The king of War

บทที่235 ผู้ชนะเลิศการต่อสู้



บทที่235 ผู้ชนะเลิศการต่อสู้

ซูซานเหมือนรู้สึกประหม่าพอสมควร กอดแขนของหยางเฉิน ไว้แน่น ตวาดใส่เฉินอิงจนว่า “เฉินอิงจวิ้น นี่คือนายอาศัยว่ามี คนเยอะ เลยอยากจะลงมือกับหยางเฉินงั้นเหรอ?”

มุมปากเฉินอิงจนฉีกรอยยิ้มที่ชั่วร้ายนิดๆ ขึ้นมา แบมือออก แล้ว “ฉันคือฉัน พวกเขาคือพวกเขา แค่สวะคนหนึ่งที่ไม่ได้รับ การยอมรับ คนอื่นทนดูไม่ได้ เลยอยากจะลงมือ เกี่ยวอะไรกับฉัน ด้วย?”

“เฉินอิงจวิ้น! นายวางแผนหลอกฉัน?”

ซูซานช่างฉลาดเหลือเกิน เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมเฉินอิงจ วันให้เธอเรียกคนเข้ามา

เพราะเฉินอิงจนรู้ดี ที่เมืองโจวเฉิง ซูซานไม่มีเพื่อนที่ไหน คน ที่สามารถหามาได้ มีเพียงหยางเฉิน

ตั้งแต่ต้นจนจบหยางเฉินไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่รู้สึกน่าตลก อยู่บ้าง

ดูท่าทางทุกอย่างในคืนนี้ เฉินอิงจนพุ่งเป้ามายังเขา

ให้ซูซานหาคนมาพนันกับเฉินอิงจวิ้น นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังหน้า

เหรอ

โดยเฉพาะเมื่อสักครู่ผู้ชายกล้ามโตที่เดินออกมาคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นคนมีวิทยายุทธ บางทีนี่อาจเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำ ย่อย

สายตาของผู้คนมากมายที่มองตนเองล้วนเต็มไปด้วยการ หยอกเย้า

“ซานซาน ฉันวางแผนหลอกเธอได้ยังไงกัน? เป็นเธอเองที่ รับปากว่าจะหาคนมาพนันกับฉัน ฉันไม่ได้ยัดเยียด และไม่ได้บีบ บังคับเธอด้วย ใช่มั้ย?

เฉินอิงจวิ้นหัวเราะขึ้นกะทันหัน มองเห็นซูซานร้อนใจ เขายิ่ง

ดีใจ

นึกถึงทุกอย่างที่ตนเองเตรียมพร้อมไว้อย่างดี ภายในลูกตา ลึกของเขามีแสงแวววาว กระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้น

สําหรับเขานั้น ไม่ว่าซูซานยินยอมแต่งงานกับเขาหรือไม่ ก็ยัง

เป็นผู้หญิงของเขาอยู่ดี

แต่เรื่องที่ทําให้เขาโกรธแค้นมาเนิ่นนาน คืองานที่เมืองเจียง โจวเมื่อครั้งก่อน อยู่ต่อหน้าตระกูลใหญ่โตร่ำรวยมากขนาดนั้น เขากลับโดนไล่ออกมาจากสมาคมประมูลเพิ่ง

สำหรับเขาแล้ว นี่เป็นความอัปยศอดสูใหญ่หลวงสุด

อารมณ์โกรธ เขาอดกลั้นมานานมาก ตอนเช้าวันนี้ตอนที่ มองเห็นหยางเฉินปรากฏตัวที่เมือง โจวเฉิง เขาจึงตื่นเต้นเอา มากๆ ในที่สุด โอกาสในการชำระแค้นก็มาถึงแล้ว

“เอาล่ะ อย่ามาพูดไร้สาระ อยากแข่งอะไร? ฉันให้ความร่วมมือหมด!”

หยางเฉินขี้เกียจฟังพวกเขามาพูดพร่ำทำเพลงอยู่ที่นี่ จึง ตัดบทไปอย่างไม่เหลือเยื่อใย

“หยางเฉิน ทางสวรรค์ดีๆ มีแกไม่ยอมเดิน ชอบมาเดินลง

ประตูนรก ภูเขาห้าธาตุ ก็คือนรกของแก

เฉินอิงจนหน้าโหดเหี้ยมเต็มที่ กัดฟันพูด “คืนนี้ฉันจะทำให้ แกรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคู่แท้ของซูซาน!!

“พูดไร้สาระมากจริง!

หยางเฉินส่ายหน้าด้วยความจำใจ มองซูซานแล้วถามไปว่า “สรุปพ่อคุณคิดยังกันแน่? คนโง่พรรค์นี้ ยังทนให้คุณแต่งงานไป ด้วยได้?”

ซูซานที่เดิมที่โกรธเคืองมาตลอด หลังได้ยินหยางเฉินพูด ประโยคนี้ อดส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้ชั่วขณะนั้นอารมณ์ดี ขึ้นมามาก ไม่สนใจเฉินอิงจนที่โมโหจนหน้าแดงแปร๊ดเลยสัก นิต หัวเราะพลางตอบว่า “บางที สายตาพ่อฉันคงแย่เกินไปมั้ง!

มองท่าทางของพวกเขาที่พูดคุยหัวเราะกัน รอยยิ้มบนหน้า ของเฉินอิงจนแข็งทื่อในชั่วขณะนั้น หน้าตาเต็มไปด้วยความ ดุร้าย พูดจาอย่างโมโหเดือดดาล “หยางเฉิน แกวอนหาที่ตาย!

คนโดยรอบต่างหน้าตาตื่นตระหนก เหมือนไม่เคยนึกมาก่อน ว่าคนที่ขับรถอาวA8คนหนึ่ง คาดไม่ถึงอยู่ที่เมืองโจวเฉิง ยังกล้ามาเย้ยหยันเป็นอิงจวิ้นแบบนี้

“อิงจาน อย่ามัวเหลวไหลกับมัน!”

หยวนเซาทนดูต่อไปอีกไม่ไหวเท่าไร พูดเตือนสติประโยคหนึ่ง ที่มาวันนี้ ไม่เพียงเป็นการแก้แค้นของเฉินอิงจวิ้น ขณะ เดียวกันยังเป็นการแก้แค้นของเขาด้วย

โดยเฉพาะที่งานของเมืองเจียงโจวครั้งที่แล้ว คนที่โดนไล่ ออกจากสมาคมประมูลเพิ่งต่อหน้าสาธารณชน ยังมีเขาด้วย

“ในเมื่อแกไม่อยากมีชีวิตต่อ งั้นฉันจะทำให้แก่สมปรารถนา

เฉินอิงจวิ้นพยายามกดความรู้สึกโกรธของตนเองเอาไว้

“เขาคือเพื่อนสนิทของฉัน สวีเทา แกแข่งกับเขาสักตา ถ้าเขา แพ้ วันหลังฉันจะไม่วุ่นวายกับซูซานอีก แต่ถ้าเขาชนะ งั้นแกต้อง ไสหัวไปไกลๆ ฉันหน่อย อย่ามาแทรกแซงเรื่องระหว่างฉันกับซู ซานอีก”

เฉินอิงจวิ้นชี้ไปยังชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบที่อยู่ข้างกาย คนหนึ่งแล้วพูดขึ้นมา

“เฉินอิงจวิ้น นายมันหน้าไม่อาย!

ชั่วขณะนั้นซูซานสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ ตวาดใส่ “สวีเทาเป็น เทพรถน้อยของเมืองโจวเฉิง ฝีมือการขับรถของเขาเก่งกาจมาก แค่ไหน ใครไม่รู้บ้าง? ต่อให้แข่ง ก็น่าจะเป็นนายแข่งกับหยาง เฉินสิ!”
เฉินอิงจวิ้นหัวเราะเยาะ “ซูซาน เหมือนว่าฉันไม่เคยพูดมั้งว่า เป็นฉันจะแข่งกับมัน

“หยางเฉิน ในเมื่อเขาไร้ยางอายขนาดนี้ งั้นไม่ต้องแข่งแล้ว! พวกเราไปกันเถอะ!

ซูซานพูดจาแบบโมโหเดือดดาล

อยากไป? เคยถามหมัดของฉันหรือยัง?”

ผู้ชายกล้ามโตเมื่อสักครู่คนนั้น พูดแบบท่าทางเย็นชา ขวางที่ ด้านหลังของหยางเฉินไว้โดยตรง ปิดทางถอยหนีของเขาไว้หมด

ด้านหลังผู้ชายกล้ามโต ยังมีชายบึกบึนที่รูปร่างสูงใหญ่หลาย คน เห็นได้ชัดว่าล้วนไม่ใช่พวกที่รับมือง่าย

“เฉินอิงจวิ้น แกคงไม่ได้คิดจริงๆ มั้งว่าถือโอกาสหาพวกสวะ

ไม่กี่คนมา จะสามารถขังฉันไว้ที่นี่ได้?” หยางเฉินเอ่ยปากฉับ

พลัน

“ไอ้หมอนี่ วอนหาที่ตาย!

ชั่วขณะนั้นชายกล้ามโตที่อยู่ด้านหลังระเบิดอารมณ์ฉุนเฉียว ไม่รอให้เป็นอิงจนออกคำสั่ง พุ่งเข้าไปยังหยางเฉินแล้ว

ที่แท้เป็นผู้มีวิทยายุทธคนหนึ่ง พลังระเบิดของชายกล้ามโต รุนแรงสุด พึ่งขยับขา ก็พุ่งไปด้านหลังของหยางเฉินโดยตรง ก่อนจะปล่อยหมัดหนึ่งโจมตีไป

“ไอ้หนุ่มคนนี้คงไม่ใช่คนโง่หรอกมั้ง? นึกไม่ถึงว่าไม่รู้จักหลบ”

“ไม่ใช่เขาไม่อยากหลบ แต่ว่าเดิมทีเขาไม่มีโอกาสหลบ เสือดาเป็นแชมป์เปี้ยนการต่อสู้ของกลุ่มคนหนุ่มระดับเมืองเลย นะ หมัดนี้ของเขา ใครหลบได้กัน?”

“ใช่ ฉันจำได้ว่าตอนที่แข่งขันต่อสู้รอบชิงชนะเลิศครั้งก่อน เสือดาต่อยไปหมัดเดียวทําเอาจมูกคู่ต่อสู้หักเลย ยกเดียวชนะ ขาด”

“ฉันพนันว่าเสือดำ อยสองหมัดก็ทำไอ้หนุ่มคนนี้ตายแน่!

“ฉันพนันหมัดเดียว!

พวกลูกคนรวยเมืองโจวเฉิงที่มุงดูรอบด้านเหล่านั้น เหมือน มองเห็นบทสรุปกันแล้ว ในดวงตาเปล่งประกายแสงที่ตื่นเต้น

เฉินอิงจวิ้นทำหน้าตายิ้มชั่วร้ายเช่นกัน ทันใดนั้นเขารู้สึก ว่าการเตรียมการอย่างดีของตนเองออกจะมากไปสักหน่อย

เพียงแค่เสือดำลงมือ ก็สามารถเอาชีวิตของหยางเฉินได้

“ไปตายซะเถอะ!”

ด้านหลังหยางเฉิน เสือดแหกปากตะโกนอย่างเลือดร้อน จากนั้นต่อยออกมาหมัดหนึ่ง

แววตามองเห็นหมัดของเสือด่ากำลังจะร่วงลงมา และชั่วขณะนั้นหยางเฉินขยับ โดยฉับพลัน

ขาซ้ายของเขาไม่ได้ขยับ แต่ใช้ยาซ้ายเป็นแกนกลาง ร่างกาย หมุนวนทันใด

ชั่วพริบตาเดียวเท้าขวาหมุนวนร้อยแปดสิบองศา เสียงดังลั่น ทีหนึ่ง ผู้ชนะเลิศการต่อสู้ในสายตาพวกเขาถูกถีบกลางหน้าไปที่ หนึ่ง ร่างกายลอยออกไปไกลสิบกว่าเมตร ร่วงลงบนพื้นอย่าง รุนแรง ชั่วขณะหนึ่งสลบหมดสติไปแล้ว

ฉากนี้ ทําเอาทุกคนตกใจค้าง

เสือดำเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาพวกเขานี้ ฝีมือดีที่สุด ฝึกการ ต่อสู้มาตั้งแต่เป็นเด็ก ได้รับรางวัลการต่อสู้มาไม่น้อย

แม้กระทั่งการแข่งขันต่อสู้ครั้งใหญ่ระดับประเทศ ยังเคยมีราย

ชื่อลงแข่งขัน

เป็นผู้มีฝีมือที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ คาดไม่ถึงแม้แต่หยางเฉินโจมตี มาทีเดียวยังรับไม่ไหว สลบไม่ฟื้นขึ้นมาเลย

เฉินอิงจวิ้นและหยวนเซ่าทั้งสองคนเบิกดวงตาโตเช่นกัน มอง เสือดำที่ล้มบนพื้นจนลุกไม่ขึ้นแบบตาไม่กะพริบ

พวกเขารู้ว่าหยางเฉินแกร่งมาก แม้แต่บอดี้การ์ดของพวกเขา ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน

ส่วนเสือดำเดิมมาจากตระกูลที่สืบทอดวิทยายุทธมา ความ สามารถแกร่งกว่าบอดี้การ์ดของพวกเขาไม่น้อย
แต่ผลสุดท้าย ไม่มีทางเอาชนะหยางเฉินได้เลย

“นี่คือยอดฝีมือที่แกหามา?”

หยางเฉินมองทางเดินอิงจวนถามแบบหยอกล้อ

ได้ยินเสียงของเขา ทุกคนถึงได้สติกลับมา สายตาที่แต่ละคน มองทางหยางเฉินเปลี่ยนไปกันหมด ไม่มีการดูถูกแบบเมื่อสักครู่ อีกต่อไป

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สามารถเอาชนะเสือดำได้อย่างง่ายดาย จะ ธรรมดาได้อย่างไร?

“เฉินอิงจน คนของนายแพ้แล้ว ตามที่สัญญากันไว้ นายห้าม มาตอแยฉันอีก!”

ซูซานพูดด้วยท่าทางภาคภูมิใจ

ถึงแม้เฉินอิงจวิ้นจะตกใจในความสามารถของหยางเฉิน แต่ ไม่นานเขาก็สงบใจลงมาได้ ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ฉันเคยพูด ตั้งแต่เมื่อไรว่าจะแข่งต่อสู้กับมัน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ