The king of War

บทที่ 259 สถานการณ์คับขัน



บทที่ 259 สถานการณ์คับขัน

การกระทําของเฉินซิงไห่ไวมาก รีบรวบรวมญาติพี่น้องใน ตระกูล ปรึกษาหารือในเรื่องที่จะจัดการตระกูลหยวน

ตอนที่คนของตระกูลเฉินรับรู้ว่าต้องลงมือกับตระกูลหยวน

ต่างทําหน้าตื่นตกใจ

หลายปีมาขนาดนี้ ตระกูลหยวนและตระกูลเฉินร่วมมือกันปีน ขึ้นยอดบนสุดของเมือง โจวเฉิง ภายนอกดูกลมกลืนกันมากมา โดยตลอด

เพราะเหตุนี้ ตำแหน่งของสองตระกูลใหญ่ที่เมือง โจวเฉิง จึง ไม่มีทางถูกสั่นสะเทือนมาโดยตลอด

ปัจจุบันนี้ เฉินชิงไห่อยากลงมือกับตระกูลหยวนแบบกะทันหัน

แค่คิดก็รู้ถึงความตกใจของทุกคน

“เรื่องนี้ จัดเป็นความลับสุดยอดของตระกูลเฉิน ถ้าให้ฉันรู้ว่า มีใครกล้าเปิดเผยไป ตายสถานเดียว!”

เฉินซิงไห่นั่งอยู่ตำแหน่งหัวหน้า หน้าตาเย็นชา

“ผู้นำครับ ผมอยากรู้ว่าทำไมถึงอยากลงมือกับตระกูลหยวน ขึ้นมากะทันหันครับ?”

มีคนเอ่ยปากถามว่า “ตระกูลหยวนกับตระกูลเฉินของพวกเรา ความสามารถพอๆ กัน ถ้าลงมือมีแต่จะสร้างเหตุการณ์ที่ฟังเสียหายทั้งสองฝ่าย ถึงตอนนั้นเกรงว่าสถานการณ์ทั้งเมือง โจวเฉิงจะ เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเราตระกูลเฉินจะต้องชดใช้ มหาศาลเพราะเหตุนี้

เฉินชิงไห่มองคนที่พูดนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา “ฉันเคยทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจตั้งแต่เมื่อไร? พวกแกแค่ต้อง ไปทําตามคําสั่งของฉันเท่านั้นก็พอ!”

“ครับ ผู้นํา!”

ทุกคนต่างตอบรับ

เฉินชิงไห่ในฐานะผู้นำ แต่ไหนแต่ไรพอพูดออกไปแล้วย่อม ทําได้แน่นอน ที่ตระกูลเฉิน มีคนสงสัยในการตัดสินใจของเขา แต่กลับไม่มีคนกล้าไม่เชื่อฟัง

ไม่นานคนตระกูลเฉินต่างฟังคำสั่งของเฉินซิงไห่ ออกไปทำ

ธุระแล้ว

ส่วนเฉินซิงไห่ก็โทรศัพท์เข้าไปหาลัวปิง “ทุกคนตระกูลเฉิน เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว สามารถลงมือได้ทุกเมื่อ!”

แม้ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่กลับอธิบายการตัดสินใจของ ตระกูลเฉินได้แล้ว

ลั่วปิงฉีกมุมปากขึ้น ค่อยๆ เอ่ยปากบอกว่า “งั้นก็เริ่มเลย เถอะ!”

ในเวลาเดียวกัน ตระกูลหยวน
คฤหาสน์เตี๋ยวที่หรูหราหลังหนึ่ง โดยรอบห้องหนังสือ แขวน ศิลปะคัดลายมือชื่อดังสารพัดแบบไว้เต็มไปหมด

ผู้นำตระกูลหยวน หยวนซื่อหวู่ เวลานี้ในมือถือพู่กันขน เห็น

ชั้นดี กำลังก้มหน้าฝึกฝนการคัดลายมือ ปลายพู่กันลื่นไหลบนกระดาษสีขาว หวัดพู่กันออกมาได้อย่าง

เฉียบแหลม

“ฮ่าๆ! ตัวนี้เขียนได้ดี!

หลังจากหยวนซื่อหมู่เขียนตัวอักษรหนึ่งเสร็จ หัวเราะเสียงดัง ขึ้นมาแบบพึงพอใจมาก

“ปีง!”

ในเวลานี้เอง ประตูห้องหนังสือโดนคนกระแทกเปิดฉับพลัน “ผู้นําครับ ไม่ดีแล้วครับ!!

พ่อบ้านที่ผมสีดอกเลาคนหนึ่ง หน้าตาเต็มไปด้วยความสับสน

หยวนซื่อหมู่ที่เมื่อสักครู่อารมณ์ดีมากๆ อยู่ ถูกพ่อบ้านพัง ประตูเข้ามาแบบนี้ ทำลายอารมณ์หมดแล้ว

“รีบร้อนอะไร? ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ก็มีคนด้านเอาไว้อยู่ดี! หยวนซื่อหมู่พูดอย่างเย็นชา “ว่ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”

“ผู้นำครับ เมื่อสักครู่นี้ ได้รับสายทวงหนี้จากธนาคารทางนั้น บอกว่ามูลค่าทรัพย์สินของพวกเราตระกูลหยวนไม่ผ่านเกณฑ์ จะ เอาเงินกู้คืนครับ”
“แล้วยังมีอินสวนกรุ๊ปที่ถูกศาลตรวจสอบและอายัด บอกว่า เรื่องบัญชีมีปัญหาครับ”

“ยังมีผู้บริหารระดับสูงของเฉิงกงกรุ๊ป รวมตัวกันลาออกด้วย ครับ อีกทั้งหุ้นของเฉิงกงกรุ๊ปยังถูกเทขายไปจํานวนมากภายใน ช่วงห้านาทีสั้นๆ ราคาของบริษัทในตลาดก็หายไปถึงหกสิบ เปอร์เซ็นต์แล้วครับ!”

“แล้วยังมี……….

พ่อบ้านบอกข่าวที่ทำให้คนตื่นตกใจมาหลายเรื่องในรวด เดียว

บนหน้าที่เรียบเฉยใบนั้นของหยวนซื่อหมู่ ชั่วขณะนั้นสีหน้า เปลี่ยนไปมาก “สรุปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมถึงเกิด ปัญหามากขนาดนี้ได้?”

“ผู้นำครับ ใครๆ ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านรีบหาวิธีจัดการดี กว่าครับ! ภายในหนึ่งชั่วโมง ถ้ายังไม่สามารถรวบรวมเงินสด ก้อนใหญ่ได้ ตระกูลหยวนคงต้องจบเห่จริงๆ แล้ว!!

พ่อบ้านใกล้จะร้องไห้แล้ว หน้าดูร้อนรนเต็มที่

ตอนที่ตระกูลหยวนเจอกับสถานการณ์ที่วุ่นวาย เฉินซิงไห่ก็รู้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตระกูลหยวน หัวใจของเขาเต้นรัวตุบๆ

เดิมทีเขายังสงสัยอยู่บ้าง จนกระทั่งตอนนี้ถึงรู้ว่าหยางเฉิน สามารถทำให้ตระกูลหยวนพังพินาศไปได้อย่างง่ายดายจริงๆ

ถึงตอนนี้เรื่องราวที่ตระกูลเฉินทำ เดิมที่ไม่มีทางสั่นสะเทือนรากฐานของตระกูลหยวนได้

ปัจจุบันนี้ เรื่องพวกนั้นที่หยางเฉินทํากับตระกูลหยวน ไม่ว่า เรื่องใดต่างสามารถทำให้ตระกูลหยวนพังทลายได้ภายในวัน เดียว

เฉินชิงไห่ย่อมเข้าใจเป็นธรรมดา นี่ถือว่าเป็นการแจ้งเตือน อย่างหนึ่งที่หยางเฉินมอบให้เขา ภายในไม่กี่นาทีสั้นๆ ยัง สามารถทำให้ตระกูลหยวนย่อยยับได้ อย่างนั้นก็สามารถทำให้ ตระกูลเฉินพังทลายได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน

ทันใดนั้นเขารู้สึกตนเอง โชคดีอย่างยิ่ง ถ้าก่อนหน้านี้เขาเลือก ลงมือกับหยางเฉินไป เกรงว่าตอนนี้ทุกอย่างที่ตระกูลหยวน เผชิญอยู่ คงเป็นสิ่งที่ตระกูลเฉินต้องเผชิญกระมัง?

ในเวลานี้ รถPradoสีดำยี่สิบกว่าคนขับมาด้วยความเร็ว ตลอดทาง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของตระกูลหยวน

เพียงแค่ยี่สิบนาที รถพวกนี้ก็มาถึงที่ตระกูลหยวนแล้ว

ในรถไมบิดคันหน้าสุดนั้น เฉินซิงไห่ตะโกนเสียงดังด้วย ท่าทางตื่นเต้น “ชนเข้าไปตรงๆ!

“ตึง!”

จากนั้นหังที่นำขบวนมาพุ่งชนเข้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลหยวน โดยตรง รถคันอื่นๆ ต่างตามเข้าไปกันติดๆ

ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหยวน ที่ควรตรวจสอบและอายัด ก็ถูกตรวจสอบและอายัดไปแล้ว โครงการที่ควรถูกยกเลิกการร่วมงานก็ถูกยกเลิกไป ผู้บริหารระดับสูงที่ควรไปก็ไปหมดแล้ว

สามารถพูดได้ว่าเศรษฐกิจของตระกูลหยวนพังทลายถึงที่สุด แล้ว

อยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เฉินซิงไห่พาคนมาที่ตระกูล

หยวน

“เฉินซิงไห่!”

มองเห็นเฉินซิงไห่เดินลงจากรถ หยวนซื่อหมู่หน้าตาเต็มไป ด้วยความตกใจและโมโห

“หยวนซื่อหวู่ หลังจากวันนี้ไป เมืองโจวเฉิงไม่มีตระกูลหยวน อีกต่อไป!”

เฉินซิงไห่พูดด้วยหน้าตาเย็นชา

เวลานี้เขามีสิทธิ์พูดประโยคนี้ออกมา ตระกูลหยวนที่เศรษฐกิจ

พังทลายถึงที่สุด ไม่พอให้หวาดกลัวอีกแล้ว

ทุกคนตระกูลหยวนล้วนมองทางเฉินซิงไห่อย่างโกรธเคือง ใน ใจพวกเขาเข้าใจดี หายนะที่ตระกูลหยวนเจอในวันนี้ ต้อง เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินแน่

“เฉินซิงไห่ ตระกูลหยวนกับตระกูลเฉินของนาย แต่ไหนแต่ไร เป็นมิตรกันมาตลอด วันนี้ นายระดมคนมากมายมาที่ตระกูล หยวนของฉัน มาซ้ำเติมกันหรือไง?” หยวนซื่อหมู่ตาแดงก่ำ ตะคอกอย่างฉุนเฉียว
เฉินชิงไห่หัวเราะเยาะบอกว่า “อย่างตระกูลหยวน ในตอนนี้ มี สิทธิ์ให้ฉันตระกูลเฉินซ้ำเติมด้วยเหรอ?”

“งั้นนายอยากจะเอาอย่างไง?”

หยวน อหวู่กล่าวอย่างเดือดดาล

“เห็นแก่ที่มีมิตรไมตรีกันมาหลายปี ขอแค่นายเอาหยวนกับ หยวนเซ่าออกมาให้ฉันสามารถให้โอกาสรอดกับนายได้สัก ครั้ง!”

เฉินชิงไห่เอ่ยปากบอก

เหตุผลที่เขาพาคนมาที่ตระกูลหยวน นอกจากไล่ตระกูลหยวน ออกไปจากเมืองโจวเฉิงแล้ว ยังมีอีกภารกิจหนึ่ง นั่นก็คือพาตัว หยวนมู่และหยวนเซ่าไป

หยวนซื่อหวู่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ทันใดนั้นเขานึกขึ้นได้แล้ว สาเหตุที่ตระกูลหยวนเจอกับหายนะใหญ่เช่นนี้ มีความเป็นไปได้ มากว่าเกี่ยวข้องกับหลานชายสองคนนี้

คนอื่นในตระกูลหยวนก็มีความคิดเช่นเดียวกัน สายตาต่าง มองไปบนตัวของหยวนและหยวนเซ่า

เวลานี้ หยวนมู่แสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ส่วนหยวนเซ่าตกใจจนสั่น

เทาไปทั้งตัวแล้ว

เรื่องที่หานักฆ่ามาลอบสังหารเงินอิงจวิ้น เป็นสิ่งที่หยวนกับ เขาทำ ตอนนี้เฉินซิงไห่พาคนจำนวนมากมาถึงตรงหน้า ทั้งยัง อยากเอาตัวพวกเขาไปอีก ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน
“คนที่ยิ่งใหญ่ต่อให้ตกที่นั่งลำบากก็แกร่งกว่าพวกที่เพิ่งก้าว ขึ้นมามีอำนาจ นายคิดว่าตระกูลหยวนของฉันรังแกได้ง่ายๆ งั้น เหรอ?”

หยวนซื่อหวู่ร้องครามอย่างแค้นเคือง

ถึงแม้เขาพอจะคาดเดาได้คร่าวๆ กลับไม่แสดงความอ่อนแอ ต่อหน้าเฉินชิงไห่

เฉินซิงไห่ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ในเมื่อนายไม่ยอมส่งคนมาให้ งั้นคงทําได้เพียงเป็นฉันลงมือเองแล้วสินะ!

พอพูดจบ เฉินซิงไห่ก็โบกฝ่ามือใหญ่ “เอาตัวไอ้หนุ่มสองคน นั้นมาให้ฉัน!”

“ฉันจะดูว่าใครกล้า?”

หยวนซื่อหวู่วาดขึ้นเสียง ชายกำยำที่รูปร่างสูงใหญ่สิบกว่า

คนปรากฏตัวขึ้น รีบขวางด้านหน้าทุกคนตระกูลหยวนไว้

“หยวนซื่อหวู่ ขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะ เอาเจ้าสองคน นั้นมาให้ฉัน แล้วฉันจะปล่อยคนอื่นๆ ไป ไม่อย่างนั้นไม่เหลือเลย สักคน!”

เฉินซึ่งไม่ได้รีบร้อนลงมือ แต่ท่าทีกลับแข็งกร้าวอย่างยิ่ง

หยวนมู่และหยวนเซ่าเป็นคนที่จ้างมือสังหารไปฆ่าหลานชาย เขา และเป็นคนที่หยางเฉินต้องการตัว ไม่ว่าอย่างไรล้วนเป็น ต้องเอาตัวไป
คิดดูแล้วนี่คือบททดสอบหนึ่งที่หยางเฉินมอบให้ตนเอง ถ้า แม้แต่เรื่องเล็กน้อยนี้ยังทำไม่ได้ หยางเฉินจะให้เขามาบริหาร เมือง โจวเฉิงได้อย่างไร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ