The king of War

บทที่ 63 คุณนอนที่นี่นะ



บทที่ 63 คุณนอนที่นี่นะ

จินยีที่กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ เมื่อถูกแมลงวันบินเข้าไปรบกวน แบบนี้ เธอก็ควบคุมสติไม่ได้และสาดเหล้าใส่หน้าของคนนั้น โดยที่ไม่ลังเล

“คุณชายเฟิง!” เพื่อนที่นั่งร่วมโต๊ะกับกวนเสวยเฟิงก่อนหน้านี้ ก็ลุกขึ้นมาทันที

กวนเสวยเฟิงยกมือขึ้นเพื่อห้ามพวกเขาเอาไว้ จากนั้นเซ็ต เหล้าบนหน้าและยิ้มพูด โดยที่ไม่มีอารมณ์โกรธใดๆ “คนสวย ครับ ผมก็แค่อยากรู้จักคุณเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องโกรธขนาดนี้ หรอกมั้ง?”

ฉันยีในขณะนี้เริ่มใจเย็นลง เมื่อเธอไม่ทันควบคุมอารมณ์ตัว เองถึงได้มีการกระทำที่ก้าวร้าวเช่นนั้น และตอนนี้เธอก็เริ่มรู้สึก ผิดกับสิ่งที่ทํา ยิ่งไปกว่านั้นเธอมาที่นี่คนเดียวด้วย

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ เมื่อฉันกำลังอารมณ์เสียอยู่” ฉัน ขอโทษกับเขา

“ผมยอมรับคําขอโทษจากคุณครับ” กวนเสวี่ยเฟิงยิ้มตอบ จากนั้นเดนิ้วของเขา “ช่วยเอาชาโตว์ลาฟิตอันเป็นที่รักของผม มาให้ที

จากนั้นพนักงานเสิร์ฟก็หยิบไวน์ชาโตว์ลาฟิตมาให้เขา ฉันขมวดคิ้ว แม้ว่าเธออยากจะเมาให้ลืมความทุกข์ใจ แต่เธอไม่ได้คิดว่าจะดื่มให้เมาในสถานที่ที่มีคนมากมายเช่นนี้ เธอ ชอบบรรยากาศที่นี่ เธอก็แต่จะดื่มให้พอประมาณเท่านั้น

แต่ตอนนี้กวนเสรี เฟิงเอาไวน์มาเสิร์ฟที่โต๊ะเธอแล้ว มันคง เป็นเรื่องยากที่เธอจะลุกไปจากโต๊ะนี้ได้

“ขอโทษนะคะ ฉันดื่มเยอะแล้ว ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ”

ถึงแม้ฉันจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แต่เธอก็ คิดที่จะลองดู

กวนเสงี่ยเฟิงยังคงแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า ในขณะที่ ฉัน เขาได้ริบไวน์ชาโตว์ลาฟิตไว้สองแก้วแล้วยืนให้กับฉัน ด้วยรอยยิ้ม “คุณสาดเหล้าใส่หน้าผม ผมจะเลี้ยงคุณแก้วนี้ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ก็ถือว่าเจ้ากัน โอเคไหม?”

“แก้วเดียวจริงๆ นะ?” ฉันถามอย่างสงสัย กวนเสงี่ยเฟิงพยักหน้าเบาๆ “แก้วเดียว!”

“โอเค!” ฉันไม่ได้ลังเลอีกต่อไป เธอรับแก้วไวน์นั้นมาแล้ว มองไปที่กวนเสวี่ยเฟิง “เมื่อกี้ฉันใจร้อนเอง แก้วนี้ถือว่าเป็น คําขอโทษของฉันก็แล้วกันนะ!”

หลังจากพูดจบ ฉันก็ยกแก้วขึ้นเพื่อเตรียมจะดื่มไวน์แก้วนั้น แต่ในขณะนั้น จู่ ๆ ก็มีร่างชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นข้างๆ เธอและ คว้าแขนเธอไว้

ฉันมองไปที่มือของชายคนนั้น และเธอก็ได้เห็นคนผิวสีคน หนึ่งยืนอยู่ข้างเธอ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นชาวต่างชาติ
“คุณดื่มแก้วนี้ไม่ได้” ชายผิวสีคนนั้นพูดภาษาท้องถิ่นอย่าง

ชัดเจน

กวนเสงี่ยเฟิงหรี่ตามองไปที่เขาทันที “คุณเป็นใคร? ชายผิวสีไม่ได้มองไปที่กวนเสวยเฟิง แต่สายตาของเขามอง ไปที่ฉินและพูดว่า “ไวน์แก้วนี้ถูกวางยาแล้ว”

“ว่าไงนะ?” ฉันปล่อยมือของเธอ โดยที่ไม่ทันตั้งตัว แพลง แก้วไวน์ตกลงไปบนพื้นและแตะละเอียดทันที

เธอมองไปที่กวนเสวี่ยเฟิงด้วยความโกรธ “คุณมันไร้ยางอาย จริงๆ!”

กวนเสวี่ยเฟิงยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม “เขาบอกว่าไวน์แก้วนี้ถูก วางยา แล้วมันก็จะถูกวางยาจริงๆ เหรอ?”

ฉันรู้สึกโกรธมาก แต่เธอไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครเป็นคน

พูดความจริง

“ผมชื่อเงินปา เป็นคนที่คุณหยางส่งมาปกป้องคุณครับ” จู่ ๆ ชายผิวสีก็พูดขึ้น

ชายผิวสีร่างใหญ่คนนี้คือแชมป์มวยของคนผิวดำที่มีชื่อว่า เงินปา หลังจากที่เขาได้สัมผัสกับความน่ากลัวของหยางเฉินแล้ว เขาก็ยอมจํานนและขอติดตามหยางเฉินอย่างไม่ลังเล

หลังจากที่ฉินยีออกจากบ้านได้ไม่นาน หยางเฉินก็โทรหาเงิน ปา เพราะฉินออกจากบ้านดึกมากและไม่มีใครรับประกันความ ปลอดภัยของเธอได้
จีนยีที่ได้ยินคำว่าคุณหยางก็รู้สึกอุ่นใจทันที แต่เธอยังคงถาม อย่างไม่ประมาท “คุณหยางที่คุณพูดถึงคือใคร?

“หยางเฉิน!” เป็นปาพูด “ถ้าคุณฉันไม่เชื่อลองโทรถามคุณ หยางได้ครับ”

หลังจากยืนยันว่าเป็นปาเป็นคนที่หยางเฉินส่งมาเพื่อปกป้อง

เธอ ฉันก็รู้สึกดีทันที และยังมีความอบอุ่นเกิดขึ้นในใจของเธอ

เมื่อเห็นว่าฉันไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กวนเสงี่ยเฟิงก็รู้ว่าชายผิว ตำร่างใหญ่คนนี้เป็นคนที่มาปกป้องผู้หญิงคนนี้จริงๆ

“คุณมั่นใจนะว่าแค่คุณคนเดียวจะสามารถพาคนสวยคนนี้ ออกจากที่นี่ได้?”

กวนเสงี่ยเฟิงเอนกายไปพิงเบาะหลัง สองมือของเขาหนุนบน

โซฟา จากนั้นปลดกระดุมสองเม็ดบนคอเสื้อเชิ้ตลายที่เขาสวม

ใส่อยู่และแสดงสีหน้าอย่างโอหัง

ทันทีที่กวนเสวี่ยเฟิงพูดจบ ชายร่างใหญ่เจ็ดถึงแปดคนก็เดิน เข้ามาและจ้องไปที่ชายผิวสีคนนั้นอย่างเย็นชา

ไม่รู้ด้วยเหตุผลใด หลังจากที่ฉันรู้ว่าเป็นว่าเป็นคนของหยาง เฉินที่ถูกส่งมาเพื่อปกป้องเธอ แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางชายร่างสูง ใหญ่มากมายหลายคน เธอกลับไม่ได้รู้สึกกลัวเลย แต่กลับรู้สึก ตื่นเต้นมากกว่า

เงินปาเหลือบมองไปที่ชายร่างใหญ่กลุ่มนั้นที่ล้อมรอบเขา อย่างเฉยเมย จากนั้นพูดเบาๆ ว่า “คุณฉินครับ ช่วยมาหลบอยู่หลังผมทีครับ!”

“ค่ะ!” ฉันมีความรู้สึกกระตือรือร้นในทันใด

กวนเสวยเฟิงหรี่ตามองทั้งสอง จากนั้นหยิบ การออกมาใส่ ปากและมีคนจุดไฟให้เขาทันที

เงินปาก้าวไปข้างหน้าเหมือนสัตว์ร้ายที่ออกจากกรง “ไปให้ พัน!”

“จัดการมันซะ!” หัวหน้าของชายร่างใหญ่ตะโกนขึ้น และ ทันใดนั้นชายร่างใหญ่ทั้งหมดก็กระโจนเข้าหาเป็นปา

เนปาสีหน้าเฉยเมยและเดินหน้าต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไร ขวางอยู่ข้างหน้า

ชายร่างใหญ่คนแรกพุ่งเข้ามา และเป็นปากเหวี่ยงหมัดออกไป

“ผัวะ!”

ชายร่างใหญ่คนนั้นกระเด็นออกไป จากนั้นตามมาด้วยเสียง แตกหักของ โต๊ะเก้าอี้และแก้วน้ำ ร่างของชายก่าย่ากระแทกกับ โต๊ะหลายโต๊ะและขวดแก้วก็แตกจนเกลื่อนเต็มพื้น

เขาเป็นถึงแชมป์มวยของคนผิวสี แล้วอันธพาลเฝ้าร้าน ในบาร์ เล็กๆ แห่งนี้จะเทียบกับเขาได้อย่างไร?

เซินปาก้าวเท้าตามสเต็ปนักมวย เขาโจมตีที่ละหมัดและหมัด ละคน ในช่วงเวลาสิบวิสั้นๆ นั้นไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้ อีก
“กล้าสร้างปัญหา ในถิ่นของช้า ไม่รู้จักกลัวเลยจริงๆ! กวนเสงี่ยเฟิงจ้องเขม็งไปที่เป็นป่าที่เดินจากไปด้วยความ โกรธ จากนั้นออกคำสั่งทันที “ไปสืบประวัติมาเดี๋ยวนี้ ไอ้หยาง เป็นคนที่ส่งไอ้คนนี้มามันเป็นใครกันแน่!

“หยางเงินส่งคุณมาปกป้องฉันจริงๆ เหรอ?”

คุณรู้จักหยางเฉินได้ยังไง?

“คุณรู้ไหมว่าที่ผ่านมาหยางเฉินทำอะไร?”

ฉันเป็นเหมือนเด็กน้อยขี้สงสัย ในระหว่างทางกลับบ้านเธอ เอาแต่ถามคำถามอย่างไม่หยุด เงินปาก็ตอบคำถามเธออย่าง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วยเช่นกัน แต่คำตอบของเซ็นปานั้นมีเพียง สามพยางค์เท่านั้น “ผมไม่รู้

ไม่ใช่ว่าเขาพยายามจะโกหกฉัน แต่เขาไม่รู้จริงๆ การที่เขา เลือกที่จะติดตามหยางเฉินนั้นก็เพราะความแข็งแกร่งของเขา หยางเฉินเท่านั้น ซึ่งไม่มีสิ่งอื่นใดอีก

ในขณะที่สามีภรรยากำลังคุยกันอยู่ในห้อง ทันใดนั้นก็ได้ยิน เสียงเปิดประตูของข้างห้องดังขึ้น

“เสี่ยว กลับมาแล้ว!” ฉินซีที่ได้ยินเสียงนี้ก็พูดขึ้นและรู้สึกโล่ง ใจทันที

และในขณะเดียวกัน หยางเงินก็ได้รับข้อความจากโทรศัพท์มือถือของเขา “พี่เขยคะ หนูกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ค่ะ พี่เขยกับพี่สาวไม่ต้องเป็นห่วงหนูแล้วนะคะ !

“เสี่ยว ส่งข้อความมาเหรอ?” ฉันถามทันที

หยางเงินผงะไปสักพัก เขาไม่ได้คิดจะปิดบังและพยักหน้า ตอบ “เสียวบอกว่ากลับมาถึงบ้านแล้ว ให้เราไม่ต้องเป็นห่วง เธอแล้วล่ะ”

“อ้อ!” ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ในใจลึกๆ เธอรู้สึกอึดอัดเล็ก

หยางเฉินมองดูเวลาแล้วลุกขึ้นและพูดว่า “เดี๋ยวกลับมาแล้ว คุณก็พักผ่อนเลยนะ ผมไปก่อนละ หลับฝันดีนะครับ!”

“หยางเฉิน!” จู่ ๆ ฉินซีก็เรียกเขา

หยางเฉินที่เพิ่งเห็นถึงประตูก็หันกลับมาถามเธอ “ว่าไงครับ?” “วันหลังคุณก็นอนห้องนี้เลยสิ!” ฉินซีรวบรวมความกล้าแล้ว พูดออกมา

หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจมาก เขามองฉันที่หันหลังให้เขา ด้วยสีหน้าประหลาดใจ แต่ในไม่ช้าก็แทนที่ด้วยความสุข

จากนั้นสักพัก เมื่อหยางเฉินไม่ได้ตอบคำถาม ฉินซีก็กัดริม ฝีปากสีแดงของเธอ “ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไรนะ

เห็นด้วยสิ ผมเห็นด้วย!! หยางเฉินรีบตอบคำถามเธอ จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉินซี และเธอก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันเล็กน้อย “คุณอย่าคิดมาก ฉันก็แค่กลัว ลูกสาวตื่นมาแล้วงอแงถ้าไม่ได้เจอหน้าพ่อ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ