The king of War

บทที่125 หญิงสาวผู้อวดดี



บทที่125 หญิงสาวผู้อวดดี

ถูกฉินซีกระโจนกอดเข้ามาในอ้อมอกแบบกะทันหัน หยางเ นทำหน้าตกตะลึง มือทั้งคู่ที่ค้างอยู่กลางอากาศชั่วขณะหนึ่ง อย่างนั้น จากนั้นถึงตอบสนองกลับมา มุมปากเผยรอยยิ้มที่อ่อน ละมุนออกมา ก่อนจะกอดภรรยาไว้เบาๆ

โชคดีที่ฉันต้าหย่งออกไปตั้งนานแล้ว ไม่อย่างนั้นหากมองเห็น ฉากนี้เข้า จะต้องเดาได้แน่นอน เมื่อสักครู่นี้ผู้ชายสวมหน้ากากที่ ชนะเอาตัวลูกสาวตนเองไป ก็คือหยางเฉิน

คนที่มุงโดยรอบต่างทำท่าทางตกใจ ไม่เพียงเพราะฉินซีโผ เข้ากอดผู้ชายที่ชนะเอาตัวเองไปคนนี้เท่านั้น ยังเพราะหยางเฉิน สามารถเดินออกมาแบบปลอดภัยไร้บาดแผล

ซูซานมองฉินซีกระโจนเข้าในอ้อมกอดของหยางเฉินเอง ก่อน จะทําหน้าซับซ้อน

ถึงแม้ช่วงนี้หล่อนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน แต่ยัง ติดต่อกับฉินซีมาโดยตลอด จึงรู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉินซี และหยางเฉิน

ตั้งแต่เมื่อสักครู่ที่ฉินซีกังวลต่อหยางเฉิน อีกทั้งการกระทำใน ตอนนี้อีก อธิบายได้ว่าในใจเพื่อนสนิทคนนี้ของตนเองมีผู้ชาย คนนี้ตั้งนานแล้ว บางทีแม้แต่ตัวเธอเองยังไม่ได้รู้สึกตัวเลยด้วย
“เสี่ยว ไม่แนะนำสามีของเธอให้ฉันรู้จักสักหน่อยเหรอ?”

กระทั่งออกไปจากเมืองคิง จนมาถึงข้างนอก ซูซานถึงยิ้มกริ่ม ถาม ทั้งยังต้องหยางเฉินที่ถอดหน้ากากออกแล้วด้วยหน้าตา อยากรู้อยากเห็น

ได้ยินสามีคำนี้เข้า บนหน้าฉันซีแดงระเรื่อ และไม่ได้ตอบโต้ เพียงแค่มองค้อนซูซานที่หนึ่ง เธอจะไม่รู้ได้ที่ไหนกันว่าผู้หญิงคน นี้จงใจ เธอเคยคุยเรื่องหยางเฉินกับซูซานมาตั้งนานแล้ว

ฉันได้แต่พูดแนะนำกับหยางเฉิน “หยางเฉิน หล่อนคือเพื่อน สนิทของฉัน รู้จักกันตั้งแต่เริ่มเรียนมอปลาย ซูซาน!”

หยางเฉินเพียงแค่มองซูซานพยักหน้าให้เล็กน้อย ไม่ได้สนใจ อีก ผู้หญิงคนนี้ถึงแม้จะเป็นเพื่อนรักของฉินซี แต่กลับเป็นคนของ ตระกูล

ขอเพียงเชื่องโยงความสัมพันธ์ถึงตระกูลอวี่เหวิน เขาล้วนไม่ ชอบทั้งนั้น

เหมือนรู้สึกได้ถึงความเย็นชาของหยางเฉิน ซูซานลำบากใจ พอสมควร นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เมืองคิง เพราะไม่รู้แน่ชัดว่าหยาง เฉินและฉินซีกำลังแสดงละคร กลับแทรกไปก่อความวุ่นวาย ชั่ว ขณะนั้นในใจเต็มไปด้วยการตำหนิตนเอง

“เมื่อกี้ฉันไม่รู้ว่าคุณกับเสี่ยว ทำเพื่อให้ลุงฉันเลิกติดพนัน จึง แสดงละครฉากหนึ่ง ขอโทษนะ!”

ทันใดนั้นซูซานมองทางหยางเฉินพูดขอโทษด้วยหน้าตาจริงใจ

นี่กลับเกินกว่าความคาดหมายของหยางเฉิน แต่เขายังคงเป็น เฉยอยู่มาก เอ่ยปากบอกแบบนิ่งๆ “ไม่เป็นไร

“คุณเป็นผู้ชายอกสามศอกแท้ๆ ทำไมถึงได้ใจแคบขนาดนี้? ฉันก็ขอโทษคุณไปแล้ว คุณยังโหด ใส่ฉันอยู่อีก!”

เมื่อสัมผัสถึงความเย็นชาของหยางเฉิน บนหน้าซูซานโกรธ เคืองอยู่บ้าง ในใจยิ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม

“ผมบอกแล้วว่าไม่เป็นไร หรือว่าต้องให้ผมยิ้มแย้มให้คุณถึง จะถือว่าเป็นการยอมรับค่าขอโทษของคุณ?” ท่าทีของหยางเฉิน ยังคงเฉยชา

“คุณกำลังดุฉัน!”

ซูซานกล่าวอย่างโมโห

เมื่อสักครู่ทั้งสองคนยังสงบดีไม่มีเรื่องกัน ทันใดนั้นเหมือน เป็นศัตรูคู่แค้น นี่ทำให้ฉันปวดหัวสุดๆ รีบพูดทันที “หยางเฉิน ซานซานเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน คุณมีท่าทีที่ดีกับหล่อนสัก หน่อยได้หรือเปล่า?”

เธอไม่ได้ตำหนิหยางเฉิน แต่ทว่ามีการขอร้องอ้อนวอนระดับ หนึ่ง จากนั้นรีบดึงมือของซูซานมาบอกว่า “ซานซาน เธออย่าคิด เล็กคิดน้อยกับเขาเลยนะ เขาเป็นพวกใจแคบแบบนี้แหละ”

“เพราะฉะนั้นเธอไม่จําเป็นต้องขอโทษพวกเรา เป็นฉันที่ควร ขอโทษเธอ ถ้าตอนแรกฉันบอกความจริงกับเธอไป จะไม่เกือบพาเธอเข้ามาพัวพันด้วยเหรอ?”

“เธอไม่รู้ เมื่อตอนที่พ่อฉันจะเอาฉันเป็นของเดิมพัน ฉันปวด

ใจมากแค่ไหน แต่เธอที่ไม่รู้ความจริง กลับอยากแย่งฉันกลับมา แบบไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง ทั้งยังยอมใช้เงินสิบหก ล้านมาไถ่ถอนฉัน ตอนนั้นฉันรู้สึกประทับใจมากจริงๆ นะ”

“ซานซาน พูดจริงๆ นะ ขอบใจเธอมาก!

ฉันพูดติดต่อกันตั้งมากมาย ไม่ใช่เพื่อช่วยหยางเฉินแก้ตัว แต่ว่ารู้สึกประทับใจมากจริงๆ โดยเฉพาะอยู่ภายใต้สถานการณ์ แบบเมื่อสักครู่นั้น ซูซานยังสามารถก้าวออกมาแบบไม่หวาด กลัวทั้งสิ้น

เดิมทีซูซานที่ยังโกรธหยางเฉินอยู่มาก ความโกรธได้มลาย หายไปในชั่วพริบตา

มองลักษณะของฉินซีที่ดวงตาแดงก่ำ ดวงตาของหล่อนก็แดง เช่นกัน กอดฉินซีไว้แล้วพูดว่า “เสี่ยว อย่าพูดแบบนี้สิ พวกเรา เป็นเพื่อนสนิทที่สุดกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอก!”

เห็นได้ชัดว่าหยางเฉินยังประเมินความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิง สองคนไป ทันใดนั้นนึกเสียใจอยู่บ้างที่เมื่อสักครู่เย็นชาใส่ ซาน ตระกูลอวี่เหวินคือตระกูลอวี่เหวิน ตระกูลซูคือตระกูลซูซู ซานคือซูซาน เขาไม่ควรนำความเคียดแค้นต่อตระกูลอวี่เหวิน มาลงที่ตระกูลซู ยิ่งไม่ควรทำแบบนี้ต่อซูซาน

โฟล์คเกาตันสีดำคันหนึ่งแล่นบ้าคลั่งบนถนน ตรงไปยังยอด เมฆา
ตระกูล ตั้งอยู่เขตคฤหาสน์ของภูเขาจั่วเฉิง เพียงแต่อยู่บน ยอดเขา ส่วนตระกูลร่ำรวยอื่นๆ อยู่ที่ตีนเขา หยางเดินผ่าน ตระกูลซูพอดี

“นี่! เมื่อสักครู่หลิวข่ายปล่อยคุณออกมาได้อย่างไรกัน?

ซูซานอยากจะปรับความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉิน เพียงแค่ นึกถึงความเย็นชาของหยางเฉินเมื่อสักครู่ เวลานี้หล่อนจึงสีหน้า ไม่เบิกบานเท่าไรนัก

หยางเฉินหัวเราะ “พวกเขาขัดแย้งภายในกะทันหัน ผมเลยถือ โอกาสหนีออกมา

ซูซานส่งเสียงหัวเราะเยาะ “คุณนดวงดีจริง แต่ว่านี่ผิดใจหลิว ข่ายแล้ว ต่อไปเขาต้องมาหาเรื่องคุณแน่ ถ้าคุณขอโทษฉัน ฉันจะ พูดเกลี้ยกล่อมพ่อฉัน ให้เขาออกหน้าช่วยคุณ

เวลานี้ซูซานทำหน้าตาหยิ่ง เหมือนกำลังพูดว่าเมื่อกี้นายไม่ใช่ กล้าฉันคนนี้อยู่เหรอ? ตอนนี้ยังไม่ใช่ต้องขอร้องให้ฉันช่วย นายหรอกเหรอ?

สำหรับความอวดดีของผู้หญิงคนนี้ หยางเฉินรู้สึกตลกอยู่บ้าง แต่เพื่อฉินซีแล้ว เขายังยิ้มบอกว่า “เมื่อกี้เป็นผมทำไม่ถูก ไม่ควร เมินเฉยใส่คุณขนาดนั้น ผมควรพูดจาทำหน้ายิ้มแย้มกับคุณหนูซู มากๆ ขอโทษครับ!”

คําพูดส่วนหน้าของหยางเฉิน ยังทำให้ซูซานดีใจมาก แต่ว่า คำพูดส่วนท้าย กลับทำให้หล่อนโกรธจนกัดฟันแน่น “นี่คุณ กำลังเสียดสีฉัน! เสี่ยวซี เธอดูสามีเธอหน่อยสิ”
ฉันย่อมรู้นิสัยของเพื่อนสนิทคนนี้เป็นอย่างดี รีบพูดว่า “เธอ วางใจได้ รอกลับบ้านไป ฉันจะจัดการเขาให้ดี!”

“รอเดี๋ยวกลับไปบ้าน เธอต้องช่วยจัดการเขาให้ฉันนะ ให้เขา คุกเข่าสำนึกผิด ไม่ใช่สิ ต้องคุกเข่าจนทรมาน โดยเฉพาะห้าม ให้เขาขึ้นเตียงเธอด้วย” ซูซานพูดจาแบบร้ายกาจ

ฉินหัวเราะแล้ว “ได้เอาตามเธอว่ามาทั้งหมด!

หยางเฉินหัวเราะพลางส่ายหน้า สำหรับความรู้สึกไม่ดีต่อ ซานก่อนหน้านี้ หายไปหมดสิ้น ไม่ว่าอย่างไรผู้หญิงคนนี้ถือว่า เป็นเพื่อนสนิทที่ผ่านเกณฑ์

“เสี่ยว คืนนี้สามีเธอล่วงเกินหลิวข่ายเข้าแล้ว ช่วงนี้เธอจะ ต้องระวังตัวนะ แต่เธอไม่ต้องกังวลจนเกินเหตุไป ฉันจะให้พ่อฉัน ออกหน้าจัดการเรื่องนี้ให้เอง

ก่อนจะลงจากรถ ซูซานดึงมือของฉันซีมา พูดด้วยสีหน้าเป็น

ห่วง

ในใจฉินซีรู้สึกซาบซึ้ง กำลังอยากจะพูด หยางเฉินก็เอ่ยปาก กะทันหัน “เรื่องเล็กแค่นี้ ไม่ต้องรบกวนซูร่ำรวยออกหน้าหรอก ถ้าไม่เกิดความคาดหมาย หลังผ่านคืนนี้ไป เมืองเจียงโจวก็ไม่มี หลิวข่ายอีกแล้ว”

“คุณหมายความว่าอะไร?

ซูซานถามด้วยความสงสัย

“ความขัดแย้งภายในของเมืองคิง หลิวข่ายอาจจะถูกคนอื่นแทนที่ไป” หยางเฉินตอบกลับ

เพิ่งพูดจบ รถยนต์จอดที่หน้าประตูบ้านตระกูลซูแล้ว

ซูซานย่อมไม่เชื่อคำพูดของหยางเฉินเป็นธรรมดา มองตา ค้อนที่หนึ่ง พูดแบบอารมณ์เสีย “อิทธิพลเมืองดึงของหลิวข่าย ใหญ่มาก สามารถเทียบได้กับตระกูลแถวหน้า ถูกแทนที่ ง่ายดายได้อย่างไรกัน?”

พูดจบ หล่อนก็ลงจากรถ โบกมือให้ฉินซี “เสี่ยว มีเวลาพวก เรานัดเจอกันอีกนะ!”

“ได้ ไว้เจอกัน!” ฉินซีโบกมือลา

ในเวลานี้เอง รถแลนด์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งค่อยๆ ขับเข้ามา

ซูซานยังไม่ได้สติกลับมา แสงไฟที่แสบตาส่องเข้าดวงตาของ หล่อนทันใด เธอยืนมือบังดวงตาเอาไว้โดยจิตสำนึก

ในเวลานี้ เครื่องยนต์ของแลนด์โรเวอร์ครามเหมือนสัตว์ป่า ดุร้าย พุ่งชนเข้ามายังทิศทางของซูซานโดยตรง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ