The king of War

บทที่ 288 แม่สะใภ้อยู่ที่ไหน



บทที่ 288 แม่สะใภ้อยู่ที่ไหน

พอเมิ่งฮุยรับสาย ก็ได้เปิดปากด่าชุดใหญ่ “ฉันให้แกไปทำ ลายเยี่ยนเงินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว แกแม่งไปทำเรื่องไลฟ์สดนั่น ทำให้มูลค่าตลาดของทั้งเยี่ยนเงินกรุ๊ป ก็ได้เจอกับการเสียหาย อย่างหนัก!”

“ต่อให้เอาทั้งตระกูลเวียมาชดใช้ ก็ไม่พอ!

เพิ่งฮุยก็พึ่งเห็นไลฟ์สดเมื่อกี้เหมือนกัน ตอนที่กำลังโทรไป ถามเว่ยเสียง คิดไม่ถึงว่าเว่ยเสียงก็ได้โทรมาก่อนแล้ว

เว่ยเสียงพูดด้วยสีหน้าที่งงงวยว่า “คุณชายเมิ่ง ผมไม่ได้หลุด เรื่องที่หยางเฉินเป็นประธานบริษัทของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็แค่ให้โจ วยชยพูด หยางเฉินเป็นคนรับผิดชอบเยียนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจ วเองนะครับ!”

“พ่อง! มึงแม่งมันสมองหมู ไม่ว่าหยางเฉินเป็นประธาน หรือ ว่าเป็นผู้จัดการ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องที่ว่ามันเกี่ยวข้อ งกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!”

“ไลฟ์สดที่มึงทํา ได้ดังไปทั้งโซเชียลแล้ว ตอนนี้พื้นที่ที่บริษัท ย่อยเยี่ยนเฉินกรุ๊ปอยู่ ก็ได้ต่างโดนประท้วงว่าให้เขียนเฉินกรุ๊ป ไสหัวไป

“มึงบอกกูมาเลยตอนนี้ จึงเป็นไอ้โง่ใช่ไหม?”

เมิ่งฮุยก็ได้โมโหจนถึงขีดสุด ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเว่ยเสียงจงรักภักดีต่อเขา เขาโมโหจนแทบที่อยากจะส่งคนไปจัดการกับ ไอ้โง่นี่แล้ว

คนอื่นไม่เข้าใจ แต่เพิ่งฮุยกลับเข้าใจดี ถึงแม้ว่าหยางเฉินเป็น ประธานบริษัทของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แต่ว่านอกจากบริษัทย่อยที่ เจียงโจว ในบริษัทหลัก ก็ไม่ได้มีอำนาจ

ตอนนี้อำนาจที่แท้จริง ของ เยี่ยนเงินกรุ๊ป ก็ยังอยู่ในมือของ สายเลือดหลักตระกูลอวี่เหวิน

เว่ยเสียงพึ่งทําเรื่องไลฟ์สดนี้ ก็ทำให้มูลค่าตลาดของทั้งเยี่ยน เฉินกรุ๊ปก็ได้ดิ่งลงอย่างหนัก ที่เสียหายนั้นก็เป็นคนที่อยู่เบื้อง หลังของเยี่ยนเงินกรุ๊ป คนที่จับผลประโยชน์พวกนั้น

เพราะงั้น เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาเจียงโจว สามารถจัดการไปได้ แต่ว่าผลประโยชน์ของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จะทำให้เสียหายไม่ได้

“กูไม่สนว่ามึงจะใช้วิธีอะไร จำเป็นต้องทำให้คลิปไลฟ์สดของ โจวชุ่ยนั่น ถูกลบออกไปจากโซเชียลทั้งหมด แล้วก็ให้มันหลุด จากข่าวท๊อป ไม่อย่างนั้น รอถึงตอนที่คนไปเอาชีวิตจึงถึงบ้าน แล้ว ก็อย่าหาว่าไม่เตือน!

พูดจบ เมิ่งฮุยก็ได้วางสายไป

เว่ยเสียงก็ได้มีใบหน้ามึนงง ในหน้าอ้วนๆ สีหน้าก็ได้บิดเบี้ยว เลยขึ้นมา

“ตูบ!”
ในเวลานี้ อยู่ๆ ข้างนอกก็ได้มีเสียงชนกันอย่างหนักดังขึ้น

เขาก็ได้รับพาคนพุ่งออกคฤหาสน์ ก็เห็นรถPhaetonสีดำ จอด อยู่ที่นอกคฤหาสน์พอดี

ร่างที่ดูหนุ่ม ก็ได้ค่อยๆ ลงมาจากรถ

“หยางเฉิน!”

พอเห็นหยางเฉิน เว่ยเสียงก็ได้มีสีหน้าที่ตกใจ

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเจอกับหยางเฉิน ครั้งแรกเป็นตอนที่ เพิ่งฮุยไปดูยอดเมฆา บังคับให้เว่ยเสียงไปซื้อคฤหาสน์มา สุดท้ายก็ได้ถูกหยางเงินปฏิเสธ

ตอนนี้ เป็นครั้งที่สอง

แต่ว่าครั้งนี้ เว่ยเสียงกลัวมากๆ บนใบหน้าก็ยังมีท่าทางนิ่ง เรียบอยู่ หรี่ตาพูด “ไอ้น้อง ที่ของฉันแกก็กล้าฝ่าฝืนเข้ามารู้ว่า ฉันเป็นใครไหม?”

“โจวซู่ซุ่ย อยู่ที่ไหน?”

หยางเฉินก็ได้เปิดประเด็น ถามไปตรงๆ สายตาของเขา ก็ยัง จ้องมองเวยเสียงอยู่ตลอด

ตอนที่ได้ยินชื่อโจวชุ่ยนั้น นัยน์ตาของเว่ยเสียงก็ได้บีบลง ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความตกใจ แต่ไม่นาน เขาก็ได้เก็บสีหน้า

ไป

“เหี้ย! ไอ่น้อง จึงมาหาผิดที่แล้วหรือเปล่า? กูคือเว่ยเสียงแห่งตระกูลเว่ย จะไปรู้จัก โจวอะไรนะชุ่ยที่ไหน กูไม่รู้จัก!

เว่ยเสียงก็ได้แกล้งทำเป็นพูดดูถูก มาปิดบังความ

กระวนกระวายของตัวเอง

“ฉันถามว่า โจวซุ่ยอยู่ที่ไหน?

หยางเฉินก็ได้ถามอีกครั้ง จากสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเว่ยเสียง เมื่อกี้ ก็ได้มั่นใจแล้ว การหายตัวไปของโจวยชัย เกี่ยวข้องกับ เขาจริงๆ

นี่เป็นคฤหาสน์ส่วนตัวของเว่ยเสียง นอกจากเว่ยเสียง ก็ยังมี

บอดี้การ์ดอีกกี่คน เวลานี้ต่างก็ได้จ้องมองหยางเฉินด้วยสีหน้า ข่มขู่

“ไอ้น้อง มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอว่ะ? กูบอกว่าไม่ได้รู้จัก

โจวอะไรซุ่ยนั่น!”

เว่ยเสียงกัดฟันแล้วพูด

หยางเฉินได้ฝันขับรถเข้ามาให้คฤหาสน์ส่วนตัวของเขา ตอน นี้ก็ยังมาถามเขา สำหรับเขาแล้ว เป็นการเหยียดหยาม

ครั้งแรกที่เจอหยางเฉินที่ยอดเมฆานั้น เขาพาบอดี้การ์ดไป สองคน ก็ได้ถูกหยางเฉินล้มไปได้อย่างง่ายดาย

ตอนนี้ก็ได้เจอกับหยางเฉินอีกแล้ว ในใจของเขาก็ยังมีความ หวาดกลัวเล็กน้อย

เว่ยเสียงพูดจบ ร่างกายของหยางเฉินก็ได้ขยับเลยทันที
“ติ๊บ!”

เว่ยเสียงรู้สึกแต่ว่าท้องของตัวเองเจ็บแปลบๆ ร่างกายก็ได้ ลอยออกกระเซ็นไป ชนไปที่ประตูใหญ่คฤหาสน์อย่างแรง

ประตูกันขโมยที่แข็งมากๆ ชนเข้ากับพลังที่หนักขนาดนี้ ก็ได้

ล้มไปกับพื้น

“ประธานเว่ย!”

การกระทำของหยางเฉินเร็วเกินไป ก็ทำให้เว่ยเสียงได้ กระเด็นออกไปแล้ว บอดี้การ์ดของตระกูลเว่ยถึงรู้ตัว

ในลําคอของเว่ยเสียง ก็ได้ส่งเสียงร้องที่เจ็บปวดออกมา จากนั้น ในหน้าเขาก็ได้เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ตะโกน อย่างโมโหว่า “กูจะให้มันตาย!

ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้เว่ยเสียงบ้าคลั่ง เวลานี้ ใน หัวของเขาก็ได้มีแค่ความคิดเดียว ก็คือฆ่าหยางเฉินให้ตาย

บอดี้การ์ดสิบกว่าคนได้รับคำสั่ง ไม่ได้ลังเลแม้แต่นิด ก็ได้พา กันพุ่งเข้าไป

ใบหน้าของหยางเฉินได้นิ่งเรียบ เหมือนว่ามองไม่ได้บอดี้ การ์ดสิบกว่าคนที่ได้พุ่งเข้ามาหาตน สายตาก็ได้จ้องเว่ยเสียงอยู่ ตลอด แล้วก็ค่อยๆ ก้าวไป

“ไอ้น้อง กล้าที่จะต่อยประธานเว่ย ไม่รู้จักความเป็นความตายซะแล้ว!”

สักพัก บอดี้การ์ดของเว่ยเสียงพวกนั้น ก็ได้พุ่งเข้ามาแล้ว หมัดของแต่ละคนก็ได้ค่อยไปยังหยางเฉิน ในเวลานี้ ขาของหยางเฉินก็ได้กระทบอย่างแรง ร่างกายก็ได้

พุ่งเข้าไป

เสียง “ตุ๊บ” ดังขึ้น บอดี้การ์ดที่ได้ต่อยไปทางหยางเฉินก่อน นั้น ก็ได้ถูกหยางเฉินต่อยไปที่ท้อง กระเด็นออกไป

“ตุ้บบบ!”

ต่อด้วย ร่างกายของหยางเฉินก็ได้ขยับอย่างรวดเร็ว ไม่ออก หมดก็ถีบออกไป

ชั่วพริบตา บอดี้การ์ดสิบกว่าคน ก็ได้เหมือนกับหมาที่ได้ตาย

ไปแล้ว นอนอยู่บนพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“มึง……….อย่าเข้ามา

เว่ยเสียงก็ได้ตกใจจนโง่เลย เห็นว่าหยางเฉินกำลังก้าวมาหา ทีละก้าว เขาจะร้องไห้ออกมาแล้ว

ตระกูลเว่ยเป็นตระกูลหนึ่งในสี่ของเมืองเอก เป็นตระกูลที่ แข็งแกร่งมาก บอดี้การ์ดสิบกว่าคนเมื่อกี้นั้น เป็นตระกูลเวียที่ได้ ออกเงินไปมากมายในการฝึกคนมีฝีมือพวกนั้น

ตอนนี้ ในมือของหยางเฉิน ไม่มีใครที่ทนกับมันได้เลยแม้แต่คนเดียว
ตอนนี้ไม่มีบอดี้การ์ดสักคนที่ลุกขึ้นมาได้

“หยางเฉิน ถึงอย่าเข้ามานะ กูเป็นเชื้อสายหลักของตระกูลเวีย

ถ้าถึงกล้าแตะต้องกูล่ะก็ ตระกูลเว่ยไม่ปล่อยทิ้งไปแน่! ในใจของเวยเสียงหวาดกลัวมากๆ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะใช้ตระ

กูลเวียมาข่มขู่หยางเฉิน

ในสายตาของเขา หยางเฉินก็เป็นแค่คนที่โดนตระกูลอวี่เหวิน ทิ้งคนหนึ่ง ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว

แต่ว่าวันนี้ ความยิ่งใหญ่ที่หยางเฉินแสดงออกมา ได้เกินกว่า ที่เขาคิดไว้มาก เขาเป็นแค่คนที่ถูกทิ้งง่ายๆ แบบนั้นจริงเหรอ?

“ครั้งแรกครั้งสองไม่ลองครั้งสาม ฉันถามแกครั้งสุดท้าย โจว

ยู่ซุ่ยอยู่ที่ไหน?”

หยางเฉินก็ได้ถามไปอีกครั้ง พึ่งพูดจบ เขาก็ได้ไปถึงตรงหน้า ของเวยเสียง

ทั้งตัวของเว่ยเสียงได้สั่น เขารู้สึกได้ถึง แรงอาฆาตที่ส่งออก มาจากตัว

ของหยางเฉิน

หลายปีที่หยางเฉินอยู่ในสนามรบ ศัตรูที่ตายในมือของเขาก็ นับไม่ถ้วน ระเบิดความโมโหออกมา คนธรรมดา ไม่มีทางที่จะ รับมันไหว
เว่ยเสียงรู้สึกว่าขนได้ลุกไปทั้งตัว แผ่นหลังก็ได้เปียกไปเพราะ เหงื่อ ก็ได้ปฏิเสธเหมือนเดิมว่า “กูไม่รู้จริงๆ เว้ย!”

“ติ้ง!”

ตอนที่เว่ยเสียงได้ปฏิเสธไปเมื่อกี้นั้น อยู่ๆ หยางเฉินก็ได้ยื่น มือ มือข้างหนึ่งได้บีบไปที่คอของเขา จากนั้น ร่างอ้วนที่หนัก เกือบร้อยโลของเขา ก็ได้ถูกยกจนลอยขึ้น

“เห็นที จึงอยากที่จะตายอยากเดียว! ไหนๆ ก็เป็นแบบนั้น งั้น

กูก็สนองความต้องการให้มึง!

หยางเฉินเงยหน้าเล็กน้อย มองเวยเสียงที่ตนได้ยกขึ้นด้วยมือ ข้างด้วย พูดออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา

พอพูดจบ นิ้วห้านิ้วที่ได้บีบคอของเว่ยเสียงนั้น ก็ได้ออกแรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ