ยวเสี้ยว วันนี้ฉันต้องทำ โอที ไม่มีเวลาไปรับลูกก็เลยให้น้องสาวไปรับแทนค่ะ” ใน โทรศัพท์มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น

คุณครูกำลังยุ่งกับการส่งเด็กๆ จึงไม่ทันสังเกตเห็นถึงความ ผิดปกติจากปลายสาย

ด้วยเหตุนี้ ฟางเยว่จึงถือโอกาสพาเสี้ยวเลี้ยวออกไป

“คุณน้าฟาง นี่เป็นของขวัญของหนูใช่ไหมคะ?” เสี้ยวเลี้ยวถือ ตุ๊กตาในมือ เล่นไปด้วยถามไปด้วย

ในดวงตาฟางเยว่ปรากฏประกายแวววาว แต่ยังพูดด้วยรอย ยิ้ม : “แน่นอนมันเป็นของขวัญสำหรับเสี้ยวเสี้ยว

“ขอบคุณค่ะคุณน้าฟาง!” เสี้ยวเสี้ยวพูดอย่างดีใจ

อีกด้านหนึ่ง หยางเฉินมาถึงโรงเรียนอนุบาลหลานเทียน มองกวาดไปรอบๆแล้ว แต่ก็ไม่เห็นเงาของเสี้ยวเสียวเลย
“คุณพ่อเลี้ยวเสี้ยว เขี้ยวเลี้ยวกลับไปกับคุณน้าของเธอแล้ว ไม่ใช่หรือคะ? ทำไมคุณมารับอีก?” หยางเดินคอยรับส่งเสี้ยว เขียวตลอดเวลา คุณครูจึงหยางเฉินได้

“มีคนมารับไปแล้วอย่างนั้นหรือ ผมไม่ทราบ ขอบคุณครูหล หยางเฉินกล่าวขอบคุณ แล้วหันหลังจากไป

เมื่อขึ้นมาบนรถ เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ รู้สึกไม่ สบายใจ

ในเมื่อฉินซีให้เขามารับลูกสาว แล้วจะให้ฉันมารับได้ยังไง?

“เสี่ยว เธอมารับเสี้ยวเลี้ยวไปหรือเปล่า? หยางเฉิน โทรศัพท์ไปหา

ฉันพูดอย่างงุนงง : “ไม่นะ! ฉันฟังออกจากบริษัท พี่เขยไม่

ว่างไปรับเสี้ยวเสี้ยวเหรอ? อย่างนั้นฉันจะไปรับเดี๋ยวนี้

“อะไรนะ?” สีหน้าของหยางเฉินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ความหนาวเย็นอันน่าประหลาดปะทุออกมาจากข้างในเขา

“พี่เขยเป็นอะไรไปคะ?” ฉันฟังความประหลาดใจของหยาง เฉินออก จึงรีบถาม

หยางเฉินสูบหายใจเข้าลึกๆ พยายามให้ตนเองสงบสติ อารมณ์ลง : “เสี่ยวยี ไม่ต้องแล้ว ฉันจะไปรับเสี้ยวเสียวเอง

เขาไม่ได้บอกความจริงกับฉัน วางสายโทรศัพท์แล้วก็วิ่งไป หาคุณครูทางนั้น
“ครูหลี่ คุณบอกว่าเสี้ยวเสียวมีคุณน้าเธอพากลับไปแล้ว แต่ ไม่มีนะครับ! หยางเฉินถามอย่างร้อนใจ

ครูหลี่พูด : “เสี้ยวเสียวถูกคุณน้าของเธอพากลับไปแล้วจริงๆ นะคะ ใช่แล้ว ฉันได้ยินเสี้ยวเสี้ยวยังเรียกเธอว่าคุณน้าฟาง แล้ว ภรรยาของคุณยังพูดในโทรศัพท์ว่าเธอไม่ว่างมารับเด็ก ให้น้อง สาวเธอมารับแทน

เมื่อครูหลีพูดจบ สีหน้าของหยางเฉินมืดมนอย่างถึงที่สุด : “เธอผมดัดลอนยาวใช่ไหม? และยังย้อมผมสีไวน์แดงอีก ส่วนสูง หนึ่งจุดหกเมตร?”

ครูหลี่รีบพยักหน้า : “ใช่ค่ะ เป็นผู้หญิงคนนี้ คุณพ่อเลี้ยวเลี้ยว คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหมคะ?”

หลังจากที่หยางเฉินได้รับการยืนยันแล้วว่าเสี้ยวเลี้ยวถูกฟาง เยาพาไป ไม่มีเวลามากพอที่จะพูดพร่ำเพรื่อ จึงรีบหันหลังแล้ว เดินไป พร้อมกับต่อสายโทรออกในเวลาเดียวกัน พูดอย่างโกรธ เกรี้ยว : “ตรวจสอบให้ผมเดี๋ยวนี้ ฟางเยวของตระกูลฉิน ตอนนี้ เธออยู่ที่ไหน เมื่อสิบนาทีก่อนเธอมาพาตัวลูกสาวฉันไปจาก โรงเรียนอนุบาลหลานเทียน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ