The king of War

บทที่198ฉันต้องการความจริง



บทที่198ฉันต้องการความจริง

นี่เป็นค่ำคืนที่ลิขิตมาให้ไม่หลับไหล ปกติเสี้ยวเลี้ยวเข้านอน ไวมาก วันนี้กลับอีกเหิมผิดปกติ กระทั่งกลางดึกถึงได้หลับไป

เช้าตรู่วันต่อมา หยางเฉินเพิ่งออกกำลังกายเสร็จกลับมาถึง บ้าน ฉันกำลังยกนมอุ่นสองแก้วเดินออกมาจากในห้องครัว พอ มองเห็นหยางเฉิน หล่อนก็หัวเราะแบบเจ้าเล่ห์ “พี่เขย เมื่อคืน ผ่านไปแบบสุขใจหรือเปล่า? ขอโทษจริงๆ นะ ความผิดฉันเองที่ เอายัยก้างขวางคอตัวน้อยไว้ไม่อยู่

“แต่ว่าพี่ไม่ต้องรีบร้อน อดทนอีกไม่กี่วัน ช่วงเวลานี้ให้ฉันเป็น คนไปรับไปส่งเสี้ยวเสี้ยว ให้พวกเราสานสัมพันธ์กันเข้าไว้ไม่ นานชีวิตความสุขของพี่ก็มาถึงแล้ว!”

บนหน้าฉันเต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายและการหยอกล้อ

“เสี่ยวยี ช่วงนี้เธออยากโดนตีมากใช่มั้ย?

เวลานี้ เสียงของฉินซีดังขึ้นมากะทันหัน

เห็นเพียงเธอกำลังอุ้มเสี้ยวเสี้ยวเดินลงมา หน้าตาเต็มไปด้วย ความอับอายและโมโห

ฉันรีบหุบปากทันที หัวเราะหึๆ เดินเข้าไปรับเสี้ยวเสียวมา ก่อนจะยิ้มกริ่มถามไปว่า “เสี้ยวเสี้ยว ครั้งก่อนหนูไม่ได้บอกว่า อยากจะมีน้องชายสักคนเหรอ?”
เสี้ยวเลี้ยวรีบพยักหน้า ฉันถามอีกว่า “งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้น ไป หนูต้องมานอนกับน้า

“ทําไมล่ะคะ?”

เสี้ยวเสียวท่าทางไม่เข้าใจ

“ต้องให้ปะป๊ากับหม่ามาอยู่ด้วยกันตามลำพัง ถึงจะมีน้อง ชายมาให้หนูได้” ฉันยอธิบายให้ฟังอย่างอดทน

เสียวเลี้ยวเบ้ปากน้อยๆ เงยหน้ามองฉัน พูดจาแบบน่า สงสาร “แต่ว่าหนูอยากนอนกับหม่าม้า และอยากมีน้องชายด้วย ทํายังไงดีคะ?”

“งั้นคงไม่มีวิธีแล้ว นอกจากหนูจะมานอนกับน้า ไม่อย่างนั้น หม่าม้าหนูก็มีน้องชายให้ไม่ได้!!

ฉันเหมือนเป็นตาลุงร้ายกาจคนหนึ่ง กำลังล่อลวงเสี้ยวเสี้ยว

“คุณน้าคะ หนูมีวิธีแล้ว!”

อยู่

ทันใดนั้นเสี้ยวเสี้ยวดวงตาลุกวาว พูดอย่างดีใจ “ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไปหนูนอนกับหม่าม้า คุณน้านอนกับปะป๋า แบบนี้คุณน้า สามารถมีน้องชายให้หนูได้คนหนึ่งแล้ว!!

เสียวเสียวพูดประโยคนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นผู้ใหญ่ทั้งสามคน แข็งเป็นหินไปเลย

ตั้งนาน ฉินยีถึงพูดแบบหน้าแดงเขินอาย “พวกพี่กินข้าวเถอะฉันไปทํางานก่อนแล้ว!

พูดจบ หล่อนออกจากบ้านไปเหมือนหนีอะไร

“หม่าม้า ทำไมคุณน้าไม่กินข้าวคะ?”

เสี้ยวเลี้ยวไม่รู้ความหมายประโยคเมื่อสักครู่นั้นของตนเอง นัก จึงถามขึ้นมาด้วยความไร้เดียงสา

ฉันก็หน้าแดงเพราะเขินอายเช่นกัน ถลึงตาใส่หยางเฉินที หนึ่ง และพูดกำชับกับเสี้ยวเสี้ยวว่า “ต่อไปนี้ห้ามพูดเรื่องมีน้อง ชายอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นหม่าม้าจะไม่สนใจหนูแล้วด้วย!”

เสี้ยวเสี้ยวทำหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรม หยางเฉินเห็นแบบ นี้เข้า จึงรีบพูดว่า “เสี้ยวเลี้ยว รีบกินข้าวเช้าเร็ว ไม่อย่างนั้นจะไป สายนะ!”

ทานอาหารเช้าเสร็จ หยางเฉินส่งเสี้ยวเสี้ยวไปโรงเรียน อนุบาลก่อน และหลังจากพาฉันไปส่งที่ซานเหอกรุ๊ป ก็ออกไป เพียงลำพัง

ตระกูลจวง

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานตอนกลางคืนไม่ได้รั่วไหลออกไป ตอนเช้าตรู่ คนของตระกูลเพิ่งมาถึงแล้ว

ในห้องรับแขกของตระกูลจวง จัดวางศพร่างหนึ่งเอาไว้บนพื้น ด้านข้าง
นั่นคือหงเทียนหยาที่เมื่อคืน โดนเฉียนเปียวปาดคอทีเดียวจน

ตาย

ตรงเก้าอี้ตำแหน่งหลักในห้องรับแขก มีภาพของชายหนุ่มคน หนึ่งนั่งอยู่ อายุประมาณสามสิบปี

ส่วนผู้นำของตระกูลจวงกลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ตำแหน่งด้านซ้าย ตัวแรก

จากจุดนี้สามารถรับรู้ได้ถึงตำแหน่งของชายหนุ่มคนนี้

“ท่านตระกูลจวง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ขอให้คุณเล่าออกมา ให้ชัดเจนสักรอบหนึ่ง ถ้ากล้าปิดบังใดๆ ผมคิดว่าตระกูลจวง ไม่มีความจําเป็นต้องมีตัวตนอีกต่อไป

ชายหนุ่มที่นั่งบนเก้าอี้ตำแหน่งหลัก เอ่ยปากบอกกะทันหัน

หน้าตานิ่งสงบ แต่ในน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยการข่มขู่

จวงเจี้ยนเซ่อได้ยินดังนั้น อดสั่นเทาไปทั้งตัวไม่ได้ เขารู้ดีว่า ชายหนุ่มตรงหน้านี้ มีความสามารถพังตระกูลจวงจนพินาศได้ จริง

เพราะผู้ชายอายุน้อยคนนี้คือรุ่นที่สามของตระกูลเมิ่ง เป็น บุคคลที่โดดเด่นที่สุด ชื่อว่าเพิ่งฮุย

เมิ่งฮุยและเพิ่งชวนคือรุ่นเดียวกัน แต่ตำแหน่งของทั้งสองคนที่ ตระกูลเพิ่งกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

ส่วนในบรรดารุ่นที่สามของตระกูลเมิ่ง มีเพียงเมิ่งฮุยที่ถูก เรียกว่าคุณชายเมิ่ง
“คุณชายเมิงครับ เมื่อคืนมีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามายังที่พักของ ท่านหงกะทันหัน ตอนที่พวกเรามาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าท่านหง โดนมาเรียบร้อยแล้วครับ!”

จวงเจี้ยนเซ่อรีบตอบทันที

เพิ่งฮุยหรี่ตาจ้องจวงเจี้ยนเซ่อไว้ “เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ?”

จวงเจี้ยนเซ่อกัดฟันบอก “คุณชายเมิ่งครับ ที่ผมพูดเป็นเรื่อง จริงแท้แน่นอนครับ แต่ที่แน่ใจได้คือเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเจ้า หนุ่มที่ชื่อหยางเฉินคนนั้นแน่นอนครับ”

เมื่อคืนนี้ หลังจากตระกูลจวงหาเฉียนเปียวไม่เจอ จางเจี้ยน เชือก็เรียกรวมญาติสายตรงของตระกูลจวง ปรึกษากันว่าจะ รับมือกับการสอบสวนของตระกูลเพิ่งอย่างไรดี

ถ้าบอกความจริงออกไปตามตรง เพราะตอนนั้นจวงเจี้ยนเซ่อ เกิดความลังเล ถึงทำให้เฉียนเปียวหาโอกาสหนีรอดไปได้ ตระ กูลเพิ่งต้องตามตำหนิตระกูลจวงเป็นแน่

เพื่อปกป้องทั้งตระกูลแล้ว จวงเจี้ยนเซ่อจึงต้องปิดบังความ จริงเอาไว้

สายตาเพิ่งฮุยค่อยๆ เย็นชาลงมา “ท่านตระกูลจวง ผมให้ โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย บอกผมมา สรุปเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?

ทั้งตัวของจวงเจี้ยนเซ่อเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เขาไม่มั่นใจ สรุป เพิ่งฮุยกำลังหลอกถามเขา หรือว่ารู้ความจริงแล้วกันแน่

ตอนที่เขาลังเลอยู่นั่นเอง เมิ่งฮุยกวาดสายตาไปรอบห้องโดยฉับพลัน เอ่ยปากบอกว่า “ฉันให้โอกาสขึ้นรับตำแหน่งกับพวก

นาย ถ้าใครบอกความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมาได้ วันหลัง คน

คนนั้นจะได้เป็นผู้นำของตระกูลจริง! เพิ่งฮุยพูดประโยคนี้ออกมา ญาติสายตรงของตระกูลจวง

หลายคนพากันทําหน้าตาฮึกเหิม

ในใจจางเจี้ยนเซ่อแอบรู้สึกไม่ดี รีบบอกว่า “คุณชายเมิ่งครับ ผมพูด! ผมพูด! ผม……

“ปัง!”

คำพูดของจางเจี้ยนเซ่อยังไม่ทันจบ กลางคิ้วมีรูเลือด โผล่มา ร่างกายของเขาล้มลงข้างหนึ่งทันที

เห็นเพียงชายที่ยืนอยู่ด้านหลังของเมิ่งฮุยคนนั้น เก็บปืน โคลท์คิงคอบร้ากระบอกหนึ่งกลับไปไว้ด้านข้างเสื้อสูท ทำ เหมือนว่าเมื่อสักครู่นี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น

ทั้งภายในห้องรับแขกล้วนเงียบงัน ร่างกายแต่ละคนกำลังสั่น เทาอย่างรุนแรง

คาดไม่ถึงลูกน้องของเมิ่งฮุยจะคล่องแคล่วฉับไวเช่นนี้ บอกว่า จะลงมือก็ลงมือจริงๆ

“นี่คือสิ่งตอบแทนสำหรับการหลอกลวงฉัน!

เพิ่งฮุยพูดจาด้วยหน้าตาไร้ความรู้สึก กวาดสายตามองทั้ง ห้อง ถามขึ้นอีกครั้ง “ใครจะเป็นคนบอกฉัน เรื่องความจริงเมื่อ วานนี้?”
เพิ่งฮุยดูเหมือนหน้าตาเรียบเฉย แต่ทำให้แต่ละคนของตระกูล จวงรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่มาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ถึงแม้ผู้นำตระกูลจะโดนฆ่าแล้ว แต่กลับไม่มีใครกล้าแสดง

ความไม่พอใจใดๆ ออกมาต่อหน้าเขา

“ผมพูด!”

“ผมพูด!”

“ผมพูด!”

หลังจากอึ้งทึ่งช่วงสั้นๆ ญาติสายตรงของตระกูลจวงต่างแย่ง

กันตอบ

เพิ่งฮุยฉีกมุมปากขึ้นเบาๆ ยื่นมือไปยังภาพคนคนหนึ่งใน กลุ่มคน “นายเป็นคนพูด!”

คนที่ถูก คือจวงเชิง เติมคือบุคคลที่ดีเลิศที่สุดในรุ่นนี้ของ ตระกูลจวง ตำแหน่งของผู้สืบทอดผู้นำตระกูล เดิมทีก็เป็นของ เขา

จวงเซิ่งรีบเอ่ยปากบอก “เมื่อคืน พวกเรากำลังประชุมกันอยู่ ถกเถียงว่าจะจัดการหยางเฉินอย่างไร แต่ในตอนนั้นเอง รถจี๊ ปThe Herdsmanคันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาตระกูลจวงแบบกะทันหัน ชนคฤหาสน์ที่ท่านหงพักอยู่โดยตรง…..

จวงเพิ่งเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ รวมทั้งรายละเอียด เล่าออกมาจนกระจ่างมาก

รอเขาพูดจบ เมิ่งฮุยพยักหน้าแล้ว ทำท่าทางเหมือนครุ่นคิด อยู่ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร

ผ่านไปตั้งนาน เพิ่งฮุยพูดขึ้นทันใด “พูดง่ายๆ ท่านคงโดนคน ที่ชื่อว่าเฉียนเปียวฆ่าตาย ปากคอทีเดียว เฉียนเปียวอายุ ประมาณสามสิบปี เดิมทีตระกูลจวงมีโอกาสฆ่าเฉียนเปียว แต่ เพราะจวงเจี้ยนเซอลังเล จึงทำให้อีกฝ่ายหาโอกาสหลบหนีไป ที่ ฉันพูดมาถูกต้องมั้ย?”

“ถูกครับ เป็นแบบนี้!! จวงเซิ่งรีบตอบกลับ “เฉียนเปียว ทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นหูอยู่บ้างนะ?” เพิ่งฮุยพูดกับตนเองมาทันใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ