The king of War

บทที่ 123 ตายไปซะเถอะ



บทที่ 123 ตายไปซะเถอะ

หยางเฉินตะลึง คาดไม่ถึงว่าจะถูกคนเอาปืนมาจ่อศีรษะอีก แล้ว

ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่คือครั้งที่สาม

ครั้งแรกคือที่ตระกูลกวน เพียงแต่ตอนนั้นเร็วมาก พอชายรูป ร่างสูงใหญ่ร้อยคนปรากฏตัวขึ้น จากนั้นพาทุกคนของตระกูล กวนไปหมด ถ้าไม่ใช่ตระกูลกวนยังมีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์ คง พังพินาศไปตั้งนานแล้ว

ครั้งที่สองคือที่ตระกูลหยางแห่งเมือง โจวเฉิง มือปืนสิบกว่าคน ถูกหยางเฉินสังหารในชั่วพริบตาเดียว ตระกูลพินาศย่อยยับ

นี่คือครั้งที่สาม ทันใดนั้นหยางเฉินรู้สึกตลกอยู่บ้าง ภายใน ช่วงเวลาไม่ถึงสองเดือนที่ตนเองกลับมายังเมืองเจียงโจว เคยถูก คนเอาปืนมาจ่อศีรษะสามครั้งแล้ว

ตอนฉินซีและซูซานมองเห็นฉากนี้เข้า ในสายตาเต็มไปด้วย ความตกตะลึง พวกเธอเป็นหญิงสาวบอบบาง เคยเจอ สถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน

แทบจะออกมาโดยจิตใต้สำนึก ฉินซีอยากไปขวางด้านหน้า หยางเฉิน และในเวลานี้เอง หยางเฉินดึงมือของเธอไว้แน่น ปกป้องเธอไว้ด้านหลัง

“เถ้าแก่หลิว นี่คุณแพ้ไม่เป็นหรือไง?
หยางเฉินหรี่ตาพูดขึ้น ไม่มีความหมายหวาดกลัวสักนิด เวลา นี้บนหน้าเขาสวมหน้ากากไว้เดิมที่คนอื่นดูไม่ออก

“ไอ้หนุ่ม ฉันยอมแพ้แล้ว และรับปากจะคืนสาวสองคนนี้ให้แก แต่ไม่ได้บอกว่าให้แกไปแบบนี้ซะหน่อย

หลิวข่ายทำหน้าข่มขู่พูดไป “ตอนนี้ฉันให้ตัวเลือกแกสองอัน อันแรก ต่อไปทำตามคำสั่งฉัน เงินค่าตอบแทนสิบล้าน อันที่สอง แกทิ้งชีวิตเอาไว้”

เหตุผลที่หลิวข่ายชักปืน ไม่ใช่เพื่อเอาชีวิตของหยางเฉิน แต่ ว่าสนใจฝีมือของหยางเฉิน ทั้งที่รู้ว่าเขาโกง แต่คิดอย่างไรก็คิด ไม่ออกว่าสรุปแล้วเขาโกงได้อย่างไร

คนประเภทนี้ ถ้าสามารถเอาไว้ข้างกายตนเองได้ การที่เมือง คิงจะเคียงบ่าเคียงไหล่สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจว เป็นเพียง ปัญหาด้านเวลาเท่านั้น

“พวกคุณออกไปรอผมข้างนอกก่อน

ทันใดนั้นหยางเฉินพูดกับฉินซีที่ด้านข้าง

เวลานี้ฉินซีไม่สนใจเปิดเผยความสัมพันธ์กับหยางเฉินออกมา ดึงมือของเขาไว้แน่น พูดด้วยหน้าตาประหม่า “งั้นคุณจะทำยัง ไง?”

ตั้งแต่ต้นจนจบซูซานคิดว่าหยางเฉินเป็นคนเลวที่ชนะจนได้ เพื่อนสนิทของตนเองไป กระทั่งวินาทีนี้ หล่อนถึงรู้สึกตัวว่าเรื่อง ราวเหมือนไม่ใช่แบบที่หล่อนคิด
หล่อนไม่รู้ แต่หลิวข่ายกลับรู้ตั้งแต่แรกแล้ว

โดยเฉพาะที่นี่คือเขตอิทธิพลของเขา ตอนที่รู้ว่าที่นี่มีสาวสวย ยอดเยี่ยมสองคนปรากฏตัวขึ้น เขาก็รู้แล้วว่าฉินซีและหยางเฉิ นมาด้วยกัน

หยางเฉินมองฉัน ด้วยท่าทางอ่อนโยน “เสี่ยวซี เชื่อใจผม จะ

ต้องไม่เป็นอะไร เชื่อผมนะ พวกคุณไปรอผมข้างนอกก่อน

เสียงของเขาเต็มไปด้วยแรงดึงดูด ทำให้ฉันต้องรับปากไป โดยจิตใต้สำนึก แต่พอนึกถึงสถานการณ์ที่หยางเฉินเผชิญ ฉินซี อดเป็นห่วงอย่างมากไม่ได้

“เชื่อผม!”

หน้าตาหยางเฉินดูจริงจัง ฉันรู้ว่าขึ้นอยู่ที่นี่ต่อไป เพียงแต่จะ กลายเป็นตัวถ่วงของหยางเฉิน ในที่สุดเธอก็รับปาก พูดแบบ ตาแดงก่ำ “ฉันรอคุณอยู่ด้านนอก ถ้าคุณเกิดเรื่องขึ้น ฉันจะไม่มี ชีวิตอยู่ตามลำพัง!”

“วางใจได้ ผมจะไม่เป็นอะไร ไปรอผมข้างนอกเถอะ!” หยาง เฉินยิ้มบอกไป

ฉินซีถึงได้พยักหน้า ดึงซูซานออกไปด้วยกัน

ชั่วขณะนั้น ภายในห้องส่วนตัวนอกจากหยางเฉินแล้ว คนอื่นๆ เป็นคนของหลิวข่ายทั้งหมด ทุกคนนั้นจ้องหยางเฉินแบบหยอก เย้า

“เหมือนว่าแกไม่กลัวฉันเลยสักนิด?”
หลิวข่ายถามขึ้นกะทันหัน สีหน้าเคร่งขรึมอยู่บ้าง ท่าทางไม่ สะทกสะท้านของหยางเฉิน ทำให้เขารู้สึกถึงความกดดันนิดๆ

ยังมีการแสดงออกของหยางเฉินที่โต๊ะพนันเมื่อสักครู่ด้วย ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ

ทันใดนั้นหยางเฉินก้าวเท้าเดินมาด้านหน้า คนที่ถือปืนคือ หลิวข่าย แต่เวลานี้ เขากลับหวาดกลัวพอสมควร มือที่ถือปืนไว้ สั่นเทาขึ้นมาเล็กน้อย

คนอื่นๆ เห็นเหตุการณ์ตอนนี้ ต่างพากันชักปืนออกมาจากใน ชุดสูท ปากกระบอกปืนเล็งเป้าไปยังหยางเฉิน

ฝีเท้าของหยางเฉินไม่ได้หยุดลงแม้แต่น้อย จนกระทั่งเดินมา ถึงตำแหน่งที่นั่งอยู่เมื่อสักครู่นี้ ถือโอกาสถอดหน้ากากบนหน้า ลงมาวางไว้บนโต๊ะพนัน จากนั้นนั่งลงไปแล้ว

ผู้ชายหัวล้านคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายของหลิวข่าย ตอนที่มอง เห็นหน้าตาของหยางเฉิน ลูกตาหดเฉียบพลัน เหมือนมองเห็น บุคคลที่น่าสยองขวัญอย่างมาก

“เมืองเจียงโจวเล็กๆ ยังมีใครมีสิทธิ์สั่งฉันทำงานให้เขาได้ แกยิ่งไม่มีสิทธิ์นี้”

หยางเฉินหน้าตาสงบนิ่ง จากนั้นหยิบไพ่โป๊กเกอร์ใบหนึ่งบน โต๊ะพนันขึ้น เอามาเล่นแล้ว

“งั้นแกคงเลือกทางตายที่สองสินะ?” หลิวข่ายกัดฟันแน่น เวลานี้ เขามีความรู้สึกขึ้นหลังเสือแล้วลงยากอย่างหนึ่ง เมื่อสักครู่ถ้าให้หยางเฉินจากไป คงจะไม่เกิดเรื่องราวแบบในตอนนี้ ขึ้น แต่ในเมื่อทำแล้ว ฉะนั้นได้แต่ฝืนทนทำต่อไป

“แกคิดว่า แกฆ่าฉันได้?” หยางเฉินหัวเราะขึ้นฉับพลัน รอยยิ้ม มีความแปลกประหลาดอยู่บ้าง

ในแววตาลึกๆ ของหลิวข่ายมีความหวาดกลัวนิดๆ หยางเฉิน ถูกปืนมากมายขนาดนี้จอศีรษะอยู่ แต่ทว่ายังคงไม่มีความกลัว แม้แต่น้อย กลับหัวเราะครื้นเครง คนประเภทนี้ ไม่เป็นคนโง่ ก็ เป็นคนบ้า

เขาสามารถบีบให้ตนเองยอมพ่ายแพ้ได้ ย่อมไม่ใช่คนโง่เป็น ธรรมดา อย่างนั้นมีเพียงเป็นคนบ้า

“แกคิดว่าด้านนอกมีแต่คนอยู่ ขอเพียงฉันลั่นไกออกไป ก็จะ

เปิดโปงตัวเองใช่หรือไม่?”

หลิวข่ายได้เพียงคิดแบบนี้ กัดฟันพูดว่า “แต่ฉันบอกแกได้เลย อยู่ที่ชั้นนี้ ฉันคือราชา อย่าบอกว่านี่คือห้องส่วนตัว ต่อให้อยู่ด้าน นอก ต่อให้ฉันเอาแกตาย ก็จะไม่เป็นอะไรสักนิดเดียว แกเชื่อ มั้ย?”

“พูดไร้สาระเยอะจริง!”

หยางเฉินหัวเราะอย่างเหยียดหยาม กวาดสายตามองกลุ่มคน ก่อนจะบอกว่า “ฉันให้โอกาสพวกนายขึ้นมารับตำแหน่ง ใครฆ่า เขาได้ อิทธิพลใต้ดินของเมืองเจียงโจวตกเป็นของคนนั้น

หลิวข่ายเบิกตากลมโต คาดไม่ถึงว่าหยางเฉินเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ยังปลุกปั้นคนของเขาให้มาฆ่าเขาเอาตำแหน่ง “ไอ้หนุ่ม ฉันว่าแกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว…….

ท่าทางเขาโกรธเคือง พูดยังไม่ทันจบ ที่ท้ายทอยเย็นขึ้น กะทันหัน ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคือปืน

“หัวล้านเฉียง แกแม่งกำลังทำอะไร?”

คนอื่นมองเห็นการกระทำของหัวล้านเฉียง ต่างปรับย้ายปาก กระบอกปืน เล็งไปยังหัวล้านทันที

หยางเฉินมองเหตุการณ์ฉากนี้ด้วยความสนใจ เขาเคยเห็นหัว ล้าน รู้ว่าเขาคือหวังเฉียงเจ้านายของปู่เย่เฉิง ครั้งก่อนวางแผน หลอกฉันตาหย่งติดหนี้เขาห้าล้าน ผลสุดท้ายถูกหยางเฉินเอา เหรียญหนึ่งคันรถบรรทุกหนึ่งมาให้

หลิวข่ายไม่กล้าหันหน้า กัดฟันแน่นพูดออกไป “หวังเฉียง แก

แม่งบ้าไปแล้ว กล้าเอาปืนมาจ่อหัวของฉัน?

“หลิวข่าย อย่าพูดมาก ให้คนของแกวางปืนลงซะ ไม่อย่างนั้น ฉันยิงแกแน่!”

หวังเฉียงทําหน้าโหดเหี้ยม ในสายตาเต็มไปด้วยความ เกลียดแค้น

“แกกล้าเหรอ!” หลิวข่ายตวาดใส่

“งั้นก็ลองดู?

ระหว่างที่หวังเฉียงพูด วางนิ้วชี้กดไปยังไกปืนแล้ว หลิวข่ายเหมือนได้ยินเสียงไกปืนเคลื่อนไหวเบาๆ ชั่วขณะนั้นตกใจ ยกใหญ่สีหน้าเปลี่ยน ตะโกนบอก “แม่ง วางปืนลงให้หมดสิวะ!

จากนั้นหวังเฉียงถึงหยุดมือที่กดไกปืนลงแล้ว แต่แรงอาฆาต แค้น ในสายตายังคงเข้มข้นมาก

“หวังเฉียง ถึงแม้ฉันจะฮุบปู่เย่เฉิงของแกมา แต่ก็ไม่ได้ทำขาด ตกบกพร่องกับแก เอาแกมาเป็นปรมาจารย์ที่สองเมืองดึงของ ฉัน ตอนนี้แกเอาปืนมาจ่อหัวฉันไว้ทำไมกัน?” หลิวข่ายถาม อย่างไม่พอใจ

“แกแม่งเห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง?”

หวังเฉียง โมโหวาดขึ้นมา “ให้ฉันเป็นปรมาจารย์ที่สอง มี ประโยชน์อะไร? ไม่มีอำนาจจริงสักนิด แม้กระทั่งยังส่งคนมา ตามดูฉัน เหตุผลที่ตอนนี้ยังเก็บฉันเอาไว้ไม่ใช่เพื่อสยบลูกน้อง เก่าของฉันไว้เหรอ? รอตอนที่แกควบคุมปู่เย่เฉิงไว้ได้ถึงที่สุด นั่น คงเป็นเวลาตายของฉัน”

“แกอย่าเพิ่งรีบร้อน ถ้าแกไม่ยอมเป็นปรมาจารย์ที่สอง ฉัน สามารถคืนปู่เย่เฉิงให้แกได้

หลิวข่ายเพิ่งพูดจบไป ทันใดนั้นคุกเข่าลง ในขณะเดียวกัน ปากกระบอกปืนที่เล็งหยางเฉินไว้เปลี่ยนทิศทางในชั่วพริบตา เล็งไปยังคางของหวังเฉียง นิ้วกดลงบนไกปืนแล้ว การกระทำ ว่องไวลื่นไหลมาก

เดิมทีหวังเฉียงยังนึกไม่ถึง ภายใต้ปากกระบอกปืนของตนเอง หลิวข่ายยังกล้าลงมือ ตอนเขาตอบสนองเข้ามา อยากปรับหมุนปากกระบอกปืน ปืนของหลิวข่ายก็เล็งเป้าไปที่เขาแล้ว “ตายไปซะเถอะ!”

หลิวข่ายหน้าตาดุร้าย ชั่วพริบตาเดียวลั่นไกปืนลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ