The king of War

บทที่ 356 เป็นใครกัน



บทที่ 356 เป็นใครกัน

“ในบัตรใบนี้ มีเงินห้าสิบล้าน ถือว่าเป็นสินน้ำใจที่นายเคย ช่วยคุณพ่อฉันไว้!”

“เพียงแค่ทําเรื่องปอกกล้วยเข้าปาก ก็สามารถหาเงินได้ห้าสิบ ล้านแล้ว สําหรับนายน่าจะเป็นเงินก้อนโตเลยล่ะมั้ง?

ในที่สุดบนหน้าหานเยี่ยนเผยรอยยิ้มออกมาแล้ว ทว่ากลับมี การเสียดสีระดับหนึ่ง

“ในความคิดของคุณ ชีวิตของเจ้าบ้านหาน มีค่าเพียงห้าสิบ ล้านเหรอ?”

หยางเฉินถามขึ้นทันใด

หานเยี่ยนขมวดคิ้วแล้ว “อายุยังน้อย อย่าทำตัวโลภมากเกิน ไป! ก่อนหน้านี้เรื่องที่นายหลอกเอาชื่อตระกูลหานของฉันไปหา ผลประโยชน์เข้าตัวเอง ฉันสามารถไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนายได้ ให้นายห้าสิบล้าน ถือว่ามากพอแล้ว!”

เห็นได้ชัดว่าในสายตาหานเยี่ยน ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเฉินแห่ง เมืองโจวเฉิง หรือว่าตระกูลกวนแห่งเมืองเจียงโจว ล้วนเข้าใจผิด คิดว่าความสัมพันธ์ของหยางเฉินและตระกูลหานสนิทสนมกัน มาก ถึงถูกหลอกลวงเข้าให้

ทันใดนั้นหยางเฉินหัวเราะขึ้นมา ในสายตาที่มองทางหาน เยี่ยน เต็มไปด้วยการเย้ยหยัน
เขาเคยเจอคนโง่เขลามา กลับไม่เคยเจอพวกที่โง่ขนาดนี้มา ก่อน

ถ้าเขาเป็นแค่ลูกหลานของตระกูลเล็กๆ คนหนึ่ง คิดแบบนี้ก็ ช่างไปเถอะ แต่ทั้งที่เขาเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหาน หนึ่งใน สามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก

กลับมีวิสัยทัศน์คับแคบเช่นนี้ เดิมทีไม่ทันได้เข้าใจความเป็น จริงของเรื่องราวให้ชัดเจนเสียก่อน กลับคิดเอาเองและไม่ยอม ฟังคนอื่น

คนประเภทนี้ ไม่เพียงแค่โง่เขลา ยังน่าสงสารอย่างมากด้วย

ถ้าในอนาคตหานเดี่ยวเทียนวางอำนาจให้เขาจริง เกรงว่า ตระกูลหานมีความเป็นไปได้ว่าจะพังทลายในน้ำมือของหาน เยี่ยนจริงๆ

“คุณคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเฉินยิ่งเหาก็ดี กวนเสว่างก็ดี เหตุผลที่ พวกเขามาติดตามอยู่ข้างตัวผม ล้วนเป็นเพราะว่าผมหลอกใช้ อิทธิพลของตระกูลหานงั้นเหรอ?”

หยางเฉินสอบถามแบบกะทันหัน

หานเยี่ยนขมวดคิ้ว “หรือว่าไม่ใช่เหรอ?”

“ในเมื่อคุณคิดว่าใช่ ไม่สู้โทรศัพท์ไปถามเฉินซิงไห้กับกวน เจิ้งซานดูสักหน่อย ดูว่าเป็นเพราะตระกูลหาน พวกเขาถึงมา คบค้าสมาคมกับผมหยางเฉินหรือเปล่า?”

หยางเฉินท่าทางทระนงองอาจ พลังอำนาจบนตัวที่ดูยิ่งใหญ่เกรียงไกร ชั่วขณะนั้นระเบิดออกมาแล้ว

“สําหรับเป้าหมายที่คุณสงสัยว่าผมเข้าใกล้ลูกสาวคุณ สบายใจได้เลย ในสายตาผม เธอเป็นแค่น้องสาวเท่านั้น”

“บางทีในความคิดคุณ ผมเพียงแค่เสแสร้งแกล้งทำ แต่นี่แล้ว จะอย่างไรกัน?”

หน้าหยางเฉินเต็มไปด้วยความเย็นชา เสียงก็ดังขึ้นมามาก ไม่ได้มีความเคารพต่อหานเยี่ยนเหมือนตอนที่พึ่งเข้ามาในห้อง เลย

วินาทีนี้ หานเยี่ยนสับสนอยู่บ้างโดยฉับพลัน หรือว่าเป็น ตนเองเข้าใจอะไรผิดไปจริง?

“นายคิดจริงเหรอว่าฉันไม่กล้าติดต่อเฉินซิงไห่กับกวนเจิ้ง ซาน?”

นึกถึงเมื่อสักครู่ตนเองโดนหยางเฉินทำให้ตื่นตระหนกไป หานเยี่ยนอับอายจนโมโหขึ้นทันใด กัดฟันแน่นพูดว่า “นายเชื่อ หรือไม่ ฉันโทรศัพท์ไปครั้งเดียว ก็สามารถทำให้ตระกูลเฉินและ ตระกูลกวนทิ้งนายไปได้!”

“ไม่เชื่อ!”

หยางเฉินทำหน้าเย้ยหยัน จากนั้นหมุนตัวออกไป เดินไป พลางเอ่ยปากบอกว่า “ถ้าคุณตามผมมาเพื่อพูดเรื่องพวกนี้ งั้น ขอโทษที่ให้ความร่วมมือด้วยไม่ได้!”

“ผมเข้าใจขึ้นมาทันทีเลย เจ้าบ้านหานก็ไม่เหมือนคนที่หลงไหลในอำนาจ และยังตั้งคุณเป็นผู้สืบทอดตระกูลตั้งแต่แรก แต่ทำไมกลับไม่ยอมวางอำนาจให้คุณสักที?”

“ตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้ว เพราะ คุณ ไม่มีสิทธิ์สืบทอด ตระกูลหานต่อไปไง!”

ตอนที่หยางเฉินพูดสิ่งเหล่านี้จบ ก็ก้าวออกไปจากห้องแล้ว

คําพูดของหยางเฉิน ราวกับเสียงฟ้าผ่าลงมา ระเบิดดังอยู่ข้าง หูหานเยี่ยน สะเทือนจนหัวสมองของเขาเกิดเสียงก้องพักหนึ่ง เลย

หานเยี่ยนสีหน้าดูแย่ถึงขีดสุด คำพูดพวกนี้ของหยางเฉิน ไม่ เกรงใจสักนิดเดียว

โดยเฉพาะคำพูดประโยคสุดท้ายนั้น ยิ่งทำให้หานเยี่ยน โกรธ เคืองสุดๆ

“ไอ้หนุ่ม แกเห็นว่าฉันจัดการแกไม่ได้จริงๆ เหรอ?” มองหยางเดินออกไป หานเยี่ยนกัดฟันแน่นพูดขึ้น พูดจบ เขาต่อสายโทรศัพท์แล้ว

ไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย หานเยี่ยนพูดด้วยเสียงทุ้ม “ผมคือ หานเยี่ยนของตระกูลหานแห่งเมืองเอก!”

“ที่แท้ประธานหานนี่เอง? ขอโทษนะ ประธานหานโทรมาหา ผม มีอะไรอยากสั่งหรือเปล่า?”

กวนเจิ้งซานได้ยินเสียงของหานเยี่ยน ตกใจอยู่บ้าง รีบถามทันที

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมอยากให้ตระกูลกวนตัดความ เกี่ยวข้องทุกอย่างกับหยางเฉินทิ้งทั้งหมด!” หานเยี่ยนกัดฟัน บอก

พอได้ยิน กวนเจิ้งซานเงียบงัน ในชั่วขณะนั้น

เมื่อไม่ได้รับคำตอบกลับมา หานเยี่ยนจึงตะโกนใส่ “เจ้าบ้าน กวน คำพูดของผม คุณฟังไม่เข้าใจเหรอ?”

“ประธานหาน ถ้าเป็นเรื่องนี้ ขอโทษที่ไม่สามารถทำตาม คำขอได้ครับ! คุณหยางเป็นบุคคลที่เคารพของตระกูลกวน ตระกูลกวนไม่อาจตัดความสัมพันธ์กับเขาได้

กวนเจิ้งซานพูดอย่างมีอารมณ์มาก ในน้ำเสียงยังมีความรู้สึก โกรธระดับหนึ่ง

ในใจหานเยี่ยนตกใจใหญ่ เดิมเขาคิดว่าอาศัยแค่สถานะผู้ สืบทอดตระกูลหานของตนเอง ตระกูลใหญ่ระดับเมืองที่ไหน ก็ตาม จะกล้าปฏิเสธคำขอของตนเองได้เหรอ?

แต่ปัจจุบันนี้ ตระกูลกวนกลับปฏิเสธแล้ว!

“ขอแค่ตระกูลกวนยินยอมตัดความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉิน ตระกูลหานยอมเสนอการคุ้มครองให้ตระกูลกวน!” น้ำเสียงหาน เยี่ยนอ่อนลงมาระดับหนึ่ง

เมื่อสักครู่เขาพึ่งข่มขู่หยางเฉินไปกับปากตนเองว่าขอเพียง ตนเองพูดแค่คำเดียวก็สามารถทำให้ตระกูลกวนและตระกูลเฉินตัดความสัมพันธ์กับหยางเฉินทิ้งได้ ไม่สนว่าต้องชดใช้มากแค่ ไหน เขาจําเป็นต้องทำให้ได้

“ขอโทษที่ทำตามคำขอไม่ได้!!

ครั้งนี้ น้ำเสียงของกวนเจิ้งซานแข็งกร้าวอย่างมาก หานเยี่ยนสีหน้าแข็งทื่อ แม้แต่การคุ้มครองของตระกูลหาน ต่างไม่มีทางเปลี่ยนแปลงท่าทีของตระกูลกวนต่อหยางเฉินได้เห

รอ?

ทันใดนั้นเขายากจะยอมรับได้อยู่บ้าง

“ประธานหาน ผมทางนี้ยังมีธุระต่อ ไม่คุยเล่นกับคุณแล้วนะ! มีเวลาว่างผมจะไปเยี่ยมเยือนเจ้าบ้านทานที่เมืองเอกด้วยตัว เอง!”

กวนเจิ้งซานพูดจบ ไม่รอให้หานเยี่ยนตอบกลับ วางสาย

โทรศัพท์ไปก่อนแล้ว

ได้ยินในลำโพงมือถือมีเสียงตัดสายลอยมา หานเยี่ยนหน้าตา อึ้งทึ่ง

เขาเป็นผู้สืบทอดตระกูลหานที่น่าเกรงขาม คาดไม่ถึงถูกตัด สายโทรศัพท์แล้ว?

“สารเลว!”

หานเยี่ยนอารมณ์ปะทุขึ้น

หลังจากนั้นเขาจึงโทรศัพท์ไปอีกสายหนึ่ง “สวัสดีครับ ผู้นำเฉิน ผมคือ หานเยี่ยมของตระกูลหานแห่งเมืองเอก

“ไม่รู้ว่าประธานหาน โทรมา มีอะไรให้ช่วย

น้ำเสียงเฉินซิงไหนิ่งสงบมาก และไม่ได้แสดงความเคารพ นบนอบต่อหานเยี่ยนมากเท่าไร เพราะสถานะของเขา

“มีเรื่องหนึ่ง ผมอยากจะไหว้วานผู้นำเงินครับ

มีบทเรียนจากเมื่อสักครู่แล้ว ครั้งนี้หานเยี่ยนจึงวางท่าทีต่ำลง มาก

ตระกูลเฉิน ในปัจจุบันนี้ เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในเมืองโจว เฉิง ตำแหน่งถือว่าเข้าใกล้สามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก

เผชิญหน้ากับเฉินซิงไห่ หานเยี่ยนยังหวาดผวาอยู่บ้างจริงๆ

“ประธานหานเกรงใจไปแล้ว มีเรื่องอะไร สั่งมาได้เต็มที่เลย จะมาไหว้วานอะไรกัน?

เฉินชิงไห่หัวเราะเสียงดังฟังชัด

เขาสามารถฟังออกถึงความเคารพในคำพูดของหานเยี่ยน

นี่พอจะอธิบายได้ว่าความสูงส่งตำแหน่งของตนเอง แม้แต่ผู้ สืบทอดตระกูลหานหนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองเอก อยู่ต่อ หน้าตนเอง ยังถ่อมตนเช่นนี้

ความรู้สึกแบบนี้ ช่างรู้สึกดีมาก แต่เขาเข้าใจดี ทุกอย่างนี้เป็นใครที่มอบให้ตนเอง
“ผมต้องการให้ตระกูลเฉินตัดการคบค้าสมาคมทุกอย่างกับ หยางเฉิน!” หานเยี่ยนพูดขึ้น

“หยางเฉิน? คุณหมายถึงคุณหยางของตระกูลอวี่เหวินคน นั้น?”

เฉินซิงไห่ที่เมื่อสักครู่ยังได้ใจพอสมควร หลังได้ยินหานเยี่ยน ให้ตระกูลเฉินตัดความสัมพันธ์กับหยางเฉิน ชั่วขณะนั้นตกใจ

หน้าเปลี่ยนสี รีบสอบถามทันที

“เขาถือว่าเป็นคนของตระกูลอวี่เหวินอะไร?”

หานเยี่ยนส่งเสียงหัวเราะ “ผู้นำเฉิน เกรงว่าคุณคงโดนเขาปั่น หัวเข้าแล้ว ความจริงเขาเป็นแค่พวกถูกทอดทิ้งของตระกูลอวี่เห วิน สิบแปดปีก่อน เขากับแม่ของเขา ถูกไล่ออกจากตระกูลอวี่เห วินมาด้วยกัน”

“สำหรับตระกูลอวี่เหวินนั้น หยางเฉินเป็นเพียงพวกถูกทิ้งคน หนึ่ง คงไม่ให้เขาเข้าไปในตระกูลอีกสักก้าวไปตลอดกาล!”

“ตอนนี้ เขาไม่เพียงแค่ล่วงเกินตระกูลจวงและตระกูลเว่ยแห่ง เมืองเจียงโจวเท่านั้น แม้กระทั่งตระกูลเพิ่งยังล่วงเกินเข้าแล้ว”

“คนกระจอกที่สร้างปัญหาแบบนี้ เดิมที่ไม่มีสิทธิ์มาคบค้า สมาคมกับตระกูลเฉิน!”

ในน้ำเสียงของหานเยี่ยนเต็มไปด้วยการเสียดสี เหมือนมี เพียงเขาที่รู้จักเบื้องหลังของหยางเฉิน

“ประธานหานหมายความว่าอยากให้ตระกูลเฉินของผมตัดความสัมพันธ์กับคุณหยาง?” ในน้ำเสียงของเฉินซิงไห่ เห็นได้ชัด ว่าเพิ่มความแค้นเคืองเข้ามา

“ถูกต้อง ขอเพียงตระกูลเฉินยินยอม ตระกูลหานยอมช่วย เหลือตระกูลเฉินมาเปิดตลาดที่เมืองเอก” หานเยี่ยนเสนอผล ประโยชน์ออกมาแล้ว

“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงมีสิทธิ์มายุ่งเรื่องราวของฉัน

เฉินซิงไห่?”

เฉินซิงไห่ระเบิดความโมโหในชั่วพริบตาเดียว ต่อว่าใส่ “หาน เยี่ยน ฉันจะบอกนายนะ! คุณหยางเป็นบุคคลที่ตระกูลเฉินของ ฉันนับถือมากที่สุด อย่าว่าแต่ตระกูลหานเลย ต่อให้เป็นแปด ตระกูลแห่งเยน ถ้าอยากให้ตระกูลเฉินของฉันตัดขาดความ สัมพันธ์กับคุณหยาง ฉันเฉินซิงไห้ก็ไม่รับปากเด็ดขาด!”

พูดจบ เฉินซิงไห่ตัดสายโทรศัพท์โดยตรง

ได้ยินเสียง“ตุ๊ดๆ ลอยมาจากในมือถือ หานเยี่ยนหน้าตาอึ้ง

ทึ่ง

อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงว่าเฉินซิงไห่เพื่อหยางเฉินแล้ว จะ กล้ามาแจ้งเตือนข่มขู่ตนเอง

“นี่……..นี่เป็นไปได้ยังไง?

“เขาไม่ใช่แค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงตระกูลเล็กๆ คนหนึ่ง เหรอ? จะกลายเป็นบุคคลที่เคารพของตระกูลกวนกับตระกูลเฉิน ได้ยังไงกัน?”
“ใครบอกฉันได้บ้าง นี่เป็นเพราะอะไรกันแน่?

หานเยี่ยนโยนมือถือลงบนพื้นอย่างแรง ร้องคารามอย่าง โกรธเคืองขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ