The king of War

บทที่ 336 ออกมาซะ



บทที่ 336 ออกมาซะ

หลังจากอ้ายหลินกับหม่าชาวจากไป หยางเฉินก็จับมือฉัน แล้วเดินไปตามถนน

ค่ำคืนเข้ามาปกคลุม ในเวลานี้ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการ เดินเล่น เป่ยหยวนซุนนั้นอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยในเมือง และ บนทางเท้ามักจะเห็นคู่รักของมหาวิทยาลัยจับมือกันเดินอยู่บน ถนนนี้เป็นคู่ ๆ

“ที่รัก คุณลองบอกมาว่าเมื่อก่อนคุณชอบฉันยังไง?

จู่ ๆ ฉินซีก็ถามด้วยรอยยิ้ม

ทุกวันนี้ทั้งสองคนได้เปิดใจกันอย่างสมบูรณ์ และกำแพง ความสัมพันธ์ระดับสุดท้ายของทั้งสองก็ถูกพังทลายลงแล้วเช่น กัน ดังนั้นฉันจึงไม่ได้รู้สึกเขินอายเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เธอ จึงถามคําถามนี้ขึ้นมา

หยางเฉินจับมือฉันไว้แน่นๆ แล้วมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย ริม ฝีปากส่วนโค้งแห่งความสุขก็ปรากฏขึ้น “ในตอนแรก ผมก็ เหมือนกับเด็กมหาลัยทั่วไป ในใจคิดว่าคุณเป็นเหมือนเทพธิดา ที่ไม่อาจแตะต้องได้

“ความจริงแล้ว ผมรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองมาตลอด ผมไม่กล้า คิดด้วยซ้ำว่าจะขอคุณแต่งงานได้

“ต่อมา ด้วยชีวิตที่ยากลำบาก ผมจึงจำเป็นต้องเข้าไปในแผนกรักษาความปลอดภัยของชานเรือกรุ๊ป ช่วงนั้นผมถูกรังแก ตลอด จนมาวันหนึ่ง คุณเห็นหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย รังแกผม ด้วยความโกรธ คุณไล่เขาออกทันที”

“คุณยังบอกผมว่า ชีวิตคนเรามีแค่ครั้งเดียว ถ้าไม่พยายาม พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น เราก็จะถูกสังคมย่ำยี จะถูกสังคม สอนจนเกลี้ยงเกลา จนสุดท้ายเราจะไม่มีที่ยืน และจะไม่มีวันลุก ขึ้นได้อีก”

“นั่นเป็นครั้งแรกที่คุณพูดกับผม แต่คำพูดของคุณเป็นแรง บันดาลใจให้ผม จนผมมีทุกวันนี้ได้!”

“ในช่วงที่เราถูกใส่ร้าย และหลังจากที่ผมต้องแต่งงานเข้า บ้านตระกูลฉิน คำพูดของคุณมันทำให้ผมยอมรับสภาพที่เป็นอยู่ ในตอนนั้นไม่ได้ ผมก็เลยไปจากคุณ”

“ช่วงที่ผมอยู่ชายแดนเหนือ ผมพยายามอย่างหนัก ผมหวังว่า สักวันจะคู่ควรกับคุณได้! ช่วงเวลาห้าปีในอาชีพทหารของผม ภาพของคุณ คําพูดของคุณ ยังคงปรากฏอยู่ในใจผมตลอด

“หลังจากผมรู้ตัวอีกที คุณเข้ามาอยู่ในส่วนลึกในจิตใจผมไป แล้ว ผมถึงจะเข้าใจว่า วันที่คุณช่วยผม วันที่คุณให้กำลังใจผม วันนั้นแหละ เป็นวันที่ผมได้เจอกับรักแรกพบของผม!

หลังจากฟังคำพูดมากมายของหยางเฉิน ฉินซีรู้สึกอบอุ่น หัวใจและรู้สึกโชคดีมาก

เธอโชคดีที่วันนั้นได้ช่วยหยางเฉินและพูดคำพูดที่เป็นแรง บันดาลใจให้กับเขา
ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกโจวซุ่ยบังคับให้แต่งงานกับคุณชาย ครอบครัวเศรษฐีไปนานแล้ว

“ที่รัก ขอบคุณนะ! เพื่อฉัน คุณพยายามมาตลอด! เพื่อฉัน คุณ

ยอมทําทุกอย่าง!” ฉันหยุดเดินอย่างกะทันหัน จากนั้นยืนอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน

และมองเขาอย่างลึกซึ้ง

เมื่อมองดูใบหน้าอันมีเสน่ห์เย้ายวนของเธอ หยางเฉินรู้สึกว่า หัวใจของเขาเต้น ‘ตูบ ตบ หุบ ขึ้นมาทันที

แม้เขาจะรักผู้หญิงคนนี้มาหลายปีแล้ว แต่ ณ เวลานี้ ถึงจะ เรียกว่าจุดเริ่มต้นของความรักอย่างแท้จริง

เมื่อเห็นหยางเฉินมองด้วยสายตาอันเร่าร้อน ฉันก็เขินอาย และหลับตาลงเพื่อรอการจูบของเขา

หนึ่งวินาที!

สองวินาที!

ห้าวินาที!

และสิบวินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่เธอยังไม่รู้สึกถึงการจูบ ของหยางเฉินเลย

เธอค่อนข้างหัวเสีย คนสวยอุตส่าห์ปูทางให้ขนาดนี้แล้ว แต่ เขากลับไม่มีการกระทำใดๆ เลยหรือ?

แต่ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น เธอก็พบว่าหยางเฉินกำลังจ้องมองตรงไปข้างหน้า แววตาของเขายังเต็มไปด้วยความโกรธ “ที่รัก คะ……คุณเป็นอะไรเหรอ?”

ฉันรู้สึกประหม่ามาก เธอไม่เคยเห็นหยางเฉินในสีหน้าแบบ นี้มาก่อน

“เสี่ยว คุณขับรถกลับบ้านเองก่อนนะ เดี๋ยวผมจะนั่งแท็กซี่ กลับไปทีหลัง!”

หยางเฉินสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดขึ้นอย่างกะทันหัน

ฉินซีก็เหลือบมองไปที่ที่หยางเฉินกำลังมองอยู่ในตอนนี้ นอกจากคนที่เดินไปมาตามท้องถนนแล้ว เธอไม่เห็นอะไรเลย

แม้เธอจะไม่เข้าใจ แต่เธอรู้ดีว่าหยางเฉินจะไม่ยอมปล่อยให้ เธอกลับไปก่อน โดยที่ไม่มีเหตุผล

ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเลอีกต่อไป จากนั้นเธอรับกุญแจรถจาก หยางเฉินแล้วพูดอย่างกังวลว่า “ที่รัก ฉันรอคุณที่บ้านนะ! อย่า กลับดึกล่ะ!”

“ครับ!”

หยางเฉินพยักหน้าและเฝ้าดูฉินออกไปก่อน จากนั้นถึงจะ เดินตรงไปยังทิศทางที่เขามอง

“ออกมาซะ!”

เมื่อเดินไปที่ลานกว้างที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ หยางเฉินหยุดเดินอย่างกะทันหันแล้วตะโกนไปยังทิศทางที่เขามอง

ขณะที่เสียงของหยางเฉินลดลง คนวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดิน ออกมาอย่างช้าๆ

ในเวลานี้หยางเฉินรู้สึกโกรธมาก

ไม่ใช่เป็นเพราะศัตรูที่จ้องจะฆ่าเขา แต่เป็นเพราะชายวัยกลาง

คนคนนี้ที่ทําลายบรรยากาศดีๆ ของเขา

ฉินซีอุตส่าห์หลับตาให้เขาจูบแล้ว เขายังไม่ทันได้สัมผัสมัน เลย แต่ชายวัยกลางคนคนนี้ดันมาขัดจังหวะเขา

และแน่นอนว่าเขาคนนี้ก็คือปรมาจารย์ถัง ยอดฝีมือที่คอย

ติดตามหวงเหมย

“สมเป็นวีรบุรุษจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่กล้านำตระกูลยักษ์

ใหญ่ไปจัดการกับตระกูลเมิ่ง!!

ปรมาจารย์ถังมองหยางเฉินแล้วพูดด้วยความชื่นชม

แม้ยังไม่ได้ประลองฝีมือกัน แต่เขาก็รู้ว่าหยางเฉินนั้นไม่ใช่คน ธรรมดา เพราะหยางเฉินได้สังเกตเห็นตัวเขาตั้งแต่แรกที่ปรากฏ ตัวแล้ว

“ตระกูลเมิ่งส่งคุณมาเหรอ?” หยางเฉินขมวดคิ้ว

ปรมาจารย์ถังหัวเราะเยาะทันที “อย่างตระกูลเพิ่งเหรอ จะมี สิทธิ์ที่จะส่งผมมาได้

เมื่อได้ยินคำพูดของปรมาจารย์ถัง หยางเฉินก็รู้สึกสับสน
ฟังจากน้ำเสียงแล้ว ตระกูลเมิ่งไม่ได้อยู่ในสายตาเซเลย

เมื่อพูดถึงทั้งจิ๋วโจว คนที่มีสิทธิ์ที่จะไม่ให้เกียรติตระกูลเจิ่งนั้น ก็มีแต่เหล่าเศรษฐีจากเมืองเยนเท่านั้น

แน่นอนว่ายังมีสมาคมบูโดอีกด้วย

แต่หยางเฉินรู้จักสมาคมบูโด พวกเขามีเครื่องแบบ โดยเฉพาะ

ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ไม่ใช่อย่างแน่นอน

แต่ถึงอย่างไร หยางเฉินก็สามารถสัมผัสถึงภัยคุกคามจากตัว เขาได้ แม้จะเป็นหนิวกิ้งเซิง หัวหน้าสาขาของสมาคมบูโดที่ หยางเฉินเคยฆ่าในบ้านตระกูลเว่ย กลิ่นอายแห่งภัยคุกคามของ เขาก็ไม่อาจเทียบกับชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ได้

ด้วยเหตุนี้ หยางเฉินจึงรู้ได้ว่าอีกฝ่ายต้องมาจากเมืองเป็น เท่านั้น

ทันใดนั้น ชายร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความคิดของหยางเฉิน และเขาก็นึกขึ้นได้ทันที

“คุณคือคนของตระกูลหวง หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเย็นตู?”

หยางเฉินถามขึ้น “ดูเหมือนว่าตอนที่คุณทำร้ายหวงอัน คุณก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคน

ของตระกูลหวงสินะ”

ปรมาจารย์ถังพูดอย่างไม่คาดคิด “ทั้งที่รู้ว่าเขาเป็นคนของ ตระกูลหวง แต่คุณยังกล้าทำร้ายเขา ผมต้องนับถือในความกล้าหาญของคุณจริงๆ”

“หวงอันคงจะเบื่อโลกแล้วสินะ อุตส่าห์ไว้ชีวิตมัน แต่มันไม่รู้ จักรักษา ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมจะขอชีวิตของมันก็แล้วกัน!!

สายตาของหยางเฉินเปล่งประกายเจตนาแห่งการฆ่าที่รุนแรง ออกมา

เขาเกลียดการถูกคุกคามจากคนอื่นมาก แต่เกลียดคนที่จ้อง จะฆ่าเขามากกว่า

และหยางเฉินก็ไม่เคยเมตตาต่อคนเหล่านั้นที่จ้องจะฆ่าเขา

“ไอ้เด็กขี้อวด!”

ปรมาจารย์ถังตะโกนด้วยความโกรธ “ถ้าแกยอมไปกับข้าไป ขอความเมตตาจากคุณหญิงหวง บางทีคุณหญิงหวงอาจจะไว้ ชีวิตแกสักครั้ง”

“แล้วคุณหญิงหวงคือใครกัน?”

หยางเฉินเริ่มสับสนมากขึ้น

หวงอันคนเดียวยังไม่พอ และตอนนี้ยังมีคุณหญิงหวงอีกคน

ผู้หญิงของตระกูลหวง?

หยางเฉันคิดถึงความเป็นไปได้ตามนี้

ปรมาจารย์ถังพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “คุณหญิงหวง ท่านเป็น ลูกสาวของเจ้าบ้านแห่งตระกูลหวง หวงเหมย!”
“หวงเหมย? แล้วเธอแค้นอะไรผม?”

หยางเฉินขมวดคิ้วถามต่อ หรือว่า เธอจะมาล้างแค้นให้หวง อัน?”

“แกยังจำได้ไหมว่าเมิ่งฮุยตายยังไง? แล้วแกยังจำได้ไหม ว่า เมิ่งเทียนเจียวถูกแกบีบบังคับจนตาย?” ปรมาจารย์ถังถาม

“เมิ่งฮุย มันก็สมควรตายอยู่แล้ว แต่เพิ่งเทียนเดียวก็น่า เสียดายเหมือนกันนะ อย่างน้อยมันก็มีความเป็นพ่ออยู่

หยางเฉินแสดงความคิดเห็นอย่างตรงประเด็น

เพียงแต่ว่าเขายังไม่เข้าใจ ทำไมต้องพูดถึงเพิ่งฮุยกับเพิ่ง เทียมเจียวด้วย?

ความสัมพันธ์นี้ค่อนข้างสับสน

“เพิ่งเทียนเจียว คือสามีในอดีตของคุณหญิงหวง ส่วนเมิ่งฮุย ก็คือลูกชายของคุณหญิงหวงไงล่ะ และวันนี้ สามีในอดีตและลูก ของคุณหญิงหวงตายเพราะแก ตอนนี้แกเข้าใจแล้วใช่ไหม ว่า ทำไมคุณหญิงหวงอยากเจอแก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ