The king of War

บทที่ 99 รื้อทิ้งให้หมด



บทที่ 99 รื้อทิ้งให้หมด

ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ผู้รับผิดชอบกิจการที่อยู่ภายใต้การ ควบคุมของตระกูลกวนทั้งหมดก็มาถึงจุดเกิดเหตุ

ฉากนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลฉินต้องตกตะลึง

หยางเฉินเองก็ไม่คิดว่าผู้จัดการของตระกูลกวนจะมากันหมด ซึ่งก็เกินความคาดหมายของเขาด้วยเหมือนกัน

แต่เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านตระกูลกวนเมื่อคืนนี้ แม้

หยางเฉินจะไม่ได้บอกว่าชายนับร้อยคนเหล่านั้นเป็นคนที่เขา เรียกมาเอง แต่ทุกคนในงานไม่ได้ชื่อจนไม่รู้ว่าทุกคนที่มานั้น เป็นคนของหยางเฉิน

“ฉินคุน คุณกล้าใช้เราเป็นเครื่องมือในการจัดการกับคุณ

หยางเหรอ คุณเบื่อโลกแล้วใช่ไหม?”

สวี่เทียนเดินตรงเข้าไปหานายท่านฉิน และคำพูดของเขาก็ เต็มไปด้วยความโกรธ

เดิมทีได้รับโทรศัพท์จากนายท่านฉินนั้น เขาเตรียมเรียกคน มาแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้รับแจ้งว่าหยางเฉินก็อยู่ในบ้าน ตระกูลฉินด้วย เขาก็รีบตรงมาที่นี่ก่อนเลย

คนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับตระกูลกวน ในเมื่อคืนนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกไม่ปลอดภัยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงคุยกันตั้งแต่ เมื่อคืนแล้วว่าจะไปขอขมากับหยางเฉิน
แต่เนื่องจากเวลาดึกไป พวกเขาจึงไม่กล้าไปรบกวนหยางเฉิน และทุกคนก็นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะตั้งหน้าตั้งตาเข้าไปพบ หยางเฉิน ในเช้าวันนี้

ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้ข่าวว่าตระกูลฉันกำลังจะทำอะไรบาง อย่างกับหยางเฉิน แล้วพวกเขาจะปล่อยโอกาสที่ดีในการแสดง ความจริงใจกับหยางเฉินได้อย่างไร?

นอกจากสวีเทียนแล้ว ผู้จัดการคนอื่นๆ ก็เดินเข้าไปและล้อม รอบนายท่านฉินไว้ตรงกลาง

“ไอ้แก่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ความร่วมมือของเรากับตระกูล ฉันต้องยกเลิกอย่างไม่มีเงื่อนไข

“บริษัทที่ผมรับผิดชอบก็จะยกเลิกสัญญากับตระกูลฉินด้วย!”

“บริษัทของเราก็ขอยกเลิกสัญญาด้วยเช่นกันครับ!”

ผู้บริหารทุกคนของตระกูลกวนแสดงความคิดเห็นเดียวกัน นั่น ก็คือฉีกสัญญากับตระกูลฉินอย่างไม่มีเงื่อนไข

นับตั้งแต่ตระกูลฉินยอมรับเงื่อนไขสัญญาการนำ 45% ของ กำไรยกให้กับตระกูลกวนแล้ว ทุกกิจการที่อยู่ภายใต้การ ควบคุมของตระกูลกวนก็ได้มีสัญญาในความร่วมมือกับตระกูล

ดังนั้นหากไม่ใช่การล้มละลายของตระกูลกวน ตระกูลฉินที่ได้ รับความร่วมมือจากตระกูลกวนก็จะกลายเป็นครอบครัวระดับ ต้นๆ ของเจียงโจวภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน
ตำแหน่งที่เป็นรองจากสี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจวอยู่แค่เอื้อม เท่านั้นแล้ว แต่ในเวลานี้กลับถูกตระกูลกวนดับฝันไปซะงั้น

ซึ่งนายท่านฉันก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผู้บริหารทุกคน ของตระกูลกวนต้องมีท่าทีต่อหยางเป็นแบบนี้ เขาได้แต่สงสัยกับ สิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้

“ประธานสครับ ผมแค่มีเรื่องกับไอ้กระจอกคนเดียว ถึงขั้น ต้องทําให้พวกคุณยกเลิกสัญญากับพวกเราเลยเหรอครับ?”

นายท่านฉันถามอย่างไม่เต็มใจ

“คุณมากกว่านะที่เป็นไอ้กระจอก ทั้งครอบครัวคุณก็เหมือนกัน คุณหยางสามารถกวาดล้างตระกูลกวนได้ภายในชั่วข้ามคืน แล้วนับประสาอะไรกับคุณ? ยังมีหน้ามากล่าวหาคุณหยางว่าเป็น คนกระจอกอีกเหรอ?”

ประธานสงี่พูดแล้วเตะไปที่หน้าท้องของนายท่านฉินและไม่ได้ สนใจว่านายท่านฉินจะเป็นชายชราที่มีอายุเกือบจะเจ็ดสิบปีแล้ว

นายท่านฉินถูกเตะล้มลงกับพื้นด้วยความประหลาดใจ

“ตระกูลกวน ถูกกวาดล้างในชั่วข้ามคืน?”

เขาพูดพึมพำด้วยความเหลือเชื่อ

“คุณหยางครับ นับจากวันนี้เป็นต้นไป กระผมสวีเทียน ขอ ติดตามคุณนะครับ”

สวีเทียนเดินเข้าไปหาหยางเฉินแล้วโค้งคำนับ คำพูดของเขาเหมือนฟ้าที่ผ่าลงกลางใจของทุกคนในตระกูลฉิน

“คุณหยางครับ กระผมสือเหว่ย ขอติดตามคุณด้วยคนครับ

“กระผมหลี่จงก็ขอติดตามด้วยคนนะครับ”

ผู้บริหารสิบกว่าคนของตระกูลกวนต่างก็เข้าไปขอติดตาม หยางเฉินทุกคน

การที่พวกเขาได้รับเลือกเป็นผู้บริหารระดับสูงในตระกูลกวน นั้น แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนโง่เขลาแต่ต้องเป็นคนฉลาดกว่าคน ทั่วไปอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นในเมื่อคืนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหยางเฉิน นั้นไม่ได้เป็นคนธรรมดา ในเมื่อเขาสามารถกวาดล้างตระกูล กวนได้ในชั่วข้ามคืน เขาก็สามารถกวาดล้างสี่พรรคแห่งเมือง เจียงโจวได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นการที่ได้ติดตามกับคนอย่างหยางเฉินนั้นต้องมีอนาคต ที่ดีกว่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงแสดงความภักดีต่อหยางเฉิน โดยที่ไม่ต้องลังเลใดๆ

นอกเหนือจากนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ากิจการที่อยู่ภายใต้การ ควบคุมของตระกูลกวนนั้นจะเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับหยาง เฉิน

คนของตระกูลฉินทุกคนได้แต่ยืนมองสถานการณ์ที่พลิกผัน อย่างไม่คาดคิด
หยางเฉินเป็นลูกเขยผู้ไร้ค่าที่ถูกขับไล่ออกจากครอบครัวจริง หรือ?

ในขณะนี้สีหน้าของนายท่านฉินซีดเซียว เรื่องราวหลายๆ อย่างได้ผุดขึ้นในความคิดของเขา และเขาก็รู้ถึงความจริงใน หลายๆ เรื่องแล้วเช่นกัน

เขาจําได้ว่าวันที่เยี่ยนเงินกรุ๊ปส่งเอกสารสัญญามาให้เขาใน ช่วงเช้า แต่ช่วงบ่ายเขากลับก็ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสัญญา เพราะ เขาได้โอนย้ายกรรมสิทธิ์ของฉันซีไปให้ฉันเฟย

และในวันที่เขาขับไล่ครอบครัวของฉันออกจากตระกูลก็มี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของเยี่ยนเงินกรุ๊ปมาตักเตือนเขา เป็นการส่วนตัว

จากนั้นงานเลี้ยงในโรงแรมสตาร์ไลท์ที่ตระกูลฉินไม่มีสิทธิ์ที่

จะเข้าร่วมด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ได้รับเชิญไปเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย

แม้จะได้นั่งในที่นั่งแถวสุดท้ายก็ตาม ยังมีอีกหลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกครั้งที่เขามีท่าทีที่ลำเอียง หรือทําร้ายฉันก็จะมีบทลงโทษตามมาอย่างไม่ขาดสาย

ที่ผ่านมานายท่านฉันคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเป็นแค่เรื่อง บังเอิญ แต่จวบจนวันนี้เขาก็ได้กระจ่างแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของหยางเฉิน

“ที่แท้แล้ว นายนี่เอง!!

นายท่านฉันคลานขึ้นมาจากพื้นด้วยร่างกายที่สั่นคลอน ในทันใดนั้นเขาดูเหมือนแก่ขึ้นอีกหลายปี

หลังจาก ใจเย็นลง นายท่านฉันก็นึงถึงเรื่องที่เขาทํากับฉัน

ถ้าเขายอมทำดีต่อฉินซี ตอนนี้ตระกูลฉินของเขาคงไปถึงไหน แล้ว? “หยางเฉิน ขายอมรับว่าเคยดูถูกนายนะ แต่ถ้าด้วยเหตุผลนี้

แล้วนายจะให้ข้าก้มหัวให้นาย มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”

นายท่านฉันค่อยๆ ยึดตัวตรงแล้วพูดด้วยแววตาที่แน่วแน่ แม้เขาจะรู้ว่าหยางเฉินไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขาจะไม่ยอมก้ม หัวให้หยางเฉินอย่างเด็ดขาด เพราะการที่คิดว่าหยางเฉินเป็น คนไร้ค่านั้นได้ซึมเข้ากระดูกของเขาไปแล้ว

อีกอย่างครอบครัวของฉันซีก็ถูกเขาไล่ออกจากตระกูลฉินแล้ว ด้วย ดังนั้นต่อให้เขาเป็นฝ่ายผิด เขาก็จะไม่ยอมรับมัน

ในทันใดนั้น หยางเฉินรู้สึกเศร้าใจมาก เพื่อศักดิ์ศรีของตน นายท่านฉินยอมปล่อยให้หลานชายในสายเลือดของเขาถูกหัก ขาทั้งสองข้างไป

เขายอมยืนดูครอบครัวต้องแตกสลายแต่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร ทั้งหมดทั้งปวงนี้ เพียงแค่ในหัวเขาคิดว่าหยางเฉินเป็นคนไร้ค่า เท่านั้น

ต่อให้เขาเป็นฝ่ายผิด แต่เขาก็ยืนหยัดที่จะไม่ยอมรับผิด และนี่ ก็คือนายท่านฉิน ผู้ที่หมดหนทางที่จะเยียวยาแล้ว

“ไอ้แก่ นายมันเบื่อโลกมากสินะ อยากตายเดี่ยวข้าจะสมทบให้!”

สวีเทียนเดินเข้าไปแล้วตบไปที่นายท่านฉินทันที

“พริบ!”

แต่ในขณะนี้ หยางเฉินที่ไม่รู้ว่าปรากฏตัวอยู่ด้านหลังเขาเมื่อ ไหร่ก็ได้คว้ามือของเขาไว้

“เรื่องของผม คุณจะมายังทำไม?”

นัยน์ตาของหยางเฉินเต็มไปด้วยความเย็นชา

“คุณ คุณหยาง ผม ผม……..

สวี่เทียนตกใจและตัวสั่นไปทั้งตัว ดีที่หยางเฉินไม่ได้ถือสาเขา อะไร

“หยางเฉิน ต่อให้นายจะยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่านี้ มันก็ไม่อาจ เปลี่ยนสถานะของนายในใจข้าได้หรอก ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือวัน ข้างหน้า นายก็เป็นได้แค่คนไร้ค่า ในสายตาของข้า

นายท่านฉันพูดอย่างเฉยเมยและมองไปที่หยางเฉิน โดยที่ไม่มี ความเกรงกลัวใดๆ “อย่าคิดว่านายห้ามไม่ให้ใครทำร้ายข้า แล้วข้าจะมองไปเปลี่ยนไปนะ”

“คุณคิดว่าผมสนใจเรื่องพวกนี้จริงเหรอ?”

หยางเฉินยิ้มและส่ายหัว “ผมไม่ได้สนใจว่าคุณจะมองผมยังไง หรอกนะ แต่ที่ผมสนใจคือคุณมีท่าทียังไงกับเสี่ยวมากกว่า คุณ คงไม่รู้หรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวซีขอร้องผม ตระกูลฉินของคุณคงแตกสลายไปนานแล้ว

“ตระกูลฉิน ทําร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ตระกูลฉิน ไม่เคย สนใจความรู้สึกของเธอเลย!”

นายท่านฉินถึงกับสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วย ความตกใจ เขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของหยางเฉินเลย เพราะทุก อย่างหยางเฉินได้แสดงให้เขาเห็นแล้ว ถ้าหากหยางเฉันคิดจะ ทำลายครอบครัวตระกูลฉินจริงๆ คงไม่รอให้ถึงวันนี้หรอก

ดังนั้น เหตุผลที่ครอบครัวตระกูลฉินยังสามารถอยู่ถึงทุกวันนี้ ได้ก็เพราะฉินคนเดียว

ณ ขณะนี้ เรื่องราวต่างๆ ที่ฉันทำเพื่อครอบครัวตระกูลฉินก็ ผุดขึ้นในความคิดของนายท่านฉิน

ความรู้สึกผิดได้เข้ามาเยือนในจิตใจของเขาเป็นครั้งแรก

“โครม!”

ทันใดนั้น เสียงก็ดังสนั่นขึ้น ดูเหมือนว่าพื้นที่ทั้งคฤหาสน์ของ ตระกูลฉินกำลังสั่นไหว

ทุกคนกวาดมองไปรอบๆ และได้เห็นรถขุดหลายสิบคันกำลัง มุ่งหน้าเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลฉิน

“ทำลายสถานที่แห่งนี้ให้ราบคาบซะ!” หยางเฉินพูดอย่างกะ ทันหัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ