The king of War

บทที่ 522 ยืมมือ



บทที่ 522 ยืมมือ

พวกเขารู้สึกถึงพละกำลังอันมหาศาล ที่แผ่ออกจากตัวหยาง

ราวกับว่า หยางเฉินคือภูเขาอันสูงตระหง่าน ที่พวกเขาไม่ สามารถปีนขึ้นไปได้

“นายกล้าคู่ฉันเหรอ”

เยจี้จงพูดอย่างโมโห เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเอง

“ขู่เหรอ”

หยางเฉินแสยะยิ้ม จากนั้นความน่ากลัวพลุ่งพล่านออกจากตัว เขา เหมือนคลื่นลูกใหญ่ ที่โถมไปทั่วทุกทิศทาง

หยางเฉินยกขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่วงลงจากพื้น

ทุกคนตกใจ เพราะเห็นว่าจู่ๆ พื้นหินอ่อน ใต้เท้าของหยางเฉิน แตกกระจายออกมา

นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหากพลั่กๆๆ!”

เห็นเพียงที่ที่หยางเฉินก้าวเท้าลงไป แตกร้าวเป็นใยแมงมุม และรอยร้าวยังกระจายไปรอบๆ อีกด้วย
ภายในเวลาไม่กี่วินาที พื้นห้องโถงในงาน เต็มไปด้วยรอย

แตก

ตอนนี้ทุกคนเบิกตาโพลง พวกเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทาง

เป็นไปได้

แต่กระทืบเท้า ก็มีพลังทำลายล้างสูงขนาดนี้ นี่เป็นเรื่องที่ มนุษย์สามารถทำได้เหรอ

คู่หูขาวดำข้างหลังเย่จง ถึงกับเบิกตาโพลง ถึงพวกเขาจะ แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสั่น และจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

เดิมที คิดว่าหยางเฉินเป็นแค่คุณชายตระกูลไฮโซ ที่พอจะ เทียบกับแปดตระกูลแห่งเขียนได้ ส่วนหม่าชาว ก็แค่ผู้คุ้มครอง ฝีมือดีของหยางเฉินเท่านั้น

จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาเพิ่งรู้ หยางเฉันคือความน่ากลัวที่แท้ จริง ส่วนหม่าชาว ก็แค่คนที่ติดตามเขาเท่านั้น

พละกำลังเช่นนี้ ถึงจะกวาดล้างทั้งแปดตระกูลแห่งเยี่ยน ก็ ไม่เกินจริงสินะ

ในแววตาของเยจี้จงหลงเหลือเพียงความตกใจและหวาดกลัว เขาเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเพราะอะไรหยางเฉินถึงปฏิเสธการ เปลี่ยนนามสกุล เพื่อที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านตระ กูลเย่

สำหรับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเย่ ไม่มีอะไร น่าดึงดูดสักนิด
“เห็นแก่เสี้ยว ผมไม่อยากผิดใจกับตระกูลเย่ แต่ถ้าตระกูลเป รนหาที่ตาย ผมคงต้องทำลายตระกูลเย เสี่ยว คงจะไม่ว่าอะไร ผม”

สีหน้าของหยางเฉินไม่ใส่ใจอะไร ออกไป พูดจบ เขาก็หันหลังเดิน

ตอนนี้ มีหรือที่เย่ จงจะกล้าขวางเขา

เขาปล่อยให้หยางเฉินกับหม่าชาวออกไป

คนในตระกูลเย่ ต่างพากันเงียบกริบ ความหวาดกลัว ยังคงไม่ จางหายไป

“ฉันทําอะไรผิดหรือเปล่า”

ผ่านไปนาน เจงพึมพำกับตัวเอง ในแววตาของเขามีเพียง ความเสียใจ

เย่ยังหน้าซีดเผือด คิดถึงก่อนหน้านี้ที่เขาจะฆ่าหยางเฉิน เขา

รู้สึกว่าตัวเองโชคดีขึ้นมาทันที

ถ้าคนที่โดนถีบเมื่อครู่เป็นเขา คงจะตายทั้งที่ยังไม่รู้สึกถึง ความเจ็บปวดด้วยซ้ำ

ในแววตาลึกๆ ของเย่หวซวง ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เช่นกัน

แต่เมื่อคิดถึงตำแหน่งเจ้าบ้าน แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็น แน่วแน่ขึ้นมาทันที
เย่จี้จงอายุ 80 ปีแล้ว จะตายวันไหนยังไม่รู้ ยังไงต้องได้เป็นผู้ สืบทอดตำแหน่ง ก่อนที่เขาจะตาย ถึงจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง

สําหรับเขาแล้ว เย่จี้จงไร้อำนาจโดยสมบูรณ์ คนที่มีอำนาจ

เพียงคนเดียว ก็คือเม่าน หยางเฉินปล่อยตระกูลเยไป เพราะฉินซี งั้นก็หมายความว่า ถ้าวันใดวันหนึ่ง เม่านต้องการควบคุมตระกูลเย่ หยางเฉินก็จะ สู้เพื่อเธอหรือเปล่า

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นหยางเฉินต้องตายเท่านั้น! คิดได้เช่นนี้ แววตาของเย่หวซวงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าใครกล้าหาเรื่องหยางเฉิน ก็ไสหัว ออกจากตระกูลไปซะ ห้ามเข้ามาในเมืองเยี่ยนตูแม้แต่ก้าว เดียว!”

จู่ๆ เยจี้จงพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

จากนั้นเขามองไปยังเข่ม่าน และพูดด้วยสีหน้าสับสน “ฉันรู้ แกอยากได้อำนาจในตระกูลเย่มาตลอด วันนี้ฉันจะให้โอกาส แก”

เมื่อได้ยินดังนั้น คนทั้งตระกูลเย่ ต่างพากันตกตะลึง เจ้าบ้านกำลังจะมอบตำแหน่งเจ้าบ้าน ให้เท่านอย่างนั้นเห

รอ

ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ในบรรดาแปดตระกูลแห่งเยี่ยน เย่ม่านจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้าน ที่เป็นผู้หญิงคนแรก ใน ประวัติศาสตร์

สีหน้าของเม่านเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เธอรีบพูดว่า “สั่ง

มาได้เลยค่ะพ่อ!”

“ฉันให้เวลาแกครึ่งเดือน ฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉิ นกับตระกูลเย่ ถ้าแกทำได้ แกจะได้เป็นเจ้าบ้านคนต่อไป!

เย่ จงพูดเสียงทุ้ม

“พ่อวางใจได้เลย ฉันจะทำสุดความสามารถอย่างแน่นอน!

เย่ม่านพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ในใจของเธอตื่นเต้นสุดขีด

เธอรู้ว่าจุดอ่อนของหยางเฉิน คือฉินซี แค่เธอฟื้นความสัมพันธ์ ระหว่างตัวเองกับฉินซี ก็เท่ากับฟื้นความสัมพันธ์ของหยางเฉิ นกับตระกูลเย่

เย่หวูซวงเศร้าใจมาก เป็นไปตามคาด เย่จงจะมอบตำแหน่ง

ให้เย่ม่าน

ทั้งหมดนี้ เป็นเพราะหยางเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะเขา มีหรือที่ ตำแหน่งเจ้าบ้าน จะตกไปอยู่ในมือของผู้หญิง

“ยกเลิกงานเลี้ยงวันเกิด แยกย้ายเถอะ!”

เมื่อเย่จี้จงพูดจบ ผู้แข็งแกร่งทั้งสอง ประคองเขาออกจากห้อง

โถง

หลังจากที่เย่หวูซวงกลับถึงที่พัก เขาโทรหาใครบางคน เป็นอันดับแรก

ไม่นาน อีกฝ่ายก็รับสาย

“ท่านแปด คนที่ฆ่าท่านเก้าตาย มาถึงเมืองเยี่ยนดูแล้ว เมื่อกี้ เขาเพิ่งออกจากตระกูลเย่ครับ!”

เย่หวูซวงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

หลังจากวางสาย สีหน้าเหวซวงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขากัดฟันพูดว่า “ถึงแกจะเก่งแค่ไหน จะสู้นักสู้อันดับแปดของ สมาคมบูโดได้หรือ

ในงานต่อสู้ที่เมืองเจียงผิงตอนนั้น หลังจากที่เห็นหยางเฉิน ฆ่านักสู้อันดับเก้าของสมาคมบูโด ด้วยตาตัวเอง เย่หวูซวง ก็เริ่ม หาทางยึดอำานาจ

เดิมที เขาคิดจะโทร หลังจากที่หยางเฉินฆ่าเยยังตาย

เมื่อเช้งตาย แน่นอนว่าหยางเฉันคงไม่ปล่อยเขาไว้แน่ แต่คิดไม่ถึงว่า หยางเฉินไม่ฆ่าเช้ง หนำซ้ำยังเผยให้เห็น ความสามารถที่แข็งแกร่งเช่นนี้

เมื่อเป็นเช่นนี้ คงทำได้เพียงยืมมือสมาคมบูโด มาฆ่าหยาง

เฉิน

ตอนนี้ หยางเฉินกับหม่าชาว ออกมาจากตระกูลเยู่แล้ว

หม่าชาวขับรถพลาง พูดเยาะเย้ยว่า “ตระกูลธรรมดาๆ อย่าง ตระกูลเย่ คิดจะเก็บพี่เฉินเอาไว้ไม่รู้ดีชั่วจริงๆ
“พี่เฉิน ตอนนี้เขียนเงินกรุ๊ปมั่นคงแล้ว พี่คิดจะทำอะไรต่อ จู่ๆ หม่าชาวก็ถามขึ้น หยางเฉินกำลังพักสายตา เขาลืมตาขึ้น แววตาของเขา

สับสน

นี่เป็นปัญหาที่ต้องคิด

ก่อนหน้านี้ ตอนที่อยู่ชายแดนเหนือ เขาคิดแค่ว่าหลังจาก สงครามสงบ จะปลดประจำการและกลับบ้านเกิด ชดใช้ให้ฉินซี ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

หลังจากกลับมาถึงเจียวโจว คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องมากมาย ขนาดนี้

ตั้งแต่สี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจว จนถึงสามตระกูลใหญ่แห่ง เมืองเอก มาตอนนี้ยังมีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนอีก

ตั้งแต่เกิดเรื่องมา ยังไม่มีใครสู้เขาได้ และไม่มีท่าทีว่าจะเกิด

การนองเลือด

เยี่ยนเฉินกรุ๊ปที่เขาพะวงอยู่ตลอด ตอนนี้พ้นจากความเลวร้าย ของตระกูลอวี่เหวิน และอยู่ในมือเขาเป็นที่เรียบร้อย

สําหรับเรื่องที่จะทําอะไรต่อไป เขายังไม่รู้จริงๆ

“หรือว่า ถึงเวลาพาเสี่ยวซีกับเสี้ยวเลี้ยวไปเที่ยวรอบโลก สัมผัสกับสีสันของโลกนี้

เมื่อคิดอยู่นาน จู่ๆ หยางเฉินก็หัวเราะและพูดออกมา
เมื่อได้ยินดังนั้น หม่าชาวหัวเราะคิกคัก “พี่เฉิน เมื่อถึงตอนนั้น อย่าลืมพาผมกับอ้ายหลินไปด้วยนะ

“ดูท่าว่านายกับอ้ายหลินจะพัฒนาความสัมพันธ์แล้วสินะ ราบ รื่นดีไหม ตอนนี้ไม่เรียกพี่อ้ายแล้วสินะ” หยางเฉินพูดแซว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ