The king of War

บทที่ 204 หน้าให้ซูซาน



บทที่ 204 หน้าให้ซูซาน

ซูซานพูดด้วยท่าทางซาบซึ้งใจ

“สรุปคุณไปผิดใจใครเข้าแล้ว นึกไม่ถึงว่าเจอลอบฆ่ามาครั้ง แล้วครั้งเล่า”

หยางเฉินถามแบบสงสัยอยู่บ้าง

ตั้งแต่เริ่มแรกที่เขารู้จักผู้หญิงคนนี้ นี่คือครั้งที่สองที่ซูซานโดน ลอบสังหาร แต่ละครั้งล้วนเป็นอุบัติเหตุรถชนที่คนจงใจทำ

ถ้าไม่ใช่เพราะซูซานดวงดี การลอบสังหารสองครั้งนี้อยู่ด้วย กันกับตนเอง เธอคงตายไปนานแล้ว

ซูซานส่ายหน้า สีหน้าดูหนาวเย็นบอกว่า “บางทีอาจเป็นพวก อิทธิพลของเมืองเจียงโจว หรือไม่อย่างนั้นก็พวกอิทธิพลของ เมืองโจวเฉิง น่าจะกังวลการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ของตระกูลซู และตระกูลเฉิน มีเพียงฉันตาย หรือว่าเป็นอิงจวิ้นตาย การ แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ของตระกูลซูและตระกูลเฉินถึงสิ้นสุดลง”

ในเวลานี้ จากในรถโฟล์คพาสสาทด้านหน้าคันนั้น มีชาย กำยำชุดดำที่หน้าเต็มไปด้วยเลือดสองคนเดินออกมา

ซูซานหลบข้างหลังของหยางเฉิน โดยจิตใต้สำนึก กัดฟันแน่น พูดว่า “พวกเขาอยากจะฆ่าฉัน!”

เธอไม่ได้โง่ ก่อนหน้านี้รู้สึกได้ว่าโดนสะกดรอยตาม เพียงแต่ไม่มีทางหลุดพ้นมาโดยตลอด

โดยเฉพาะการลอบสังหารแบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง

มาก

“มีผมอยู่ พวกเขาฆ่าคุณไม่ได้หรอก!”

หยางเฉินบอกด้วยท่าทางสงบนิ่ง

“ไอ้หนุ่ม รถของพวกฉัน เป็นแกนเหรอ?” เวลานี้ ชายกำยำชุดดำสองคนนั้นเดินเข้ามาแล้ว ต้องหยาง เฉินตาไม่กะพริบอย่างโหดเหี้ยม

“อย่ามัวพูดเหลวไหล ปฏิบัติภารกิจก่อน!” ชายอีกคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชาไร้ที่เปรียบ

“คนสวย ไปกับพวกเราสักหน่อยเถอะ!!

ชายกำยำทั้งสองเดินไปยังซูซานโดยตรง แต่ว่าพวกเขายังเดินไปไม่ถึงด้านหน้าของซูซาน ก็ถูกหยางเฉิ นขวางทางเอาไว้

“ให้เวลาพวกแกสิบวินาที บอกฉันมา ใครส่งพวกแกมากัน?”

หยางเฉินสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่เห็นสองคนนี้อยู่ในสายตาแม้แต่ น้อย

“เชีย! เจ้าหมอนี่เป็นพวกเดียวกับผู้หญิงคนนี้ ฆ่าเจ้าหมอน ก่อนเลย”
ขายก๋าย่า เพิ่งพูดจบลง พุ่งเข้าไปทางหยางเฉินก่อนแล้ว ใน มือถือมีดที่คมกริบระยิบระยับเล่มหนึ่ง

“ตึง!”

“ตึง!”

หยางเฉินถีบออกไปสองทีแบบสบายๆ ชายก่าย่าสองคนลอย ออกไปตามๆ กัน จากนั้นล้มลงที่ข้างถนนอย่างแรง

จนกระทั่งวินาทีนี้ ทั้งสองถึงรับรู้ถึงความเก่งกาจของหยางเฉิน

เท้านั้นของหยางเฉิน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่ได้โดน คนถีบ แต่ว่าโดนรถบรรทุกชนกระเด็น อยากจะปีนขึ้นมาก็ทำไม่ ได้

“ฉันเตือนพวกแกไว้ ดีที่สุดบอกฉันมาดีๆ สรุปเป็นใครส่งพวก แกมากันแน่ ไม่อย่างนั้นฉันมีวิธีเป็นร้อยที่จะทำให้พวกแก ปริปาก!”

ในสายตาหยางเฉินเต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ มองสองคน นี้อย่างกับมองคนตาย

ชายกว่าทั้งสองที่ถูกส่งมาลอบสังหารซูซานได้ เดิมทีความ สามารถย่อมไม่ธรรมดา แต่ยามอยู่ในกำมือหยางเฉิน แค่ที เดียวก็ทนไม่ไหว พวกเขาเข้าใจขึ้นมาแล้ว อยากฆ่าซูซาน เดิมที ไม่มีความหวัง

“ไอ้หนุ่ม ต่อให้แกฆ่าพวกฉันแล้ว พวกฉันก็ไม่บอกแกหรอก นี่ คือจรรยาบรรณอาชีพของพวกฉัน!”
ทั้งสองต่างท่าทางเฉยชา ถึงแม้ไม่ได้ ก็ไม่ได้หวาดกลัว ก นิดเดียว

“คุณหนูครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

เวลานี้ บอดี้การ์ดสองคนของซูซานถึงเพิ่งเข้ามากัน

เดิมทีหยางเฉินคิดจะเค้นถาม แต่โดยเฉพาะตรงนี้เป็นกลาง ถนน ถ้าถูกคนไม่หวังดีเห็นเข้าอาจเกิดผลกระทบใหญ่โต คิดดู แล้ว เขาจึงยกเลิกการแทรกแซงเรื่องนี้ลงไป “ในเมื่อคนของคุณมาแล้ว งั้นให้พวกคุณจัดการพวกเขาเอง

แล้วกัน”

หยางเฉินมองซูซานแล้วบอกไป

ซูซานพยักหน้า พูดสั่งว่า “พวกนายไม่ต้องตามฉันมาอีก พา นักฆ่าสองคนนี้กลับไปสอบสวนที่ตระกูลซูก่อน

“คุณหนูครับ พวกเราไปแล้ว คุณจะทำอย่างไรครับ?”

บอดี้การ์ดสองคนสีหน้าเป็นกังวล

ซูซานพูดอย่างเย็นชา “เมื่อกี้ถ้ารอให้พวกนายมาช่วยชีวิตฉัน เกรงว่าฉันคงโดนรถชนตายไปแล้ว!”

พอได้ยินดังนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองล้วนทำสีหน้าละอายใจ “ทำไม คำพูดของฉัน พวกนายไม่เชื่อฟังกันแล้ว?

ซูซานเห็นบอดี้การ์ดสองคนยังลังเลอยู่ จึงทำหน้าไม่พอใจ มี เพื่อนฉันอยู่ด้วย ฉันไม่เป็นอะไรหรอก พวกนายรีบพาพวกเขากลับไปที่ตระกูลซู มีเพียงหาออกมาให้ได้ว่าใครอยากฆ่าฉัน อันตรายที่เกิดกับตัวฉันถึงสามารถกำจัดได้ถึงต้นตอ

“ครับ คุณหนู!”

ทั้งสองคนไม่ลังเลอีกต่อไป น่าตัวนักฆ่าสองคนที่หมดสติกลับ

“หยางเฉิน ทำไมคุณถึงอยู่ที่เมืองโจวเฉิงได้?”

เวลานี้ซูซานถึงหาโอกาสพูดคุยกับหยางเฉินได้ หยางเฉินตอบ “พรุ่งนี้เป็นงานแต่งพี่ชายของเสียวนะ”

ซูซานมองรถโฟล์คเกาต้นที่หน้ารถได้พังยับไปแล้ว พูดแบบ รู้สึกผิดพอสมควร เพราะมาช่วยฉันไว้ รถของคุณเลยต้องมาพัง เสียหาย เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันชดใช้รถคันใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้ คุณคันหนึ่ง คุณชอบรถอะไร?”

หยางเฉินส่ายหน้า “ซ่อมสักหน่อย ยังขับต่อได้!! รถคันนี้ ไม่ใช่โฟล์คเภาต้นธรรมดา ดูเหมือนว่าหน้ารถพังเสีย หาย ในความเป็นจริงไม่มีปัญหาสักนิดเดียว

รถคันนี้ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะ หรือว่าวัสดุ ล้วนเป็นของระดับ อุตสาหกรรมด้านการทหารทั้งนั้น

สามารถพูดได้ว่านี่คือรถหรูเหนือชั้นที่หุ้มด้วยเปลือกของ โฟล์คเกาตันคันหนึ่ง

“คุณจะไปไหน? ผมไปส่งคุณก่อน”
หยางเฉินเอ่ยปากถามทันใด

“รถคันนี้ ยังขับได้อยู่เหรอ?” ซูซานท่าทางสงสัย

หยางเฉินเพียงแค่หัวเราะ จากนั้นขึ้นรถไปก่อน ซูซานกำลังจะเตรียมไปนั่งข้างคนขับ พบว่ามีฉินต้าหย่งนั่งอยู่ อย่างคาดไม่ถึง “ลุงฉิน ที่แท้คุณลุงก็อยู่ด้วยเหรอคะ”

หลังเธอทักทายเสร็จ ขึ้นไปนั่งเบาะด้านหลัง

หยางเฉินไปส่งฉินต้าหย่งที่โรงแรมก่อน และไปส่งซูซานที่ บริษัทแห่งหนึ่ง

ที่ทำให้หยางเฉินแปลกใจคือบริษัทแห่งนี้ นึกไม่ถึงว่าคืออง เหาอินเทอร์แนชันแนล

เมื่อสักครู่ตอนอยู่ตระกูลโจว คนคนนั้นที่ชื่อเฉินอิงเหา ซึ่งก็คือ

ผู้ก่อตั้งของอิงเหาอินเทอร์เนชั่นแนล

และเฉินอิงเหาเป็นคนตระกูลเฉินอีก ตอนที่หยางเฉินอยู่ตระ กูลโจว จึงคาดเดาสถานะของเฉินอิงเหาเรียบร้อยแล้ว

เฉินอิงจวิ้นเป็นน้องชายของเขาแน่นอน

“ซูซาน คุณมาแล้วเหรอ!”

ซูซานเพิ่งลงจากรถ เสียงที่ดีอกดีใจระดับหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน ผู้ชายที่พูดคือเฉินอิงจวิ้นที่หมั้นหมายกับซูซานตั้งแต่เด็ก

เพียงแต่เขาเพิ่งพูดจบ ก็มองเห็นหยางเฉินที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ ชั่วขณะนั้นรอยยิ้มบนหน้าเลือนหายไป “ซูซาน เขามาอยู่ด้วยกันกับคุณได้ยังไง?”

เฉินอิงจวนถามด้วยท่าทางเย็นชา

ซูซานตอบแบบเย็นชาว่า “ฉันอยู่ด้วยกันกับใคร คุณมายุ่ง อะไรด้วย?”

เฉินอิงจวิ้นไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หัวเราะเยาะมองหยางเฉิ นบอกว่า “ไอ้หนุ่ม งานประมูลที่คลับหลงเถิงครั้งก่อน นายทำให้ ตระกูลเฉินของฉันโดนสมาคมประมูลเพิ่งจี้ปฏิเสธเข้างาน นึกไม่ ถึงว่ายังกล้ามาเมือง โจวเฉิง”

หยางเฉินเพียงมองเขาแบบเมินเฉยแวบหนึ่ง และมองทางซู ซานแล้วบอกว่า “คุณทำธุระเถอะ ผมไปก่อนแล้ว มีอะไรก็ติดต่อ ผม!”

ซูซานถามขึ้นฉับพลัน “ตอนเย็นมีเวลาไหม? ฉันเลี้ยงข้าวคุณ เอง!”

พิธีแต่งงานจัดวันพรุ่งนี้ ตอนกลางคืนไม่มีเรื่องอื่นใด หยางเฉ นพยักหน้า “ได้ ตอนเย็นเจอกัน!

ถูกหยางเฉินเพิกเฉย หน้าเฉินอิงจนโมโหจนแดงเป็นตับหมู เข้ามาขวางหน้าหัวรถโฟล์คเกาตันโดยตรง ท่าทางดุร้ายพูดว่า “หยางเฉิน ต่อหน้าฉัน นายมานัดคู่หมั้นฉันกินข้าว มันจะไม่เห็น ฉันอยู่ในสายตามากเกินไปหน่อยเหรอ?”

“ไสหัวไป!
หยางเฉินตะโกนไล่ กดปุ่มสตาร์ทรถลงทันที

“นายแม่งมีฝีมือก็ชนผ่านไปจากบนตัวฉันสิ!” เฉินอิงจนอับอายจนโมโหบอกไป

“ฮ่ม!”

เครื่องยนต์คำรามขึ้นมาอย่างคลุ้มคลั่ง คาดไม่ถึงหยางเฉิน เหยียบคันเร่งลงไปจริง

เฉินอิงจวิ้นหน้าตาตกใจกลัวเต็มที่ อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ ถึงว่าหยางเฉินจะกล้าขับรถชนเขาจริง

ในดวงตางดงามของซูซานเต็มไปด้วยความตกใจกลัวเช่นกัน เอามือปิดปากไว้แล้ว

“เอี๊ยด~”

ตอนที่เฉินอิงจวิ้นและซูซานต่างคิดว่าหยางเงินคงชนเข้ามา แน่ โฟล์คเกาตันที่หน้ารถเกือบพังยุบคันนั้นก็เหยียบเบรกฉับ พลัน จากนั้นหมุนตัวอย่างสวยงามที่หนึ่ง

โฟล์คเกาตันเฉียดเสื้อผ้าของเฉินอิงจวิ้นพุ่งออกไปแล้ว บนตัว เขาเหงื่อออกโชก อ่อนแรงไปทั้งตัว ไม่มีเรี่ยวแรงสักนิดเดียว เสียงดัง “ตุบ” จากนั้นทรุดนั่งลงบนพื้น หน้าตาเซ่อซ่าเต็มที่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ