The king of War

บทที่ 353 กินขวดเหล้า



บทที่ 353 กินขวดเหล้า

ในเวลานี้ หยางเฉินมองเห็นการอ้อนวอนในสายตาของท่าน เฟยเฟย ชั่วขณะนั้นเข้าใจขึ้นมาฉับพลัน ที่แท้เธออยากจะนำตนเองมาเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธ หยาง

เฉินถึง โล่งอกไปที่หนึ่ง

มองเห็นรอยยิ้มนิดๆ ที่มุมปากของหยางเฉิน หานเฟยเฟย เข้าใจว่าหยางเฉินรับปากช่วยตนเองแล้ว

ภายในสายตาทีตื่นตกใจของทุกคน หานเฟยเฟยเดินเข้ามา ควงแขนของหยางเฉินไว้ต่อหน้าสาธารณชนแล้ว

“อ่า~”

ทุกคนเบิกดวงตาโตกันหมดแล้ว อ้าปากค้างเล็กน้อย แม้

กระทั่งมีคนส่งเสียงร้องตกใจออกมาด้วย

หานเฟยเฟยเป็นถึงเจ้าหญิงน้อยที่ตระกูลหานรักใคร่เอ็นดู มากที่สุด คือผู้นำ พ่อคือทายาทผู้นำ ถ้าใครสามารถคบด้วย กันกับเธอได้ อนาคตมีความเป็นไปได้ในการควบคุมตระกูลหาน ด้วย

โดยเฉพาะหานเซี่ยวเทียนมีเพียงหานเยี่ยนเป็นลูกชายคน เดียว ส่วนหานเยี่ยนมีเพียงหานเฟยเฟยเป็นลูกสาวคนเดียวอีก ตำแหน่งของผู้นำในอนาคต ได้แต่ส่งต่อให้หานเฟยเฟย
นี่คือเหตุผลว่าทําไมหนิงเฉินหยู่ถึงพยายามคิดหาทุกวิถีทาง คบกันกับหานเฟยเฟย

“หนิงเฉินหยู่ พี่หยางต่างหากที่เป็นคู่ที่เหมาะสมที่สุดของฉัน ตอนนี้คุณรู้แล้วสินะ ทำไมฉันต้องบอกว่าชาตินี้คุณไม่มีโอกาส แล้ว?”

ตอนที่หานเฟยเฟยมองทางหนึ่งเฉินหยู หน้าตาหนาวเหน็บ หนิงเฉินหยู่ไม่ได้พูดอะไร สีหน้าเขียวปัด เวลานี้เขามีความ รู้สึกเหมือนถูกสวมเขาให้เลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาเขา หานเฟยเฟยก็เป็นผู้หญิง ของเขาตั้งนานแล้ว

เวลานี้ หานเฟยเฟยกลับควงแขนของผู้ชายคนอื่นอยู่ ท่าทาง ดูมีความสุข

ในที่สุดเขาสำนึกได้ว่าตนเองสูญเสียโอกาสไปแล้วจริงๆ แต่ไม่นานความรู้สึกโกรธแค้นที่รุนแรงส่วนหนึ่ง เต็มไปทั่ว จิตใจของหนิงเฉินหยู่แล้ว

“สรุปว่านายเป็นใครกันแน่?

หนิงเฉินหยู่สอบถามขึ้นอีกครั้ง

นี่คือวันนี้เขาสอบถามสถานะของหยางเฉินเป็นครั้งที่สามแล้ว แต่หยางเฉินกลับไม่เคยตอบเขามาเลย

ถ้าอีกฝ่ายเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่มาจากเยนตจริง ก็ช่างไปเถอะ แต่ถ้าไม่ใช่ เขาจะยินยอมให้หยางเฉินแย่งผู้หญิงไปได้ อย่างไร?

“หนิงเฉินหยู่ คุณอยากจะทำอะไร?

หานเฟยเฟยทําหน้าเย็นชา เหมือนแม่ไก่ที่ปกป้องลูกวัวเอาไว้ กลัวหนิงเฉินหยู่จะมาแก้แค้นหยางเฉิน

มองเห็นฉากนี้เข้า ในใจหนิงเฉินหยู่โกรธเคืองอย่างยิ่ง กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ถ้านายเป็นลูกผู้ชายจริง อย่าหลบอยู่ข้าง หลังผู้หญิงสิ บอกฉันมาแบบกล้าหาญเลยว่านายเป็นใคร!

หานเฟยเฟยกำลังอยากจะพูดอะไร กลับถูกหยางเฉินดึงมาที่ ด้านหลังเบาๆ

“ฉันมีสถานะอะไร นายไม่มีสิทธิ์รู้!”

หยางเฉินพูดด้วยท่าทางนิ่งสงบ “แต่ที่ฉันสามารถบอกนายได้

คือฉันเป็นตัวตนที่นายล่วงเกินไม่ได้!

คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทั้งโถงงานเลี้ยงเงียบสงบลงมาถึงที่สุด

ทุกคนล้วนมองหยางเฉินแบบหน้าตาตื่นตกใจ ผู้หญิง มากมาย ในดวงตาม้วนลุกวาวระยิบระยับ

ความเผด็จการและความมั่นใจของหยางเฉิน ไม่เหมือนแสร้ง ทําออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือด้านหลังของเขา ทางหนึ่งคือเฉินยิ่งเหา รุ่นหลานตระกูลเฉินที่เป็นใหญ่หนึ่งเดียวของเมืองโจวเฉิง ด้านหนึ่งคือผู้นําตระกูลใหญ่ชั้นนำที่อายุน้อยที่สุดของเมืองเจียงโจว ยังมีลูกสาวของเศรษฐีเมืองเจียงโจวด้วย

แต่เวลานี้ สองสามคนนี้กลับยืนอยู่ข้างหลังหยางเฉินแบบ เงียบเชียบมาก เห็นได้ชัดว่าเห็นหยางเฉินเป็นศูนย์กลาง

คนหนุ่มแบบนี้ จะไม่มีสถานะและเบื้องหลังจริงเหรอ?

“คุณหาน คุณอย่าถูกเจ้าหมอนี่หลอกเอาเด็ดขาดนะครับ ตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา รวมกันแล้วเงินหนึ่งพันยังไม่คุ้มค่าเลย มั้ง?”

แต่กลับกลายเป็นว่ามีพวกโง่เง่าไม่เชื่อจุดนี้ เพิ่งฉินสุนัขรับ ใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังหนึ่งเฉินหยู่มาโดยตลอด เวลานี้ก้าวออกมา แล้ว พูดจาแบบหน้าตาเย้ยหยัน “ถ้าเขาเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ ที่ไหนจริง จะมาแต่งตัวแบบนี้ได้ยังไงกัน?

“บางทีพวกคุณอาจไม่รู้กัน ก่อนหน้านี้ตอนที่ผมกับคุณชายหน งมาถึง ที่ลานจอดรถ มองเห็นเขาขับรถโฟล์คเกาตันเก่าๆ คัน หนึ่งมาด้วยตัวเอง”

“พวกคุณคิดว่าคนหนุ่มแบบนี้ จะมีเบื้องหลังอะไรจริงเหรอ?” สายตาเฝิงอี้ฉินเหลือบมองในฝูงชนที่อยู่โดยรอบ หน้าตาดู เหยียดหยามเต็มที่กันหมด

ได้ยินค่าพูดพวกนี้ของเขาเข้า ในสายตาของคนกลุ่มหนึ่ง ปรากฏแววตาสงสัยขึ้นมาจริงๆ
โดยเฉพาะทุกอย่างเป็นแบบที่เพิ่งอี้ฉันพูดมานั้น การแต่งตัว ของหยางเฉินก็ไม่มีราคา แถมรถที่ขับมายังไม่ดีเท่าไรด้วย

“นายหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

หน้าหานเฟยเฟยเต็มไปด้วยความโกรธ กล่าวตำหนิใส่เฝิง ฉิน “นายนึกว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงกล้าเหยียดหยามพี่หยาง ของฉัน?”

“คุณหานครับ นี่ไม่ใช่ผมกังวลว่าคุณจะถูกคนหลอกเอาหรอก เหรอครับ?”

ถูกต่อว่าต่อหน้าผู้คน เฝิงอี้ฉันก็ไม่ได้โกรธ ยิ้มกริ่มตอบไป พูดจบ เขามองทางหยางเฉินอีกที พูดด้วยท่าทีโอดังอย่าง มาก “ไอ้หนุ่ม เมื่อกี้ไม่ใช่ว่านายเก่งกาจมากเหรอ? บอกว่า แม้แต่คุณชายหนึ่งยังล่วงเกินไม่ได้งั้นเหรอ?”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ นายมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหาน น่าจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่อะไรมาแล้วมั้ง?”

“ไม่สู้เอาออกมาในตอนนี้เลยสิ ให้ทุกคนได้เห็นหน่อย ดูว่า ของขวัญวันเกิดที่นายเอามา คู่ควรเป็นแฟนของคุณหานหรือ ไม่?”

หลังจากได้ยิน สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของหยางเฉิน

แล้ว

มีคนสงสัยในสถานะของหยางเฉินอยู่จริง และรอคอยมากเช่น กัน ชายหนุ่มที่แต่งตัวธรรมดาคนหนึ่ง สรุปแล้วสามารถเอาของขวัญอย่างไรออกมาได้กัน

ชั่วขณะนั้นหนิงเฉินหยู่ดวงตาเป็นประกาย ก่อนหน้านี้เขาไม่ ได้สงสัย แต่ตอนนี้พอได้ยินเส็งอี้ฉันพูดแบบนี้มา เขาก็สงสัย เหมือนกันว่าหยางเฉินใช่แฟนของทานเฟยเฟยจริงหรือไม่

ถ้าหยางเฉินเพียงแค่เอาของขวัญที่ราคาไม่กี่ร้อยออกมาจริง ไม่เพียงอธิบายว่าเขาเป็นแค่พวกยาจกคนหนึ่ง ยังสามารถ อธิบายได้อีกว่าระหว่างเขากับทานเฟยเฟย ไม่ใช่ความสัมพันธ์ แบบแฟนกัน

เฉินยิ่งเหาทําหน้าหยอกเย้า เขาย่อมรู้ดีเป็นธรรมดา ของขวัญ ที่หยางเฉินเตรียมเอาไว้คืออะไร นั่นเป็นกำไลหยกที่ราคาสิบสอง ล้านกว่าชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว

แหวนเพชรที่หนิงเฉินหยู่เอาออกมาก่อนหน้านี้ ถึงราคาจะเป็น สิบล้าน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกำไลที่หยางเฉินจะมอบให้ ยัง ด้อยกว่าหลายระดับ

หานเฟยเฟยสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เพราะหยางเฉินเป็นผู้มีบุญ คุณของหานเดี่ยวเทียน หานเดี่ยวเทียนเคยสั่งไว้เป็นพิเศษว่าไม่ อนุญาตให้ตรวจสอบหยางเฉิน

เธอรู้เพียงว่าหยางเฉินเก่งกาจมาก กลับไม่ชัดเจนถึงสถานะ

และกำลังทรัพย์ที่แท้จริงของหยางเฉิน ในความคิดของเธอ ต่อให้หยางเฉินเตรียมของขวัญวันเกิด

ให้ตนเองจริง ก็คงไม่ได้ราคาแพงเกินไป
“ของขวัญวันเกิดของพี่หยาง ฉันได้รับมาตั้งนานแล้ว เกี่ยว อะไรกับนายด้วย?”

หานเฟยเฟยรีบต่อว่าทันที

เฝิงอี้ฉันหัวเราะแล้ว “คุณหานครับ คงไม่ใช่ว่าเจ้าหมอน เดิมทีไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ ดังนั้นคุณถึงจงใจช่วยพูดให้เขา แบบนี้หรอกมั้งครับ?”

“เฟยเฟย แหวนเพชรรูปหัวใจที่ผมอยากให้คุณ เป็นของที่ผม จ่ายเงินไปเก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นถึงซื้อมาได้นะ ป้ายราคาก็ยัง อยู่”

หนิงเฉินหยถือโอกาสพูดขึ้น “ถ้าเขาเป็นแฟนของคุณจริงๆ ของขวัญที่เอาให้ น่าจะไม่ด้อยไปกว่าผมมั้ง?

“คุณชายหนึ่ง คุณดูสภาพลำบากยากแค้นนั้นของเขาสิครับ

จะเอาของขวัญที่ดีกว่าคุณออกมาได้อย่างไรกันครับ? ถ้าเขาเอา

ออกมาได้ ผมจะกินขวดเหล้าอันนี้เข้าไปเลย!

เฝิงอี้ฉันหัวเราะฮาๆ พูดไป ในคำพูดเต็มไปด้วยการเสียดสี

“นาย……

หานเฟยเฟยทำหน้าโมโหเดือดดาล กำลังอยากจะระเบิดออก มา หยางเฉินก็หัวเราะทันใด มองทางเพิ่งฉินอย่างหยอกเย้า แล้วถามว่า “นายแน่ใจ? ถ้าของขวัญของฉันดียิ่งกว่า นายจะกิน ขวดเหล้าเลย?”

“เชี้ย! คิดว่าตัวเองเก่งมากนักหรือไง? ยาจกคนหนึ่ง กล้ามาแสร้งทําเป็นคุณชายตระกูลใหญ่? คำที่ฉันเคยพูดไป ย่อมไม่ คืน แน่นอน ขอแค่แกเอาของที่ดียิ่งกว่าออกมาได้ ฉันก็กล้ากิน ขวดเหล้า!”

เฝิงอี้ฉันพูดอยู่ คว้าขวดไวน์แดงขึ้นมาอันหนึ่ง พูดแบบท่าทาง โหดร้าย “ถ้าเอาออกมาไม่ได้ ขวดเหล้าอันนี้ แก กินให้ฉันด้วย!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ