The king of War

บทที่ 413 ไอ้โง่ตัวนั้น



บทที่ 413 ไอ้โง่ตัวนั้น

“คุณธรรม?”

จางเหิงหัวเราะเยาะ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบพูดเรื่องคุณธรรมกับ ผมเลยสิ!”

“ปรมาจารย์หง ต้องลำบากท่านแล้ว!

จูกว่างจื้อมองไปที่ปรมาจารย์หงที่อยู่ข้างกาย แล้วเอ่ยขึ้น

“ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร จะให้เวลาคุณหนึ่งนาทีที่จะออก ไป มิฉะนั้นก็ไม่ต้องออกไปแล้ว!”

ปรมาจารย์หงนั่งลง มองจางเหิงด้วยสีหน้านิ่งเฉยแล้วเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว พวกเรายังมีปรมาจารย์หง! จะกลัวอะไร?”

“ปรมาจารย์หงเป็นยอดฝีมือที่ต้องรับมือหนิวเกนหุย ตอนนี้มี เพียงลูกศิษย์ของหนิวเกนหุยเท่านั้นที่มา ปรมาจารย์หงฆ่าเขาได้ เหมือนฆ่าสุนัข!”

“มีปรมาจารย์หงอยู่ พวกเรายังต้องคิดเรื่องไปเข้าแถวอยู่อีก เหรอ?”

เมื่อเห็นปรมาจารย์หงออกหน้า ทุกคนก็ได้สติกลับมา แม้แต่ หนิวเกนหุย ปรมาจารย์หงยังไม่กลัว แล้วนับประสาอะไรกับลูก ศิษย์ของหนิวเกนหุย

เสียงชื่นชมเหล่านี้ เข้าหูปรมาจารย์หงทั้งหมด เขาเอนตัวพิงเก้าอี้ไม้โบราณด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ยิ้มตาหยีจ้องมองจางเหิง จางเหิงยิ้มเยาะ “คนอ่อนแอจากภูเขา กล้าเรียกว่าปรมาจารย์ ด้วยหรือ?”

“ยังให้เวลาผมคิดอีกหนึ่งนาที

“คุณเจ๋งขั้นเทพขนาดนี้ อาจารย์ของคุณรู้ไหม?”

“ถือว่าผมขอร้องคุณ อย่าให้เวลาผมไตร่ตรองเลย ถ้าจะลงมือ ก็รีบมา ผมจะนั่งตรงนี้รอสู้กับคุณ ฆ่าคุณก็เหมือนฆ่าไก่

ท่าทีของจางเพิ่งจองหองจนถึงขีดสุด ไม่ได้เห็นปรมาจารย์

หงอยู่ในสายตาเลย

“ไอ้สารเลว! แกนรนหาที่ตาย! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะให้คุณได้ เห็นความแข็งแกร่งของปรมาจารย์หง!”

ปรมาจารย์หงโกรธจัด ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เท้าเหยียบลงบนพื้น

อย่างฉับพลัน

“ปัง!”

พื้นหินอ่อนใต้เท้าของเขาแตกทันที ฝุ่นปลิวตลบ

ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของปรมาจารย์หงก็ว่องไวราวกับ เสือชีตาห์ กลายเป็นเงาพุ่งเข้าหาจางเหิงที่นั่งนิ่งไม่ขยับอยู่กลาง ห้องประชุม

“เยี่ยมมาก ในที่สุดปรมาจารย์หงก็จะลงมือแล้ว!”

“ไอ้โง่จากสมาคมบูโดนั้นกลัวจนไม่กล้าขยับเขยื้อนแล้ว!
“กล้ามาดูถูกปรมาจารย์หง ถ้าไม่เรียกว่ารนหาที่ตายแล้ว เรียกว่าอะไร?”

“ผมพนันได้เลยว่าปรมาจารย์หงสามารถฆ่าไอ้โง่นั่นได้ ภายในสามกระบวนท่า

“พวกคุณประเมินปรมาจารย์หงต่ำไป ผมพนันว่ากระบวนท่า

เดียว! ปรมาจารย์หงก็สามารถฆ่าไอ้โง่ตัวนั้นได้แล้ว!

ภายในห้องโถงเกิดเสียงอื้ออึง ทุกคนมีสีหน้าตื่นเต้น แม้ว่าจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ แต่จากการสั่นสะเทือนในการ ปรากฏตัวของปรมาจารย์หง ก็ทำให้พวกเขายอมรับนับถือแล้ว

จูกว่างจื้อมีสีหน้าเย่อหยิ่ง ยิ้มตาหยืมองไปทางหานเดี่ยวเทียน ที่อยู่ข้างกาย แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “เจ้าบ้านหาน ตอนนี้ผมจะ ให้คุณได้เห็นว่าปรมาจารย์หงแข็งแกร่งเพียงใด

“ผัวะ!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงที่ชัดเจนก็ดังก้องไปทั่วห้องโถง หานเดี่ยวเทียนยิ้มเยาะ “เจ้าบ้าน คุณดูปรมาจารย์หงของ คุณก่อน แล้วค่อยมาโอ้อวดกับผม!!

“อะไร?”

“เป็นไปได้ยังไง?”

“ไอ้โง่ตัวนั้นต้านทานการโจมตีของปรมาจารย์หงได้จริงเหรอ?”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังเข้าหูไม่หยุด กว่างจื้อก็รู้สึกว่ามีบาง อย่างผิดปกติ จึงรีบมองไปที่ใจกลางห้องโถง

เห็นเพียงปรมาจารย์หงที่เขาภาคภูมิใจ ในเวลานี้หมดอยู่ห่าง จากศีรษะของจางเหิงเพียงระยะกำปั้นเดียว แต่เขากลับไม่ สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีก

เพราะมือของจางเหิง กำลังจับข้อมือของปรมาจารย์หงอยู่

ที่สำคัญก็คือ จางเหิงนั่งอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา เขาแค่กางแขน ออกอย่างสบายๆ และสีหน้าดูผ่อนคลายอยู่ในเวลานี้

ส่วนใบหน้าของปรมาจารย์หงนั้นแดงก่ำ ท่อนแขนที่ถูกจาง เพิ่งคว้าจับไว้กำลังสั่นเทา

“ให้เวลาผมออกไปหนึ่งนาทีเหรอ?”

“ผมรนหาที่ตาย?”

“ฆ่าผมเหมือนฆ่าสุนัข?

“ปรมาจารย์หง?”

จางเหิงพูดเหน็บแนมอย่างต่อเนื่อง ทุกประโยคย้อนถาม ราวกับตบหน้าทั้งปรมาจารย์หงและบรรดาผู้นำตระกูลมั่งคั่งใน หนันยังอย่างแรง

สีหน้าของกว่างอย่ำแย่จนถึงขีดสุด เขากัดฟันพลางพูดว่า “เพิ่งต้านทานปรมาจารย์หงได้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ปรมาจารย์หงยังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ กระบวนท่าที่แข็งแกร่งกว่านี้ ยังอยู่ช่วงท้าย

ตอนที่ปรมาจารย์หงได้ยินประโยคนี้ก็แทบจะร้องไห้ออกมา ตาข้างไหนของคุณที่เห็นว่าผมยังไม่ได้พยายามเต็มที่

ช่วงเวลาที่จางเหิงปรากฏตัวขึ้น เขาก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายลึกซึ้ง คาดเดาได้ยาก

ดังนั้นขณะที่กำลังเริ่มเคลื่อนไหว เขาได้แสดงสภาวะที่

แข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้ว

ในเวลานี้ ข้อมือของเขาถูกจางเหิงจับไว้ เขาได้ใช้กำลัง ทั้งหมดที่มีของเขาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้

กับคำพูดของจูกว่างจื้อ จางเหิงเพียงแค่ยิ้มอย่างไม่แยแส เหมือนกำลังตอบเขา ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม จับข้อมือของปรมาจารย์ หงไว้ด้วยกําลังมหาศาล

“แกร๊ก!”

ทันใดนั้นเสียงกระดูกหักก็ดังขึ้นมาภายในห้องโถงที่เงียบ สงบอย่างชัดเจน

ในสายตาของทุกคน ข้อมือของปรมาจารย์หงหักงอไปด้าน

หลังเก้าสิบองศา

“อา…”

หลังจากนิ่งงันไปชั่วครู่ เสียงร้องโหยหวนน่าสังเวชก็ระเบิด ออกมาจากส่วนลึกของลำคอของปรมาจารย์หง ดังก้องไปทั่วทั้งตระกูลจ

“หนวกหูชะมัด!”

จางเหิงพูดเพียงเท่านี้ก็ลุกขึ้นยืน แล้วเตะเขาทันที

“ผัวะ!”

เขาเตะถูกศีรษะของปรมาจารย์หง เห็นเพียงร่างของ ปรมาจารย์หงลอยขึ้นไปในอากาศกว่าสิบเมตร แล้วร่วงลงแทบ เท้าจูกว่างจื้ออย่างแรง

เสียงร้องโหยหวนของปรมาจารย์หงเงียบลงอย่างฉับพลัน

ในเวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึง ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง จับจ้อง ไปยังร่างที่ไม่ขยับเขยื้อนใต้เท้าของกว่างจื้อ ดวงตาคู่นั้นจ้อง เขม็ง ร่างกายนิ่งไม่ไหวติง

นี่คือ…ตายแล้วเหรอ?

จูกว่างจื้อก็ก้มศีรษะลงมองไปทางปรมาจารย์หงที่นอนตายตา ไม่หลับ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายสั่น

เทารุนแรงอย่างควบคุมไม่ได้

หักข้อมือของปรมาจารย์หง!

เตะครั้งเดียวกําหนดความเป็นความตายของปรมาจารย์หง

ยอดฝีมือผู้ถูกสังหารในทันที คือปรมาจารย์หงที่มีศักยภาพ สุดยอด ในสายตาของเขาจริงหรือ?

“นี่ คือยอดฝีมือระดับสุดยอดแห่งสองมณฑลของพวกคุณ ที่เตรียมจะรับมืออาจารย์ของผมงั้นหรือ?”

เสียงจางเหิงที่เต็มไปด้วยการเสียดสีได้ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนตื่นจากความฝัน

ใช่แล้ว!

ปรมาจารย์หงเป็นคนที่พวกเขาหามา เพื่อเตรียมไว้รับมือยอด

ฝีมือหนิวเกนหุย

แต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับลูกศิษย์ของหนิวเกนหุย เขาไม่อาจ ต้านทานการโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว

ตระกูลมั่งคั่งชั้นนำของสองมณฑลหนันยังและเลี้ยงผึ้ง จะยังมี โอกาสชนะในงานต่อสู้วันที่ 15 สิงหาคมนี้จริงหรือ?

“ผมให้เวลาพวกคุณไตร่ตรองห้านาที ซึ่งครบแล้ว ตอนนี้พวก คุณบอกผมได้ไหมว่า จะยืนอยู่ข้างสมาคมโดหรือไม่?”

จางเหิงกวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วตะโกนถาม

“สมาคมบูโด สง่าน่าเกรงขามมาก!

ขณะที่มีคนกำลังจะเลือกสมาคมบูโด ทันใดนั้นก็มีเสียง

ประชดประชันดังขึ้นที่ทางเข้าห้องโถงใหญ่

“คุณหยาง!”

เมื่อหานเดี่ยวเทียนและเฉินซึ่งไม่เห็นเงาร่างที่คุ้นเคยที่ประตู พวกเขาก็ดีใจมาก

รอมานานแสนนาน ในที่สุดคุณหยางก็มาถึงแล้ว!
การปรากฏตัวของหยางเฉินดึงดูดสายตาของทุกคน

โดยเฉพาะ “คุณหยาง” ที่หานเซียวเทียนและเฉินซิงไห่พูดถึง ยิ่งทำให้ผู้คนตกตะลึงมากกว่าเดิม

แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินว่า ราชาเจียงผิงเป็นวัยรุ่นอายุเพียง ยี่สิบต้นๆ เท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นหยางเฉินกับตาตัวเองว่า ยังอายุน้อยเช่นนี้จริงๆ ก็ยังตกใจมาก

แม้ว่าในใจกว่างจื้อจะรู้สึกทึ่ง แต่ยอดฝีมือที่ตนเองเตรียมมา ถูกจางเหิงสังหารอย่างง่ายดายภายในไม่กี่วินาที เขาจึงไม่อยาก ยอมรับว่าหยางเฉินที่ยังเด็กมากเช่นนี้ จะคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของ จางเหิง

“ผมคิดว่าราชาเจียงผิงเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่น่าสรรเสริญ ที่แท้ ก็เป็นแค่วัยรุ่นปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม

จูกว่างจื้อพูดอย่างประชดประชัน “แม้แต่ปรมาจารย์หงยัง

ไม่ใช่คู่ต่อสู้ แล้วเขาจะเป็นอะไรได้?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ